จบ รักไร้พรมแดน (NC++ ทุกตอน)
41
ตอน
27K
เข้าชม
8
ถูกใจ
14
ความคิดเห็น
155
เพิ่มลงคลัง
บทรักของชายหน่มกับสาวใหญ่ เพื่อนแม่ ที่บังเอิญต้องเกี่ยวข้องและผุกพัน ผูกเป็นเรื่องสาระน่าอ่าน ข้าราชการสาว ผอ.โรงเรียน นักธุรกิจ และยักษิณี จากมิติจักรวาลอันห่างไกล ผูกเรื่องน่าอ่าน น่าอ่าน น่าติดตาม

บทรัก ลีลาเสียวประพันธ์เป็นเรื่องของโยธิน ที่ต้องเข้าไปพัวพันปั้นรักกับสาวใหญ่เพื่อนแม่ทั้ง 6 คน ที่ต่างมีใจรัก ผูกพันแต่อดีตชาติ ภายใต้การช่วยเหลือของสุวรรณี ภูติยักษิณีจากต่างมิติ ต่างดวงดาว กาแล็กซี่ไกลโพ้น ความลับของจักรวาล ผ่านมิติ และความฝัน 

ติดตามได้จ้า..... 

--------------------------------------------- 

บทนำ 

“ต๊ายเธอ จนลูกโตเป็นหนุ่มแล้ว จึงพามาเยี่ยมกันได้นะ” ป้ายา เพื่อนแม่ของผมร้องทักแม่ของผม เมื่อเปิดประตูรั้วออกมาพบแม่กับผมยืนอยู่ 

“ก็มันไม่มีเวลาค่ะพี่ยา นี่ก็กว่าจะหาเวลามาได้ ” แม่ของผมยิ้มและโผเข้ากอดกันทักทายอย่างสนิทสนม และกอดประคองกันเดินเข้าไปบ้าน พร้อมกันมากวักมือเรียกผม 

“เข้ามาเลยหนู ตามมาเลย” ป้ายามัวแต่ดีใจที่ได้พบแม่ผม ไม่ได้รับไหว้จากผมเลย ผมจึงเดิมตามสองเพื่อนรักเข้าบ้านไปอย่างงงๆ เพราะไม่ค่อยคุ้ยเคยกับป้ายาเลย จำได้แต่ว่าเคยรู้จักตอนที่ผมยังเด็ก แต่ตอนนี้ผม 27 ปีแล้ว 

“อยากรำลึกถึงวันเก่าๆ ที่พวกเราเคยไปเที่ยวกัน พี่ก้อย พี่สุ แอนด์เดอะแก๊งค์ ก็นัดไว้แล้ว ทุกคนเขาคงจะไปรอที่หัวหินหมดแล้ว เหลือแต่พี่ยานี่แหละ ต้องมารับด้วยตัวเอง ชวนก็ไม่อยากไป” แม่ผมบอกป้ายาขณะกอดเอวกันเดินเข้าบ้าน 

“ก็ไม่ค่อยว่างไป ไม่มีคนเฝ้าบ้าน คุณชัยเขาก็ไม่ค่อยอยู่บ้าน ไปไหนก็เป็นห่วง กลัวขโมยขะโจร” ป้ายาแก้ตัว 

“ไม่รู้ล่ะ วันนี้ ยังไงก็ต้องไปกับน้องให้ได้ เพื่อนๆ กำลังเดินทาง น่าจะไปรอที่หัวหินบ้างแล้ว” 

“เอางั้นรึ” 

“เอางั้นแหละ ไม่อยากไปก็ต้องไป ไม่สะดวกก็ต้องสะดวกนะคะพี่ยา” แม่ผมพูดพร้อมเขย่าเอวป้ายาไปด้วย จนเจ้าตัวรู้จั๊กกะจี้ จับมือแม่ผมไว้ 

“โอเค โอเค ไปก็ไป แต่ขอเคลียร์เรื่องคนเฝ้าบ้านให้ก่อน” 

ดังนั้นเมื่ออีกไม่กี่ชั่วโมงต่อมา ผมกับแม่ และป้ายาก็ออกเดินมุ่งหัวหิน โดยป้ายานั่งคู่กับผม ซึ่งเป็นคนขับ ส่วนแม่ผมนั่งเบาะหลัง เพื่อให้ป้ายารู้สึกผ่อนคลาย เนื่องจากเมารถง่าย 

ป้ายาวัย 52 อายุมากกว่าแม่ผมแค่ปีเดียว ความจริงเป็นเพื่อนกันแต่ด้วยการวางตัวหรือเหตุอะไรผมไม่ทราบ จึงเรียกกันอย่างให้เกียรติแบบพี่น้อง ป้ายาหรือ ปรียา เป็นแม่บ้านของนายพันทหาร ซึ่งเกษียณอายุราชการแล้ว แต่ไม่ค่อยอยู่บ้าน ออกรอบตีกอล์ฟบ้าง อะไรบ้าง ทิ้งให้ป้ายาอยู่บ้านคนเดียวบ่อยๆ และความจริงอีกอย่างหนึ่ง ที่ผมทราบตอนหลัง คือ ท่านผู้พันชัย มีเมียน้อย จึงไม่ค่อยกลับมาอยู่บ้านกับป้ายา และท่านมีลูกเล็กกับเมียน้อย ในขณะที่ท่านกับป้ายา ไม่มีลูกด้วยกัน 

ป้ายา รูปร่างค่อนข้างตัวใหญ่ สูง และอวบบ้างตามวัย แต่ไม่อ้วน ผิวโทนคล้ำ หน้าตาสวยคม ดูไม่แก่ตามวัย ดูแล้วเป็นคนมีเสน่ห์น่ามองสำหรับผมมากๆ และผมชอบเหลือบมองหน้าอกแก เวลาคาดเข็มขัดนิรภัย แล้วมันรัดทำให้อกอวบใหญ่ เด่นชัดขึ้นมาอีก 

ผมขับรถเงียบๆ โดยไม่ได้พูดอะไร ปล่อยให้สองสาวเพื่อนรักคุยกันตามประสาคนที่นานกว่าจะได้เวียนมาพบประสบกัน ก็พอเดาได้ว่าป้ายา น่าจะค่อนข้างเหงา เพื่อนๆ จึงต้องพากันคะยั้นคะยอหาทางพามาเที่ยวเปิดหูเปิดตา ไม่อยากให้จมกับความเศร้าเสียใจมากกว่า ดังนั้นการมาเที่ยวคราวนี้ ทุกคนทั้งก๊วนทั้งแก๊งค์ของแม่ผม ทำเพื่อป้ายานั่นเอง และให้แม่ผมเป็นผู้มารับป้ายาไปเที่ยวให้ได้ในครั้งนี้ 

ระหว่างพักรถตามปั๊มน้ำมัน ผมก็กุลีกุจอถามไถ่ เอาใจใส่ป้ายาเป็นพิเศษ อาจจะด้วยความชอบในความสวยและมีเสน่ห์ของป้ายาด้วย เป็นสิ่งทำให้ผมมีความรู้สึกสุขใจเงียบๆ ที่ได้ทำ บวกกับรู้สึกสงสารในเรื่องราวที่ได้ยินได้รับทราบในระหว่างเดินทางมาด้วยกัน 

“ลูกชายเธอนี่น่ารักนะ รู้จักเอาใจผู้ใหญ่ด้วย” ป้ายาพูดเบาๆ กับแม่ เหมือนจะให้ผมได้ยินกรายๆ 

“ที่ไหนล่ะ มันเคยเอาใจแม่มันที่ไหน ก็เห็นพี่ยานี่แหละที่มันดูแลเป็นพิเศษ” แม่ผมตอบยิ้มๆ แต่ผมทำเป็นไม่ได้ยินเสีย แต่แอบปลื้มในใจหน่อยๆ อย่างน้อยสิ่งที่ผมทำ ก็ไม่เสียเปล่า 

“โอยยยย เมื่อย ปวดเมื่อยทั้งตัวเลย นานๆ ได้นั่งรถแบบยาวๆ แบบนี้” แม่ผมบ่น เมื่อผมชะลอรถเข้าจอดหน้าโรงแรมที่จองไว้และหันมาสั่ง 

“โย..ขนกระเป๋ามาให้แม่กับป้าด้วยนะ เดี๋ยวแม่กับป้าขึ้นไปเช็คกอินก่อน เพื่อนๆ แม่เขารอกันแล้ว” สองสาวเดินลิ่วไปหน้าฟร้อนท์โรงแรม และไปพบกับเพื่อนกลุ่มใหญ่วัยเดียวกันที่รอกันอยู่ 

ป้าก้อยสาวใหญ่วัย 52 เป็นคนผิวขาวตัวเล็กสมชื่อ แต่หน้าอกไม่เล็ก พูดเก่ง ชอบออกแนวเฮฮามากกว่าคนอื่น 

ป้าสุสาวใหญ่อายุ 52 เช่นกัน เป็นคนเงียบๆ ไม่ค่อยพูด เพียงแต่ยิ้ม ๆ แต่ดูเหมือนจะเอาใจใส่ป้ายาเป็นพิเศษ ชอบเดินมากอดไหล่ซุบซิบเหมือนจะปลอบใจกันอยู่บ่อยๆ 

และเดอะแก๊งค์ ที่แม่พูดถึง คือ น้ากานต์ น้าแอน และป้านาถ ซึ่งอายุอานามไม่มีใครต่ำกว่า 50 เลยสักคน แต่ทุกคนเป็นสาวใหญ่ที่ดูมีเสน่ห์ แต่งตัวดี เพราะส่วนมากทำงานราชการ มีเงินมีอันจะกิน 

แม่พักห้องเดียวกับป้ายา ส่วนผมนอนห้องเดียว เพราะเป็นผู้ชายคนเดียวที่มาร่วมด้วยโดยบังเอิญ 

“อ้าว ป้ายา มานั่งทำอะไรคนเดียวที่นี่ครับ” ผมร้องทักเบาๆ เมื่อเห็นป้าปรียา นั่งเล่นโทรศัพท์ อยู่ที่ล้อบบี้โรงแรม หลังออกไปเดินเล่นที่ชายหาด โดยปล่อยให้กลุ่มสาวๆ วัยครึ่งร้อยได้พบปะคุยกันตาม โดยไม่ได้เข้าไปยุ่งเกี่ยวด้วย 

“อ้อ โย ไปไหนมาคะ” ป้ายาเงยหน้าจากโทรศัพท์มายิ้มให้ 

“เดินเล่นชายหาด หาของทะเลกินครับ” ผมชี้มือประกอบบอกทิศทาง 

“ไม่เห็นชวนเลย” 

“อ้าว ก็เห็นไม่ได้เจอกันนาน ผมก็เลยไม่กล้าชวนครับ คนอื่นๆ ล่ะครับ” 

“นั่งสมาธิกันอยู่ในห้องแม่เรานั่นแหละ” ผมตีหน้างง เมื่อได้ยินคำว่านั่งสมาธิ ป้ายาหัวเราะเบาๆ ทำมือเหมือนสับไพ่ตัดไพ่ ผมจึงเข้าถึงบางอ้อ 

“อ๋อ เล่นไพ่” ผมเดินไปนั่งกับโซฟาอีกตัวที่อยู่ด้านบ้าง 

“ป้าทานข้าวหรือยังครับ” 

“สาวๆ รุ่นนี้เขาไม่ท่านข้าวเย็นกันหรอก เขากลัวอ้วนกันจะตาย” 

“อ้าวแล้วไม่หิวกันหรือครับ” 

“ไม่หรอก ชินกันแล้ว ถ้าหิวจริงๆ ก็กินผลไม้หรืออะไรก็ว่ากันไป” 

“งั้นไปเดินเล่นกันไหมครับ ผมเดินเป็นเพื่อน ชายหาดตรงโน้นสวยดีนะครับ” ผมเอ่ยชวน 

“มันมืดแล้ว” 

“เดินดูตลาดที่เขาขายของกลางคืนตรงโน้นก็ได้ครับ” 

“เอาสิ ไปก็ไป นั่งคนเดียวเบื่อเหมือนกัน” ป้าปรียา บอกพร้อมกับลุกขึ้น ผมจึงผายมือชวนและเดินนำหน้าไป ป้ายาเป็นผู้หญิงตัวใหญ่สูงพอๆ กับผมซึ่งสูงถึง 180 กว่า ป้ายาใส่กางเกงขาสั้นสีขาว รองเท้าผ้าใบสีขาว เสื้อยืดขาวอ่อน และสวมทับด้วยแจ็คเก้ตสีเหลืองอ่อน ซึ่งทำให้ดูมีเสน่ห์น่ารักเข้าไปอีก ขาอวบผิวเกลี้ยงเป็นเงา 

เราเดินไปด้วยกัน ถือปลาหมึกคนละไม้ แรกๆ ก็เดินห่างๆ แต่นานเข้า ก็เดินชิดมากขึ้น บางทีก็ไหล่ชนกันบ้าง เดินดูสินค้าตลาดกลางคืนจนเมื่อย จึงพากันเดินมาที่ชายหาด ซึ่งมีแต่ความมืดและเงาสลัวของแสงจันทร์ มีนักท่องเที่ยวอยู่กันเป็นจุดๆ ไม่มากพลุกพล่านเหมือนตอนกลางวัน 

“อ่ะ ไม้สุดท้ายล่ะ ให้” ป้ายายื่นปลาหมึกปิ้งไม้สุดท้ายมาให้ แต่เธอไม่ยื่นใส่มือ แต่ยื่นใส่ปาก พยักหน้าให้ผมใช้ปากคาบรูดเอาปลาหมึกโดยเธอถือไม้ให้ 

“เหมือนคู่รักเลยแฮะ” ผมคิดในใจ ปากก็เอ่ยขอบคุณ เราแวะซื้อน้ำและขนมจากร้านสะดวกซื้อที่อยู่ริมถนนชายหาด ก่อนจะพากันมานั่งหย่อนขาคู่กันแบบไหล่ชิดไหล่ ที่ระเบียงทางเดินริมชายหาด 

“โย มีแฟนหรือยังคะ” 

“ก็เคยมี คบๆ กันแล้วก็เลิกรากันไปครับ ยังไม่อยากแต่งงานตอนนี้ หรืออาจจะยังไม่เจอคนถูกใจครับ” 

“เลือกมากเหมือนกันนะเรา อายุไม่น้อยแล้วนะ” ป้ายาพูดยิ้มๆ พร้อมกรอกน้ำดื่มใส่ปาก ผมไม่ได้ปฏิเสธหรือตอบรับ ได้แต่ยิ้ม 

“แน่ะยิ้มอีกแล้ว ยิ้มเก่งนะเรา” 

“ก็ไม่ทราบจะตอบว่าอย่างไรดีครับ ก็คงจะจริงอย่างที่ป้าว่า ก็ได้ เลือกมาก” 

“เลือกมากหรือไม่เลือก บางทีมันก็ไม่แน่นอนหรอก มันไม่มีอะไรแน่นอนจริง” ป้ายาพูดซึมๆ เหม่อไป 

“ป้ามีอะไรก็คุยกับผมได้นะครับ ผมเป็นเพื่อนคุยได้ ถ้าไม่รังเกียจที่จะเล่าให้ผมฟัง” ผมเสนอตัว 

“เป็นศิราณีหรือ” ผมงงกับคำว่าศิราณี 

“อะไรคือศิราณีครับ” คำถามผมทำเอาป้ายางงไป ที่ผมไม่รู้จัก และอธิบายว่า 

“ศิราณี เป็นชื่อคอลัมนิสท์นิตยสารสมัยก่อน ให้คำปรึกษาเรื่องความรัก” 

“อ๋อ ผมคงเกิดไม่ทันครับ ครับเป็นศิราณีก็ได้ครับ” 

“โย เคยเหงาไหม” ป้ายาถามเบาๆ ตายังเหม่อมองเงาจันทร์ในทะเล 

“ก็เคยนะครับ แต่ก็ไม่นาน เพราะผมมีอะไรให้ทำเยอะ มีงานที่ยุ่งหน่อย ก็เลยไม่ค่อยได้รู้สึกว่าเหงา แต่ก็มีบ้างเหมือนกัน” 

“ป้าเหงานะ ผู้พันไม่ค่อยอยู่บ้าน ป้าอยู่คนเดียว ลูกก็ไม่มี มันออกเหงาบ่อยๆ เลย ยิ่งรู้สึกว่าตัวเองอายุมาก ก็ยิ่งเหงา” 

“ผมเป็นเพื่อนคุยได้ครับ คุยได้ทุกเรื่อง” ผมเอื้อมมือไปแตะกุมมือป้ายา ที่วางกับเข่าเปลือยที่นั่งแบบไขว่ห้าง เธอมองมือผมแว่บหนึ่ง แต่ไม่ได้ปฏิเสธมือผม ปล่อยให้ผมกุมอยู่อย่างนั้น 

“ป้าไม่ต้องห่วงนะครับ ผมอยู่กับป้า มีอะไรที่ป้าให้ช่วยให้ทำ บอกมาเลย ผมยินดีช่วยครับ” 

“ขอบใจมากนะ แต่ก็ไม่รู้จะให้ช่วยอะไร นึกไม่ออก” 

“ผมโตแล้ว ป้าคุยหรือปรึกษาได้ทุกเรื่องเลย ผมไม่รังเกียจหรอก” ป้ายาพยักหน้าไม่พูดอะไร มือผมก็ยังจับมือป้าไว้เช่นนั้น รู้สึกบอุ่นดีและอยากจับนานๆ 

นานเหมือนกันที่เราเผลอต่างคนต่างคิดไม่ได้คุยอะไรกัน ผมรู้สึกตัวอีกทีก็พบว่า ศรีษะของป้ายาพิงกับไหล่ของผมน้อยๆ เหมือนคนเหม่อ ผมค่อยๆ เอื้อมมือไปโอบไหล่แล้วกอดไว้เบาๆ ลูบไล้ที่ไหล่และแขน 

กลิ่นหอมของเส้นผม และกลิ่นหอมของเพศตรงข้าม มันทำให้ผมรู้สึกมีความสุขอย่างบอกไม่ถูก และเสียวในท้องน้อยตลอดเวลา ผมแอบจูบที่เส้นผมของป้ายาเบาๆ 

นานเท่านานผมรู้สึกว่าป้ายาโอบแขนมารัดที่เอวผมในขณะที่ผมโอบไหล่ ความรู้สึกในตอนนี้ผมห้ามใจตัวเองไม่ได้ หันไปมองหน้าป้ายาที่แนบอยู่กับไหล่ เธอเอียงหน้ามามองผมน้อยๆ ผมมองสบตามและค่อยประทับจูบที่ริมฝีปากที่เผยออ้าเหมือนกำลังเชิญชวนนั้น ผมบดริมฝีปาก และสอดลิ้นเข้าไปควานหาลิ้นที่สอดรับอออกมาเช่นกัน 

ผมจูบที่ริมฝีปากแผ่วเบา ไม่ตะกระตะกราม แต่ละมุนละม่อม ป้ายาสาวใหญ่ในอ้อมแขนผมหายใจแรง และยาว ตวัดลิ้นสอดรับการจูบของผมตลอดเวลาเช่นกัน 

“ไปที่ห้องผมนะ” ผมกระซิบเบาๆ เมื่อรู้สึกว่า อารมณ์ต่างๆ มันจะเข้าที่เข้าทาง ละคุโชนร้อนแรงแล้วสำหรับผมและป้ายา เธอพยักหน้ารับ ผมจึงประคองร่างอวบให้ลุกและเดินกลับโรงแรมทันที 

แสดงเพิ่มเติม

รีวิว (0)

เรื่องนี้ยังไม่มีรีวิว