ห้องริมสุด
0
ตอน
25
เข้าชม
0
ถูกใจ
0
ความคิดเห็น
0
เพิ่มลงคลัง

"ห้องริมสุด" 

   เรื่องก็มีอยู่ว่า ผมสอบติดมหาลัยแห่งหนึ่งในภาคใต้ ซึ่งนับเป็นเรื่องที่น่าตื่นเต้นเลยทีเดียวสำหรับการย่างก้าวจากมัธยมเข้าสู่รั้วมหาลัย เป็นช่วงชีวิตที่ว่ากันว่าอิสระที่สุด สนุกที่สุด และเรียนรู้โลกภายนอกได้ดีที่สุด 

   ด้วยความที่ผมเป็นเด็กบ้านนอกแล้วสอบติดมหาลัยในเมือง ความตื่นเต้นตื่นตูมระริกระรี้จึงมากกว่าชาวบ้านชาวช่องเค้านิดนึง รวมไปถึงการคาดหวังสิ่งต่างๆไว้มากมาย เที่ยว ช๊อปชิมลอยวิ๋งๆอยู่ในหัว แต่สิ่งแรกที่มาดับฝันอันแสนหวานของผมเลยก็คือ "มหาลัยบังคับให้ปี1อยู่หอใน"แน่นอนว่าเรื่องเที่ยวเรื่องแด๊นเป็นอันต้องพังทลาย  

แต่ก็ยังโชคดีอยู่บ้างที่มีเพื่อนที่โรงเรียนสอบติดที่นี้เหมือนกันก็เลยนัดกันมาอยู่ห้องเดียวกันซะเลย เราต้องเลือกห้องและชั้นผ่านระบบ เลือกเป็นชั้นบนสุดคือชั้น4 ห้องอยู่ตรงกลางๆ โดยให้เหตุผลว่า ไม่ชอบอยู่ใต้ใคร  

     วันแรกของการย้ายเข้าหอ ขอพูดคำนี้"จากป่ามาอยู่ป่า" หออยู่ติดกับภูเขาที่มีบรรดาพันธุ์ไม้น้อยใหญ่มากมายคอยให้ร่มเงาและบรรยากาศสุดโรแมนติก ส่วนตัวไม่ได้อะไรมากชอบบรรยากาศแบบนี้อยู่แล้วเพราะอยู่กับป่ามานาน แต่เข้าใจอารมณ์ของคนออกจากป่าเข้าเมืองมาเจอป่ามั้ย และสิ่งที่พีคไปกว่านั้นคือระหว่างเดินไปทางเข้าของหอพัก มีต้นตะเคียนสูงตระง่านอยู่หน้าหอ โดยอยู่ระหว่างหอพักชายและหอพักหญิง สร้างความสพึงให้แก่ผู้พบเห็นได้เป็นอย่างดี ผมก็ทะยอยขนของขึ้นไปเก็บจนเสร็จเรียบร้อย ก็ได้สำรวจสัดส่วนต่างๆของหอ โดยลักษณะของหอจะเป็นตัว L ฝั่งสั้นจะมีอยู่3ห้องฝั่งยาวมีประมาณ8ห้อง โดยจะมีห้องน้ำรวมที่มุมของตัวแอล หลังห้องของแถวยาวจะมีต้นสนปลูกอยู่ทั่งแถบ หลังจากสำรวจเรียบร้อยแล้วก็ลงไปรวมตัวข้างล่างหอเพื่อรับฟังกฏต่างๆของทางหอ โดนกฎหลักของหอเลยคือห้ามออกภายนอกและขึ้นหอเกิน20:00 น.ผมก็ไม่ได้ขัดอะไรเพราะปี1ก็ไม่รู้จะออกไปไหนเหมือนกันเวลานั้น  

     โดยสัปดาห์แรกก็ไม่มีอะไรมาก กิจกรรมต่างๆทางมหาวิทยาลัยก็ดำเนินไปตามปกติ มีการรับน้อง ซ้อมเพลงมหาลัยนู้นนี้นั่นไปตามประสา แต่กิจกรรมจะเน้นมาก หลังจากเลิกกิจกรรมกว่าจะเดินขึ้นหอก็ปาเข้าไป เกือบ18:00น.ห้องน้ำก็ห้องรวมอีก ห้องอาบก็มีแค่ 3 ห้องในแต่ละชั้น (ลักษณะของห้องน้ำจะมีห้องอาบ3ห้องข้างผนัง มีห้องส้วม3ห้อง โดยจะมีกระจกขนาดใหญ่และอ่างล้างหน้าตรงข้ามกับห้องส้วม) วันนั้นสาขาผมเลิกช้ากว่าปกติกลับถึงหอก็ต้องต่อคิวคนอื่นอาบ กว่าจะได้อาบก็ปาเข้าไปเกือบๆ2ทุ่ม เมทผมที่อยู่ต่างสาขาเลิกเร็วมันก็อาบเสร็จเรียบร้อยแล้ว ผมก็ต้องไปอาบคนเดียวอีก ปกติเป็นคนไม่ค่อยกลัวผีซักเท่าไหร่แต่บรรยากาศอาบน้ำคนเดียวตอนกลางคืนมันก็ชวนหวิวๆได้เหมือนกัน ผมเข้าไปอาบห้องอาบที่สอง ระหว่างที่กำลังหันหลังจะอาบ น้ำก็ได้ยินเสียงคนเดินมาเข้าห้องส้วม ในใจก็คิดเออดีได้มีเพื่อน สักพักได้ยินเหมือนคนคนนั้นเคาะอะไรสักอย่างดัง ปึก ปึก ปึก และเหมือนเอาอะไรสักอย่างกรีดประตูจนเกิดเสียงน่าเสียวฟัน สักพักได้ยินเสียงปิดประตูห้องส้วมอย่างแรงดัง ปั๊ง!! แล้วก็เงียบหายไป ประจวบกับผมอาบน้ำเสร็จพอดีไม่ได้คิดอะไรเลยเดินกลับห้องนอน  

     จนมาถึงอาทิตย์ที่3จะมีการเลือกชมรมที่ต้องอยู่ หลังจากเลือกชมรมเรียบร้อยแล้ว ก็ต้องไปทำความรู้จักพี่ๆในชมรม วันทั้งวันกินเวลาจนเกือบจะ 20:00น.ผมก็ลืมไปว่าถ้าขึ้นหอหลังเวลานี้จะโดนทำโทษ ผมพร้อมเพื่อนอีก3คนก็วิ่งหน้าตั้งจนมาถึงป้อมยามเกือบไม่ทันเวลา เดินมาอีกนิดผมกับเพื่อนอีก2คนก็ต้องแยกกันเพราะอยู่คนละหอ เพื่อนผมอีกคนที่อยู่หอเดียวกันก็แยกไปเอาของที่แฟนมันก่อน ผมเลยเดินเข้าในหอคนเดียว  

     ระหว่างที่ผมเดินขึ้นมาชั้น2ก็สั่งเกตุเห็นเหมือนมีคนมองลงมาจากทางช่องบรรไดชั้น3 ผมเลยเงยหน้าขึ้นไปดู เหมือนคนๆนั้นจะสังเกตุอยู่แล้ว พอผมเงยมันก็หันหลบและวิ่งขึ้นชั้น4ไปเลย แต่ที่ผมแปลกใจนิดๆคือเหมือนมันจะวิ่งก้าวขึ้นบรรไดที่ละ6ขั้นเพราะแค่2ก้าวก็เห็นเงาแว้ปๆที่ชั้น4แล้ว นั้นก็แปลว่าขามันต้องยาวมากๆ แต่ผมก็ไม่ได้คิดอะไรอาจจะเบลอไปเองก็ได้ พอขึ้นมาถึงชั้น4ก็เห็นเงาคนเข้าห้องน้ำแว้ปๆในใจก็คิดว่าคงจะเป็นคนเมื่อกี้นั้นแหละ เค้าอาจจะรีบมาเข้าห้องน้ำก็ได้ 

     เข้ามาในห้องกะว่าจะต้มมาม่ากินสักหน่อยปรากฎว่าน้ำหมด ก็ต้องเดินลงไปกดตู้กดน้ำชั้น1อีก ระหว่างที่กำลังจะเดินลงชั้น3ตาก็ไปมองหน้าต่างกระจกตรงข้ามกับบรรไดทางลงโดยกลางคืนถ้าเปิดไฟในหอมันก็จะสะท้อนให้เห็นคนเดินลงบรรได ภาพที่ผมเห็นคือเหมือนมีเงาดำๆคล้ายๆผู้หญิงขายาวเรียวสูงจนค้ำเพดานกำลังจะโอบมาทางข้างหลังผม เห็นอย่างนั้นผมเลยหันกลับไปมองปรากฏว่าไม่เจออะไร ในใจก็คิดว่าวันนี้คงจะเหนื่อยมากเหมือนจะหลอนทั้งวันละ จากนั้นมาก็ไม่ได้มีเหตุการณ์อะไรอีก  

     จนมาถึงอาทิตย์สุดท้ายก่อนที่จะย้ายไปอยู่หอนอก ช่วงนั้นมีกิจกรรมการแข่งขันกีฬาระหว่างมหาลัย ซึ่งผมอยู่ชมรมการแสดงก็ต้องซ้อมแสดงพิธีเปิดดึกทุกวัน แต่จะทำเรื่องขอกับทางป้อมยามหอไว้แล้ว ว่าจะขึ้นหอเกินเวลา เย็นวันนั้นเมทผมโทรมาถามว่าจะกลับบ้านมั้ยเพราะหยุดยาว3วันเด็กในหอส่วนใหญ่จะกลับบ้านกัน ผมก็บอกไปว่าผมกลับไม่ได้เพราะต้องอยู่ซ้อมกับทางชมรม แต่ยังดีที่มีเพื่อนหอเดียวกันอีกคนที่อยู่ชมรมนี้ด้วย วันนั้นผมซ้อมเสร็จประมาณ 22:00 น.และเดินกลับหอกับเพื่อน1คน บรรยากาศหอในวันนั้นไม่เหมือนกับทุกวัน มันเงียบผิดปกติ พื้นที่บริเวณหอก็มืดมากเพราะเด็กส่วนใหญ่จะกลับบ้านช่วงหยุดยาว เดินมาถึงหอตัวเองก็ยิ่งวังเวงเข้าไปใหญ่เพราะแต่ละชั้นมีห้องที่เปิดไฟอยู่ไม่กี่ห้อง ชั้น1กับชั่น2มีอยู่ประมาณ2-3ห้องส่วนชั้น3และชั้น4ที่ผมอยู่ไม่มีห้องไหนเปิดไฟเลย เพื่อนผมถึงจะอยู่หอเดียวกันก็จริงแต่มันอยู่ชั้น2 ก่อนผมจะแยกขึ้นห้องมันก็ถามผมนะว่าลงมานอนด้วยกันไหมเพราะไหนๆเมทมันก็ไม่อยู่ แต่ผมนึกบ้าอะไรอยู่ก็ไม่รู้ถึงได้ปฎิเสธมันไปว่าจะนอนคนเดียว ก่อนผมจะเดินขึ้นบรรไดมันก็หันมาหยอกอีกว่าระวังน้าชั้นมึงนี้อยู่ตรงกับยอดต้นตะเคียนเลยนี้หวา ดูดีๆอาจมีคนนั่งอยู่บนปางไม้นะ แล้วมันก็หัวเราะชอบใจเดินเข้าห้องไป  

     ผมเดินขึ้นชั้น3ด้วยความหวิวในอกเพราะทั้งชั้นมืดสนิทเหมือนชั้นร้างไฟระหว่างทางก็ไม่เปิดไว้ด้วย นึกอย่างนั้นผมก็รีบวิ่งขึ้นบรรไดไปชั้น4อย่างไว ตอนแรกที่มองจากด้านล่างเหมือนชั้น4จะมืดทั้งชั้นแต่พอขึ้นมาถึง ปรากฏว่ายังมีอีกห้องหนึ่งที่ยังเปิดไฟอยู่นั้นก็คือห้องที่3ริมสุดฝั่งแอลเล็ก มองไปที่ห้องก็เหมือนมีเงาคนเดินอยู่ข้างใน ผมก็อุ่นใจยังดีที่มีเพื่อนร่วมชั้น ก็เลยเดินไปที่ห้องเพื่อเตรียมตัวอาบน้ำแต่นึกขึ้นได้ว่าถ้าเด็กกลับบ้านเยอะแบบนี้ไวไฟหอต้องแรงแน่ๆ ว่าอย่างนั้นก็หาหนังดูซักเรื่องเพราะถึงยังไงพรุ่งนี้ก็วันหยุดอยู่ดี ดูไปดูมาดูเวลาอีกทีเข็มก็ชี้ไปที่เลข 02:40 ละ ชิปหายยังไม่ได้อาบน้ำที ก็เลยถอดใส่ผ้าขนหนูตรงไปยังห้องน้ำเลย ก่อนจะเข้าไปในห้องน้ำก็สังเกตุเห็นไฟห้องริมสุดยังไม่ปิด ผมก็คิดในใจนอนดึกเหมือนกันนี้หว่า แล้วผมก็เข้าไปอาบน้ำโดยเลือกอาบห้องที่2เพราะมันสว่างดี 

     อาบไปได้สักพักก็มีเงาคนเดินเข้ามาแล้วไปเข้าห้องอาบน้ำห้องที่3 ซักพักก็ได้ยินเสียงเหมือนใครทุบฝรั่งห้องน้ำดัง ปึก ปึก ปึก แล้วเหมือนเอาเล็บข่วนกับประตูห้องน้ำดัง ฟี๊ดดด!! ซักพักเสียงก็เงียบไปและได้ยินเสียงเปิดประตูห้องอาบน้ำ แล้วเข้าไปในห้องส้วมต่อ ผมที่อาบน้ำเสร็จเรียบร้อยแล้ว ก็เก็บอุปกรณ์จะกลับห้อง ก็นึกขึ้นได้ว่ายังไม่ได้แปรงฟันที ก็เลยมาแปรงที่อ่างล้างหน้าหน้ากระจก โดยกระจกขนาดใหญ่มันจะสะท้อนห้องส้วมข้างหลัง ผมสังเกตุว่าห้องส้วมริมสุดจะมีคนเข้าอยู่ ก็น่าจะเป็นคนที่มาอาบน้ำข้างห้องเมื่อกี้มั้ง ผมไม่ได้สนใจอะไรก็หันมาแปลงฟันต่อ แปลงได้สักพักก็ป้วนปาก ด้วยความเคยชินถึงแม้จะอาบน้ำแล้วผมก็กวักน้ำจากก๊อกขึ้นมาล้างหน้า ระหว่างที่เงยหน้าขึ้นมองกระจก น้ำที่ยังเกาะม่านตาอยู่ทำให้ผมเห็นสิ่งที่อยู่ในกระจกลางๆ สิ่งที่ผมเห็นคือห้องส้วมริมสุดนั้นมีคนลักษณะเหมือนผู้หญิงเอาหัวเกยไว้บนขอบบนของประตูจากข้างในแต่สิ่งที่ทำให้ผมตกใจไปกว่านั้นคือขาทั้งสองข้างของคนคนนั้นยังแตะอยู่ที่พื้น โดยลักษณะหันมาทางผม ซึ่งคนที่จะสามารถเอาหัวเกยที่ขอบประตูด้านบนโดยที่ขายังแตะพื้นได้นั้น ผมประมาณการว่าต้องสูงถึง 3 เมตร มันแทบจะเป็นไปไม่ได้เลยที่คนเราจะสูงได้ขนาดนั้น  

     วินาทีนั้นไม่ได้คิดว่านั้นคือผีหรือคนแต่คิดว่าถ้ายืนอยู่ตรงนั้นต่อไม่ปลอดภัยแน่ๆ ก็เลยวิ่งออกมาจากห้องน้ำ    ตอนแรกตั้งใจกะจะวิ่งไปถึงห้องให้ไวที่สุดแต่ผมก็ต้องหยุดชะงัก เพราะไฟตรงทางเดินที่ตอนแรกเปิดไว้ไม่รู้ใครมาปิดห้องริมสุดที่เห็นเปิดไฟอยู่ตอนแรกก็ไม่เห็นแม้แต่แสงไฟเล็ดลอดออกมา ตอนนี้กลายเป็นว่าทั้งชั้นมืดสนิทชนิดที่ว่าทั้งมืดทั้งเงียบเงียบจนผมได้ยินเสียงหัวใจตัวเองเต้น ในใจก็คิดว่าไฟน่าจะดับ แต่เอ๊ะถ้าไฟดับแล้วทำไมในห้องน้ำยังติดอยู่นึกได้อย่างนั่นผมเลยหันกลับไปที่ห้องน้ำ ไม่ทันที่ผมจะหันไปมองสุดไฟในห้องน้ำก็ดับ พรึ่บ! ตามมาด้วยเสียง ปึก ปึก ปึก ฟี๊ดด!! นาทีนั้นผมไม่ยอมยืนนิ่งให้เสียงนั่นเข้ามาไกล้กว่านี้อีกแน่ จับทางห้องตัวเองได้ก็วิ่งสุดชีวิต จนวิ่งมาถึงห้องเปิดประตูแล้วเข้าไปอย่างไว ก่อนที่บานประตูจะปิดลง ถ้าตาผมไม่ฝาดหรือหลอนไปเองผมเห็นเหมือนมีเงาเงาหนึ่งวิ่งออกมาจากห้องน้ำ แต่สิ่งที่ทำให้ตาผมเบิกโพลงแล้วรีบปิดประตูอย่างไวนั้นก็คือ เงาๆนั่นสูงประมาณ 3 เมตรแต่เหมือนจะไม่ใช่ตัวที่สูงเหมือนเงานั้นจะยาวเฉพาะที่ขา แล้ววิ่งเหมือนแมลงมุมหายไปทางห้องที่3ริมสุด ผมตั้งสติแล้วมองไปที่นาฬิกาแสดงเวลา 03:01 น.ผมเปียกก็ไม่เป่าเสื้อผ้าก็ไม่ใส่ตรงไปที่เตียงนอนแล้วคลุมโปงทันที    

     จนถึงเช้าเพื่อนที่อยู่ชั้น2ก็มาเคาะห้อง มันจะชวนไปกินข้าวต้ม พอมันมาเห็นสภาพผมมันถึงกับตกใจ เพราะไข้ขึ้นสูงตัวร้อนจี๋ คอแห้งจนแทบจะพูดไม่ออก ต้องขอลาซ้อมพี่ที่ชมรมถึง2วัน 

      จนมาถึงวันที่เก็บของย้ายออกจากหอใน ระหว่างที่ขนของเพื่อจะย้ายไปอยู่หอใหม่รุ่นพี่และเมทผมก็ชวนแวะกินข้าวข้างทาง ผมก็นึกขึ้นได้ว่ายังไม่ได้เล่ามันเรื่องคืนนั้นเลย ก็เลยถือโอกาสเล่าที่ร้านข้าวตรงนั้นเลย หลังจากมันฟังจบมันก็นิ่งไปพักหนึ่งแต่เหมือนรุ่นพี่ที่มาด้วยจะนิ่งกว่า แต่ประโยคต่อมาที่มันบอกผมทำเอาผมตัวแข็งทื่อช๊อคไปเลย  

     มันบอกว่าวันนั้นที่มันโทรมาถามผมว่าจะกลับบ้านมั้ยเพราะตอนนั้นมันอยู่ที่คิวรถแล้วมีเด็กชั้น3และ4อยู่ที่นั่นหมดเลยกลัวผมจะไม่กล้านอนคนเดียว แต่พอผมบอกมันไปว่ามีเพื่อนอยู่ชั้น2ด้วยมันก็นึกว่าผมจะลงไปนอนกับเพื่อนเลยไม่ได้คิดอะไร แปลว่าคืนนั่นทั้งชั้นผมนอนอยู่คนเดียว ผมเลยถามมันไปอีกว่าแต่มีห้องที่3ริมสุดเปิดไฟและเหมือนจะมีคนอยู่ด้านในนะ ทีนี้คนที่ตอบผมกลับเป็นรุ่นพี่แกบอกเป็นไปไม่ได้เพราะห้องนั้นเค้าปิดตายจากด้านใน เหตุก็เพราะเกิดอุบัติเหตุอะไรสักอย่างกับเด็กผู้หญิงในห้องนั้น ผมก็ถามพี่แกไปอีกว่าเมื่อก่อนเป็นหอรวมหรอถึงมีผู้หญิงด้วย พี่แกก็ด่าผมหอรวมแล้วจะทำห้องน้ำรวมทำไม เมื่อก่อนเคยเป็นหอหญิงล้วน ต่อมามีการสร้างหอใหม่เลยย้ายจากหอเดิมแล้วเพิ่มหอนั้นเป็นหอชาย มึงไม่สังเกตหรอว่าในห้องน้ำทำไมไม่มีโถฉี่   

       

      ถึงตอนนี้ผมเข้าใจแล้วว่าทำไมหอนั้นถึงได้มิดชิดผิดปกติ แต่สิ่งที่ผมไม่เข้าใจคือสิ่งที่ผมเจอคืออะไร เกี่ยวข้องอะไรกับห้องนั้นมั้ย แล้วเคยเกิดอะไรขึ้นกับห้องนั้นกันแน่... 

         

                               Papaya. 

แสดงเพิ่มเติม

รีวิว (0)

เรื่องนี้ยังไม่มีรีวิว