[Fic] Memory of Revenge Fandom : Touken Ranbu Pairing: Iwatooshi x Imanotsuruki Rate : PG

----------------------------------------------------------------------   “ฮิฮิ..”   เสียงหัวเราะแหลมเล็กชวนให้ความหวาดกลัวเกาะกินจิตใจดังก้องกังวานขึ้นภายในห้องแห่งหนึ่ง ที่ซึ่งถูกปกคลุมไปด้วยความมืดมิด ภายในห้องมืดแห่งนั้นกำลังปรากฏภาพของบุคคลผู้หนึ่งที่มีหยาดเลือดประดับตกแต่งอย่างเป็นสีสันบนเครื่องแบบที่ตนสวมใส่อยู่ ส่วนเหตุที่ทำให้มีของแบบนั้นแปดเปื้อนอาภรณ์ของเขา คงไม่พ้นจากการที่มีร่างอีกร่างกำลังนอนจมกองเลือดอยู่ภายใต้ร่างเล็กของผู้ที่เปื้อนไปด้วยเลือด ดวงตากลมโตสีโกเมนจ้องมองร่างใต้อาณัติที่พยายามดิ้นรนเอาชีวิตรอดทั้ง ๆ ที่สภาพไม่หลงเหลือเรี่ยวแรงที่จะใช้ในการหนีแม้แต่น้อยอย่างไม่รู้สึกรู้สาอะไร ริมฝีปากเรียวเล็กเหยียดยิ้มกว้างอย่างน่าสะพรึงกลัวคล้ายกับกำลังบ่งบอกถึงอารมณ์ที่กำลังสนุกของตนกับการที่จะได้ปลิดชีพผู้อยู่เบื้องล่างเสียเหลือเกิน ภายในมือเล็กของผู้เหนือกว่ากำลังถือครองมีดสำหรับผ่าตัดซึ่งหากใช้ในทางที่ถูกต้องมันจะมีหน้าที่ในการช่วยเหลือผู้คนให้หลุดพ้นจากโรคภัยไข้เจ็บต่าง ๆ แต่เมื่อนำมาใช้ทิ่มแทงอย่างบ้าคลั่งแล้ว มันก็เป็นได้เพียงแค่อาวุธสังหารชั้นดีเท่านั้น แน่นอนว่ามีดผ่าตัดในมือของร่างเล็กถูกใช้ในทางที่เชื่อมไปสู่ประตูแห่งความเป็นอาชญากร คมมีดแห่งความชอบธรรมถูกยกสูงและทิ่มแทงลงไปบนเนื้อกายบริเวณด้านหลังช่วงลำตัวของบุคคลผู้ตกเป็นเหยื่อซ้ำแล้วซ้ำเล่าอย่างหนักหน่วงและไร้ความปราณี หยาดเลือดสาดกระเซ็นเปรอะเปื้อนชุดเครื่องแบบทั้งของผู้กระทำและเหยื่อเบื้องล่าง กลิ่นคาวเลือดเริ่มคละคลุ้งไปทั่วห้องที่ซึ่งถูกยัดเยียดบทให้เป็นห้องแห่งการฆาตกรรม การกระทำของผู้ล่ายังคงดำเนินการต่อไปจนกระทั่งร่างของเหยื่อผู้เคราะห์ร้ายเริ่มหมดแรงในการดิ้นรน สายตาของผู้อยู่เบื้องล่างเริ่มพร่ามัวซึ่งเกิดจากการสูญเสียเลือดในปริมาณมาก แต่เขาก็ยังคงมองไปที่ประตูห้องซึ่งเปิดค้างไว้อยู่ด้วยความหวังที่มีเพียงน้อยนิดภายในจิตใจ ดูเหมือนโชคชะตายังคงมีความเมตตาอยู่บ้างเพราะไม่นานนักก็มีเสียงฝีเท้าดังขึ้นบนทางเดินที่เชื่อมต่อกับห้องแห่งนี้ เสียงนั้นค่อย ๆ ดังขึ้นบ่งบอกถึงระยะห่างที่เริ่มใกล้เข้ามาเรื่อย ๆ ก่อนที่เงาของอะไรบางอย่างจะปรากฏขึ้นอยู่ภายนอกห้องที่ปราศจากแสงสว่างใด ๆ ซึ่งนั่นก็ทำให้ร่างเล็กที่กำลังสนุกกับการใช้มีดผ่าตัดทิ่มแทงเหยื่อผู้ซึ่งนอนคว่ำอยู่บนพื้นหยุดการกระทำลงและให้ความสนใจกับร่างของบุคคลผู้มาใหม่แทน ดวงตากลมโตสีโกเมนเหลือบขึ้นมาสบสายตากับผู้มาเยือนรายใหม่ซึ่งกำลังหยุดยืนมองเหตุการณ์ทั้งหมดอยู่หน้าประตูด้วยใบหน้าเรียบนิ่งหากแต่แอบแฝงด้วยความตกตะลึงกับภาพตรงหน้าที่เห็น รอยยิ้มที่ประดับอยู่บนใบหน้าเปื้อนเลือดค่อย ๆ ฉีกกว้างขึ้นเมื่อเจ้าของดวงตาสีโกเมนรับรู้ว่าบุคคลผู้มาใหม่คือคนคุ้นเคยและรู้จักดีพอสมควรของตนเอง แต่ไม่นานดวงตากลมโตก็เหลือบกลับมามองต่ำไปที่เหยื่อของตน เพราะในตอนนี้สิ่งที่ควรให้ความสนใจสำหรับเขามีเพียงร่างใกล้หมดลมหายใจของเหยื่อผู้นี้เท่านั้น เจ้าของร่างผู้ตกเป็นเหยื่อใช้ลมหายใจเฮือกสุดท้ายในการพยายามที่จะเอื้อมมือไปหาผู้ที่ยืนอยู่หน้าประตูเพื่อขอความช่วยเหลือ แต่ทุกอย่างก็ดูเหมือนสายเกินแก้เพราะไม่นานสติสัมปชัญญะของผู้เป็นเหยื่อก็หมดลงพร้อมกับมือที่ตกลงสู่พื้นห้องอย่างไร้เรี่ยวแรงใด ๆ เหนี่ยวรั้งมันเอาไว้อีกต่อไป เมื่อความเคลื่อนไหวในห้องมืดแห่งนี้สงบลง ร่างเล็กที่นั่งคร่อมร่างไร้สติอยู่ก็ขยับมือปล่อยออกจากมีดผ่าตัดก่อนจะขยับตัวลุกขึ้นยืนดี ๆ และเงยมองบุคคลที่กำลังมองมาที่เขาด้วยสีหน้าที่ยังคงตกตะลึงอยู่ไม่หายที่หน้าประตูห้อง   "อิมาโนะสุรุกิ.."   ความเงียบถูกแทนที่ด้วยเสียงของบุรุษผู้ที่กำลังยืนมองเหตุการณ์ทั้งหมดตรงหน้า โดยน้ำเสียงที่เปล่งออกมามีลักษณะเบาจนคล้ายกับเป็นการกระซิบ แต่นั่นกลับทำให้ร่างเล็กระบายยิ้มออกมาอีกครั้งก่อนจะเดินตรงไปหาบุคคลตรงหน้าและทำการเอื้อมมือของตนที่แปดเปื้อนไปด้วยสีแดงฉานของโลหิตสดซึ่งมาจากร่างของผู้ที่นอนหมดสติอยู่บนกองเลือดไปจับมือของแขกผู้มาเยือนจากนั้นก็ออกแรงบีบจนทำให้อีกฝ่ายแสดงสีหน้าบ่งบอกถึงความเจ็บปวดออกมา   "เจ้าต้องชดใช้ขอรับ อิชิกิริมารุ.."   คนตัวเล็กเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงที่แอบแฝงไปด้วยอารมณ์บางอย่างก่อนจะคลายมือออกพร้อมกับเดินสวนออกไปจากห้องราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น   ใช่แล้ว.. อิชิกิริมารุต้องชดใช้ ชดใช้ให้กับการกระทำของตนเอง..ที่มาทำให้คนสำคัญของกระผมต้องเปลี่ยนไป กระผมจะทำให้เจ้าเจ็บปวดยิ่งกว่ากระผม อา...กระผมรู้สึกสนุกจังเลยขอรับ เลือดที่แปดเปื้อนตัวของกระผม... เลือดของเจ้าคนที่มายุ่งกับคนสำคัญ สีแดงของเลือด..มันเป็นสีที่งดงามเสียจริง ๆ เลย กระผมชอบมันจังขอรับ กลิ่นคาวเลือด.. มันทำให้กระผมรู้สึกดีจริงๆ เลยล่ะ เฮะเฮ่ะ ~~   อิชิกิริมารุยังคงยืนแข็งทื่ออยู่ที่เดิม ความคิดต่าง ๆ มากมายขึ้นในหัว แม้ว่าอิมาโนะสุรุกิจะเดินจากไปนานแล้ว เขาใช้เวลาอยู่สักพักใหญ่ในการคิดทบทวนอะไรต่าง ๆ นานาก่อนที่จะได้สติและฉุกคิดขึ้นมาได้ว่า ณ ตอนนี้ควรทำสิ่งใดเป็นอันดับแรก พอคิดได้แล้วเขาจึงค่อย ๆ เดินเข้าไปหาร่างที่นอนคว่ำหน้าอยู่และไม่มีความเคลื่อนไหวใด ๆ อิชิกิริมารุทำการย่อตัวลงช้า ๆ จากนั้นก็ขยับมือไปแตะที่บริเวณลำคอของฝ่ายตรงข้ามเพื่อตรวจเช็คชีพจรตามสัญชาตญาณของความเป็นแพทย์ หากแต่มันกลับสายเกินไปเสียแล้ว   ชีพจรหยุดลงแล้ว..   เจ้าของมือที่กำลังตรวจเช็คชีพจรแสดงสีหน้ากลืนไม่เข้าคายไม่ออก ด้วยความที่ไม่อยากจะเชื่อว่าสิ่งที่เกิดขึ้นตรงหน้านั้นเป็นความจริง และถึงแม้เขาจะรับรู้แล้วว่าคนตรงหน้าของเขามีเพียงร่างเนื้อที่ไร้จิตวิญญาณแล้วแต่เขาก็ยังคงไม่อาจละสายตาไปจากร่างตรงหน้าได้ เขาปล่อยให้เวลาผ่านไปโดยที่ไม่รู้ตัวว่ากำลังมีเสียงฝีเท้าหนึ่งมุ่งตรงมาที่ที่เขาอยู่ จนกระทั่งเสียงฝีเท้านั้นหยุดลงตามด้วยเสียงอันคุ้นหูซึ่งดังออกมาจากบุคคลผู้มาเยือนรายใหม่ และนั่นทำให้ผู้ที่อยู่ในห้องต้องหันไปมองตามต้นเสียง ซึ่งการพบปะของคนสองคนทำให้ต่างฝ่ายต่างแสดงสีหน้าที่ตกตะลึงไม่ต่างกันแม้แต่น้อย       "อิชิกิริมารุ.. นี่เจ้า.."        ---------------------------------------------  Haneruma

[Fic] Memory of Revenge

Fandom : Touken Ranbu

Pairing: Iwatooshi x Imanotsuruki

Rate : PG



----------------------------------------------------------------------

 

“ฮิฮิ..”

 

เสียงหัวเราะแหลมเล็กชวนให้ความหวาดกลัวเกาะกินจิตใจดังก้องกังวานขึ้นภายในห้องแห่งหนึ่ง ที่ซึ่งถูกปกคลุมไปด้วยความมืดมิด ภายในห้องมืดแห่งนั้นกำลังปรากฏภาพของบุคคลผู้หนึ่งที่มีหยาดเลือดประดับตกแต่งอย่างเป็นสีสันบนเครื่องแบบที่ตนสวมใส่อยู่ ส่วนเหตุที่ทำให้มีของแบบนั้นแปดเปื้อนอาภรณ์ของเขา คงไม่พ้นจากการที่มีร่างอีกร่างกำลังนอนจมกองเลือดอยู่ภายใต้ร่างเล็กของผู้ที่เปื้อนไปด้วยเลือด ดวงตากลมโตสีโกเมนจ้องมองร่างใต้อาณัติที่พยายามดิ้นรนเอาชีวิตรอดทั้ง ๆ ที่สภาพไม่หลงเหลือเรี่ยวแรงที่จะใช้ในการหนีแม้แต่น้อยอย่างไม่รู้สึกรู้สาอะไร ริมฝีปากเรียวเล็กเหยียดยิ้มกว้างอย่างน่าสะพรึงกลัวคล้ายกับกำลังบ่งบอกถึงอารมณ์ที่กำลังสนุกของตนกับการที่จะได้ปลิดชีพผู้อยู่เบื้องล่างเสียเหลือเกิน ภายในมือเล็กของผู้เหนือกว่ากำลังถือครองมีดสำหรับผ่าตัดซึ่งหากใช้ในทางที่ถูกต้องมันจะมีหน้าที่ในการช่วยเหลือผู้คนให้หลุดพ้นจากโรคภัยไข้เจ็บต่าง ๆ แต่เมื่อนำมาใช้ทิ่มแทงอย่างบ้าคลั่งแล้ว มันก็เป็นได้เพียงแค่อาวุธสังหารชั้นดีเท่านั้น

แน่นอนว่ามีดผ่าตัดในมือของร่างเล็กถูกใช้ในทางที่เชื่อมไปสู่ประตูแห่งความเป็นอาชญากร คมมีดแห่งความชอบธรรมถูกยกสูงและทิ่มแทงลงไปบนเนื้อกายบริเวณด้านหลังช่วงลำตัวของบุคคลผู้ตกเป็นเหยื่อซ้ำแล้วซ้ำเล่าอย่างหนักหน่วงและไร้ความปราณี หยาดเลือดสาดกระเซ็นเปรอะเปื้อนชุดเครื่องแบบทั้งของผู้กระทำและเหยื่อเบื้องล่าง กลิ่นคาวเลือดเริ่มคละคลุ้งไปทั่วห้องที่ซึ่งถูกยัดเยียดบทให้เป็นห้องแห่งการฆาตกรรม การกระทำของผู้ล่ายังคงดำเนินการต่อไปจนกระทั่งร่างของเหยื่อผู้เคราะห์ร้ายเริ่มหมดแรงในการดิ้นรน สายตาของผู้อยู่เบื้องล่างเริ่มพร่ามัวซึ่งเกิดจากการสูญเสียเลือดในปริมาณมาก แต่เขาก็ยังคงมองไปที่ประตูห้องซึ่งเปิดค้างไว้อยู่ด้วยความหวังที่มีเพียงน้อยนิดภายในจิตใจ

ดูเหมือนโชคชะตายังคงมีความเมตตาอยู่บ้างเพราะไม่นานนักก็มีเสียงฝีเท้าดังขึ้นบนทางเดินที่เชื่อมต่อกับห้องแห่งนี้ เสียงนั้นค่อย ๆ ดังขึ้นบ่งบอกถึงระยะห่างที่เริ่มใกล้เข้ามาเรื่อย ๆ ก่อนที่เงาของอะไรบางอย่างจะปรากฏขึ้นอยู่ภายนอกห้องที่ปราศจากแสงสว่างใด ๆ ซึ่งนั่นก็ทำให้ร่างเล็กที่กำลังสนุกกับการใช้มีดผ่าตัดทิ่มแทงเหยื่อผู้ซึ่งนอนคว่ำอยู่บนพื้นหยุดการกระทำลงและให้ความสนใจกับร่างของบุคคลผู้มาใหม่แทน

ดวงตากลมโตสีโกเมนเหลือบขึ้นมาสบสายตากับผู้มาเยือนรายใหม่ซึ่งกำลังหยุดยืนมองเหตุการณ์ทั้งหมดอยู่หน้าประตูด้วยใบหน้าเรียบนิ่งหากแต่แอบแฝงด้วยความตกตะลึงกับภาพตรงหน้าที่เห็น รอยยิ้มที่ประดับอยู่บนใบหน้าเปื้อนเลือดค่อย ๆ ฉีกกว้างขึ้นเมื่อเจ้าของดวงตาสีโกเมนรับรู้ว่าบุคคลผู้มาใหม่คือคนคุ้นเคยและรู้จักดีพอสมควรของตนเอง แต่ไม่นานดวงตากลมโตก็เหลือบกลับมามองต่ำไปที่เหยื่อของตน เพราะในตอนนี้สิ่งที่ควรให้ความสนใจสำหรับเขามีเพียงร่างใกล้หมดลมหายใจของเหยื่อผู้นี้เท่านั้น

เจ้าของร่างผู้ตกเป็นเหยื่อใช้ลมหายใจเฮือกสุดท้ายในการพยายามที่จะเอื้อมมือไปหาผู้ที่ยืนอยู่หน้าประตูเพื่อขอความช่วยเหลือ แต่ทุกอย่างก็ดูเหมือนสายเกินแก้เพราะไม่นานสติสัมปชัญญะของผู้เป็นเหยื่อก็หมดลงพร้อมกับมือที่ตกลงสู่พื้นห้องอย่างไร้เรี่ยวแรงใด ๆ เหนี่ยวรั้งมันเอาไว้อีกต่อไป

เมื่อความเคลื่อนไหวในห้องมืดแห่งนี้สงบลง ร่างเล็กที่นั่งคร่อมร่างไร้สติอยู่ก็ขยับมือปล่อยออกจากมีดผ่าตัดก่อนจะขยับตัวลุกขึ้นยืนดี ๆ และเงยมองบุคคลที่กำลังมองมาที่เขาด้วยสีหน้าที่ยังคงตกตะลึงอยู่ไม่หายที่หน้าประตูห้อง

 

"อิมาโนะสุรุกิ.."

 

ความเงียบถูกแทนที่ด้วยเสียงของบุรุษผู้ที่กำลังยืนมองเหตุการณ์ทั้งหมดตรงหน้า โดยน้ำเสียงที่เปล่งออกมามีลักษณะเบาจนคล้ายกับเป็นการกระซิบ แต่นั่นกลับทำให้ร่างเล็กระบายยิ้มออกมาอีกครั้งก่อนจะเดินตรงไปหาบุคคลตรงหน้าและทำการเอื้อมมือของตนที่แปดเปื้อนไปด้วยสีแดงฉานของโลหิตสดซึ่งมาจากร่างของผู้ที่นอนหมดสติอยู่บนกองเลือดไปจับมือของแขกผู้มาเยือนจากนั้นก็ออกแรงบีบจนทำให้อีกฝ่ายแสดงสีหน้าบ่งบอกถึงความเจ็บปวดออกมา

 

"เจ้าต้องชดใช้ขอรับ อิชิกิริมารุ.."

 

คนตัวเล็กเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงที่แอบแฝงไปด้วยอารมณ์บางอย่างก่อนจะคลายมือออกพร้อมกับเดินสวนออกไปจากห้องราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น

 

ใช่แล้ว.. อิชิกิริมารุต้องชดใช้

ชดใช้ให้กับการกระทำของตนเอง..ที่มาทำให้คนสำคัญของกระผมต้องเปลี่ยนไป

กระผมจะทำให้เจ้าเจ็บปวดยิ่งกว่ากระผม

อา...กระผมรู้สึกสนุกจังเลยขอรับ

เลือดที่แปดเปื้อนตัวของกระผม... เลือดของเจ้าคนที่มายุ่งกับคนสำคัญ

สีแดงของเลือด..มันเป็นสีที่งดงามเสียจริง ๆ เลย กระผมชอบมันจังขอรับ

กลิ่นคาวเลือด.. มันทำให้กระผมรู้สึกดีจริงๆ เลยล่ะ เฮะเฮ่ะ ~~

 

อิชิกิริมารุยังคงยืนแข็งทื่ออยู่ที่เดิม ความคิดต่าง ๆ มากมายขึ้นในหัว แม้ว่าอิมาโนะสุรุกิจะเดินจากไปนานแล้ว เขาใช้เวลาอยู่สักพักใหญ่ในการคิดทบทวนอะไรต่าง ๆ นานาก่อนที่จะได้สติและฉุกคิดขึ้นมาได้ว่า ณ ตอนนี้ควรทำสิ่งใดเป็นอันดับแรก พอคิดได้แล้วเขาจึงค่อย ๆ เดินเข้าไปหาร่างที่นอนคว่ำหน้าอยู่และไม่มีความเคลื่อนไหวใด ๆ อิชิกิริมารุทำการย่อตัวลงช้า ๆ จากนั้นก็ขยับมือไปแตะที่บริเวณลำคอของฝ่ายตรงข้ามเพื่อตรวจเช็คชีพจรตามสัญชาตญาณของความเป็นแพทย์ หากแต่มันกลับสายเกินไปเสียแล้ว

 

ชีพจรหยุดลงแล้ว..

 

เจ้าของมือที่กำลังตรวจเช็คชีพจรแสดงสีหน้ากลืนไม่เข้าคายไม่ออก ด้วยความที่ไม่อยากจะเชื่อว่าสิ่งที่เกิดขึ้นตรงหน้านั้นเป็นความจริง และถึงแม้เขาจะรับรู้แล้วว่าคนตรงหน้าของเขามีเพียงร่างเนื้อที่ไร้จิตวิญญาณแล้วแต่เขาก็ยังคงไม่อาจละสายตาไปจากร่างตรงหน้าได้ เขาปล่อยให้เวลาผ่านไปโดยที่ไม่รู้ตัวว่ากำลังมีเสียงฝีเท้าหนึ่งมุ่งตรงมาที่ที่เขาอยู่ จนกระทั่งเสียงฝีเท้านั้นหยุดลงตามด้วยเสียงอันคุ้นหูซึ่งดังออกมาจากบุคคลผู้มาเยือนรายใหม่ และนั่นทำให้ผู้ที่อยู่ในห้องต้องหันไปมองตามต้นเสียง ซึ่งการพบปะของคนสองคนทำให้ต่างฝ่ายต่างแสดงสีหน้าที่ตกตะลึงไม่ต่างกันแม้แต่น้อย

 

 

 

"อิชิกิริมารุ.. นี่เจ้า.."

 

 

 

---------------------------------------------

Haneruma

แสดงเพิ่มเติม

รีวิว (0)

เรื่องนี้ยังไม่มีรีวิว