พงศาวดารทีโจผู้คว่ําบาตร
Joe

แอ็กชั่น

พงศาวดารทีโจผู้คว่ําบาตร

พงศาวดารทีโจผู้คว่ําบาตร

Joe

แอ็กชั่น

1
ตอน
237
เข้าชม
0
ถูกใจ
0
ความคิดเห็น
0
เพิ่มลงคลัง

ตอนที่ 1 ทุกอย่างมันไม่เหมือนเดิม 

ในปี 2025 ทั่วโลกได้เกิดภัยพิบัติอย่างต่อเนื่อง เมืองหลวงของแต่ประเทศได้สูญหายไป ว่ากันว่า ระดับของทะเลสูงขึ้นจึงทำให้บางเมืองนั้นก็จมลงไปเป็นเมืองบาดาล เมืองที่ไม่จมก็มีข่าวลือมาว่าภูเขาไฟระเบิด และการสูญเสียที่ยิ่งใหญ่ที่สุดมันก็เกิดจากสิ่งประดิษฐ์ของมนุษย์ ระเบิดนิวเคลียร์

การสูญเสียครั้งนี้โลกได้สูญเสียมนุษย์ไปมากกว่า 5ใน10ของประชากรบนโลก

ท้องฟ้าจากเคยส่องสว่างตอนกลางวันก็เปลี่ยนเป็นมืดครึ้ม เหล่าผู้รอดชีวิตจากภัยพิบัติหลายล้านคนต่างพากันอพยพออกจากเมืองหลวงของตน

ประเทศไทย กรุงเทพที่ได้รับภัยพิบัติจากน้ำท่วมใหญ่ได้จมหายไปในเวลาไม่นาน คนไทยที่อยู่ในเมืองหลวงที่สามารถหนีออกมาได้ทันก็มีเพียง 3 ใน 10 เพียงเท่านั้น ส่วนใหญ่เป็นเหล่าคนที่มีอำนาจและมีชื่อเสียง นายก นักการเมือง ดารา และ อื่นๆ ประชาชนที่เข้าไปทำงานหรือไม่มีอำนาจพวกเขาสามารถหนีออกมาได้เพียงเล็กน้อยเพียงเท่านั้น

 

สองปีผ่านไป

แต่ละประเทศได้สร้างเมืองหลวงขึ้นมาใหม่ ประเทศไทยได้ไปตั้งเมืองหลวงอยู่ที่นครราชสีมา ในเวลาต่อมาเปลี่ยนชื่อเป็น BK City  การปกครองของทุกๆประเทศได้เปลี่ยนเป็นระบบเผด็จการ

ตำรวจที่เคยมีกฎหมายอยู่ในมือพวกเขาก็ต้องสูญเสียมันไป ทหารได้เข้าควบคุมแต่ละจังหวัด หากจังหวัดใดขัดขืนจังหวัดนั้นก็จะถูกรัฐบาลจัดการมาตรการเด็ดขาด จังหวัดที่ยอมจำนนต้องเปลี่ยนชื่อเป็น BK เขต 1 ถึง 50 

มี2จังหวัดที่ไม่ยอมจำนน อุดรธานีและสกลนครทั้งสองจังหวัดร่วมมือกันต่อต้านรัฐบาล ทั้งสองจังหวัดต่อต้านได้ไม่ถึง3เดือนก็ต้องพ่ายไป สองจังหวัดนี้ถูกรวมกันเป็นจังหวัดเดียวและเปลี่ยนชื่อ BK เขตที่ 50 

ผู้คนที่เคยอยู่ใน BK เขต 50 ส่วนใหญ่ถูกจับไปขังทรมาน บางก็ถูกจับไปเป็นหนูทดลอง

ไม่กี่วันต่อมาก็มีเหล่าคนจากเขตอื่นย้ายมาอาศัยอยู่ BK อยู่ที่ 50

รัฐบาลเลิกจ่ายไฟฟ้าให้ประชาชน เงินในยุคมืดนี้กลายเป็นเพียงเศษกระดาษ

แม้แต่ทองก็หาใช่สิ่งสำคัญถ้าเปรียบกับอาหาร

ใช้เวลาไม่นาน BK แต่ละเขต ได้เปลี่ยนไปอย่างสมบูรณ์โจรได้มากกว่าทหาร

พวกมันฆ่าเพื่อแย่งชิง จับเหล่าสตรีไปข่มขืน รัฐบาลไม่ได้ใส่จุดนี้แม้แต่น้อย

หมู่บ้านแต่ละเขต BK จะถูกต้องเรียงตามตัวอักษรอังกฤษจากAไปถึงZ และตามด้วยตัวเลข

หมู่บ้านที่แสนเงียบเชียบ กลิ่นเลือดฟุ้งไปทั่วบริเวณ เป็นหมู่บ้านที่ยากจนมาก บ้านของพวกเขาเป็นเพียงกระต๊อบเล็กๆ หมู่บ้านแห่งนี้ตั้งอยู่ BK เขตที่ 50 ชื่อหมู่บ้าน Z13 ท้ายหมู่บ้านมีกระต๊อบหลังเล็กหลังหนึ่งที่ติดกับสระน้ำ มีชายหนุ่มคนหนึ่งกำลังนั่งฮำเพลงตกเบ็ด

ใกล้ๆเขามีหญิงแก่อายุประมาณ 60กว่าปีหน้าของเธอเต็มไปด้วยรอยย่น เธอกำลังก่อกองไฟเพื่อจะปิ้งปลา

หญิงแก่ยิ้มอย่างดีใจ

“วันนี้ลูกก็จะอายุ 18 ปีบริบูรณ์แล้วสินะ”

“ใช่แล้วจ๊ะแม่”

ชายหนุ่มหันมายิ้มด้วยรอยยิ้มที่สุดใส เด็กหนุ่มคนนี้มีรูปร่างที่ผอม ผิวคล้ำ   ผมสั้นๆ หน้าตาคล้ายผู้หญิง เขายิ้มแต่ละทีทำให้แถวๆนั้นสดใสไปหมด

เขามีชื่อว่า ทีโจ อุดมอนุ  

กลิ่นหอมของปลาที่สุกแล้ว โชยไปทั่วกระต๊อบน้อย พวยพุงไปชนจมูกของทีโจ

เด็กหนุ่มลุกขึ้นมากางเกงขาสั้นของเขาขาดแทบจะเอามือรอดผ่านได้สบายๆ

“อ๊ะนี้ กินตอนมันร้อนๆ” ทีโจเดินไปหยิบปลาที่แม่ยื่นให้ด้วยรอยยิ้ม

เมื่อเขากัดปลาไปคำแรกเขาก็ร้องออกมา ‘อ๊ากก ร้อนๆ’

‘ฟู่ๆ’(เสียงเป่าปลา) 

ทีโจหันขึ้นไปมองท้องฟ้าที่มืดครึ้ม เขาคิดในใจ

‘เมื่อไหร่ฉันจะได้เจอแสงสว่างอีกครั้งนะ’

เขากัดไปที่ปลาอย่างแรง ‘โอ๊ยก้าง’

‘ค่อยๆกินสิพี่’

เสียงเด็กสาวอายุประมาณ 15 ปีดังขึ้นจากด้านหลังพระเอก

‘มาแล้วหรอ มีอัน อุดมอนุ’

ทีโจหันมา หน้าตาของมีอันสวยงดงามดั่งเทพธิดา เธอตัวเล็ก ผมสั้นปะไหล่

เวลาเธอยิ้มตาของเธอจะเป็นคล้ายสระอิ ด้วยรูปโฉมที่งดงามของเธอจึงตกเป็นที่หมายปองของชายหนุ่มทั้งหลาย

มีอันเดินเข้ามากอดทีโจ

‘ร่างกายพี่อุ่นดีจังเลย’

ทีโจลูบหัวน้องสาวของตนเองแล้วยิ้มเบาๆ เขานึกในใจ

“ตั้งแต่พ่อแม่ของมีอันจากไปในตอนนั้น มีอันก็มาอาศัยอยู่กับเราตั้งแต่เด็ก เธอเป็นเหมือนน้องสาวในสายเลือดของฉัน”

ทีโจค่อยๆคลายกอดมีอัน มือซ้ายเขาจับไปที่ไหล่ของมีอัน

‘มากินปลากันเถอะ ไหนผักที่พี่ให้ไปเก็บมา’

มีอายื่นหอมเปให้ทีโจ

‘พี่นี้ชอบกินปลากับหอมเปจริงๆ’

ทั้งสามคนแม่ลูก ได้นั่งล้อมวงกินปลากัน

ทางเข้าหมู่บ้านที่ห่างจากกระต๊อบ 2 กิโลเมตร เสียงกรี๊ดร้องดังขึ้นอย่างดัง เหล่าโจรมากกว่า 30 คน ที่สวมหน้ากากรอยยิ้มที่ชั่วร้ายดั่งยักษ์

ได้บุกเข้ามาฆ่าฟันคนที่อาศัยอยู่แถวนั้น กระต๊อบบริเวณนั้นก็กลายเป็นกองเพลิงขนาดใหญ่ โจรสะบัดดาบที่อยู่ในมือจนเลือดกระจายไปติดหน้าหญิงสาวอายุประมาณยี่สิบปี หัวหน้าโจรตะโกนขึ้นมา ‘ชายฆ่า หญิงเหลือ เด็กตาย’ คนที่ตระโกนขึ้นมา เขารูปร่างที่กำยำในมือของเขาถือดาบที่เต็มไปด้วยเลือด

เมื่อสิ้นสุดเสียงตระโกน เหล่าโจร 30กว่าคนได้ไล่ฆ่าเด็กและผู้ชาย แม้แต่เด็กผู้หญิงที่อายุไม่เกิน 13 ปี พวกมันก็ฆ่าอย่างโหดเหี้ยม เหล่าทหารที่อยู่ในหมู่บ้านนี้ก็มีเพียง 2คน เพียงเท่านั้น ทหารทั้งสองคนได้หนีไปก่อนที่โจรจะมาถึงเสียอีก

เสียงกรี๊ดร้องของผู้คน ค่อยๆดังเข้ามาใกล้ๆกระต๊อบที่มีอันและทีโจอยู่

‘โจรบุกหรอ’ หลังจากสิ้นสุดคำนี้คุณแม่ก็พาทีโจและมีอันรีบคว้ามือลูกวิ่งหนีโดยไม่รู้จุดหมาย ทั้งสามคนวิ่งไปเรื่อยๆจนมาพบอีกทีพวกเขาอยู่ในป่า

ด้วยความแก่เฒ่าของแม่ร่างกายของนางก็วิ่งต่อไม่ไหว

พวกเขาหยุดพักที่ใต้ต้นโพธิ์ใหญ่

‘ฟู่’ ทีโจถอนหายใจ เขามองไปที่แม่และมีอันที่หอบเหนื่อย

‘แม่เดียวผมไปหาน้ำมาให้กินนะ’ ทีโจรีบวิ่งออกไปโดยไม่รอคำตอบของแม่

คุณแม่และมีอัน มองแผ่นหลังทีโจที่วิ่งออกไป

‘เห้ออ’ คุณแม่ถอนหายใจก่อนจะนั่งลง

ทีโจวิ่งไปหน้าไปเรื่อยๆจนเขาได้กลิ่นอายของน้ำ เขาวิ่งไปยังต้นตอของกลิ่น

สายน้ำไหลเบาๆ น้ำใสจนเห็นปลา ทีโจนั่งลงเห็นเงาสะท้อนตัวเองที่สะท้อนจากน้ำ เขาคิดหาวิธีนำน้ำไปให้แม่และมีอา เขาเดินหาของที่จะสามารถบรรจุน้ำได้ เขาเหลือบลูกตาไปเห็นกะลามะพร้าวที่ถูกใช้งานแล้ว เขาก้มมองกะลามะพร้าวแล้วหยิบมันขึ้นมา

‘มีคนเคยมาที่นี้ด้วยหรอ’

แต่เขานั้นก็ไม่เอะใจอะไร

มีอันและแม่ตอนนี้ทั้งสองคนก็มองหน้ากัน คุณแม่มองลูกด้วยแววตาสงสารลูกตนยิ่ง ในแววตาของแม่มีอันสวยดั่งเทพธิดาลงมาจุติ แม้จะไม่ใช่แม่ลูกกันจริงๆคุณแม่ ‘อัง’ ก็รักมีอันไม่น้อยกว่าทีโจเลย

 แม่นำมือทั้งสองข้างกอดไปที่มีอัน

‘แม่ขอโทษที่ทำให้ลูกต้องลำบาก’

มีอันมองแม่ด้วยสายตาที่สดใส

‘แม่น้ำมาแล้ว’

เสียงของทีโจดังมาแต่ไกล แม่คลายกอดมีอันแล้วยืนขึ้น

เธอมองไปที่ลูกชายของตนเองที่กำลังเดินอย่างระวังประคองน้ำในกะลาอย่างไม่เอนซ้ายขวาและยังมีเงาคนสองเงาร่างกายบึกบึนเดินตามหลังทีโจมาด้วย เมื่อเงาเข้ามาใกล้ๆก็ปรากฏเป็นชายทหารสองคน ทีโจหันหลังกลับไปดู เขาตกใจจนทำกะลาในมือล่นไป ทหารคนแรกมีรูปร่างกำยำตัวสูงหน้าตาค่อนข้างดี อายุประมาณสามสิบ ทหารคนที่สองรูปร่างดีไม่เตี้ยมากนัก เขาผมยาวมากกว่ามีอัน อายุไม่น้อยกว่าคนแรก

ทีโจมองทหารอย่างโล่งใจเขาคิดในใจทหารเหล่านี้คงเป็นเจ้าของกะลาที่เขาเอามา

‘คุณทหาร’แม่พูดขึ้นมาด้วยใบหน้าที่ดีใจ

ทหารหัวเราะออกมา

‘ยายแก่อังยังรอดอยู่หรอเนี้ย โห ลูกๆก็รอดด้วย’

ทหารผมยาวยิ้มด้วยสายตาที่ชั่วร้าย เขาพุ้งไปแทงท้องคุณแม่ด้วยมีดสั้นอย่างรวดเร็ว ทีโจตาเบิกกว้างไม่กล้าปริปาก ในใจของเขาวาดกลัวเป็นอย่างยิ่ง เลือดของแม่ค่อยๆไหลออกมาจากบาดแผล มีอันใช้มือปิดปากแล้วร้องไห้ออกมาเข่าของเธอทรุดลง เธอนั่งดูมือทั้งสองข้างท้าวแผ่นดิน ภาพตรงหน้าเธอคือมีดและเลือด ทหารผมยาวใช้มีดสั้นแทงซ้ำๆใส่หญิงแก่อย่างไม่ปราณีจนทำให้คุณแม่สิ้นลมหายใจโดยไม่ได้สั่งเสียลูกเลยเพราะความเจ็บปวดเกินจะพูด 

มีอันร้องกรี๊ดออกมาลั่นป่าแววตาของเธอเป็นแววตาที่ไม่เชื่อในสิ่งที่เห็น

‘แก พวกแกทำอย่างนี้ทำไม พวกแกเป็นผู้รักษาความสงบสุขไม่ใช่หรอ’

ทีโจร้องออกมาด้วยน้ำตา 

ทหารทั้งสองหัวเราะอย่างชอบใจ

‘เด็กน้อยโลกมันก็โหดร้ายเช่นนี้แหละ ใครจะตายเราไม่สนหรอก คนในหมู่บ้านของแกจะตายเป็นล้านฉันก็ไม่สนหรอก’

ทีโจมองหน้าทหารด้วยสายตาที่โกรธแค้น

ทหารได้หยุดแทงคุณแม่แล้วหันมามองทีโจ ทหารผมยาวเดินตรงไปหาทีโจด้วยสายตาไม่แยแส

‘น้องสาวของแกพวกเราเล็งไว้ตั้งนานแล้ว ในที่สุดวันนี้เธอก็จะได้สนุกกับพวกเรา’

ทหารง้างแขนเตรียมแทง

‘ถ้าจะโทษก็โทษโชคชะตาเถอะ’

สิ้นสุดเสียง ทหารผมยาวแทงไปที่ทีโจที่หลับตา

‘อึก’เสียงกระอักเลือดดังขึ้น ทีโจที่หลับตาเขารู้สึกอบอุ่นเป็นอย่างมาก

เขาลืมตาขึ้นมาด้วยสายตาที่ พร่ามัวเพราะน้ำตา 

ร่างของมีอันและทีโจได้ติดแนบชิดกัน มีอันกอดทีโจแน่น

‘ว่าแล้วร่างกายของพี่อุ่นที่สุด’

นี้คือคำพูดสุดท้ายของมีอันก่อนที่เธอจะสิ้นลมหายใจ

ทีโจกอดมีอันแน่นน้ำตาของเขาไหลลงไปตกที่ไหลของมีอัน

‘แม่ มีอัน’

เสียงตะโกนที่สิ้นหวังดังลั่นป่า

ใบโพธิ์ล่วงล่นลงมานับร้อยใบ  

ทหารตัวสูงด่าทหารผมยาว

‘แกฆ่ายัยเด็กนี้ทำไมวะ’

ทหารผมยาวหันไปขอโทษทหารแล้วหันกลับมาที่มีอันและทีโจ

‘ตายไปก็ใช่ว่าจะสนุกไม่ได้นิ ฮ่าฮ่าฮ่า’

ทหารผมยาวเดินมาพยายามดึงร่างของเด็กทั้งสองคนให้คลายออกจากกัน

แต่ไม่ว่าจะดึงแรงเท่าไหร่ก็ไม่หลุดสักทีโจนึกในใจ

‘ขอเถอะพระพุทธเจ้า ให้ชาตินี้เป็นชาติสุดท้ายของผม ช่วยมีอันด้วย ’

ในใจของทีโจตอนนี้เขาแค้นทหารเขาแค้นประเทศแค้นโจร แค้นทุกอย่างที่ทำให้เขาเป็นแบบนี้ เขาได้สูญเสียทุกอย่างไปในวันเกิดของตนเอง 

‘ฉึก’เสียงมีดที่แทงเขากลางหลังของเขา

‘ปล่อยสิวะ’

ทหารผมยาวร้องด่าทีโจให้คลายกอดมีอัน เขาแทงไปที่ทีโจอย่างต่อเนื่องแต่ทีโจก็มีไม่ท่าทีว่าจะคลายกอดเลย

‘ครื่นนน’ เสียงฟ้าร้องจากเบาค่อยๆดังขึ้นเรื่อยๆ ฟ้าที่มืดครึ้มอยู่แล้วมืดสนิท

ฟ้าแลบจนทำให้เกิดแสงสว่างเป็นคร่าวๆ ลมพัดโชกทำผมของทหารผมยาวไสวตามสายลม

‘เปรี๊ยงงง!’ฟ้าผ่าต้นโพธิ์ขนาดใหญ่ ทหารที่อยู่ใกล้ๆล้มลงเพราะกระแสไฟฟ้าไหลผ่านดินมาถึงพวกเขา ทหารตัวสูงพยายามลุกขึ้นมาอย่างลำบากเขาเดินไปหาทหารผมยาวที่กองอยู่กับพื้น เขามองเด็กสองคนด้วยสายตาที่ไม่แยแส

มือของทหารตัวสูงตรวจดูชีพจรของทหารผมยาว เขายังไม่ตาย ทหารตัวสูงแบกทหารผมยาวขึ้นมาและมุ้งหน้าออกจากที่นี้ทันที เนื่องจากว่าอยู่ที่ใต้ต้นไม้ใหญ่ก็มีโอกาสที่จะเกิดฟ้าผ่าอีกรอบ

ทีโจคลายกอดมีอัน ไม่รู้เหตุใดเขาถึงไม่ได้รับความเสียหายจากสายฟ้าเลย

เขามองมีอันด้วยสายตาที่สงสาร ทันใดนั้นเขาก็สลบไปเนื่องจากพิษแผลที่หลังของเขา

ฝนตกลงมาอย่างไม่หยุดหย่อน ฟ้ายังคงร้องอย่างต่อแน่ กระแสลมพัดต้นไม้จนทำให้ใบไม้ล่วงรอบๆบริเวณ ต้นโพธิ์ที่ถูกฟ้าผ่าไม่เสียหายเลยแม้แต่น้อย

เสียงปริศนาดังขึ้นในบริเวณร่างของสามแม่ลูก

‘พระพุทธเจ้าไม่ว่างมาหรอกนะ เอาเป็นว่าเรามาแทนละกัน’

ต้นตอของเสียงคือชายรูปงามหัวโล้นไม่มีคิ้วห่มผ้าเหลือง ร่างกายของเขาเปล่งออร่าของมากจนให้ความรู้สึกเหมือนเทพ เขานั่งอยู่รากของต้นโพธิ์ที่คดเขี้ยวเป็นที่นั่ง

ฝนตกลงมาอย่างต่อเนื่องเลือดของแม่ มีอันและทีโจ ไหลตามกระแสน้ำฝนไปรวมกันที่บ่อเล็กๆ   

แสดงเพิ่มเติม

รีวิว (0)

เรื่องนี้ยังไม่มีรีวิว