ในชีวิตที่แสนลำบากตั้งแต่ยังเยาว์วัย เด็กชายคนหนึ่งที่เกิดมาท่ามกลางถานะยากจน ที่บ้านประกอบอาชีพทำเกษตกร แก้วเป็นลูกชายคนโต และมีน้องสาวที่ยังเล็ก พ่อกับแม่และแก้วอาศัยอยู่ที่บ้านของคุณตากับยายที่บ้านไม้เก่าขนาดของบ้านใหญ่มาก เป็นบ้าน 2 ชั้นยกสูง ซึ่งบ้านหลังนี้คุณตาแกซื้อต่อมาจากอีกคนนึง โดยเวลาจะออกไปปลูกข้าวไถนาจะต้องเดินทางออกจากหมู่บ้านไปอีกไกล และทำเช่นนี้มาเป็นเวลาหลายปีมาก
จนอยู่มาวันหนึ่ง ตะวันไกล้พบค่ำ แก้วและพ่อกับแม่ก็พากันเดินทางกลับมาที่บ้าน เพื่อหุงหาอาหารเพื่อเลี้ยงครอบครัว
พอแม่เข้าครัวทำกับข้าวกับปลาเสร็จ ทุกคนในครอบครัวต่างล้อมวงกินข้าวกันตามประสาบ้านนอก
ในคืนนั้น พ่อบอกกับแก้วว่าวันนี้พ่อจะออกไปปักเบ็ดที่นา เห็นปลามันเยอะ เช้าจะได้เอาปลามาต้มยำกินกัน
กินข้าวเสร็จพ่อก็ออกไปปักเบ็ด โดยปล่อยให้แม่นอนอยู่ในเรือนไม้คนเดียว ส่วนตัวของแก้วนั้นจะนอนอยู่ข้างนอกกับคุณตากับคุณยาย
เวลาผ่านไปซัก 5 ทุ่ม เห็นจะได้ เสียงร้อง ว้ายยยย ดังขึ้นมาจากในห้องของแม่ พร้อมกันกับเห็นคุณตาคว้าปืนกระโดดออกนอกหน้าต่างบ้านเพื่อไปดู เสียงตาใช้ไฟฉายส่องไปทั่วๆบ้าน เสียงคุณตาบอกว่าไม่เห็นมีใครนี่หว่า ยายรีบวิ่งเข้าไปกอดแม่พร้อมถามว่าเป็นอะไร ในมือแม่ถือกระบอกไฟฉายไว้แน่น บอกยายว่า หน้าต่างมันสั้นพร้อมกันหมดทั้ง4 บานเลย
ฉันก็ล็อกกอน ไว้ทั้งข้างบน และข้างล่าง มันสั่นจนหลุดออกมาได้ไง ทั้งๆที่ลมก็ไม่มีซักนิดเดียว ซักพักคุณตาก็เดินขึ้นบันไดมาในห้องของแม่ พร้อมบอกว่า กูนอนฟังมาพักใหญ่แระ มันสั่นจริง คิดว่าเป็นคน พอได้ยินเสียงแม่ร้องว้ายเลยรีบกระโดดออกไปดักข้างนอก ก็ไม่เจอใคร แม่บอกว่า ถ้ามันเข้ามาจะเอาไฟฉายส่องหน้ามันจะได้รู้ว่ามันเป็นใคร จะเอาเรื่องมันให้ถึงที่สุด เรื่องนี้กลายเป็นปริศนาคาใจของคนทั้งบ้านมาหลายวัน อีกซะพักพ่อก็กลับบ้านมา ทุกคนก็เล่าเรื่องนี้ให้พ่อฟัง พ่อเลยบอกว่า เชื่อมั้ยผมนอนยุที่บ้านในห้องกลับแม่มาเนี่ย ผมนนี่โดนผีอำแทบทุกคืนเลย คุณตาหัวเราะ ด้วยความที่ไม่เชื่อเรื่องพวกนี้ของคุณตาเลยทำให้คุณตามองเรื่องนี้เป็นเรื่องไร้สาระ คุณยายเอ่ยถามพ่อว่าโดนอำยังไง พ่อเลยเล่าให้คุณยายฟังว่า ผมนอนอยู่นะมันจะมีเงาดำๆ เห็นเป็นรูปร่างคนตัวใหญ่ๆ มันโถมทับร่างพ่อ แล้วตัวพ่อก็ลุกไม่ขึ้น จะเป็นเเบบนี้แทบทุกคืนเลย เรื่องนี้เมื่อเเก้วได้ยินเลยทำให้แก้วยิ่งกลัว ไม่กล้าที่จะเข้าไปนอนในเรือนกับแม่ แม้แต่ตอนกลางวันทุกคนจะลงมานั่งกันอยู่ข้างล่างกันหมด ยังได้ยินเสียงไม้กระดานเลื่อนเบียดกันดังเเอ๊ดๆ เลย
วันหนึ่งแก้วได้ยินคุณยาย คุยกับคุณตาว่า ‘’ เนี่ย ฉันบอกแก่แล้วเนี่ยว่าอย่าซื้อๆ บ้านเนี้ย เสามันก็ตกมัน ตาฉิมเจ้าของเดิมเค้าก็ตายในเรื่อนใหญ่เนี่ย ฉันว่าที่ลูกมันเจอจะต้องเป็นตาฉิมเเน่เลย ‘’ เสียงคูณตาบอกว่าไม่มีหรอกผี ผีที่ไหนมันจะมาอยู่ เค้าคงไม่เกิดกันหมดแล้ว อีกอย่างบ้านเราซื้อมามันก็ต้องเป็นของเรา จะเป็นของผีได้ไง ตาบอก
อยู่ที่บ้านได้ไม่เท่าไร ด้วยความที่เจอเรื่องแบบนี้มาแทบทุกวัน พ่อกับแม่เลยพ่อแก้ว กับ น้องออกมาอยู่กันของนอก โดยให้เหตุผลว่า จะได้ไม่ต้องเดินทางไปกลับเวลาไปปลูกข้าวไถนากัน
4 คน พ่อ แม่ แก้ว กับน้องสาว ก็พากันออกมาสร้างกระท่อมอยู่กลางทุ่งนา ที่พวกเค้าปลูกข้าวไว้ทุกวัน
โดยไม่มีไฟฟ้าใช้ ไม่มีน้ำปะปาใช้ ใช้เพียงแสงไฟตะเกียง กับ น้ำในสระข้างกระท่อมอยู่อาศัยกัน ห้องน้ำก็ต้องถือจอบไปขุดเพื่อ ถ่ายหนัก ไกลๆกระท่อมที่อยู่เพื่อ ไม่ให้หมาไปขุดแล้วจะส่งกลิ่นเหม็นมาหากรท่อม อยู่มาได้ซักพักแม่ที่นอนอยู่บนกระท่อมตอนกลางคืน มีงูหลามตัวใหญ่มาก มานอนพาดขาของแม่ไว้ ไล่เท่าไรก็ไม่ไป น่าแปลกมากที่มันไม่ทำร้าย หรือฉกกันอะไรใครเลย แต่ที่แปลกไปกว่านั้น แม่กลับเป็นอัมพาตไปครึ่งตัวเลย นับจากวันที่งูหลาม มานอนพาดขาของแม่
5 ปี ที่แม่เป็นอัมพาต พ่อพยายามพาไปหาหมอ ที่ไหนก็ไม่หาย ทั้งโรงพยาบาล ทั้งทางไสยศาสตร์ ที่ไหนว่าดี ว่าเก่งไปหมด ไม่หายซักที่ ตาโต๊ะ คนแถวท่านเป็นหมอดู เค้าเลยมาดูให้ที่กระท่อม เค้าบอกว่า ‘‘ เนี่ย พวกมึงอ่ะมาปลูกกระท่อมทับทางผ่านของพวกเค้า ต้องรื้อย้ายออกไปที่อื่น ’’ ทันทีที่พูดจบเค้าก็ร้องให้พร้อมกับเดินไปหยิบไม้แล้วไปขีด เส้นให้ปลูกบ้าน พวกมึงต้องมาปลูกอยู่กันตรงนี้ เสียงตาโต๊ะพูด แต่น่าแปลกใจมากตอนที่ตาโต๊ะแก่เดินเข้ามาในกระท่อมนี่ หมาจะกัดเเก่ แก่ก็กลัวว่าหมาจะกัด เลยให้พ่อไปดูหมาให้ แต่พอลุกเดินไปขีดเส้นที่ว่าให้ปลูกบ้านนั้น แก่เดินไปอย่างหน้าตาเฉย เลย หมาก็เห่าจะกัด แก่ก็ไม่กลัว พอแก่มานั่งแก่เอ่ยถามพ่อว่า ไอ้ทิดเองเชื่อมั้ย พ่อพยักหน้าหร้อมตอบพรางไปว่าเชื่อ
พอตาโต๊ะกลับบ้านไป แก้วเลยถามพ่อไปว่า พ่อเชื่อที่ตาโต๊ะพูดมั้ย พ่อบอกหึ ไม่เชื่อหรอก ที่ตอบไปเพราะไม่อยากหักหารน้ำใจแก แกอุตส่าห์มาช่วย ตกกลางคืนแก้วจะนอนกับพ่อ เสียงพ่อร้องโอ้ย โอ้ย โอ้ย พร้อมกับเอามือบีบคอตัวเอง
พ่อแก้วปลุกพ่อ พ่อก็เตะเข้าไปที่โต๊ะข้างที่นอน จนพ่อตื่นขึ้นมา แก้วก็ถามพ่อว่าพ่อเป็นอะไร พ่อเล่าให้ฟังว่า พ่อสู้กับคนนุ่งขาว ห่มขาว มันมาบีบคอพ่อ พ่อก็เป่าคาถาใส่มัน แต่สู้มันไม่ได้ เรื่องนี้เลยทำให้ทุกคนในครอบครัวของแก้ว กลับมานั่งคิดกันว่าเราต้องย้ายที่อยู่กันอีกซะมั้ง เพราะแม่ก็เป็นอัมพาต พ่อก็ยังจะมาเจอแบบนี้อีก
ตกมาอีกคืนแก้วออกมานั้งอยู่ที่หน้ากระท่อม พรางไปเห็นเด็กคนนึงมาชวนแก้วไปเล่นน้ำ ที่สระน้ำหน้ากระท่อมที่ตัวเองอยู่นั้นแหละ แก้วก็เดินตามเด็กคนนั้นไป กำลังจะก้าวขาลงน้ำตามเด็กคนนั้น เสียงพ่อเรียก แก้ว อยู่ไหน แก้วสะดุ่ง บอกอยู่ที่สระน้ำ พ่อถามมาทำอะไรที่นี้ตอนนี้ แก้วตอบไปว่า มีเด็กคนนึงชวนมาเล่น พ่อเลยบอกแก้วไปว่า คราวหลังอย่าตามใครลงมาเล่นน้ำตอนกลางคืนแบบนี้อีกนะ
เช้าวันรุ่งขึ้น พ่อรีบรื้อกระท่อมหลังที่อยู่ แล้วเอาผ้าใบมากลางเป็นเต้นเพื่อเก็บของกันเเดด กันฝนไปพรางๆก่อน แล้วจะปลูกกระท่อมใหม่ที่ตาโต๊ะเค้ามาขีดไว้ให้