ทวิวิญญาณ สลับร่าง สร้างฮาเร็มในต่างโลก 1

แฟนตาซี

ทวิวิญญาณ สลับร่าง สร้างฮาเร็มในต่างโลก 1

ทวิวิญญาณ สลับร่าง สร้างฮาเร็มในต่างโลก 1

dom rungsawan

แฟนตาซี

28
ตอน
2.28K
เข้าชม
5
ถูกใจ
2
ความคิดเห็น
13
เพิ่มลงคลัง

บทนำ ทวิวิญญาณชะตาบัดซบ

 

บนโลกทั้งใบที่ทุกคนบนพื้นภิภพยังเข้าใจว่าโลกใบนี้แบนราบ

ผืนดิน ท้องน้ำ ป่าเขา หนองห้วยลำธาร ล้วนราบเรียบ......แต่ข้าไม่คิดแบบนั้น

ข้าหยุดร่างล่องลอยจากฟากฟ้า นุ่มนวลบนใบบัวหิมะ

ซึ่งเป็นดอกบัวที่สามารถพบเห็นได้ดาดดื่นในดินแดน

วินซีเรียแห่งนี้

 

ดินแดนวินซีเรีย ตั้งอยู่ทางใต้สุดของทวีปมารครองฟ้า มีภูมิประเทศเป็นหน้าผาหุบเหวอันตราย

มีน้ำแข็งหิมะปกคลุมตลอดปี

มีบ่อน้ำพุร้อนตามธรรมชาติผุดขึ้นราวดอกเห็ด ทำให้ธุรกิจโรงเตี๊ยมน้ำพุร้อนของดินแดนใต้

มีชื่อเสียงขจรไกลทั่วแผ่นดิน

 

สายลมเย็นหอบฝอยหิมะเล็กละเอียดพัดพาไปกับเส้นผมของข้า.......มือขาวสะอาดยกขึ้นพร้อมโคจรพลังลมปราณ

ขอบเขตขั้นวิญญาณออกมารวมตัวกันเป็นกลุ่มก้อนพร้อมกดผนึกลงไปสู่ตราประทับ

ใจกลางสระบัวหิมะที่ซึ่งข้าหยุดร่างตนอยู่เหนือยอดคลื่นหิมะพริ้วไสว

กระแสพลังยุทธสะบัดชุดคลุมไยบัวหิมะพลิ้วกระพือไปด้วยไอร้อนจากขุมลมปราณ

ที่ส่งผ่านจุดชีพจรจากข้อมือทั้งสอง

ลำแขนใต้ชุดไหม กระแสพลังไหลเวียนจากจุดศูนย์ลมปราณทั้งสามจุด หว่างคิ้วเปร่งแสงสีทองจางๆ กระแสลมปราณยกระดับความเข้มแข็งขึ้นจนสร้างม่านพลังยุทธไร้ลักษณ์หมุนวน

เข้าโอบล้อมตัวข้าและตราผนึกเทวะ....

 

สีทองสะอาดที่กำลังดิ้นรนจะสลัดหลุดจากกำลังยุทธของข้าที่กดและผลักฝ่ามือทุ่มเทลมปราณสุดชีวิตลงสู่ผนึกแห่งเทวะ เผ่าพันธุ์หายนะแห่งทวีปมารครองฟ้า.....

บูมมม!

ในหูได้รับคลื่นเสียงคำรามของอัสนีสวรรค์ซึ่งเป็นลมปราณประจำเผ่าพันธุ์แห่งเทวะ

เคยเอาชนะราชันย์มารครองฟ้ามาแล้วในการต่อสู้ฟาดฟันกันหลายยุคหลายสมัยในอดีต

เลือดสายเล็กไหลหลั่งจากมุมปากจมูกและดวงตาพร่าเลือนลง

“ฮึ่มม!” เสียงคำรามของตัวข้าฉุดรั้งสติที่กำลังกระเจิตกระเจิงให้กลับมา

อยู่กับเนื้อกับตัวพร้อมทุ่มเทวิชาผนึกซึ่งสืบทอดมาจากบรรพชนแห่งสำนักปราณวินซีเรียอัดพลังยุทธ์ทั้งสรรพางค์เข้าเติมเชื้อพลังจากผนึกบุพกาล

จนในที่สุด ผืนน้ำรอบข้างระเบิดออกเป็นม่านหิมะพลิ้วสยายเป็นโดมแสงสีทองกระจ่างจ้า

หอบร่างข้าให้ลอยขึ้นและถูกกำลังลมประหลาดจากบึงบัวหิมะพัดลอยมาตกไกลจากที่เดิม

หลายลี้ หลังจากเท้าติดแนบกับผืนแผ่นดินยอดเขาข้าซุดตัวทิ้งลงกับโขดหินระเกะระกะ

ของยอดภูผาแล้วได้แต่หายใจหอบเหนื่อยโรยรินเหงื่อการหลั่งไหลชะโลมร่างและผ้าไหมเย็นบนร่างจนแม้แต่ใบหน้าของข้ายังซีดเผือด

ปราดสายตามองมือทั้งสองข้างที่ยังคงสั่นสะเทือนไม่หยุดยั้ง ในหูยังคงแว่วเสียงคำรามของ

วิชายุทธอัสนีสวรรค์อันลือลั่นแล้วข้าก็ได้แต่เปิดปากแหงนหน้ามองฟ้าแล้วระเบิดเสียงหัวเราะดังลั่นทั้งผืนฟ้าดั่งราวคนวิปลาส

 

“ฮ่าๆๆ ฮ่าๆๆๆ~”

 

 

“คารวะท่านเจ้าสำนักครับ/คารวะท่านเจ้าสำนักค่ะ” เสียงแซ่ซ้องร้องคารวะดังกังวานไปทั้งหุบเขาเต่าหิมะ

เมื่อตัวข้าเหินร่างลงจากฟากฟ้าราวเทพเซียนจุติ

“อย่าได้มากพิธีไป พวกเจ้ามีอันใดก็ไปทำ” ข้าปิดปากหาวและสะบัดมือไล่อย่างไม่ใส่ใจ

ร่างสูงสง่างามของข้าก้าวตรงสู่ปากหุบเขาซึ่งหมอบตระหง่านด้วยร่างเต่ายักษ์ขนาดสูง

เกือบห้าลี้

การเข้าสู่สำนักปราณวินซีเรียนั้นง่ายดายเป็นอย่างยิ่ง

ซันกุ้ยเซียน ผู้มีฉายานามอันอื้อฉาวมากมายหลายหลากตบเท้ากับพื้นศิลามรกตพร้อมร่าง

ซึ่งพุ่งทะยานขึ้นดุจวิหกฟ้า

โบยบินทะยานเหยียบไปตามซี่ฟันเรียงรายของเต่ายักษ์ก่อนจะพลิกตัวทะยานไล้ลื่นร่างกายไปตามลิ้นยาวที่ทอดหายเป็นอุโมงค์เข้าสู่หุบเขาเต่าหิมะ ซึ่งสองศิษย์อารักษ์ขายังคงเบิกตาค้าง

จ้องมองข้าดั่งวันแรกที่พวกนางเจอข้าไม่มีผิด

 

“ท่านเจ้าสำนัก…ว้ายย…กรี๊ดด~”

ระหว่างร่างของข้าร่วงหล่นแตะเท้ากับพื้นหญ้าเขียวขจีของหุบเขาเต่าหิมะ มือแห่งเจ้าสำนัก

ทั้งสองข้างก็แยกย้ายเข้าโอบไหล่แบบบางอันงดงามของสองสาวน้อยผู้เฝ้าเส้นทางเข้า

สู่สำนักปราณวินซีเรีย

พร้อมส่งเสียงหัวเราะฮาๆ

แล้วเคลื่อนร่างวูบวาบผ่านสองสาวไป

 

“ฮ่าๆ พวกเจ้านี่ไม่ได้เจอกันตั้งนาน…….นมยังไม่โตเลยน้ะ”

ชื่อเสียงอันอื้อฉาวขาวสะอาดของข้าในเรื่องอิสตรีอันดีงามที่ต้องสูญเสียความเอียงอาย

และคาวราคีที่แปดเปื้อนไปกับพวกนางนั้นทำให้ข้ากลายเป็นที่รังเกียจของสตรีทั่วทั้งดินแดน

วินซีเรีย

แม้กระทั่งคนในสำนักปราณของข้าเองข้าก็ไม่มีละเว้นแก่พวกนาง....

เหล่าสตรีมองข้าด้วยความหวาดหวั่นสั่นกลัว.....เหล่าบุรุษต่างมองข้าด้วยความอิจฉาเลื่อมสัย

และพร้อมใจมาคุกเข่าโขกคำนับฟ้าดินขอให้ข้ารับพวกมันเป็นศิษย์

 

“ท่านเจ้าสำนัก โปรดหยุดเท้าก่อน” ผู้อาวุโสในชุดขาวหมวกปีกกว้างสีขาว

และหนวดเคราขาวสดใสลอยเข้ามาหาข้าจากอีกฟากหนึ่งของสวนสมุนไพรอันกว้างใหญ่

“มีอันใดท่านไป่เพ่ยจื่อ?” ข้าเอ่ยถามกับผู้ควบคุมสวนสมุนไพรแห่งนี้ด้วยหน้าตายิ้มแย้ม

กวนอวัยวะเบื้องล่าง

“มิกล้าๆ ข้าเห็นท่านเจ้าสำนักพึ่งกลับจากการเข้าร่วมงานสัมมนาชาวยุทธวินซีเรียมาเหนื่อยๆ ข้าจึงคิดจะนำเสนอน้ำสมุนไพรใหม่ล่าสุดให้ท่านได้ลิ้มชิมเป็นอย่างไร?”

ข้าค่อยส่งยิ้มให้ชายชราผู้ก้มศีรษะราวบัณฑิตคงแก่เรียน

“โฮ่ๆ หน้าตาข้าแจ่มใสถึงเพียงนี้ ท่านเห็นว่าข้าเหนื่อยล้างั้นรึ?” ท่านไป่เพ่ยจื่อหน้าแข็งค้าง

แม้รอยยิ้มยังคงห้อยแขวนแต่กลับแลดูแห้งเหี่ยวเหลือฝืน

 

“อ่า.......ท่านเจ้าสำนัก!”

ข้าเอียงใบหน้าเข้าใกล้แล้วกระซิบเสียงเบา แต่กลับดังกลอกหูชายชราตรงหน้า

จนเส้นเคราขาวโพลนลุกชี้ชันราวปีศาจศุกรจุติเยือนใต้หล้า

“ข้านั้นแจ่มใสเป็นอย่างยิ่ง เมื่อกี้ข้ามีวาสนาได้ลิ้มชิมรสน้ำนมของหลานสาวฝาแฝดท่านแล้ว โฮ่ๆ ขอบคุณๆ ที่ท่านปู่อย่างท่านกรุณา!!!”

ข้าไม่รู้ว่าท่านไป่เพ่ยจื่อจะร้องคร่ำครวญมิกล้ามิกล้าอีกหรือไม่แต่ข้านั้นรีบสาวเท้า

เผ่นทะยานพุ่งหายเข้าสู่ตึกส่วนกลางของเจ้าสำนัก พอถึงสถานที่ส่วนตัวข้ารีบตรงดิ่งเข้าไป

ที่เตียงแล้วกระอักเลือดกองโตออกมาแปดเปื้อนชะโลมผืนที่นอนจนแดงฉาน

 

สายตาข้าเริ่มพร่าพรายจนเห็นโลกหกคะเมนตีลังกาทุกสารทิศ

“อ๊อก บัดซบ ข้าธาตุไฟเข้าแทรก!” ร่างกายข้าไร้เรี่ยวแรงจนซุดคว่ำลงกับพื้น

พลังลมปราณทั่วร่างระเหยไออัสนีสวรรค์

สีทองออกมาฟาดผ่ากับชีพจรที่กรีดร้องจนถูกฉีกกระชากปลดปล่อยลำโลหิตสายยักษ์พุ่งพลวดออกจากหูตาจมูกปาก

รวมไปถึงรูขุมขนทั่วร่างกายที่สะเหมือนมีเข็มแหลมร้อนลวกไฟกำลังทิ่มแทงข้าอย่างไม่ปรานี

ชุดไหมผ้าเย็นอันดับหนึ่งแห่งทวีปมารครองฟ้าเริ่มติดไฟปราณสีขาวครามเผาไหม้ตัวเองและผู้เป็นนายที่กัดฟันจนสัมผัสถึงคาวเค็มของรถเลือด

ข้าฝืนชักพากำลังภายในทะยานเข้ากระแทกกับจุดสำคัญที่จะทะลวงข้าให้เก้าผ่านเข้าสู่ขอบเขตเทวดา.....

 

“ฮึก!” ลมปราณตีกลับกระแทกทำลายตันเถียนศูนย์ทะเลลมปราณจนถูกฉีกกระชากแหล่งกักเก็บลมปราณจนขาดกระจุยเป็นเลือดเนื้อเลอะเลือนปลิวไปกับลิ่มเลือดที่พุ่งทะยาน

ออกจากริมฝีปากข้ากระแทกกับศิลาหยกเทวะจนแผ่ขยายรอยร้าวออกไปรอบทิศทาง

ราวไยแมงมุม

เจ้าสำนักลมปราณวินซีเรียกลอกตามองบนแล้วกรีดร้องโหยหวนอยู่ในใจเพียงเท่านั้น

 

 

พุทธศักราช 2643

 

โลกเกิดความล้ำหน้ากว่าร้อยปีที่ผ่านมามากจนแทบเปรียบเทียบกันไม่ได้

วิวัฒนาการทางด้านเทคโนโลยีของมนุษย์นั้นสามารถพัฒนาได้รวดเร็วอย่างน่ากลัว

ตึกระฟ้าและเครื่องยนต์สัญจรภาคพื้นอากาศบินว่อนเต็มทั่วมหานคร

ในยุคปัจจุบันเป็นยุคโลกไร้พรมแดนอย่างแท้จริงทั้งในเรื่องของกฎหมาย การเดินทาง รวมไปถึงการอยู่อาศัย

ครอบคลุมถึงเรื่องเชื้อชาติซึ่งกลมกลืนอย่างถึงที่สุด

 

บริษัท world haunt online จำกัดมหาชน

 

บริษัทเกมส์ออนไลน์และอาวุธสงครามแนวหน้าของประเทศไทยและทวีปเอเชีย

ในปัจจุบัน

 

บนชั้นที่เจ็ดสิบสอง

 

ในส่วนนี้ถูกจัดตกแต่งอย่างเลิศหรูแต่แลดูเรียบๆ อาจเป็นเพราะผู้อยู่อาศัย

หลายสิบตำแหน่งนั้นเป็นผู้มีอายุเลยเลขหก

กันมามากแล้ว

รวมไปถึงชายชราร่างสูงใหญ่ทะลุร้อยแปดสิบห้าเซนติเมตรซึ่งยังคงจดจ้องกับกองเอกสารหนาปึ้ก

ราวกับหนังสือประวัติศาสตร์สากลหลายพันปี

ดวงตาฟ่าฟางสีเดียวกับชุดสูตรกวาดจ้องผ่านไปกับตัวหนังสือ แต่ในใจกำลังหาวเป็นดาวเดือน

แล้วน้ำลายยืดเป็นเกษียณสมุทรไหลบ่าเข้าท่วมท้นโต๊ะทำงานอย่างที่ชายชราผู้นี้ยังคงยิ้มระรื่น แต่จริงๆ เขากลับหลับในไปนานแล้ว…..

 

วูบ!

 

ชายชรารู้สึกเหมือนในหัวลั่นวิ้งพร้อมสายรุ้งเจ็ดสีเรืองรองราวภาพฝันหมุนวน

ผ่านสายตาคู่ฟ่ามัว

จนถึงขั้นที่ผู้บริหารคนอื่นได้แต่สั่งให้ตัดแว่นตาเรียงบนโต๊ะราวภูเขาสองขาอันดารดาด

“เย้ย!” แม้จะแหกปากร้องด้วยความเสียสติ แต่สิ่งที่ปรากฏขึ้นตรงหน้าทำให้น้ำลายแทบไหลย้อยมาฟูมปากชายชรา

ที่กำลังตกใจช็อคกับภาพที่เกิดขึ้นข้างหน้าด้วยสายตามึนงงสงสัย

 

“บัดซบ นี่ข้าเป็นอะไร!?”

“บัดซบนี่ข้าอยู่ที่ไหน?!!!” ชายเจ้าของดวงวิญญาณในชุดยูกาตะลอยละล่องร้องตะโกน

จนคลื่นเสียงก้องสะท้อนดังไปรอบบริเวณ

ชายชราเพียงผู้เดียวก็แหกปากร้องราวพายุหมุนแถบชายฝั่ง

ด้วยเสียงเป็ดนรกมาเกิดของสองชายต่างวัยทำให้พวกเขาต่างยกมือปิดหูแล้วตะโกนแข่งกัน

จนเสียงดังลั่นตีกันมั่วไปหมด

“แฮ็กๆ หยุดก่อนข้าแก่แล้ว!!!” เจ้าสัวเจริญ ชำนาญสรรพกิจแหกปากร้องโหยหวนอย่างไม่เป็นภาษาก่อนจะล้มก้นจ้ำเบ้าสองขาชี้ฟ้าโด่เด่

“บ้านข้าไม่ได้เลี้ยงแมว เจ้าอย่าเอ่ยวาจาอันบัดซบเช่นนี้!!!” ซันกุ้ยเซียนยิ้มอย่างไม่นำพาปรารมภ์แล้วตะโกนโต้ตอบ

ชายชราในร่างโปร่งแสงเช่นเดียวกับเขา......หืม.....ชายหนุ่มกวาดจ้องตัวเองและชายชรา

แล้วหัวเราะเสียงดังลั่น

ราวเป็นคนเสียสติอีกครั้ง

 

“ฮ่าๆ แม้ข้าจะต้องไปปรภพ ยังคงลากคนแก่ไปพูดคุยระหว่างทางได้คนหนึ่งฮ่าๆ!”

‘คนแก่’

เพื่อนพูดคุยระหว่างทางไปปรภพทำตาเหลือกแล้วชี้นิ้วสั่นเทาเข้าหาคนตรงหน้าซึ่งสะเหมือนหลุดออกมาจากการ์ตูน

จอมคาถามหาบรรลัยสักเรื่อง

“อ๊ากก ข้าไม่ไปนรกกับแกโว้ย!!” ยอดยุทธซันยังคงอ้าปากหัวเราะแล้วลงไปชักดิ้นชักงอเหมือนเพลงคลาสสิกในยุคนี้

สักเพลงหนึ่งแล้วแหกปากร้องเพลงอย่างรื่นรมภ์อุรา

 

“ข้า.....โป้งๆๆ เป็นยอดยุทธผู้ท่องไปทั่วหล้า....ฮ่าๆๆ.....ไถ่ถามคุณธรรมแทนฟ้าได้ทั้งสิ้นฮึกอ้า.....” พร้อมออกลีลา

วาดลวดลายสะบัดสะโพกพริ้วไปตามสายลม

เจ้าสัววัยไม้ใกล้ฝั่งเข่าอ่อนลงกับพื้นแล้วน้ำตาไหลพราก......

”อ๊าก สวรรค์ ข้ามาเจอไอ้วิญญาณปัญญาอ่อนจากที่ไหน?!”

 

“โฮ่ โฮ่ มนุษย์ผู้หน้ารักหน้าชังทั้งสอง ถึงเวลาแล้วล่ะ.......ที่พวกเจ้าจะต้องเข้าสู่นิยายของข้า~”

บรรยากาศโลกวิญญาณนิ่งอึ้งตลึงงันไปชั่ววูบหนึ่ง ออร่าแสงสว่างสีทองอร่ามราวถังอุจจาระรั่วระเบิดเจิตจ้าพร้อมชายในชุดยาว

สีแดงและรองเท้าแตะอันเป็นเอกลักษณ์ บนศีรษะประดับด้วยหน้ากากผีหิมะหน้าขาว

แลดูสยดสยองล่องลอยลงจากฟากฟ้า(ฝ้าเพดานห้องทำงานของอาคารยักษ์)

 

“เจ้าเป็นใครรึ?/เอ็งต้องการอะไร??!”

สองเสียงร่วมทางนรกยังคงเอ่ยถามสอดประสานกันเป็นเสต็บได้อย่างน่าประหลาดใจ

“โฮะๆ เราก็คือผู้ยิ่งใหญ่ผู้เปี่ยมไปด้วยคุณธรรมค้ำจุนใต้หล้า อะแฮ่ม อย่าได้ใช้สายตาเทิศทูนบูชา ข้าไม่ค่อยชินหรอก” หลังจากหยุดกระแอมแล้วก็กล่าวต่อราวว่าเรื่องที่พูดโต้งๆ นั้น

มันเป็นเรื่องธรรมดา เช่นคืนนี้ที่ไหนดีลูกเพ่~

 

“ชตาฟ้ากำหนด ชีวิตของทวิวิญญาณทั้งสองจะเริ่มใหม่ พวกเจ้าต้องก้าวเดินไป

ในเส้นทางแห่งจอม.........”หลังจากทำเสียงแทมแท้มแล้วก็ปรากฏเอฟเฟล็กพุดอกไม้ไฟ

สว่างไสวไปทั้งพื้นที่มืดๆ

ไม่รู้ตั้งแต่เมื่อใด ที่ห้องทำงานสุดหรูของท่านประธานบริษัทเกมส์สยองขวัญสะท้านโลกออนไลน์กลายเป็นพื้นที่มืดๆ รายล้อมด้วยออร่าแห่งดอกไม้ไฟสีแสบแปล๊ดอยู่รายรอบกาย

เจ้าหมอนั่น

 

“ถึงเวลาแล้ว ที่พวกเจ้าจะทวงคืนในสิ่งที่พวกเจ้าเสียหายไป จำคำพูดข้าไว้

อย่าได้เป็นวีรบุรุษเพราะสงครามจะติดตามมา

อย่าเป็นจอมมารร้ายเพราะจะนำมาซึ่งสงคราม

จงใช้ชีวิตอย่างที่พวกเจ้าหวังและข้าขอประทานนามทวิภาคแห่งสองดวงวิญญาณผู้ต้องสลับร่างกันว่า

 

ทวิวิญญาณสลับร่างสร้างฮาเร็มในต่างโลก ภาค เกิดใหม่ในร่างชายวัยหกสิบเก้า……….

และ

ทวิวิญญาณสลับร่างสร้างฮาเร็มในต่างโลก ภาค จักรยานเย้ยภิภพ…………….

 

สองหนุ่มต่างวัยหันมองสบตากันเป็นเวลาสามวินาทีแล้วได้แต่อุทานด้วยเสียงโหยหวน

“ม่ายย สตรีของข้าทั้งดินแดนนนน!!!”

“ธุรกิจของฉันนนน.....โท่ชีวิตคนแก่!!!”

สองสายตาสบประสานพร้อมประกาศศึกด้วยสายตา จนก่อเกิดคลื่นความโหดปะทะกัน

แต่สุดท้าย....ทั้งคู่ก็ทำได้เพียงกรีดร้องราววิญญาณบาปกำลังตกสู่หม้อซุบยมทูตที่หัวเราะ

ดังกึกก้อง……………….

 

เสริมความรู้เชิดชูสองสหายต่างวัย

 

(ระดับขั้นลมปราณในต่างโลก

มนุษย์ ลมปราณ หนึ่งปีถึงสิบปี

วิญญาณ ลมปราณสิบปีถึงร้อยปี

เทวดา ลมปราณร้อยปีถึงพันปี

ธรรมชาติ ลมปราณพันปีถึงหมื่นปี

เจ้ายุทธ์ ลมปราณหมื่นปีถึงแสนปี)

 

(1 ลี้ประมาณ 500เมตร)

 

ขอต้อนรับเข้าสู่นิยายของผีหิมะ(Ghostsnow)

กราบเรียนนักอ่านที่รักทุกท่าน เข้ามาอ่านแล้วเป็นอย่างไร ติชมให้ขนมกันได้ (55) ไม่ว่ากัน

ป.ล. 1 ใครหวังนิยายระเบิดภูเขาเผาสำนัก ข้าน้อยต้องขอแสดงความใสเจียด้วย

เพราะเรื่องนี้เน้น ฮาสบายๆ

 

ป.ล. 2 เรื่องนี้ฮาเร็มจัด สาระไม่ค่อยมี

ล้างแค้นก็ไม่มา (555) ต้องขออภัย

 

ป.ล. 3 เรื่องนี้เน้นความอบอุ่นใจ

ฉากรบก็สยบใต้หล้า

ฉากรักก็สะท้านดินฟ้า

โปรดขึ้นรถแล้วตามมา ท่องจักรวาลผีหิมะกันเลยจ้า!

 

…………….***

แสดงเพิ่มเติม

รีวิว (0)

เรื่องนี้ยังไม่มีรีวิว