อัญจา นาจา เเมวน้อยตระกูลนี้มีความลับ

สยองขวัญ

อัญจา นาจา เเมวน้อยตระกูลนี้มีความลับ

อัญจา นาจา เเมวน้อยตระกูลนี้มีความลับ

Ning Ning

สยองขวัญ

0
ตอน
111
เข้าชม
0
ถูกใจ
0
ความคิดเห็น
0
เพิ่มลงคลัง

สวัสดีจ้า หนูชื่อเด็กหญิงอัญญารินทร์ ทัณฑ์ประดิฐ เป็นเด็กนักเรียนชั้น ป.4 ห้อง ก.ไก่ หนูมีชื่อเล่นว่า รินค่ะ บางครั้งคุณยายก็ชอบเรียกหนูว่า อาริน คุณยายของหนูตอนนี้ก็อายุ 96 ปีแล้วค่ะ คุณยายบอกหนูว่าคุณยายจะมีอายุอยู่จนถึงตอนที่รินรินอายุ 16 ปี หนูไม่รู้หรอกนะคะว่าทำไม แต่หนูว่ามันก็ยังอีกนานอยู่นะคะ

บ้านของหนูหลังใหญ่มาก ๆ เลยค่ะ และก็อยู่กันหลายคนมากๆ ทั้งคุณพ่อ คุณเเม่ คุณยาย คุณตา คุณลุง คุณป้า แล้วก็ยังมีทวด ๆ อีกหลายท่านเลยค่ะ แต่หนูรินจำชื่อไม่ได้เลยสักคน แฮะๆ.....

รินรินจำได้แค่คุณยาย คุณยายของรินรินชื่อว่า ละเมียด และก็มีลูกสาวของคุณยายอีกคน เอิ่ม! จะว่าไปก็เป็นคุณน้าของรินรินเองนั่นแหละค่ะ ถึงจะอยู่บ้านเดียวกันแต่รินรินก็ไม่ชอบคุณน้าของรินรินมาก ๆ เลยค่ะ ทำไมนะเหรอค่ะ......รออีก 10 9 8 7 .... 3 2 1

“รินริน” เสียงตะโกนจากชั้นหนึ่งของบ้านส่งมาถึงชั้นสอง ทำให้เด็กหญิงสะดุ้งเล็กน้อย เห็นไหมคะ เพราะแบบนี้ไงหนูรินเลยไม่ชอบคุณน้าเลยสักกะนิด เด็กสาวบ่นกระปอดกระแปด

“รินริน ถ้ายังไม่ลงมาอีกนะ น้าจะขึ้นไปตามให้ลงมาเอง” น้าสาวตะโกนเตือนอีกครั้งหลังจากไม่มีเสียงตอบรับจากหลานสาว

“ค่า รินรินได้ยินแล้ว น้าวรรณไม่ต้องขึ้นมาเลยนะ หนูรินไม่โอเค” เด็กสาวตะโกนตอบ

“ถ้าไม่ชอบก็ให้รีบลงมา ถึงเวลากินข้าวเย็นแล้วทำไมไม่รู้จักหน้าที่ ต้องให้ผู้หลักผู้ใหญ่เขารอกันอีกนานแค่ไหนกัน”

“ค่า ค่า ค่า หนูรินเข้าใจแล้วค่า” เด็กสาวทำหน้ามุ่ยเดินลงมาด้วยท่าทางเอื่อยเฉื่อย “คุณยายก็ไม่เห็นจะว่าอะไรหนูรินเลย เป็นแค่คนอยู่อาศัยเหมือนกันแท้ ๆ เชอะ!” เด็กสาวบ่นงืมงำในลำคอ

“ว่าอะไรนะรินริน น้าไม่ได้ยิน” น้าวรรณหันมาถามรินรินในขณะที่กำลังตักอาหารจากเตา

“ไม่มีอะไรทั้งน้านนนนนน เลยค่ะ” เด็กสาวตอบเสียงสูง

“หึ หึ หึ มะมา ๆ กินข้าวกันเถอะ” คุณยายละเมียดตัดบทสนทนาของน้าหลาน

ตอนนี้เวลา 17.00 น. เป็นเวลาอาหารเย็นของตระกูลทัณฑ์ประดิฐ วันนี้น้าวรรณทำต้มจืดหมูสับตำลึงกับข้าวต้มอ่อนๆ ให้คุณยาย ของหนูรินรินก็เป็นไข่เจียวทรงเครื่อง หมูทอดกระเทียม กับข้าวของน้าวรรณก็จะเป็นอาหารเจมีแต่ผักๆๆๆ แล้วก็ผัก ซึ่งรินรินไม่ชอบเลยทั้งนั้น

ส่วนกับข้าวที่วางเรียงยาวอีกโต๊ะหนึ่งนั้นเป็นอาหารที่น้าวรรณเตรียมไว้ให้คุณพ่อคุณแม่ของรินริน รวมทั้งคุณตา คุณยาย คุณทวด ๆ แล้วก็ลุง ๆ ป้า ๆของรินริน พวกท่านจะไม่กินข้าวพร้อมรินรินนะคะ แล้วรินรินก็ไม่รู้ว่าพวกท่านจะลงมากินกันตอนไหน รู้แค่ว่าพอลงมาตอนเช้า กับข้าวก็หมดเกลี้ยงไม่มีเหลือติดจานเลยสักนิดค่ะ

กับข้าวส่วนใหญ่ก็เป็นของดีๆ ทั้งนั้นเลยค่ะ ทั้งหมู เห็ด เป็ดไก่ ขนม นม เนย มีหมดเลยค่ะ บางครั้งรินรินก็เดินไปด้อมๆมองๆ น้ำลายไหลย้อยเลยค่ะ แต่ก็จะถูกคุณน้าห้ามๆไม่ให้กินตลอดเลย หึ…นี่ก็เป็นอีกเหตุผลหนึ่งที่รินรินไม่ชอบคุณน้าค่ะ

แต่ทุกๆคนไม่คิดว่ามันแปลกเหรอค่ะ ข้าวปลาอาหารก็เยอะออกปานนั้นยังจะงกไม่ยอมให้รินรินกินอีก หึ คิดแล้วก็ยังน้อยใจไม่หายเลยค่ะ มีอยู่ครั้งหนึ่ง ตอนนั้นรินรินแค่ 3 ขวบ 3 ขวบเองนะคะ รินรินก็แค่หิวเลยไปหยิบปีกไก่ทอดน้ำปลามากินแค่ชินเดียวเอง คุณน้าก็ตีรินรินซะยกใหญ่ ที่สำคัญทั้งที่คุณยายก็รักรินรินออกปานนั้นยังไม่ออกมาปกป้องรินรินเลย

บอกแค่ว่าอาหารโต๊ะนั้นคนกินไม่ได้ ไม่ว่ายังไงรินรินหรือคนอื่นๆในบ้านก็กินไม่ได้ แม้แต่คุณยายก็ยังกินไม่ได้ ให้รินรินจำเอาไว้...ตอนนี้รินริน 10 ขวบแล้ว แต่รินรินก็ยังสงสัยอยู่ดีนั่นแระค่ะ ทำไมรินรินถึงกินไม่ได้ แต่ก็ได้แค่สงสัยนั่นแระค่ะ

“รินริน อันนี้อร่อยน่ะ” น้าวรรณคีบเต้าหูเจผัดขึ้นฉ่ายวางที่จานข้าวของเด็กสาว หลังจากที่เห็นเด็กสาวใจลอยมองโต๊ะอาหารอีกฝั่งเนิ่นนาน ก็รับรู้ได้ในทันทีว่ารินรินคงยังไม่ลืมเหตุการณ์ในวันนั้น ที่เด็กน้อยแอบกินปีกไก่ทอดน้ำปลาจากโต๊ะฝั่งนั้น แม้จะรู้แก่ใจว่าตนทำถูกต้องแล้ว แต่ตนเองก็ลงมือกับหลานสาวเกินไปจริง ๆ ก็ได้แต่หวังว่าสักวันหลานสาวของตนจะเข้าใจ

         “หนูไม่กิน” เด็กสาวปฏิเสธเสียงแข็งพร้อมกับตักเต้าหู้ชิ้นนั้นคืนน้าวรรณ

         “ได้ ๆ รีบกินแล้วก็รีบเข้าห้องไปนอนด้วย” น้าวรรณส่ายหน้า เอือมระอากับพฤติกรรมของหลานสาว หลังจากเหตุการณ์วันนั้นเธอและหลานสาวก็เป็นไม้เบื่อไม้เมากันมาตลอด

         “หนูอิ่มแล้ว ขึ้นห้องก่อนนะคะ” เด็กสาวลุกออกจากเก้าอี้เดินไปกอดคุณยาย หอมแก้มท่านฟอดใหญ่ “หนูขึ้นข้างบนก่อนนะคะ คุณยาย”

         “เมื่อไรจะโตก็ไม่รู้” น้าวรรณเอ่ยขึ้นหลังจากได้ยินเสียงประตูห้องของรินรินปิดลง

         “ไม่รู้ว่าได้นิสัยแบบนี้มาจากใคร” นางละเมียดส่ายหน้า กล่าวยิ้ม ๆ ให้กับลูกสาวของตน

         “ค่า ๆ เหมือนหนูอย่างกับแกะ คุณแม่จะบอกว่าแบบนี้ใช่ไหมคะ” น้าวรรณเอ่ยหยอกเย้าคุณยายวัย 96 ปี

         “ฮ่าๆๆๆ” ทั้งคู่หัวเราะลั่นเสียงดัง เสียงหัวเราะนี้ทำให้บ้านที่เงียบเหงาแลดูกระปรี้กระเปร่ามีชีวิตชีวาขึ้นอีกครั้ง

หลังจากรินรินขึ้นไปไม่นาน น้าวรรณก็ส่งคุณยายละเมียดเข้าห้องนอน ส่วนตนก็ย้อนกลับมาที่โต๊ะอาหารจุดธูป 1 ดอก แล้วปักลงแจกันบนโต๊ะอาหาร "เชิญทุกท่านทานอาหารได้เจ้าค่ะ"

         แม้ยุคสมัยจะเปลี่ยนแล้วเปลี่ยนเล่า ผู้คนในตระกูลล้วนล้มหายตายจาก แม่จะเศร้าเสียใจแต่คนที่ยังมีชีวิตอยู่ในตระกูลทัณฑ์ประดิฐยังคงยืนหยัดทำหน้าที่ของตนสืบไป....

แสดงเพิ่มเติม

รีวิว (0)

เรื่องนี้ยังไม่มีรีวิว