จอมมารตีบวก

ปฐมบทที่ 1 

“จอมมารนั้นกล่าวกันว่าคือขั้วอำนาจสูงสุดของความชั่วร้าย ในอดีตทัพจอมมารเคยก่อความโกลาหลวุ่นวายให้กับโลกใบนี้ สงครามคลืบคลานไปทุกหย่อมหญ้า การก่อสงครามกันระหว่างอาณาจักรถูกยุติลงเพราะภัยร้ายที่ใหญ่กว่าได้มาถึงแล้วแต่แม้จะผนึกกำลังกันถึง 5 อาณาจักรก็ไม่อาจเอาชนะทัพมารอันทรงพลังได้ จนกระทั่งผู้กล้าในคำทำนายของเทพธิดาได้ปรากฎตัวขึ้นและกอบกู้สถานการณ์เอาไว้จนได้ชัยชนะเหนือจอมมารผู้ชั่วร้าย แต่จะมีใครบ้างที่รู้ว่าจอมมารไม่ใช้ผู้ปกครองเพียง 1 แต่เป็นกลุ่มองค์กรที่ได้หยั่งรากลึกและแผ่ขยายอำนาจอยู่อย่างลับๆทั่วดินแดนของมนุษย์มาหลายร้อยปีแล้ว” 

กองอัศวินกำลังเดินทางอยู่ในป่าอสูรโบราณ เป็นป่าที่เต็มอันตรายจากคำสาปและสัตว์อสูรกระหายเลือด พวกเขามาพร้อมภารกิจที่จะต้องกำหราบจอมมารเพลิง นี่เป็นข้อมูลที่น่าเหลือเชื่อแต่ทว่าการมีอยู่ของจอมมารนั้นอาจจะเป็นเรื่องจริงจากเบาะแสของสถานที่ที่ไม่น่าไว้ใจนี้ กองอัศวินนั้นต้องพบกับอุปสรรคมากมายและอัศวินในคณะเดินทางนี้ก็ล้มตายจากไปที่ละคน แต่การเดินทางอันทรหดก็ได้สิ้นสุดลงเมื่อพวกเขามาถึงกระท่อมร้างกลางป่าแห่งหนึ่ง ที่หน้ากระท่อมนั้นเต็มไปด้วยเศษซากชุดเกราะและอาวุธของนักรบผู้กล้าที่ล่วงลับมากมาย 

“ที่นี่แหละ ตามที่องค์ราชาได้รับสั่งมา ณ สถานที่ที่เต็มไปด้วยเศษซากของผู้ที่กล้าหาญกลางป่าของพวกสัตว์อสูร เราจะพบกับที่ซ่อนของมัน จอมมารเพลิง อุลุกันต์” 

หัวหน้าอัศวินในชุดเกราะเต็มยศได้กล่าวขึ้นมาพลางชักดาบประจำตัวออกมา เขาสั่งให้อัศวินทุกนายตามเขามาอย่างช้า แต่ละก้าวย่างที่ค่อยๆใกล้เข้าไปยังกระท่อมทำให้ได้ยินเสียงกระทบกันของเหล็กดังออกมาเป็นจังหวะจากข้างในกระท่อมหลังนั่นดังขึ้นเรื่อยๆ หัวหน้าอัศวินยกมือส่งสัญญาณให้หยุดก่อนที่จะแอบส่องเข้าไปตามรอยรั่วของตัวกระท่อม เขามองเห็นห้องตีเหล็กที่มืดสนิท มีเพียงแสงจากกองไฟและตัวเหล็กที่ถูกตีเท่านั้นที่ส่องสว่าง สีแดงของเหล็กร้อนขยับลอยขึ้นมาก่อนที่จะมีเปลวเพลิงปรากฎขึ้น ณ ตรงนั้น ไฟได้ลุกท่วมจนเห็นเด่นชัดว่าไฟที่ได้ลุกท่วมนั้นกำลังเผาชุดเกราะเก่าๆที่ถือแท่งเหล็กร้อนอยู่ ตรงส่วนหัวนั้นไม่มีหมวกเหล็กหากแต่เป็นดวงไฟลุกโชนเป็นรูปทรงกลม เมื่อหัวหน้าอัศวินเห็นดังนั้นเขาสั่งให้อัศวินใต้บัญชาทุกนายถอยออกมาทันทีก่อนที่เปลวไฟจะพุ่งมายังทางของพวกเขาจนกำแพงหินระเบิดเป็นรูด้วยแรงดันของเปลวไฟ  

“กองอัศวิน จู่โจม” หัวหน้าอัศวินได้ออกคำสั่งก่อนที่เขาจะเป็นคนนำการต่อสู้ 

การต่อสู้ได้เกิดขึ้นเป็นเวลาเกือบวัน อัศวินค่อยๆล้มตายไปทีละคน ทีละคน จนเหลือเพียง 1 ที่รอดออกมาจากสถานที่แห่งนั้น คือหัวหน้าอัศวินผู้กุมชัยชนะเหนือจอมมาร เขานำดาบของจอมมารมาเพื่อเป็นเครื่องยืนยัน ในการต่อสู้และการเสียสละของพวกพ้อง อุลุกันต์ได้ถูกกำหราบลงแล้ว เมื่อคำนี้ถูกล่าวออกจากปากของเขาเหล่าขุนนางต่างแซ่ซ้องยินดีกับวีรกรรมที่เขาได้ทำในครั้งนี้ และได้รับการแต่งตั้งให้เป็นอัศวินผู้พิชิตเพลิงผลาญสรรพสิ่ง