จิวโมไป๋ ชายอายุเกือบ 100 ปี เขาเป็นผู้บ่มเพาะพลังระดับปราณปฐพี และ เป็นผู้บ่มเพาะจิตวิญาณระดับปรมาจารย์ทองดำ ได้ย้อนเวลากลับมาก่อนที่จะเกิดโศกนาฏกรรม ที่ทำให้ครอบครัวของเขาต้องพังพินาศ...

...

วันที่ 1 มกราคม ปี 2056 โลกได้เกิดปรากฏความมืดกลืนกินแสงสว่างเป็นเวลา 1 เดือน หลังจากนั้น มนุษย์ที่มีอายุมากกว่า 15 ปี ต่างก็ปรากฏ'ตำหนักยุทธ'ขึ้นภายในจิตใจ มันช่วยให้มนุษย์ทุกคนสามารถบ่มเพาะพลัง ฝึกลมปราณ เหมือนในนิยาย

นอกจากนั้นพลังงานธรรมชาติของโลกได้เพิ่มขึ้นทุกๆวัน ทำให้ พืช สัตว์ แร่ ธรรมชาติ เกิดการ วิวัฒนาการณ์ อย่างรวดเร็ว

คนทั้งโลกต่างลงความเห็นให้เปลี่ยนคำเรียกยุคสมัยใหม่ เป็น 'ยุครุ่งอรุณ' เพราะโลกได้ก้าวผ่านยุคของมนุษย์สามัญอันแสนอ่อนแอ เข้าสู่ยุคแห่งความรุ่งโรจน์ของมวลมนุษย์ เป็นยุคสมัยแห่งความแข็งแกร่งของมนุษย์...

... 

เขียน 1 ความคิดเห็นเท่ากับ 1 กำลังใจ 

ขอบคุณที่ติดตามนะครับ ^ ^ 

... 

สำหรับคนที่สงสัยว่า ตำหนักยุทธพึ่งเกิดขึ้นไม่ถึง 10 ปี ทำไมมีผู้บ่มเพาะพลัง ขั้น 7-8 แล้ว

ต้องเข้าใจก่อนว่า ก่อนที่จะมีตำหนักยุทธ ก็มีผู้บ่มเพาะพลังอยู่แล้ว พวกเขาบ่มเพาะและสืบทอดเคล็ดการบ่มเพาะพลัง มาตั้งแต่หลายพันปีก่อน แต่การบ่มเพาะจะแตกต่างกันไป ตามความรู้ความเข้าใจ เช่นประเทศมังกรจะบ่มเพาะลมปราณภายใน และบ่มเพาะร่างกาย และคนของทวีปตะวันตกจะบ่มเพาะเวทย์มนต์ และบ่มเพาะอัศวิน

แต่ในช่วงเลาก่อนยุครุ่งอรุณ พลังธรรมชาติของโลกอ่อนแอมาก ทำให้การบ่มเพาะนั้นยากมาก การจะบ่มเพาะแต่ละขั้นต้องใช้เวลานาน กว่าจะทะลวงผ่านขั้นพลังไปได้ และการบ่มเพาะพลังมีความเสี่ยงหลายอย่างเช่น พลังแตกซ่านจนพิการหรือเสียชีวิต

เมื่อถึงยุครุ่งอรุณที่พลังธรรมชาติค่อยๆเพิ่มขึ้น และมีตำหนักยุทธที่สามารถช่วยในการบ่มเพาะพลังได้ง่ายขึ้น และความเสี่ยงในการบ่มเพาะน้อยลง

สำหรับคนที่บ่มเพาะพลังมาก่อนยุครุ่งอรุณ พวกเขามีระดับพลังการบ่มเพาะพลังที่สะสมที่สูงมากอยู่แล้ว แตกต่างจากคนที่เริ่มต้นใหม่ที่ไม่มีพื้นฐานอะไรเลย มันไม่ยากที่พวกเขาจะเลื่อนระดับขั้นพลัง ได้เร็วกว่าคนพึ่งเริ่มบ่มเพาะพลัง

เปรียบเทียบกับการเรียนหนังสือจากโรงเรียนที่ยากมากกว่าจะทำได้ซักข้อหนึ่ง แต่เมื่อไปเรียนพิเศษมันมีสูตรการทำที่ง่ายกว่า แค่ทำไม่กี่ขั้นตอนก็ได้ตำตอบ

แต่ถ้าคนที่เรียนจากโรงเรียนจนชำนาญแล้ว พอไปเรียนพิเศษ เขามีความรู้อยู่แล้ว พอได้สูตรที่ง่ายขึ้น เขาก็สามารถปรับตัว ทำความเข้าใจได้มากกว่า เด็กที่เรียนที่โรงเรียนไม่เข้าใจ แต่มาเรียนที่โรงเรียนพิเศษ

ประวัติ 

ชื่อ : จิวโมไป๋ 

อายุ : 18 ปี (95ปี)

กรุ๊ปเลือด : O

การศึกษา : นักศึกษาปี 1 มหาวิทยาลัยเทียนซู คณะเทคโนโลยี สาขาเทคโนโลยีโลกเสมือน

อาชีพ : นักศึกษา

อาชีพรอง : นักปรุงยา 1 ดาว

ครอบครัว : จิวโมเทียน(พ่อ) ฮันหวูเหยา(แม่) จิวเสวี่ยเหม่ย(น้องสาว อายุ 14 ปี)

เพื่อนสนิท : หวังเสี่ยวเปา(พี่ใหญ่) เฉินหู(พี่รอง) อูเหวิน(พี่สาม)

คนรัก : แทบไร้ความหวัง *เพราะประสบการณ์ในอดีต ทำให้ไม่คิดที่จะสร้างครอบครัว

ลักษนะนิสัย : เย็นชากับศัตรู เฉยชากับคนอื่น อบอุ่นอ่อนโยนกับครอบครัวและมิตรหาย...

 

ระดับการบ่มเพาะ 

บ่มเพาะพลัง (ตำหนักยุทธ) 

ระดับสร้างฐานมี 9 ขั้น 

ขั้นที่ 1 ผิวหนัง

ขั้นที่ 2 กล้ามเนื้อ

ขั้นที่ 3 เส้นเอ็น

ขั้นที่ 4 อวัยวะภายใน

ขั้นที่ 5 กระดูก

ขั้นที่ 6 โลหิต

ขั้นที่ 7 ไขกระดูก

ขั้นที่ 8 ชีพจร

ขั้นที่ 9 หลอมปราณ

แต่ล่ะขั้นแบ่งย่อยอีก 3 ขั้น ต่ำ กลาง สูง รวมเป็นระดับสร้างฐาน 27 ขั้น

ระดับก่อกำเนิด 

ระดับปฐพี 

ระดับนภา 

บ่มเพราะจิตวิญญาณ (ปรมาจารย์) นักอาคม นักปรุงยา นักจารึก ช่างตีเหล็ก จิตกร ประติมากร...

มี 6 ระดับ แต่ละระดับมี 3 ขั้น

ทองแดงต้น ทองแดง ทองแดงปนเงิน

เงินต้น เงิน เงินปนทอง

ทองต้น ทอง ทองปนทองดำ

ทองดำต้น ทองดำ ทองดำปนม่วง

ม่วงต้น ม่วง ม่วงปนดำ

ราชา จักรพรรดิ เทวะ

....

ระดับในการใช้เคล็ดวิชา มี 6 ระดับ ความสำเร็จขนาดเล็ก เชี่ยวชาญ เข้าใจ ตระหนักรู้ เจตจำนง ความสำเร็จอันยิ่งใหญ่

...

ขออธิบายเกี่ยวกับพลังต่อสู้ไว้ตรงนี้นะครับ ระดับสร้างฐานขั้นที่ 1-7 จะยังไม่สามารถดึงพลังปราณออกมาใช้ได้ แต่จะสร้างความแข็งแกร่งของร่างกายตามระดับขั้น 1-7

เมื่อต่อสู้จะปรากฏพลังในรูปแบบรังสีกดดัน ยังไม่ใช่ลมปราณ

(ส่วนพลังจิตวิญญาณสามารถใช้ออกมาได้ตั้งแต่เริ่ม)

เมื่อถึงขั้นที่ 8 ชีพจร พอทะลวงชีพจรแล้วจะเริ่มเห็นรอยสักตรงบนหน้าผาก นั้นแสดงให้เห็นว่าสามารถเริ่มใช้ลมปราณได้แล้ว

แสดงเพิ่มเติม

รีวิว (0)

เรื่องนี้ยังไม่มีรีวิว