ตราประทับคำสาปสวรรค์
48
ตอน
4.62K
เข้าชม
67
ถูกใจ
10
ความคิดเห็น
25
เพิ่มลงคลัง

ความเจิดจ้าของแสงศักดิ์สิทธิ์อันบาดตา ทำให้ผู้ที่ได้พบเห็นล้วนต้องเบือนหน้าหนี หรือหาสิ่งใดมาปกป้องดวงตาเป็นพัลวัน หากแม้หลับตาก็ยังสัมผัสได้ถึงรัศมีอันศักดิ์สิทธิ์ที่แทรกซึมเข้ามาตามร่างกาย ไม่เว้นแม้แต่ผู้ใดที่ได้สัมผัสล้วนต้องสั่นสะท้านด้วยความหวาดหวั่น

 

ภายใต้รัศมีแห่งทวยเทพอันเจิดจ้านี้ปรากฏร่างเงาของคนผู้หนึ่ง ร่างอันสูงส่งล่องลอยเปล่งประกายไปด้วยพลังอำนาจที่เปล่งรัศมีออกมาจากทั่วร่าง ภายใต้ดวงหน้าอันทรงเสน่ห์ของบุตรเพศ ผมสีทองยาวประบ่าปลิวไสวตามระลอกรัศมีแห่งเทพที่ไหลทะลักออกมาจากทั่วร่าง ราวกับสาหร่ายที่พลิวไหวไปตามคลื่นลมในทะเล ด้านหลังของชายหนุ่มมีปีกสีขาวบริสุทธิ์สามคู่ที่ส่องประกายเปล่งปลั่งราวกับกำลังแสดงถึงพลังอำนาจแห่งทวยเทพที่อยู่ในระดับสูงที่สุด

 

ปีกทั้งสามคู่เปรียบได้ดั่งตราอันศักดิ์สิทธิ์ ที่เป็นเครื่องแสดงถึงสายเลือดอันเก่าแก่และบริสุทธิ์ที่สุดในบรรดาทวยเทพทุกตระกูล ซึ่งคงไว้แต่สายเลือดแห่งราชวงศ์เท่านั้นจึงจะมีได้ สายตาที่แหลมคมทอประกายดุดันและกำลังส่งสายตาไปยังร่างที่ประหลาดพิกลร่างหนึ่ง เบื้องหน้าของชายหนุ่มมีเทพธิดานางหนึ่งที่กำลังสั่นสะท้านด้วยความหวาดกลัว ทั่งทั้งร่างปรากฏบาดแผลและร่องของการต่อสู้ เพียงแค่ปรายตามองก็รับรู้ได้ว่า เทพธิดาผู้นี้ได้รับบาดเจ็บจากการต่อสู้เมื่อไม่นานมานี้ คลื่นรัศมีพลังของนางสั่นไหวไม่มั่นคงที่มุมปากปรากฏรอยเลือดที่แห้งแล้วสายหนึ่ง

 

แต่จะกล่าวว่านางเป็นเทพธิดาก็อาจจะกล่าวได้ไม่เต็มปากนัก แม้ลักษณะส่วนใหญ่และรัศมีพลังของนางจะเป็นพลังแห่งทวยเทพอันศักดิ์สิทธิ์ แต่กับปรากฏลักษณะเฉพาะแห่งมารอสูรด้วยเช่นกัน เหนือศีรษะของนางมีเขาคล้ายแพะ หูแหลมเยี่ยงภูติพราย ปีกของนางเป็นสีขาวทองเช่นเดียวกับของชายหนุ่ม เพียงแต่ปีกของนางมีเพียงสองคู่เท่านั้น และนางยังมีหางที่มีเกล็ดเช่นมังกรหริอสัตว์เลื้อยคลาย

 

ลักษณะทั้งหมดนี้แสดงให้เห็นว่านางมีสายเลือดแห่งทวยเทพ และอีกครึ่งหนึ่งของนางยังมีสายเลือดแห่งอสูรด้วยเช่นกัน แม้จะมีรูปร่างที่ประหลาดแต่ความงดงามและสะคราญโฉม ทรวดทรงเต่งตึงได้รูปร่างผิวกายล้วนหมดจดงดงามมีน้ำมีนวลนับได้ว่าเป็นโฉมงามอันดับต้นๆของแดนเทพก็ว่าได้ แต่ทว่านางคือลูกครึ่งผสมของเทพและอสูร เป็นความด่างพร้อยของแดนสวรรค์ เรื่องอื้อฉาวของการกำเนิดของนางเป็นเรื่องที่ลือกระฉ่อนไปทั่วแดนสวรรค์

 

แม้กระทั่งพิภพมารและพิภพอสูรต่างก็รับรู้และถูกนำไปนินทากันอย่างสนุกปาก การถือกำเนิดที่ฝืนลิขิตแห่งสวรรค์ เทพธิดาผู้ถือครองสายเลือดเทวะและมารอสูร ที่ไม่เคยมีมาก่อนในประวัติศาสตร์อันยาวนานนับล้านๆปี การที่เรื่องอัปยศเช่นนี้กำลังจะเกิดขึ้นกับสายเลือดบริสุทธิ์แห่งทวยเทพ มีหรือที่เหล่าเทพต่างๆจะนิ่งดูดาย นางจึงถูกเหล่าเทพตามไล่ล่าสังหาร แม้แต่เทพมารและอสูรบางตระกูลยังเข้าร่วมกับการไล่ล่านี้

 

เหตุเพียงเพราะองค์ชายรองแห่งพิภพเทพ ตกหลุมรักเทพธิดาครึ่งอสูรผู้อื้อฉาวนี้ และชายหนุ่มตรงหน้าของนางนี้ก็คือองค์ชายรัชทายาทแห่งแดนเทวะ พี่ชายของคนรักของนางที่กำลังมาตามล่านางนั่นเอง

 

"นังแพศยา!!! เราให้โอกาสเจ้าได้ลงมือปลิดชีวิตของเจ้าด้วยตนเอง เหตุใดเจ้ากลับกล้าปฏิเสธความเมตตาของเรา ฉวยโอกาสหลบหนีออกจากแดนเทพไม่พอ ยังกล้าหนีจนมาสุดเขตแดนสวรรค์ ช่างประเสริฐนักเช่นนั้นเราจะกรุณา สังหารเจ้าด้วยมือขอเราเอง!!!"

 

โองการอันเต็มไปด้วยความรังเกียจและความพยาบาทตะวาดกร้าวออกมาราวกับเสียงพิโรจแห่งสวรรค์ น้ำเสียงที่เต็มไปด้วยโทสะนี้ช่างขัดแย้งกับรูปลักษณ์อันสูงส่งเสียเหลือเกิน

 

"ข้า.. ข้าแค่ต้องการมีชีวิตอย่างสงบ มิได้ต้องการสร้างความเดือดร้อนให้แก่ผู้ใด ทั้งท่านและเหล่าเทพมารทั้งหลายมิต้องการให้ข้าและองค์ชายรองสมหวังในรัก พวกเราก็ยอมตัดขาดจากกันแล้ว เหตุใดพวกท่านจึงต้องตามราวีไล่สังหารข้าอีก? ตั้งแต่เกิดจนโตข้าล้วนไม่เคยสร้างความเดือดร้อนให้แก่ผู้ใด กลับเป็นพวกท่านที่ตามไล่ล่าครอบครัวของข้า สังหารทั้งพ่อและแม่ของข้า จนถึงวันนี้พวกท่านยังต้องการชีวิตของข้า ข้าขอถามท่านสักหน่อยเถิด...ข้าทำอันใดให้พวกท่านกัน!!!!!"

 

แม้น้ำเสียงจะสั่นเครือเต็มไปด้วยความสังเวชในชะตาชีวิตของตน และความเจ็บปวดจากพิษบาดแผลทั่วทั้งร่าง แต่ก็ยังเปี่ยมไปด้วยความไพเราะราวกับเสียงร้องของวิหคสวรรค์ แต่มิทันไรเสียงขององค์รัชทายาทก็ตะวาดลงมาอีกครา

 

"คนที่เดือดร้อนเพราะเจ้า.. ก็คือพ่อของแม่ของเจ้านั่นอย่างไรเล่า เป็นเพราะเจ้าถือกำเนิดขึ้นมาพวกมันจึงต้องร่วงหล่นแตกดับ และเป็นเพราะเจ้าอีกเช่นกันที่ทำให้ตระกูลของข้าต้องแปดเปื้อน!! นางมารชั้นต่ำเช่นเจ้าไม่สมควรจะถือกำเนิดขึ้นมาเสียด้วยซ้ำ!! แต่ข้าจะเมตตาส่งเจ้าไปหาพ่อและแม่ของเจ้าในภพหน้าเอง ข้าจะยอมลดตัวลงมาช่วยยุติเรื่องอัปยศทั้งหมดลงในวันนี้!!!!"

 

สิ้นคำชายหนุ่มประสานมือตรงหน้าอก ตรงกลางพลันเกิดกลุ่มมวลแสงที่ชายหนุ่มปล่อยออกมา ก่อนที่พวกมันจะถูกบีบอัดรวมกันจนหนาแน่นขึ้นกลายเป็น ศรสวรรค์สีทองงดงามวิจิตรเปล่งแสงเจิดจ้าดอกหนึ่ง ศรดอกนี้เมื่อเริ่มมีขนาดเท่าลูกศรธรรมดาแต่เมื่อร่ายจบกลับมีขนาดใหญ่เท่าลูกศรรถศึก และมีลวดลายอักขระแห่งแดนเทพกำกับไว้เบ็ดเสร็จตลอดทั้งอัน ก่อนชายหนุ่มจะสะบัดแขนส่งลูกธนูสีทองอร่ามพุ่งเข้าใส่ร่างหญิงสาวตรงหน้า นางเตรียมใจที่จะได้รับบาดเจ็บจาก "ศรสวรรค์ล่าสังหาร" นี้หากไม่ได้ลิ้มรสเลือดของศัตรูลูกศรจะไม่มีวันรามือ

 

การใช้วิชานี้เท่ากับต้องการสังหารศัตรูเท่านั้น หรือหากนางเคราะห์ดีหลบจุดตายได้ก็ไม่ต่างอะไรกับตายไปแล้วครึ่งหนึ่ง เกิดเสียงผันผวนของมิติเบื้องหน้าของเทพธิดาเทวะอสูร ศรสังหารสวรรค์ปะทะเข้ากับข่ายพลังอันแข็งแกร่ง ของผู้มีระดับพลังใกล้เคียงกับองค์รัชทายาทแห่งแดนเทพ ชายหนุ่มตะวาดเสียงราวกับอัสนีพิโพธออกมาอีกครา

 

"เป็นผู้ใดกล้าสอดมือ เหตุใดไม่ปรากฏตัวของเจ้าออกมา!!!"

 

สิ้นเสียงชายหนุ่ม ของเหลวแสงสีทองสายหนึ่งพุ่งปะทะหักล้างพลังของศรสวรรค์สังหาร ทำให้พลังทั้งสองสายสลายไปจนหมด พร้อมร่างๆหนึ่งทะยานเข้ามาขวางเบื้องหน้าของเทพธิดาเทวะอสูรเอาไว้ ผู้มาใหม่มีลักษณะคล้ายคลึงกับองค์รัชทายาทเป็นอย่างมากแต่กลับมีรัศมีที่เป็นมิตรและอบอุ่น ร่างของคนที่มาใหม่พลันทรุดตัวทิ้งเข่าลงข้างหนึ่งอย่างนอบน้อม แต่ยังคงไว้ซึ่งความองอาจเปล่งเสียงห้าวหาญเยี่ยงวีรบุรุษพึงมีแต่น้ำเสียงกลับมิได้แข็งกระด้างโผงผาง กลับนุ่มนวลไพเราะอย่างมีเสน่ห์

 

"ข้าแต่เสด็จพี่...โปรดเมตตาไว้ชีวิต นางด้วย!!"

 

ชายหนุ่มก้มคำนับต่อชายหนุ่มเบื้องหน้าด้วยความเคารพ การมาของชายหนุ่มทำให้คลื่นพลังขององค์รัชทายาทยิ่งสั่นไหวทวีความรุนแรงไปด้วยแรงโทสะ แต่ขณะเดียวกันก็ทำให้คลื่นพลังของหญิงสาวสงบขึ้นพร้อมกับที่หญิงสาวส่งสายตาอันโหยหาและเศร้าสร้อยออกมาวูบหนึ่ง

 

"ประเสริฐ!! ประเสริฐมาก!!! ฮ่าๆๆเจ้ากล้าหลบหนีออกมาจากวิหารผนึกเทพ หลุดรอดจากผนึกข่ายกักเทวะเก้าชั้นฟ้าของท่านพ่อกับข้า นี่เจ้ายังเห็นคำพูดของข้ากับท่านพ่ออยู่ในสายตาอยู่อีกงั้นรึ!!!" ชายหนุ่มรู้ดีว่าตนไม่อาจขัดคำสั่ง ทั้งยังไม่อาจจะต่อต้านพี่ชายถึงแม้พลังของตนจะก้าวล้ำพี่และพ่อของตนไปสู่คนละขั้นแล้ว ก็ไม่อาจแสดงความอกตัญญู จึงได้แต่ร้องขอความเมตตาจากพี่ชายบังเกิดเกล้า

 

คลื่นพลังขององค์รัชทายาทยิ่งทวีความปั่นป่วนรุนแรง การที่น้องชายฝ่าฝืนคำสั่งกักบริเวณนั้นกลับหาใช่เรื่องธรรมดา หากแต่สามารถฝืนทะลายข่ายกักเทวะที่ตนและบิดาร่วมผนึกพลังกันสร้างขึ้นนั้นย่อมเป็นไปไม่ได้ แต่ไหนแต่ไรมาเหล่าพี่น้องของตนล้วนเป็นคนเชื่อฟังคำสั่ง หากมาวันนี้กลับกล้าขัดขืดคำสั่ง และถ้าหากน้องชายผู้นี้สามารถก้าวข้ามขีดจำกัดของตนและพ่อไปได้ หากท่านพ่อรู้นั่นย่อมอาจจะส่งผลถึงตำแหน่งรัชทายาทอย่างแน่นอน

 

"เพราะนังแพศยานี่ทำให้เจ้ากล้าขัดคำสั่งข้า ขัดคำสั่งท่านพ่อ ยอมสละใช้เลือดอันบริสุทธิ์ทำลายศรสวรรค์ล่าสังหารของข้า เจ้าเปลี่ยนไปถึงเพียงนี้ เจ้ายังจะออกหน้าปกป้องมันอีกรึ ดี!!! ดีจริงๆ เมื่อวันนี้เจ้ามีความอุตสาหะทะลายข่ายพลังทั้งยังดั้นด้นตามมาไกลถึงเพียงนี้ งั้นวันนี้ข้าจะลงทัณฑ์มันต่อหน้าของเจ้าให้เอง"

 

สิ้นคำองค์รัชทายาทก็ระเบิดกระแสพลังออกรอบด้าน เกิดข่ายพลังทรงกลมครอบคลุมทั่วร่าง อักขระสีทองกระพริบวูบวาบ เห็นดังนั้นองค์ชายรองจินหลงก็หมุนตัวกลับหลังพร้อมกับรวบหญิงสาวมาไว้ในอ้อมแขน ก่อนจะระเบิดพลังสร้างข่ายพลังเช่นเดียวกันออกมา อักขระที่กระพริบแสงสีทองสั่นไหววูบวาบก่อนจะแปรเปลี่ยนเป็นลูกศรสวรรค์นับร้อยนับพันดอกหมุนวนกันจนเกิดเป็นข่ายพลังขนาดใหญ่

 

เมื่อองค์รัชทายาทลืมตา วิถีข่ายลูกศรสสรรค์ก็ขยายอาณาเขตครอบคลุมเข้าหา ทั้งองค์ชายรองและธิดามารอสูร ไม่นานข่ายพลังขององค์ชายรองก็สมบูรณ์วิชาเฉกเช่นเดียวกันถูกใช้เพื่อหักล้างพลังของอีกฝ่ายมิใช่เพื่อเอาชัยชนะ เมื่อ "ข่ายเทพพิรุณพิชิตฟ้า" ถูกใช้จะไม่สามารถหยุดได้ศรสวรรค์นับพันจะรุมสับสังหารศัตรูจนกว่าจะตกตายจนหมดสิ้น ราวกับหยาดฝนจากสรวงสวรรค์ที่กำลังชะล้างสิ่งชั่วร้ายให้หมดไป

 

โดยปกติวิชานี้จะใช้รับมือกับศัตรูจำนวนมาก แต่เมื่อถูกใช้ในการต่อสู้ตัวต่อตัวนั้นนับว่าเป็นวิชาที่อำมหิตยิ่งนัก เหงื่อกาฬของจินหลงไหลออกมาไม่หยุดหย่อนยิ่งนานยิ่งมาก ขณะตั้งสมาธิควบคุมข่ายพลังรับมือกับข่ายพลังของพี่ชายของตน ยังแบ่งสมาธิมาเพื่อสั่งให้หญิงสาวหาโอกาสหลบหนีไป หญิงสาวสีหน้าไม่สู้ดีนักด้วยเกรงว่าตนได้ก่อเรื่องขึ้นให้แก่อีกฝ่าย

 

ธิดามารหลั่งน้ำตาออกมาและโผเข้ากอดชายหนุ่มจากเบื้องหลังเป็นการจากลาครั้งสุดท้าย ขณะกำลังจะผละกายจากไปนั้น มิติเบื้องหลังผลันถูกฉีกกระชากพร้อมกับที่ศรสวรรค์สังหารดอกหนึ่งก็พุ่งเข้าหาร่างของหญิงสาวด้วยความเร็วสูงสุด แต่มีหรือที่ศรดอกนี้จะหลุดรอดสัมผัสของจินหลงไปได้ เมื่อไม่สามารถหยุดข่ายพลังได้จึงได้แต่ใช้ร่างกายรับลูกศรดอกนี้แทนอีกฝ่าย

 

"ไม่นะ..ไม่!!!เหตุใดท่านต้องทำเช่นนี้"

 

ท่ามกลางความตกตะลึงของหญิงสาว เลือดสีทองค่อยไหลออกมาจากแผลที่ศรสวรรค์ปักฝังอยู่บนร่างของชายหนุ่ม ชายหนุ่มต้องสะกดกลั้นความเจ็บปวดอย่างมาก

 

"ไป!!! เจ้ารีบหนีไปเร็วเข้า!!!!"

 

เมื่อฝืนพูดจบก็พ่นโลหิตออกมา โลหิตสีทองพุ่งเป็นฝอยออกจากปากเมื่อหญิงสาวได้เห็นนี้ น้ำตาก็ไหลออกมาไม่หลุดทั้งยังกระอักเลือดออกมาเช่นกัน ความโกรธแค้นเจ็บปวดทำให้คลื่นพลังของนางปั่นป่วนจนตีกลับ กลับกันหญิงสาวล้มเลิกความคิดจะหนีทิ้งเข่าลง

 

"องค์รัชทายาทโปรดเมตตาองค์ชายรองด้วย หากท่านสัญญาจะไว้ชีวิตเค้า ข้า โยวหมิงชิงเยว่ จะมอบชีวิตให้แก่ท่านหากท่านให้ข้าปลิดชีพตัวเองข้าก็จักยินดีโดยไม่มีข้อแม้ องค์รัชทายาทโปรดเมตตาด้วย"

 

สิ้นคำพูดของหญิงสาว ชายหนุ่มก็หันมามองอย่างตกตะลึง

 

"ทำไมเจ้า..ไม่หนีไป รีบไปสิ เยว่เอ๋อสิ่งที่ข้าจะทำให้เจ้าได้มีเพียงเท่านี้ รีบไปเร็วเข้า"

 

หญิงสาวยังคงคุกเข่าหลั่งน้ำตาไม่หยุด ทันใดนั้นองค์รัชทายาทกลับเปล่งเสียงหัวเราะออกมา

 

"ฮ่าๆๆ ประเสริฐ!! ประเสริฐจริงๆ ฮ่าๆๆ น้องชายข้ายอมสละชีวิตร้องขอความเมตตาแทนนังมารแพศยา ส่วนนังแพศยาก็ร้องขอความเมตตาแทนน้องชายของข้า ฮ่าๆๆ ดี!!! เมื่อเจ้าพูดออกมาเองก็จงลงมือเสียข้าให้สัญญาหากเจ้าลงมือสังหารตนเอง ข้าจะช่วยทูลต่อเสด็จพ่อให้ไว้ชีวิตมัน.. ลงมือเสีย!!"

 

หญิงสาวสูดหายใจเข้าหันไปหาชายหนุ่ม

 

"ข้าขอโทษ.. ชาติภพนี้ข้าเกิดมาอาภัพเป็นกาลกิณี ข้าทำให้พ่อแม่ต้องตาย ทำให้คนที่ข้ารักต้องเดือดร้อน หากชาติภพหน้ามีจริงข้าจะขอชดใช้แก่ท่านในชาติภพหน้า ตอบแทนความรักที่ท่านมีให้แก่ตัวตนเช่นข้า จากนี้ขอให้ท่านจงลืมข้าไปเสียและได้โปรดมีชีวิตอยู่ต่อไปเพื่อข้า..เพื่อความรักที่เคยมีของเรา.. ในชาติภพนี้ยังมีเทพธิดาที่ดีที่เหมาะสมกับท่านอยู่อีกมากนัก ที่จะสามารถใช้ชีวิตร่วมกับท่านอย่างเป็นสุขได้.. ลาก่อนจินหลง"

 

ฝ่ามือของหญิงสาวเปล่งแสงเจิดจ้าก่อนที่จะเคลื่อนเข้าหาบริเวณตำแหน่งของหัวใจ ชายหนุ้มฝืนเคลื่อนย้ายร่างด้วยความเร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้เข้าหาหญิงสาว แต่มาได้อีกเพียงครึ่งก้าวจะถึงตัวหญิงสาวเพื่อขัดขวางก็ถูกขุมพลังบางอย่างสกัดไว้ ฝ่ามือที่เปล่งแสงฟาดลงตรงตำแหน่งของหัวใจอย่างแม่นมั่นรุนแรง เกิดรูขนาดใหญ่กลางหน้าอกโลหิตทะลักออกจากปากและบาดแผลของหญิงสาวราวกับบ่อน้ำพุโลหิต

 

ท่ามกลางเสียงหัวเราะขององค์ทายาท เมื่อจินหลงขยับร่างได้อีกครั้งเร่งเข้าไปประคองร่างของหญิงสาวเป็นครั้งสุดท้ายด้วยหัวใจที่แตกสลาย ชายหนุ่มที่อดกลั้นมาตลอดกลับมีรอยน้ำตาสีทองไหลออกมา เปล่งเสียงด้วยความสั่นเครือสองมือประคองร่างอย่างถนุถนอมราวกับกลัวว่าร่างของหญิงสาวจะแตกสลายไปได้ทุกเมื่อ

 

"ทำไม.. เหตุใดเจ้าต้องทำเช่นนี้ ทำไม..เยว่เอ๋อ"

 

หญิงสาวไม่ตอบกลับส่งยิ้มออกมาเป็นครั้งสุดท้ายอย่างแผ่วเบา ในช่วงสุดท้ายของชีวิตหากนางได้สิ้นลมในอ้อมกอดของคนที่นางรัก ก็ถือว่าชาตินี้ของนางไม่ต้องการอะไรอีก เท่านี้นางก็สามารถจากไปอย่างเป็นสุขได้แล้ว หากใครได้พบเห็นภาพตรงหน้าคงเป็นภาพที่น่าเวทนายิ่งนัก

 

เสียงหัวเราะขององค์รัชทายาทแปรเปลี่ยนไปเมื่อสังเกตเห็นการกระทำของน้องชายผู้นี้

 

"น้องรองนี่เจ้า กำลังทำอะไร!!!!"

 

ผู้ที่ถูกกล่าวไม่สนใจต่อเสียงของพี่ชาย กลับยังคงเร่งพลังเกิดอักขระสีแดงที่หว่างคิ้วของหญิงและของตน

 

"นี่มันวิชาต้องห้ามของแดนเทพ ผูกจิตสลักวิญญาณ นี่เจ้าต้องการจะทำอะไร เจ้าคิดจริงๆหรือว่าในชาติภพหน้าจะได้เกิดมาคู่กันกับนางแพศยานี่อีก นี่เจ้ารักมันมากถึงเพียงนี้เชียวรึ!!!"

 

ชายหนุ่มไม่ตอบคำ และใช้ออกด้วยวิชาลับต้องห้ามบทที่สองทันที องค์รัชทายาทเห็นน้องชายยังคงใช้พลังร่ายข่ายพลังที่ตนไม่รู้จักก็หน้าเปลี่ยนสี คิดว่าน้องชายพยายามใช้วิชาต่างๆเพื่อรักษานางมาร เมื่อชายหนุ่มลืมตาครั้งดวงตาก็เปล่งประกายสีทองเจิดจ้า

 

"ในชาติภพนี้ข้าไร้ซึ่งอำนาจที่จะปกป้องคนที่ข้ารัก แม้ได้เกิดมาในตระกูลเทพอันสูงส่ง แต่การกระทำกลับไร้ความเมตตาปราณีไม่ต่างอะไรจากมารร้าย ข้าจะขอให้พวกท่านชดใช้ให้แก่ข้าและนางในชาติภพหน้า ข้าจะต้องตอบแทนและชดใช้ให้แก่นางที่ข้าไม่สามารถปกป้องนางได้ในวันนี้"

 

สิ้นคำชายหนุ่มก็ลงมือเช่นเดียวกับหญิงสาว โลหิตแห่งเทพทะลักออกทั่วร่าง มองร่างหญิงสาวผู้ที่รักเป็นครั้งสุดท้าย ท่ามกลางสายตาอันตกตะลึงขององค์รัชทายาท

 

"จินหลง!!!!! นี่เจ้า... เจ้ากล้าอกตัญญูต่อสายเลือดของเรา!!!! ใครสั่งให้เจ้าตายกัน หากข้า ก่วงหมิงเทียนคง ยังอยู่..อย่าหวังว่าพวกเจ้าจะได้สมหวัง ข้าจะไม่มีวันให้พวกเจ้าได้สมหวัง!!!"

 

สิ้นคำองค์รัชทายาทก็ใช้ออกด้วยวิชาต้องห้ามเช่นกัน ท้องฟ้าพลันแปรเปลี่ยนเลือนลั่น วิชาต้องห้ามสามบทถูกใช้ออกในเวลาไล่เลี่ยกัน ฟ้าดินย่อมต่อต้าน องค์ชายรองใช้ "ผูกจิตสลักวิญญาณ" และ "สละร่างจุติ" ก็ทำให้ฟ้าดินพิโรจมากแล้ว หากแต่ว่าองค์รัชทายาทกลับยังใช้ออกในวิชาที่สาม ทั้งยังเป็นวิชาที่ยากจะคาดเดาผลลับที่ฝืนลิขิตชะตาของกฏแห่งธรรมชาติ

 

ว่ากันว่าสามารถกลับกลางวันเป็นกลางคืน เปลี่ยนมหาสมุทรให้กลายเป็นทะเลเพลิงได้ พลิกฟ้าคว่ำดินแม้แต่สวรรค์ยังหวาดกลัวต่อวิชาต้องห้ามนี้ ขณะที่ดวงจิตของทั้งสองกำลังหลุดลอยออกจากร่าง ดวงหนึ่งสีชมพูพิสุทธิ์อีกดวงหนึ่งสีทองเปล่งปลั่ง คำสาปแห่งสวรรค์ขององค์รัชทายาทก็เสร็จสมบูรณ์ดวงตาขององค์รัชทายาททอประกายกร้าวเป็นสีแดงก่ำ คำสาปนี้กลืนกินพลังชีวิตมหาศาลทั้งยังกัดกินจิตวิญญาณผู้ใช้เป็นเครื่องสังเวย

 

เพราะคำสาปนี้สามารถส่งผลกระทบได้ลึกถึงแก่นวิญญาณ ช่างเป็นผู้ที่จิตใจโหดเหี้ยมอำมหิตยิ่งนักแม้แต่สิ้นชีพไปแล้วยังไม่ละเว้น ชื่อของมันคือ "ตราประทับทัณฑ์สวรรค์" มันเป็นคำสาปที่จะสลักฝังลงไปยังจิตวิญญาณแต่ไม่ใครรู้ว่าจะสร้างความเสียหายหรือผลลัพธ์เช่นใด ขณะที่ตราประทับพุ่งเข้าหาดวงจิตทั้งสอง ก่อนที่ดวงจิตทั้งสองและตราประทับทั้งหมดจะสลายไปกับอากาศ

แสดงเพิ่มเติม

รีวิว (0)

เรื่องนี้ยังไม่มีรีวิว