รัก... ห้ามไม่ได้
13
ตอน
2.01K
เข้าชม
22
ถูกใจ
0
ความคิดเห็น
0
เพิ่มลงคลัง

Namcha’s part 

เรื่องของฉันมันเริ่มต้นจาก.... 

“เจ้เม... ศุกร์นี้ว่างป่าว” 

“มีไรหรอ” 

“เซ็งๆอะ อยากกินเบียร์” 

“อืมมม เอาสิ แต่เจ้ขอชวนเพื่อนไปด้วยนะ” 

“ได้ค่ะ” 

               ฉันชื่อน้ำชาค่ะ อายุ 27 ย่าง 28 ถึงอายุจะเยอะแล้ว แต่คนชอบทักกว่าฉันหน้าเด็กเหมือน เด็กมอปลายเลยนะ อิอิ ส่วนเจ้เมก็เป็นพี่ที่ทำงานที่เดียวกัน เพิ่งจะสนิทกันไม่นานมานี่เอง เพราะต้องทำงานโปรเจคของบริษัทร่วมกัน 

ส่วนเพื่อนสนิทจริงๆของฉันต่างก็แยกย้ายกันไปทำงานอยู่คนละจังหวัดกันหมด จะเจอกันก็แค่ปีละ 2-3 ครั้ง วันไหนเหงาๆหน่อยฉันก็ชอบชวนเจ้เมไปกินเบียร์ หรือถ้าเจ้เมไม่ว่างฉันก็ซื้อมากินคนเดียว 

“เจ้ชวนเพื่อนแล้วนะ” 

“มีใครบ้างอะเจ้” 

“ก็เพื่อนสนิทเจ้ 1 คนกะน้องชายมัน น้องๆที่สนิทกับเจ้ กับเด็กๆในแผนกเจ้ ไปถึงเดี๋ยวเจ้แนะนำให้รู้จักเอง” 

“อ่อ โอเคค่ะ” 

“โดยเฉพาะน้องชายเพื่อนเจ้ หล่อ และ โสด น่าจะอายุราวๆเดียวกะชาเลย” 

“หรอคะ งั้นขอรู้จักเลยได้ไหมคะ อิอิ” 

“แหมม.. ทำเป็นปากเก่ง พอเอาเข้าจริงก็ไม่เห็นอยากจะคบใครสักคน” 

“แหะๆ เจ้อะ” 

“จ้ะ แล้วนี่จะนอนบ้านเจ้เหมือนเดิมใช่ไหม” 

“ค่า ฝากเนื้อฝากตัวด้วยนะคะ งั้น... เลิกงานชาขอไปอาบน้ำบ้านเจ้เลยนะ อิอิ” 

“จ้า” 

เจ้เมเป็นผู้หญิงผมสั้น ลักษณะนิสัยห้าวๆลุยๆหน่อย คนที่ไม่สนิทกับเจ้เมส่วนใหญ่จะนึกว่าเจ้เมเป็นทอม บ้านเจ้เมอยู่ห่างจากบริษัท 50 กม. ส่วนฉันเป็นเด็กต่างจังหวัดเลยต้องเช่าบ้านพักใกล้กะบริษัทจะได้ตื่นสายๆหน่อย บางทีเจ้เมกลับดึกก็มานอนกะฉันบ้าง หรือบางทีไปปาร์ตี้ฉันก็ไปนอนบ้านเจ้เม สลับกันไปจนคนที่ทำงานบางคนเขาก็เอาไปเม้าว่าฉันกับเจ้เมคบกัน ตลกดี… 

20.00 น. 

“เจ้เม หนูหิวอะ” 

“เดี๋ยวโทรบอกน้องให้สั่งข้าวไว้รอก่อนแล้วกัน เธออยากกินไรบอกเขาเลยนะ เนี้ยเบอร์ เจ้กดให้ละ” 

ตื้ดดด ตื้ดดด 

“สวัสดีครับ” 

“เจ้.. ใครอะ” 

“น้องเดย์ ที่เป็น engineer โรงงานเราอะ” อ๋อ น้องคนนั้นฉันเคยเห็นหน้า ทักทายกันครั้งเดียว แล้วก็ไม่เคยได้คุยกันอีกเลย 

“อ่อๆ เดย์ถึงร้านแล้วยังนะ” 

“ครับ ว่า...” 

“ฝากสั่งข้าวหน่อยดิ อีกประมาน 15 นาทีจะถึงร้านละ หิวมากกก เอากะเพราหมูสับไข่ดาวละกัน 2 นะ แล้วก็นักเก็ต  

เฟรนฟรายด้วย เจ้เมเอาไรอีกไหมคะ” 

“ไม่อะ” 

“แล้วเครื่องดื่ม จะเอาอะไรกันครับ” 

“เบียร์ละกัน เอาข้าวเกรียบด้วย แหะๆ” 

“ครับ นั่งโต๊ะ 15 นะครับ ชั้นดาดฟ้า”  

“โอเคจ้า” 

“เจ้.. ไปสนิทกะน้องเขาได้ไงอะ” ฉันหันไปถามเจ้เมหลังจากที่วางสายไป ที่สงสัยไม่ใช่อะไร ฉันเห็นน้องเขาดูนิ่งๆ ดูไม่น่าจะมาสนิทกับเจ้เมได้อะ 

“พอดีคอนโดที่น้องพักอะ อยู่แถวบ้านเจ้ ก็เลยนัดกินข้าวกันบ่อยๆ” 

“อ่อๆ แล้วนอกจากน้องเขามีใครอีกนะคะ” 

“ปูเป้ มาย บันนี่ น้องในแผนกเจ้นั้นแหละ แล้วก็กีต้าร์ เพื่อนสนิทที่เรียนมหา’ลัยเดียวกับเจ้ อีกคนที่ว่าจะแนะนำให้ชารู้จักอะชื่อโบเก้” 

“โหยย เจ้อะ...” ทำปากเก่งไปงั้น เอาเข้าจริงถ้าฉันไม่ชอบก็ไม่อยากคบใครอยู่ดี  

“เพิ่ง 2 ทุ่มเอง รถจะเยอะไปไหนเนี้ย หาที่จอดยากจัง แงๆ” เจ้เมเวลาอยู่ต่อหน้าน้องๆจะออกแนวขรึมๆ น่าเคารพ เล่นบ้างบางเวลา แต่เวลาอยู่กับฉันเจ้จะหลุดความเป็นเด็กออกมาตลอด 

“นั้นไงเจ้ ตรงนั้นๆ” 

“โอเค เดี๋ยวชาขึ้นไปก่อนนะ เจ้ขอแวะเข้าห้องน้ำแปป” 

“เคค่า” 

ฉันเดินขึ้นไปบนด้านบนสุดของร้าน ที่เป็นชั้นดาดฟ้า หรี่ตาลงเล็กน้อยมองหาโต๊ะที่จองไว้ ฉันสายตาสั้นมากแต่ดันไม่ชอบใส่แว่นเพราะรู้สึกรำคาญ ก็เลยมองไปแบบเบลอๆ เนี้ยแหละ 

พลั่ก!! 

“เห้ยยย ยย” อีกแล้วนะชา ซุ่มซ่ามอีกแล้ว  

ฉันเดินไปสะดุดขาเก้าอี้ของใครไม่รู้ ในขณะที่ฉันกำลังจะเสียหลักล้มลง หมับ.. ก็มีมือของใครสักคนที่ยื่นมาคว้าแขนฉันเอาไว้พอดี

“ซุ่มซ่ามอีกแล้วนะชา” เสียงของเจ้เมที่เดินตามขึ้นมาพอดี

“แฮะๆ ขอบคุณนะเจ้ ถ้าไม่ได้เจ้เข่าชาช้ำแน่ๆ”

“ขอบคุณผิดคนแล้ว ใช่มือเจ้ที่ไหนละ”

“อ้าวว.. อ้อ น้องเองหรอ ขอบใจนะ” ฉันหันไปมองเจ้าของมือที่จับแขนฉันไว้

“ครับ..” เดย์นั้นเองที่คว้าฉันเอาไว้ได้ทัน เขาพยักหน้ารับ เดย์นี่ก็ดูเป็นคนพูดน้อย นิ่งๆไงไม่รู้ หรือพูดไม่เก่งกันนะ

“ข้าวยังไม่มาหรอ หิวแล้วงะ แงๆ”

“ใจเย็นสิ นู้นไง.. ยกมานู้นแล้ว”

“เย่ๆ หิวๆๆ”

“ห่วงแต่กิน.. เดย์คนนี้น้ำชานะ ถึงจะเหมือนเด็กแต่อายุมากกว่าเดย์นะ’ ฉันที่กำลังเคี้ยวข้าวยกมือโบกทักทายเขา

“ยินดีที่รู้จักครับผม” ฉันส่งยิ้มแห้งๆกลับไป โหยย หน้านิ่งมากพ่อ ยินดีที่รู้จักจริงป้ะเนี้ย 

“แล้วคนอื่นๆ จะมาตอนไหนอะคะ” 

“น่าจะถึงกันแล้วนะครับ” 

“อ่ออ” ฉันจัดการยัดทุกอย่างเข้าปากอย่างรวดเร็ว 

“ครับ” 

“พวกนั้นมาถึงกันแล้ว เดี๋ยวเจ้ลงไปรับก่อนนะ” 

ง่า.. เจ้จะปล่อยให้ฉันอยู่กะน้อง 2คนหรอ อึดอัดตายเลย หน้าก็นิ่งโคตรๆ พูดก็น้อยอีก เฮ้อออออ 

“เอ่ออ..” 

“….” มอง 

“ขอเบียร์หน่อยค่ะ” 

“….” เทเบียร์ 

“หูยยย ตรงนี้มองเห็นรางรถไฟด้วยอะ”  

“….” มอง 

“เห้ยย นั้นไงรถไฟมาแล้ว งือออ รถไฟฟฟ น่ารักจังเลย เดย์เคยนั่งรถไฟรึป่าวคะ พี่ยังไม่เคยนั่งเลย อยากลองนั่งสักครั้งจัง จะเป็นยังไงนะ ต้องสนุกแน่ๆเลยยยยยย ><” 

“หึหึ” 

“มาแล้ววว ชาเขยิบไปหน่อยดิ๊ เดี๋ยวจะให้ปูเป้นั่งตรงนี้” เจ้เมไล่ฉันให้เขยิบไปนั่งข้างเดย์ 

“ค่า” 

“เดี๋ยวเจ้จะแนะนำทีละคนนะ” 

“นี่กีต้าร์ เพื่อนเจ้ แล้วก็โบกี้น้องของกีต้าร์” 

“สวัสดีครับ/ค่ะ” 

“ส่วนนี่ปูเป้ มาย บิว น้ำชา แล้วก็เดย์“ 

“ชาโสดนะโบกี้ อายุน่าจะเท่าๆกันแหละ สนใจป่าววว” 

“แบบนี้ได้หรอเจ้ ผมก็ต้องสนอยู่แล้วครับ ฮ่าๆ” 

“แฮะๆ เล่นไรกันคะเนี้ย มาๆ ชนแก้วกันดีกว่า” ฉันว่าพลางหลบสายตาของโบกี้ที่มองมา รู้สึกว่าอีตาโบกี้นี่ดูท่าทางน่าจะเจ้าชู้หน่อยๆ นะ หรือฉันอาจจะแค่คิดไปเอง คงไม่มีไรหรอกมั้ง 

‘ฝนตกอีกแล้ว คืนนี้คงหนาวกว่าคืนไหนๆ ตัวฉันก็เลยกดเบอร์โทรไป แบบไม่ตั้งใจ เท่านั้น เท่านั้น...’ 

“ว่าแต่.. ร้านนี้ปิดกี่โมงนะคะ” ฉันหันไปถามเจ้เมขณะกำลังได้ที่ 

“เที่ยงคืนจ้ะ”

“หูยย ยังไม่สุดเลย”

“ก็... เดี๋ยวเราย้ายไปต่อบ้านเจ้ไหมละ แต่ขอถามคนอื่นๆก่อนนะ”

“จัดไปฮะ”

“ทุกคนนน... ตอนนี้เหลือ 3 ขวด และร้านก็กำลังจะปิด มีใครอยากไปต่อที่บ้านเจ้บ้าง”

“บิวขอตัวนะคะ แฟนโทรตามแล้ว ><”

“เป้ก็ขอตัวนะคะ”

“จ้า... คนอื่นๆละ”

“ว่าไงว่าตามกันฮะ” โบกี้ตอบ

“งั้นไปทุกคน ยกเว้นบิวกะเป้นะ”

“ค้าบบ/ค่า”

“งั้นเรา move กันเลยเถอะ”

“อะเค เดี๋ยวชาขอเข้าห้องน้ำก่อนนะ ทุกคนลงไปรอหน้าร้านได้เลย”

Day’s part 

“เดย์ไม่รู้จักบ้านเจ้ใช่ไหม๊ งั้นเจ้ฝากชาไปพร้อมเดย์นะ เพราะคนอื่นเอารถมากัน และเขาก็รู้จักบ้านเจ้อยู่แล้ว” 

“ครับ” 

ผมยืนรอพี่เขาไม่นาน พี่เขาก็เดินออกมา หน้างี้แดงเชียว สงสัยเริ่มจะเมาละ 

“อ้าว คนอื่นๆละ” 

“ไปกันหมดแล้วครับ” 

“แล้วทำไมไม่ไปกะเขาละ”  

“ก็รอพี่ พี่เมบอกว่าให้พี่ไปกะผม เพราะผมไม่รู้จักทางไปบ้านพี่เม” 

“อ่อๆ” 

“พี่โอเคป้ะเนี้ย หน้าพี่แดงมากอะ” 

“โอเคดิ อยู่ถึงเช้าก็ยังไหว” 

“เก่งจริ๊งงงง” เดินยังไม่ตรงเลยแม่คุณ 

“เอาด้วยปะละ ไม่เช้าไม่กลับ” 

“ก็มาดิครับ” 

“เมาแล้วก็พูดเยอะเหมือนกันนะเราอะ” 

“ผมไม่ได้เมา ว่าแต่.. พี่โอเคแน่นะ จะบอกทางถูกป้ะเนี้ย” ที่พูดน้อยเพราะยังไม่สนิทต่างหากเล่า 

“โอเคดิ ขอใส่แว่นแป้บ เดี๋ยวมองไม่เห็นซอย” 

“ด่วนๆเลยครับ” คนอะไรสายตาสั้นแล้วไม่ยอมใส่แว่น 

“ยูเทิร์นข้างหน้า แล้วก็ชิดซ้ายไว้นะ เอ่ออ.. ซอยไหนหว่า ชะลอหน่อยดิ ซอยนี้ไม่ใช่ ซอยหน้าแน่ๆ ชัวร์เลย” 

“แน่นะ” 

“แน่สิ เลี้ยวเลยๆ นี่แหละๆ” 

“ครับๆ”  

“นี่พี่... โอเคใช่ไหมอะ ยังไหวแน่นะ” 

“โอเคดิ สบายมากๆ จะอยู่จนพระอาทิตย์ขึ้นเลย เค๊” ปากเก่งจริงแม่คุณ 

“ค้าบๆ แล้วพี่อายุเท่าไหร่อะ” 

“27 จะ 28 เห็นแยกตรงนั้นไหม จอดก่อนถึงแยกนะ บ้านหลังนั้นแหละ” ห่างจากผม 5 ปีเลยหรอวะเนี้ย 

“หูยย จริงอะ พี่เหมือนเด็กมาก นึกว่า 20 ต้นๆ” 

“หน้าเด็กละซี้” 

“ป่าวครับ นิสัยเหมือนเด็ก” หน้าเธอเด็กจริงๆแหละครับ ตัวก็เล็กน่าจะ 150 ต้นๆ เอง ถ้าไม่รู้จักเนี้ยบางทีนึกว่ามัธยม แต่เห็นแล้วก็อดแกล้งไม่ได้ ขอกวนหน่อย 

“ไอ้เดย์ ไอ้บ้า” 

“ฮ่าๆๆ หยอกเล่นครับ ไปๆ เข้าบ้านกัน” 

“ชิ” เธอสะบัดหน้างอนๆ แล้วลงจากรถผมไป 

ครืดดด ครืดดดด 

บะหมี่’s calling 

‘ว่าไงหมี่’ 

‘เดย์กลับคอนโดยังอะ’ 

‘ยัง เค้ามาต่อบ้านพี่อะ’ 

‘ยังไม่กลับหรอ’ 

‘อื้อ เดี๋ยวกลับตอนไหนเค้าจะไลน์บอกนะ’ 

‘โอเค งั้นหมี่นอนแล้วนะ’ 

‘ครับ’ 

ผมวางสายแล้วหมุนตัวจะเดินเข้าบ้าน ก็เจอพี่น้ำชามองมาแล้วยิ้มแบบมีเลศนัย 

“มีไรครับ” 

“ป่าววว กลับตอนไหนเดี๋ยวเค้าบอกนะ จะอยู่เช้าได้หร๊อ แฟนไม่ว่าอะ” แหม.. ล้อเลียนผมซะด้วย 

“ไม่นี่ครับ”

“หูยยย แฟนใจดีจัง น่ารักนะเนี้ย”

“เดินเข้าไปๆ พี่ไม่ต้องพูดมาก” ผมจับตัวเธอหมุน แล้วดันหลังเธอให้เดินไป ก่อนที่เธอจะพูดแซวผมต่อ

“อีเด็กนี่” เธอหันมาค้อนผม ตากลมโตดีจัง เหมือนเด็กชะมัด ก่อนจะสะบัดหน้ากลับแล้วเดินไปแต่โดยดี พี่ชาเลือกนั่งที่หัวโต๊ะ ผมจึงเดินไปนั่งเก้าอี้ข้างๆ ผมแค่อยากรู้สึกสนิทกับเธอให้มากกว่านี้ เพราะผมว่าเธอคุยเก่งดี ตลกด้วย คนบ้าอะไรพูดมากจังวะ เรื่องเล่าเยอะมาก ตอนอยู่ร้านเมื่อกี้ ผมเห็นเธอพูดมา 3 ชั่วโมงไม่หยุดเลย คอแห้งบ้างไหมนั้นน่ะ

“เนี้ยยนะ ตอนที่ชาอยู่ปี 1 อ้ะ ชาอยู่ในห้องสอบใช่มะ แล้วคนรอบข้างเขาก็จะนั่งถัดจากเราไปประมาน 1 เมตรใช่ป่าว แล้วชาจะชอบนั่งขัดสมาธิมากกก ไม่รู้เป็นอะไร แบบเนี้ยๆ” แล้วเธอก็ยกขาขึ้นมานั่งขัดสมาธิบนเก้าอี้ โอ้ยย อะไรของพี่เขาวะ ความเป็นกุลสตรีไม่มีเลย

“แล้วก็นั่งทำข้อสอบไป ห้องเงียบมาก แล้วชาเผลอตดอะพี่ แบบดังด้วย ไอ้เราไม่คิดว่ามันจะดังขนาดนั้นงะ พี่คิดดูดิ ห้องเงียบมากแล้วนั่งห่างกันมาก คนที่นั่งถัดจากชาไป 4 คนยังได้ยินอะ”

“โอ้ยยย ยัยชา”

“มายไม่คิดเลยว่าพี่ชาจะเป็นคนแบบนี้”

“คิดดูนะ ชาทั้งขำทั้งอาย ทั้งกลัวโดนหาว่าทุจริตอีก เพราะเลิ่กลั่กกันมากในห้องสอบ คือมองหน้าแล้วกลั้นขำกันอะ เพื่อนชาก็ขำจนทนไม่ไหว ต้องขอออกไปขำในห้องน้ำ” โอ้ยยย ยัยพี่คนนี้ 555555555 ผมขำจนปวดหัวแล้วนะ เป็นคนยังไงของเขาวะเนี้ย

“เดย์เป็นไร ก้มหน้าทำไมอ่า เมาหรอ ไหวป้ะเนี้ย”

“ฮ่าๆๆ ไม่ไหวๆ ผมขำพี่จนปวดหัวแล้วเนี้ย ฮ่าๆๆๆ”

“นึกว่าเป็นอะไร โธ่เอ้ย”

“เบียร์หมดแล้ว ขอขวดใหม่หน่อยขอ 2 ขวดเลยนะคะ ชาอยากลองทำมานานแล้วอีเปิดขวดด้วยขวดเนี้ย ชาเรียนทฤษฎีมาแบบแน่นมาก” เจ้แกจะเล่นอะไรอีกวะนั้น

“แน่ใจนะชา” พี่เมถามด้วยความเป็นห่วง

“เชื่อมือชาเลย”

“เราสอนให้เอาไหม๊” พี่โบกี้ถาม

“เราว่าเราทำได้” เจ้แกยังไม่หยุดความพยายามฮะ

“เดี๋ยวก็บาดมือหรอก มาเราสอน” พี่โบกี้เดินอ้อมมาจากฝั่งตรงข้ามจับมือ พร้อมจับมือพี่ชาให้อยู่ในมุมที่เหมาะสม ไอ้พี่โบกี้นี่ดูเจ้าชู้เอาเรื่องเลยนะเนี้ย ยังพี่ชานี่ก็ไม่ระวังตัวเองเลยย ทำไมผมต้องรู้สึกหงุดหงิดด้วยวะ

“วิ้วว โบกี้ เนียนนะ” เสียงพี่เมแซว

“แหนะๆ มีจับมงจับมือด้วย ใจเย็นนะไอ้เสือ” พี่ต้าร์ก็เริ่มแซวตาม

“อะไรพี่ ผมแค่มาช่วยเขาเอง เดี๋ยวโดนฝาขวดบาดมือเอา”

“จ้าๆ” ในขณะที่ทุกคนโห่แซวกันอย่างสนุกสนานนั้น ก็ไม่ได้ดึงความสนใจเจ้แกจากขวดได้เลย น่าจะไม่ได้ยินเสียงคนแซวเลยมั้งน่ะ เพราะกำลังตั้งใจเปิดขวดมาก จริงจังเกิ๊นนนน จะได้กินไหมนั้นน่ะ

“วันนี้จะได้กินไหมพี่”

“เฮ้ออ มันยากอะ ไม่เหมือนที่เรียนมาเลย ไหนนายลองเปิดดิ๊” เธอยื่นขวดมาให้ผม

ป๊อก! 

“แค่เนี๊ยะ” 

“ชิ” สะบัดหน้าใส่ผมอีกแล้ว เดี๋ยวคอก็หลุดเอา คนอะไรน่าแกล้งชิบหาย เหมือนเด็กโคตรๆ นี่จะ 28 จริงหรอวะ 

Namcha’s part 

04.30 am 

“พี่ชา.. พี่โอเคนะ”  

“โอเคดิ ไม่ได้เมา” ฉันหันไปมองหน้าเดย์ ที่กำลังมองมาแบบดูไม่ค่อยเชื่อฉันสักเท่าไหร่

“แน่นะ”

“แน่สิ เชื่อเถอะ ถ้าเมาคงไม่อยู่นิ่งๆแบบนี้แน่ๆอะ ปีนเก้าอี้ ปีนโต๊ะขึ้นไปเต้นแล้ว”

“ครับๆ ดีแล้วครับที่ไม่เมา”

“เบียร์หมดละอ้ะ จะกลับกันเลยไหม” เจ้เมหันมาถามทุกคน

“มายก็ว่าจะขอตัวเลยค่ะ”

“งั้นเดี๋ยวผมช่วยเก็บของนะครับ” เดย์อาสา

“โอเค ดีมากจ้ะ เก็บไปตรงอ่างล้างแก้วอยู่หลังบ้านนะ”

“ค้าบ”

หลังจากที่เราทำการจัดเก็บ ทำความสะอาดสถานที่เรียบร้อย เวลาก็ล่วงเลยมาถึงตี 5 พอดี

08.00น.

“อยากกินชาไข่มุกอะเจ้”

“ตื่นเช้าจัง”

“หนูเป็นแบบนี้แหละ นอนดึกแค่ไหนก็จะตื่นเช้า ค่อยมานอนต่อทีหลังเอา”

“ชาลืมของไว้บนรถเดย์หรือป่าว?”

“หืมม อะไรคะ”

“นี่อะ กล่องแว่น ใช่ของชาไหมเดย์ฝากถาม” เจ้เมยื่นรูปที่เดย์ถ่ายส่งมาให้ดู

“อ่อ ใช่ จริงด้วย ถึงว่าเมื่อคืนชาจะเก็บแว่นแต่หากล่องไม่เจอ” ฉันน่าจะทำตกตอนที่หยิบมาดูทางให้น้องเขา

“น้องบอกเดี๋ยววันจันทร์เอาไปให้ที่บริษัทนะ”

“โอเคค่ะ”

“แล้วนี่ขาจะกลับเลยไหม หรือจะค้างอีกคืน”

“กลับเลยดีกว่าค่ะ เจ้เมจะได้พักผ่อน”

“งั้นเดี๋ยวไปอาบน้ำแต่งตัว เจ้พาไปกินข้าวเช้า ซื้อชาไข่มุกแล้วเราค่อยกลับ”

“โอเคค่า” ฉันรีบดีดตัวลุกจากที่นอนไปอาบน้ำอย่างรวดเร็ว

แสดงเพิ่มเติม

รีวิว (0)

เรื่องนี้ยังไม่มีรีวิว