บทนำ
เสียงปี่บรรเลงหีบศพดังไปทั่วภูเขา เบื้องหลังเสียงปี่เป็นหีบศพที่ไร้วิญญาณ ด้านข้างของหีบศพมีเสียงร่ำไห้ของบิดามารดาและญาติ สาวน้อยนางหนึ่งที่เดินอยู่ท้ายสุด
ดวงตามองไปยังหีบศพเบื้องหน้า เพียงแค่ 5 ปี นางก็ร่างไร้วิญญาณพี่สาวกลับมาช่างเป็นความหวังที่โง่เงาสิ้นดี
ไหนเกียรติ ไหนชื่อเสียง ไหนเงินทอง
หากไม่เพราะท่านพ่อจ้างให้คนไปขุดศพขึ้นมาจากวังหลัง คิดว่าวันนี้ศพพี่สาวนางก็คงไม่ได้ฝั่งตามประเพณี
รอยยิ้มที่สดใส กิริยาที่งดงามลู่ลิ่วไปตามลม เหตุใดจึงได้จบชีวิตเช่นนี้ กำแพงสีแดงด้านหลังมีอะไร ใครคือคนที่ทำให้พี่สาวนางเป็นเช่นนี้
แม้แต่ตอนนี้นางก็ยังหาคำตอบไม่ได้ ดวงตายังคงมองไปยังโล่งศพ หากว่าเราก้าวเท้าเข้าไปต้องจบชีวิต สู่ให้พี่สาวแต่งกับหนุ่มชาวบ้านไม่ดีกว่าหรือ
บิดานางเป็นนายอำเภอเล็กๆ ในชนบทฐานะอำนาจแทบจะไม่มี อยากจะแวะไปเยี่ยมก็ยังไม่ได้ พอจะเจอกันอีกครั้งก็กลายเป็นศพแทน
5 ปี เพียงแค่คิดว่าพี่สาวต้องถูกทรมานอยู่ที่นั้นนางก็แทบจะไม่ทนไม่ไหว
มือบางกำผ้าเช็ดหน้าไว้แน่นบีบแน่นด้วยความแค้นใจ คนตายก็ตายไปแล้วนางควรจะปล่อยวางไม่ใช่หรือ
แต่เหตุใดจิตใจถึงไม่สงบรั้นแต่รู้ให้ได้ว่าเป็นฝีมือใคร?
“ซิ่วอิงลูก” เสียงมารดาเรียกนางทำให้นางละจากความคิดแล้วเดินไปรับธูปจากมือมารดา
“ลาพี่สาวเจ้าเสีย” เสียงมารดายังสะอื้นแหบพร่า แต่ยังคิดถึงบุตรสาวเช่นนาง ซิ่งอิงรับมาแล้วคุกเข่าลง
เสื้อผ้าเบื้อนดินยกมือแล้วเอ่ยความในใจ
“ความตายของท่านพี่ครั้งนี้ น้องขอทวงคืน มันผู้ใดที่ทำให้ท่านพี่ทรมาน น้องจะทรมาณมัน มันผู้ใดทำให้ท่านพี่ตายน้องจะขอวิญญาณจากผู้นั้น”
ความแค้นนี้อัดแน่นในอกเหมยซิ่วอิงคำนับแล้วปักธูป ในฤดูวสันต์ปีนี้ร้อนระอุ แม้แต่ลมพัดก็หาได้ยาก แต่ตอนนี้กลับมีลมแรงพัดทันทีที่ธูปปักลง
สตรีเจ้าของธูปหันมอง แม้แต่พี่สาวนางยังเห็นด้วยแล้วนางจะลังเลทำไมในเมื่อตัดสินใจได้แล้ว เหมยซิ่งอิงก็ลุกขึ้นหันไปมองบิดามารดา
“ท่านพ่อท่านแม่ ข้าจะเข้าวัง”
เสียงลมพัดผ่านไปอีกระลอกคราวนี้หนักกว่าเคย คนเป็นบิดามารดาได้แต่ถอนใจเรื่องชะตาใครจะห้ามได้