ยามภพค่ำเดือนเหมันต์ ฟากฟ้ายามนี้ช่างสวยงามเสียนี้กระไร หากข้าได้กลับไปอีกข้าคงคิดถึงสิ่งเหล่านี้เสียจริง อ้าข้าคิดถึงวันเวลาที่เปลี่ยนไป มันช่างดีเสียนี้กระไร
นายท่าน ท่านเป็นโรคอะไรหรือไม่ ให้ข้านำพาหมอหลวงมาตรวจท่านดีหรือไม่ขอรับ
อ้า ไม่จำเป็นหรอก ข้าอยู่กับฟางเซียนก็มีความสุขดีแล้ว ไม่อยากจะกลับไปเสียจริงเลย แต่วันเวลาจำเป็นต้องหวนกลับไปเฉกเช่นกาลก่อนที่เรามา
นายท่าน ท่านอย่าได้กล่าวเช่นนั้น อู่ซิงจะอยู่กลับใคร นายท่านจากไปข้าผู้บ่าวจะขอติดตามท่านไปด้วย
เจ้าก็พูดเกินไป เจ้าอยู่กับข้ามาร่วมยี่สิบปีแล้ว เจ้าไม่เบื่อบ้างหรือไงกัน
มิได้บ่าวไม่มีทางเบื่อนายท่าน นายท่านเป็นผู้เมตตา หากไม่ได้นายท่านและนายหญิงช่วยเหลือ ป่านนี้ครอบครัวบ่าว ครอบครัวต้องแตก ชีวิตคงหามีไม่
อ้า ข้าเข้าใจข้าเข้าใจ ข้าจะมีชีวิตอยู่เห็นอาเต๋อ สามารถดูแลบ้านเมืองได้ก็มีความสุขแล้ว
นายท่าน บ่าวเชื่อว่านายน้อยจะต้องยิ่งใหญ่ ยิ่งใหญ่กว่านายท่านและจะปกครองบ้านเมืองสืบต่อไปได้เป็นแน่
พิษร้ายของบ้านเมืองมันมีอยู่ทุกหย่อมย่าน ข้าไม่อยากให้อาเต๋อต้องรับภาระเพียงฝ่ายเดียวเลยจริงๆ
นายท่าน ยังมีท่านจง ท่านซุย และท่านป๋า อยู่ เช่นไรทั้งสามท่านก็ร่วมรุกร่วมถอยมาพร้อมกลับนายท่าน บ่าวมิเห็นว่าจะเป็นเช่นไรหากยังมีท่านทั้งสามช่วยเหลือสืบต่อไป
ก็จริง ข้าคงจะแก่แล้วจริงๆ แก่มากแล้ว
ท่านพี่ไม่ได้แก่ลงเลย ผมเผ้าไม่ได้หงอกแม้สักเพียงน้อย
ถวายพระพรพระมเหสี
เจ้าก็จริงเลยนะ เรารู้จักกันมากว่ายี่สิบปีแล้ว พิธีรีตองไม่ต้องก็ได้มั้ง
มิได้เช่นไรนายหญิงก็ยังเป็นนายหญิงอยู่ แม้จะเปลี่ยนไปเช่นไร บ่าวก็เคารพเฉกเช่นเดิม
โอ้ น้องหญิงของพี่ มา มา
ท่านพี่ละก็ น้องหญิงอะไรกัน ข้าเป็นป้าแก่ไปแล้วนะ ยังมาปากหวานอีก
อู๋ซิง เห็นป้าแก่ที่ไหนไหม
ไม่พะยะค่ะ บ่าวมิเห็นใครแก่เลย คงมีเพียงบ่าวที่แก่แล้วเท่านั้น
ฮ่าฮ่าฮ่า ดูสิเจ้าก็เห็นแล้วนะน้องหญิง ขนาดเจ้านั้นยังพูดเช่นนี้
ท่านพี่นี้ละก็ เห็นท่านพี่ยังไม่เข้านอน น้องเลยออกมาตามมิได้
อ้า ถึงเวลาแล้วหรือเนี้ย ข้าก็คุยเพลินเลย เอาล่ะเราไปพักกันเถอะนะ ให้พวกรุ่นหลังเขาจัดการกันเอาเอง
ไปเถอะค่ะ ท่านพี่
ปล. ข้างบนนี้เป็นบทสนทนา ซึ่งจะอ่านก็ได้ ไม่อ่านก็ได้ เทพโพไม่เขียนตัวอักษรอ่านเพราะตั้งใจที่จะเขียนแบบนั้น ไปอ่านตอนสองได้เลย
ขอบพระใจ