สงครามศูนย์องศาแห่งดาวเซีย [Negative More Than A Hundred Degrees]

แฟนตาซี

จบ สงครามศูนย์องศาแห่งดาวเซีย [Negative More Than A Hundred Degrees]

สงครามศูนย์องศาแห่งดาวเซีย [Negative More Than A Hundred Degrees]

G'Jahro Pa'Kur

แฟนตาซี

25
ตอน
3.49K
เข้าชม
20
ถูกใจ
4
ความคิดเห็น
29
เพิ่มลงคลัง
โลกที่ดวงอาทิตย์ดับสูญ โลกที่ทุกๆอย่างบนผิวดาวหนาวจนน้ำแข็งจับ สิ่งมีชีวิตไม่สามารถอาศัยอยู่ได้ แต่สาเหตุนั้นจากเผ่าพันธุ์ปริศนาจากต่างดาวที่เข้ามาลุกลานโลก มนุษย์ต้องต่อสู้เพื่อเอาชีวิตรอด ด้วยแอนไทร

หลายๆคนคงเคยคิดว่า โลกมันร้อนชะมัด ใช่ไหมละ? พวกคุณส่วนใหญ่คงเกลียดดวงอาทิตย์กันสินะ ไม่ต้องสงสัยเลย 

  

พวกคุณอาจจะด่าดวงอาทิตย์อยู่ทุกวันเลยด้วยซ้ำแต่จะเกิดอะไรขึ้นถ้าดวงอาทิตย์ไม่สามารถส่องแสง  

หรือให้ความร้อนมาที่โลกได้อีกต่อไป  

 

ใช่แล้ว ความหนาวเหน็บยันกระดูกดำยังไงละ…ที่นี่คือดาวเซีย ในปี ค.ศ 2089 เซียได้ถูกโจมตีโดย 

 

เผ่าพันธ์จากต่างดาว แต่พวกมนุษย์สามารถเอาชนะมาได้ในสงครามแย่งชิงดาวเซียที่เราเรียกว่า  

วอร์ออฟเดอะเซีย (War of The Sia) 

 

โดย พวกเรามีจำนวนมากกว่าหลายเท่า เราเอาชนะได้แต่สงครามนำพาความสูญเสียมามากมาย  

 

มนุษย์ดีใจและเฉลิมฉลองกันมากมาย แต่ทว่า… หกเดือนต่อมา ทุกอย่างกลับพลิกผัน  

เมื่อพวกมันกลับมาและคราวนี้ มันพรากดวงอาทิตย์ไปจากเรา  

 

พวกมันปล่อยสารบางอย่างเคลือบดวงอาทิตย์ไว้ สารนั่นทำให้ รังสี แสง และความร้อนของดวงอาทิตย์ 

ไม่สามารถส่งมาถึงเซียได้  

 

โลกเข้าสู่ความมืดและเย็นลงอย่างรวดเร็วภายในเวลาไม่กี่ชั่วโมง ต่อมา มนุษย์ตัดสินใจพาสัตว์ทุกสายพันธุ์ที่หาได้ 

 

ลงไปใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันใต้ดินใช่แล้ว มนุษย์หนีลงไปอาศัยใต้พื้นโลกยิ่งลึกก็ยิ่งได้รับความอบอุ่นเพิ่มมากขึ้น  

 

มนุษย์ขยายฐานที่อยู่อาศัยมากขึ้นใต้ดิน ไม่มีแบ่งชนชาติ หรือประเทศ ทุกคนใช้ภาษาเดียวกัน เป็นภาษากลางของเซีย 

 

พวกมนุษย์เริ่มปรับตัวได้และลืมความโหดร้ายของเซีย จนกระทั่งพวกมันบุกโจมตีอีกครั้ง  

 

เราเรียกพวกมันว่า เอ็นติตี้  (Entity) แปลว่า สิ่ง เพื่อสื่อถึงอะไรบางอย่างที่พวกเราไม่เข้าใจ  

 

วันหนึ่งพวกมันโจมตีกลุ่มมนุษย์ที่ขึ้นไปข้างบนเพื่อตรวจอุณหภูมิของผิวดาวเซีย 

 

นั่นทำให้เหล่ามนุษย์ไม่พอใจและทนไม่ไหวอีกต่อไป พวกมนุษย์ได้ประกาศสงคราม 

 

กับพวกเอ็นติตี้อีกครั้ง และครั้งนี้พวกเขาพร้อมที่จะทำทุกอย่าง เพื่อสู้พวกมัน  

พวกเขาเมินศีลธรรมและแหกกฎของธรรมชาติ  

 

โครงการ แอนตี้ (Anti) ได้ถูกคิดค้นขึ้น โครงการ แอนตี้ คือโครงการอาวุธชีวะภาพที่ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อใช้ต่อต้านพวก  

 

เอ็นติตี้ ช่วงแรกๆมีปัญหาค่อนข้างเยอะเนื่องจากว่า มนุษย์ไม่สามารถที่จะฝึกพวก แอนตี้ ให้เชื่องหรือฟังคำสั่งได้ 

 

นักวิทยาศาตร์และบุคลากรหลายคนต้องตายไปจากโครงการนี้ เราจึงต้องยกเครื่องโครงการนี้ใหม่ทั้งหมด  

 

พวกเราสร้างแอนตี้ในนิยามใหม่เราสร้างสิ่งที่เหมือนกายหยาบที่ไร้จิตสำนึกความคิดและวิญญาณเราเรียกพวกมันว่า  

แอนตี้-รี (Anti-Re)  

 

หรือ แอนไทร์ (Antire) พวกมันต้องการสิ่งที่เรียกว่า ผู้ขับ เพื่อที่จะให้พวกมันทำงานได้ ผู้ขับจะเป็น 

 

เหมือนทั้งสมองจิตสำนึกและวิญญาณในเวลาเดียวกัน พวกเราจึงได้ใช้คนที่มีอายุตั้งแต่ 13-35 ปี มาเป็นหนูทดลอง 

ส่วนใหญ่ตายและบางส่วนรอด ทำให้เราได้รู้ว่าไม่ใช่ทุกคนจะสามารถขับ แอนไทร์ ได้พวกเขาต้องมีอายุตั้งแต่ 13-20 ปี  

 

ด้วยเหตุผลบางอย่างที่พวกเราไม่อาจทราบได้ นักวิทยาศาสตร์คาดว่า มันเป็นเพราะมนุษย์ช่วงนี้จะเป็นช่วงเจริญวัย 

 

แข็งแรงและฮอร์โมนพุ่งพล่านทำให้ประสานกับ แอนไทร์ ได้ดี แต่เหตุผลจริงๆไม่มีใครรู้ได้.. 

 

ผลข้างเคียงของการขับ แอนไทร์ คือ ร่างกายจะถูกหยุดการเจริญเติบโตทันทีและเป็นหนุ่มสาวตลอดไป  

นักขับคนแรกเป็นเด็กสาวอายุ  

 

13 ปี เธอชื่อ อีฟ เธอล้มเอ็นติตี้ตัวแรกได้ในเวลาเพียง 5 นาที และนั่นคือความหวังของมนุษยชาติ  

 

โครงการแอนตี้-รี (Anti-Re) หรือ แอนไทร์ ประสบความสำเร็จอย่างมาก นักขับแอนไทร์ เป็นฮีโร่ในสายตาของผู้คน  

เด็กๆเริ่มอยากเป็นนักขับมากขึ้นเรื่อยๆ  

 

ผู้ขับ แอนไทร์ มีมากขึ้นเรื่อยๆ มนุษย์เริ่มที่จะชนะพวก เอ็นติตี้ มากขึ้นๆ จนกระทั่งวันหนึ่งพวกเอ็นติตี้ เริ่มวิวัฒนาการและแล้ว 

มนุษย์ก็กลับมาพ่ายแพ้อีกครั้ง เด็กๆเริ่มกลัวการเป็นผู้ขับ แอนไทร์  

 

และผู้ขับแอนไทร์ ก็เริ่มลดน้อยลงเรื่อยๆ.. 

 

อบิซ เด็กหนุ่มที่โตขึ้นมาบนพื้นผิวของดาวเซียที่เต็มไปด้วยความหนาวเหน็บ เยือกเย็น และน้ำแข็ง เขาอาศัยอยู่กับแม่ของเขาเอาตัวรอดไปวันๆ 

 

จนกระทั่งวันหนึ่งเขาตื่นขึ้นมาแล้วพบว่าแม่ของเขาหายไป เขาได้เดินทางออกตามหาแม่ของเขาจนได้ไปพบเข้ากับชาวดาวเซียที่ขึ้นมาบนพื้นผิวของดาว 

 

ทำให้เขาได้เรียนรู้วิถีของชาวดาวเซีย และได้พบกับเพื่อนๆของเขา อบิซเข้าร่วมเป็นนักขับแอนไทร์ 

เพื่อหวังว่าซักวันหนึ่งเขาจะเจอเบาะแสของแม่ของเขาที่หายไปอย่างไร้ร่องรองและได้พบกับแม่ของเขาอีกซักครั้ง... 

แสดงเพิ่มเติม

รีวิว (0)

เรื่องนี้ยังไม่มีรีวิว