ในที่สุดก็ได้กลับมาเมืองไทยสักที หลังจากที่ฉันน่ะโดนลอยแพถูกส่งให้ต้องไปใช้ชีวิตลำบากที่อยู่เมืองนอกตั้งหลายปี
กลับมาคราวนี้ฉันจะพิสูจน์ให้ทุกคนได้เห็น ว่าฉันน่ะยืนอยู่ด้วยขาของตัวเองได้ไม่จำเป็นต้องพึ่งพาใครหรอก ถ้ายังจะมาบงการชีวิตฉันอีก ได้เห็นดีกันแน่ เพราะฉันจะไม่ยอมให้ใครมารังแกได้อีกเด็ดขาด
ว่าแต่ว่าโชคชะตาอยากทดสอบฉันหรือยังไงเนี่ย ถึงต้องให้ฉันมาร่วมงานกับ “คีริน” หนุ่มเจ้าเสน่ห์ มาดนิ่ง นักร้องนำวงมาโคร และที่สำคัญเขาเคยเรียนที่เดียวกับฉัน แถมตอนนั้นฉันยังไม่ชอบขี้หน้านายนั่นอีกต่างหาก
นายนั่นน่ะไม่รู้ทำไมถึงชอบตามมารังควานวุ่นวายกับชีวิตฉันอยู่เรื่อย แม้ว่าหน้าตานายจะพอไปวัดไปวาได้ แต่ผู้ชายเพลย์บอยอย่างนายน่ะ ไม่ใช่สเปคฉันหรอกนะจะบอกให้ ฉันมีเรื่องสำคัญที่ต้องทำมากกว่าที่จะต้องมาสนใจคนอย่างนายนะ ไม่รู้หรือไง
แต่ว่าอะไรอะไรมันกลับไม่ได้ง่ายดายอย่างนั้นน่ะสิ ทั้งที่ฉันพยายามจะกัน“คีริน” ออกจากชีวิตกลับยิ่งต้องเจอเขาอยู่ร่ำไป นี่มันตรงกับคำที่เคยได้ยินว่า “เกลียดอะไรได้อย่างนั้น” เลยนะ บ้าจริง
แต่...ฉันจะหวั่นไหวไม่ได้หรอก เพราะอีกไม่นานฉันคงต้องแต่งงานกับ“พายัพ” ผู้ชายที่เป็นคู่หมั้นคู่หมายของฉัน
หรือว่าฉันควรจะต้องทำอะไรที่มันตรงกันข้าม คือ แกล้งตามเกมส์แล้วก็ทำเป็นชอบนายไปซะ อย่างนั้นเหรอ นายถึงจะสมใจแล้วไปพ้น ๆ หน้าฉันสักที นี่แค่บ้างานนะก็ปวดหัวจะแย่แล้ว ยังต้องมารับมือกับผู้ชายมากเล่ห์เหลี่ยมอย่างนายอีก
นี่ชีวิตฉันจะต้องวุ่นวายขนาดนี้มั้ยเนี่ย...
“ฉันน่ะยังมีเรื่องสำคัญกว่าที่ต้องทำมากกว่าการที่จะต้องมาสนใจคนอย่างนายนะ นายน่ะหรอจะมาทำให้ฉันหวั่นไหวได้ ไม่มีทางซะหรอก ฉันไม่ได้หลงกลนายง่าย ๆ แน่ ไม่เชื่อก็ก็ลองดู”