"มาแต่เดิมนั้น พญามุจลินทร์นาคราช มีพระนามเดียว อาศัยอยู่ที่ต้นไม้จิก เพื่อรอขึ้นปรกเศียรพระผู้มีพระภาคเจ้า"
ในสัปดาห์ที่ ๖ พระผู้มีพระภาคเจ้าเสด็จจากต้นอชปาลนิโครธ ไปยังต้นมุจลินท์ ณ ที่นั้น เมฆใหญ่ในสมัยที่มิใช่ฤดูกาลตั้งขึ้น ฝนตกพรำเจือด้วยลมหนาวตลอด ๖ วัน
ครั้งนั้นพญามุจลินท์นาคราช ออกจากที่อยู่ของตน มาแวดวงพระวรกายพระผู้มีพระภาคเจ้าไว้ด้วยขนด ๗ รอบ แล้วแผ่พังพานใหญ่เหนือเศียรสถิตอยู่ ด้วยหวังใจว่า หยาดฝน สัมผัส แห่งเหลือบ ยุง ลม และสัตว์เลื้อยคลาน อย่าได้เบียดเบียนพระผู้มีพระภาคเจ้า
พระพุทธองค์ได้เสวยวิมุตติสุขประหนึ่งประทับอยู่ในพระคันธกุฏี ฉะนั้น ครั้นวันที่ ๗ อากาศปลอดโปร่ง มุจลินท์นาคราช ทราบว่าปราศจากฝนแล้ว จึงคลายขนดออกจากกายของพระผู้มีพระภาคเจ้า จำแลงรูปของตนเป็นมาณพ ยืนประคองอัญชลี ถวายนมัสการต่อเบื้องพระพักตร์พระผู้มีพระภาคเจ้า
ลำดับนั้นพระผู้มีพระภาคทรงทราบเนื้อความนั้น แล้วจึงทรงเปล่งอุทานนี้ ในเวลานั้นว่า
[พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิทาน อุทาน ๒.มุจลินทวรรค ๒.ราชสูตร]
"วิเวกเป็นความสุขของผู้สันโดษ ผู้มีธรรมปรากฏแล้ว ผู้เห็นอยู่ ความไม่เบียดเบียนคือความสำรวม ในสัตว์ทั้งหลาย เป็นสุขในโลก ความเป็นผู้ปราศจากราคะ คือความล่วงกามทั้งหลายได้เป็นสุขในโลก ความจำกัดอัสมิมานะได้ เป็นสุขอย่างยิ่ง"
พระผู้มีพระภาคเจ้าประทับอยู่ ณ ควงไม้มุจลินท์นั้นตลอด ๗ วัน ครั้นล่วง ๗ วัน แล้วเสด็จออกจากร่มไม้มุจลินท์ ไปยังร่มไม้เกตุในทิศทักษินแห่งต้นมหาโพธิ์ เสวยวิมุติสุข ณ ที่นั้นเป็นสัปดาห์ที่ ๗
พระผู้มีพระภาคเจ้าเสวยวิมุติสุขรวม๔๙ วัน สถานที่พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงเสวยวิมุติสุขทั้ง ๗ สัปดาห์ ได้แก่...
สัปดาห์ที่ ๑ ต้นอัสสัตถะ(โพธิพฤกษ์ที่พระโพธิสัตว์ประทับในวันตรัสรู้)
สัปดาห์ที่ ๒ อนิมิสเจดีย์
สัปดาห์ที่ ๓ รัตนจงกรมเจดีย์
สัปดาห์ที่ ๔ รัตนฆรเจดีย์
สัปดาห์ที่ ๕ อชปาลนิโครธ (ต้นอชปาลนิโครธ)
สัปดาห์ที่ ๖ มจลินท์ (ต้นมุจลินท์,ต้นจิก)
สัปดาห์ที่ ๗ ราชายตนะ (ต้นราชายตนะ,ต้นเกตุ)
/ภาพตัวอย่างต้นจิก//