Vampire Prince รักต้องห้าม คุณชายแวมไพร์กับเจ้าหญิงผีเสื้อ

รักวัยรุ่น

Vampire Prince รักต้องห้าม คุณชายแวมไพร์กับเจ้าหญิงผีเสื้อ

Vampire Prince รักต้องห้าม คุณชายแวมไพร์กับเจ้าหญิงผีเสื้อ

Bunnyonthemoon

รักวัยรุ่น

10
ตอน
2.55K
เข้าชม
26
ถูกใจ
3
ความคิดเห็น
14
เพิ่มลงคลัง

       บนภูเขาแห่งหนึ่งไกลออกไปจากชุมชน 

       “นาบี...” เสียงเล็กๆ ของผีเสื้อปีกสีส้มเรียกชื่อของฉัน 

       “มีอะไรเหรอ?” ฉันถามออกไปด้วยความสงสัย 

       “ผมของเธอสวยจัง เป็นประกายเหมือนปีกของพวกเราเลย” 

       “ขอบใจจ้ะ” ฉันยิ้มให้เหล่าผีเสื้อที่โบยบินอยู่รอบๆตัว พร้อมกับสะบัดเส้นผมสีบลอนด์ชมพูอ่อนของฉันเบาๆ “ฉันว่าปีกของพวกเธอเปล่งประกายมากกว่าเส้นผมของฉันอีกนะ” 

       “นาบี! นาบี! มีเรื่องแล้ว!!!” ผีเสื้อปีกสีม่วงโวยวายมาแต่ไกล ท่าทางจะมีเรื่องไม่ดีเกิดขึ้นจริงๆ เห็นผีเสื้อตัวนี้โวยวายทีไรเกิดเรื่องใหญ่ทุกทีเลย 

       “มีอะไรเหรอ" 

       “ตามฉันมาเร็วๆ ฉันเจอนกตัวใหญ่มากเลย ตัวใหญ่กว่านาบีอีกนะ” 

       ผีเสื้อปีกสีม่วงบินนำฉันไปทันที ระหว่างทางพวกผีเสื้อตัวอื่นก็บินเข้ามาทักทายฉันอย่างเป็นมิตร รู้สึกดีจังที่มีความสามารถพิเศษแบบนี้ ถึงแม้ว่าการที่คุยกับผีเสื้อได้จะทำให้ฉันไม่ค่อยมีเพื่อนที่เป็นมนุษย์ก็เถอะ ฉันเดินตามผีเสื้อปีกสีม่วงไปเรื่อยๆ จนพบกับถ้ำแห่งหนึ่งที่อยู่ลึกเข้าไปในป่า 

       “นี่ผีเสื้อน้อย อย่าบอกนะว่าเจอนกในนั้นน่ะ” ฉันพูดพลางชี้ไปทางปากถ้ำที่ดูเหมือนจะไม่ปลอดภัยเอาซะเลย 

       “ใช่แล้ว ฉันเจอนกตัวใหญ่มากในนั้นล่ะ” 

       “ฉันว่ามันดูอันตรายเกินไปนะ” 

       “นาบีจะไม่เข้าไปดูหน่อยเหรอ? นกตัวนั้นติดใยแมงมุมอยู่นะ ดูน่าสงสารมากเลย” เจ้าผีเสื้อทำเสียงเศร้า แบบนี้มันคือการบังคับให้ฉันเข้าไปชัดๆ เลยนี่นา 

       “จะเข้าไปดูก็ได้ แต่เธอต้องเข้าไปด้วยกันนะ” 

       “ได้เลย!” เจ้าผีเสื้อพูดเสียงสดใสก่อนจะบินนำเข้าไปในถ้ำ นี่มันแตกต่างจากเมื่อกี้เลยนะ “เข้ามาเร็วๆ สินาบี” 

       “ฉันไม่ได้บินได้นะ ช้าๆ หน่อยสิ ในนี้มืดจังระวังตัวด้วยนะ” ฉันบอกด้วยความเป็นห่วง 

       “ถึงแล้วล่ะ” 

       พอฉันมองไปข้างหน้าก็พบกับผู้ชายร่างสูงที่กำลังหลับอยู่ แสงจากช่องด้านบนส่องลงมากระทบกับผิวขาวๆ ของเขา แขนทั้งสองข้างถูกโซ่เส้นใหญ่ตรึงไว้ นะ นี่ไม่ใช่นกนี่นา เขาเป็นมนุษย์ แต่เดี๋ยวนะ ฉันชะเง้อมองไปด้านหลังของเขา และพบกับบางสิ่งคล้ายปีกนกสีดำ และที่สำคัญที่สุดคือ...เขาไม่ได้ใส่เสื้อผ้าอ่ะ กรี๊ดดดด 

       “นี่แหละ นกตัวใหญ่ที่ฉันเจอ” 

       “นี่ใช่นกที่ไหนล่ะ! เป็นมนุษย์ที่ประหลาดจริงๆ ทำไมถึงได้มีปีกเหมือนนก ฉันขอเข้าไปดูเขาใกล้ๆ หน่อยนะ ไม่รู้ว่าเขาตายหรือยัง อ้อ! จริงด้วย ผีเสื้อน้อย ฝากบอกเพื่อนๆ เอาผ้าคลุมของฉันมาให้หน่อยสิ ฉันทิ้งไว้บนภูเขาน่ะ” 

       “ได้เลย! แล้วฉันจะรีบกลับมานะ” 

       พูดจบเจ้าผีเสื้อก็รีบบินออกไปทันที เหลือฉันกับร่างตรงหน้าที่ไม่รู้ว่าเป็นศพหรือเปล่า แง ใจหนึ่งก็แอบกลัวขึ้นมา ถ้านายตายแล้วฉันจะทำศพให้นายอย่างดีเลย อย่ามาหลอกมาหลอนกันเลยนะ 

       “นี่นาย...” ฉันเดินเข้าไปจิ้มๆ ที่แก้มของเขา ยังนุ่มอยู่เลย จะว่าไปเส้นผมสีเงินของเขานี่ยาวสลวยมากๆ ราวกับมีคนมาหวีให้ทุกวัน ใบหูก็มีลักษณะแปลกๆ อย่างกับหูแพะ ไม่ว่าฉันจะจิ้มแก้มเขากี่ครั้งก็ไม่มีทีท่าว่าเขาจะลืมตาเลย ดวงตาปิดสนิท ผิวเย็นเฉียบเหมือนไม่ได้รับความอบอุ่นมานาน  

       “นาย...ได้ยินฉันไหม” 

       “...” 

       “นี่นาย...” 

       “งืม...จะ...เจ้า?” ดวงตาสีแดงเลือดค่อยๆ ขยับขึ้นมาสบตาฉัน เจ้า...งั้นเหรอ คนสมัยนี้ยังใช้คำโบราณแบบนี้อยู่อีกเหรอเนี้ย “เจ้าเข้ามาได้อย่างไร?” 

       “ก็เดินเข้ามาน่ะสิ ฉันเรียกนายตั้งหลายครั้ง ถ้านายไม่ตอบฉันคงคิดว่านายตายไปแล้ว” ฉันพูดพลางเขยิบถอยหลังออกมาสองก้าว 

       “หึ! ข้าไม่มีวันตาย” 

       “นาบี พวกเราเอาผ้ามาให้แล้ว” เหล่าผีเสื้อน้อยใหญ่ส่งผ้าผืนยาวสีครีมมาให้ฉัน “นั่นใครน่ะนาบี น่ากลัวจัง พวกเราออกไปข้างนอกก่อนนะ นาบีก็รีบๆ ตามออกมานะ” 

       “เข้าใจแล้วจ้ะ ไม่ต้องห่วงนะ เดี๋ยวฉันรีบตามออกไป” ฉันจัดแจงผูกผ้าสีครีมไว้ที่เอวของเขาทันที “นายมาอยู่ตรงนี้ได้ยังไงเหรอ?” 

       “เจ้าคิดว่าข้าอยากอยู่ตรงนี้นักหรืออย่างไรฮะ?” เขาแยกเขี้ยวใส่ฉัน 

       “เอ๊ะ! นายนี่ ฉันถามดีๆ นะ ที่นี่หนาวก็หนาว ถ้าไม่อยากอยู่ทำไมไม่ออกไปข้างนอกล่ะ” 

       “ไม่ต้องมายุ่งกับข้า!!!” เขาตะคอกเสียงดัง 

       “ฉันพยายามจะช่วยนายนะ เดี๋ยวก็ไม่ช่วยซะเลย” ฉันเบ้ปากใส่ร่างสูงตรงหน้า แต่เข้าก็ไม่ได้มีทีท่าว่าจะสนใจฉันเลย “นายไม่อยากออกไปข้างนอกหรือไง?” 

       “เหอะ ถามมาได้ เจ้ามองดูขาเสียก่อน ข้าโดนตรึงไว้แบบนี้ จะให้ออกไปได้อย่างไร” 

       “นายเลิกพูดภาษาโบราณแบบนั้นจะได้ไหม ฟังแล้วฉันรู้สึกแปลกๆ” 

       “เรื่องของข้า!!” เขาตะโกนด้วยความรำคาญ 

       “หน็อย! ตะโกนใส่คนที่ตั้งใจจะช่วยนายงั้นเหรอ!” ฉันเดินเข้าไปบ่นระยะประชิด “นายควรจะปรับปรุงนิสัยหน่อยนะ นิสัยแบบนี้ใครเขาอยากจะช่วยนายกัน” 

       “...” เขาเงียบ ไม่สนใจคำพูดฉันสักนิด 

       “ชิ! นิสัยแย่ที่สุด” ฉันบ่นกับตัวเองเบาๆ แล้วหันไปสนใจโซ่เส้นใหญ่ที่พันธนาการร่างของเขาอยู่ ใหญ่ขนาดนี้ต้องใช้อะไรตัดล่ะเนี้ย 

       “เจ้ากลับไปเถอะ โซ่พวกนี้ไม่มีทางขาดได้ง่ายๆ หรอก” 

       “นายอยู่เงียบๆ ไปเหอะ” ฉันพูดแบบไม่สนใจเขา ก่อนจะเอื้อมมือไปดึงโซ่ลงมา แต่อยู่ดีๆ โซ่เส้นนั้นก็เปล่งแสงและแตกออกราวกลับฝุ่นผงระยิบระยับอยู่ในอากาศ ทำให้ฉันยิ่งอึ้งจนพูดอะไรไม่ออก 

       “เจ้าทำได้อย่างไร?” 

       “ฉะ ฉันก็ไม่รู้เหมือนกัน แค่แตะเฉยๆ เองนะ” 

       “งั้นเจ้าแตะโซ่เส้นนี้ด้วย” 

       จากนั้นฉันก็จัดการแตะโซ่ทุกเส้นที่พันธนาการร่างของเขาไว้ ผลก็คือ...โซ่ทุกเส้นเปล่งแสงออกมาและแตกออกเป็นฝุ่นระยิบระยับเต็มไปหมด ร่างสูงยืนจับข้อมือของตัวเองแล้วทำหน้างง ก่อนจะเงยหน้าขึ้นมาสบตากับฉันอีกครั้ง 

       “เอ่อ...ฉันก็ไม่รู้หรอกนะว่าฉันทำอะไรอยู่ แต่ตอนนี้นายเป็นอิสระแล้ว ฉันขอตัวกลับก่อนนะ” ฉันรีบหันหลังเตรียมจะวิ่งเพราะรู้สึกได้ถึงอะไรบางอย่างที่ไม่น่าจะใช่เรื่องดีแน่ๆ 

       “เดี๋ยว!” เขาคว้าแขนของฉันไว้แล้วดึงเข้าหาตัวเอง 

       “อุ๊บ!” ฉันยังไม่ทันได้พูดอะไร ร่างสูงก็โน้มตัวลงมาปิดปากของฉันเบาๆ ด้วยริมฝีปากเย็นเฉียบของเขา “อื้อ!!” 

       “ข้าขอทำพันธสัญญา! บัดนี้...หญิงสาวที่อยู่ตรงหน้าคือนายของข้า!!!” 

       แสงสีดำค่อยๆ กลืนกินความสว่างจนฉันมองไม่เห็นอะไรนอกจากชายหนุ่มที่ฉันเพิ่งจะมอบอิสระให้เขาไปเมื่อกี้ ว่าแต่...เขาพูดถึงอะไรนะ พันธสัญญาอะไรกัน? นี่มันเกิดอะไรขึ้นกับฉันกันแน่เนี้ย?! 

แสดงเพิ่มเติม

รีวิว (0)

เรื่องนี้ยังไม่มีรีวิว