“วัดโคกขี้แรง” ถูกใช้เป็นลานประหารและตัดสินความเจ้านาย คดีลือลั่นในยุคปี พ.ศ. ๒๔๑๐ (สมัยรัชกาลที่ ๔) หนีไม่พ้น “แม่หญิงกะรัต” ภรรยาแต่งของ “อรรคราช” ลูกชายคนเดียวของขุนนางชั้นกลางในวังหลวง รับราชการเป็นตำรวจ กะรัต ลูกสาวเศรษฐีมั่งคั่ง สืบตระกูลจาก “พระยาโชฏึกราชเศรษฐี” (นายทุนที่ได้บรรดาศักดิ์เป็น ขุนนาง จากการค้าขายเก่ง สมัยบ้านเมืองเปิดการค้าเสรี) ตระกูลพ่อค้าและตระกูลข้าราชการอยากเกี่ยวดองกัน อยู่แล้ว อรรคราช และ กะรัต จึงถูกจับคู่หมั้นหมายกันแต่เด็ก วัยเยาว์ทั้งคู่เป็นเพื่อนกัน กะรัตเรียกติดปากว่า “คุณพี่อรรคเลือด” ฉายาเป็นอันรู้เฉพาะกันแค่สองคน! เมื่อเติบใหญ่ อรรคราช ไปบวชเรียนต่างเมือง ส่วนกะรัต ต้องเก็บตัวด้วยเหตุผลบางอย่าง ไม่เคยมีใครได้เห็นหน้า เคยได้ยินแต่เสียงล่ำลือกันว่า แม่หญิงกะรัต สวยงาม กริยาเรียบร้อย ตรงตามหลัก เบญจกัลยาณี ชายๆ ทุกคนในพระนครล้วนอยากยลโฉม
วันแต่งงาน ของแม่หญิงกะรัต และ อรรคราช สร้างความชื่นมื่นให้กับสองตระกูลใหญ่ หลวงอรรคพันธุ์ พ่อของอรรคราช รับราชการในวังมีผู้นับหน้าถือตามากมาย ไม่ต่างกับ “จ่อซัวโชติ” เศรษฐีคหบดีที่เติบโตจากการค้าขายและส่งออกสินค้า อันที่จริง ทั้งหน้าตา ศักดินา ชาติกำเนิด ส่งให้กะรัตไปได้ไกลกว่านั้น หากถวายตัวเป็น บาทบริจาริกา (ถวายงานพระเจ้าแผ่นดิน) หากแต่จ่อซัวโชติ มีลูกสาวคนเดียว เกรงจะไม่มีผู้สืบนามสกุล ถึงได้มองหาชายหนุ่มสามัญที่เหมาะสม มาช่วยต่อตระกูลสืบไป ดวงชะตาช่างตรงกับหลวงอรรคพันธุ์ที่มีลูกชายเพียงคนเดียว ทั้งคู่ทำงานเป็นคู่ค้าสนิทสนมและถูกคอ ลึกลงไปแล้ว ท่านหลวงเป็นคนละโมภ ติดการพนัน มีความอยากได้ในทรัพย์สินของ จ่อซัวโชติ จึงยินดีเป็นอย่างยิ่งที่จะได้กะรัตมาเป็นสะใภ้ ขณะที่จ่อซัวโชติ เป็นนักธุรกิจมองการณ์ไกล เล็งแล้วว่าพี่สาวของหลวงเป็นถึง “เจ้าจอม” อนาคตต้องสนับสนุนหลานชายคนเดียวอย่าง อรรคราช ให้มีตำแหน่งใหญ่เป็นแน่
ความฝันของทั้งสองตระกูล ระหว่าง “ข้าราชการ” และ “คหบดี” ดูจะเป็นจริง เมื่อ อรรคราช ชอบพอกันแต่แรกเห็น ทั้งสองเสมอกันด้วยรูปลักษณ์ ยศศักดิ์ จนได้รับการกล่าวขานสมกันราวกิ่งทองใบหยก งานแต่งงานราบรื่น กระทั่งเข้าหอในคืนวันแรก แขกเหรื่อที่มาแสดงความยินดีกับอรรคราช ชวนดื่มฉลองยกใหญ่ เหตุได้หญิงงามเมืองเพียบพร้อมมาเป็นภรรยา เจ้าบ่าวเมาหนัก ตื่นมารุ่งขึ้นต้องเจอเหตุการณ์ไม่คาดฝัน เพราะแม่หญิงกะรัตหายตัวไป
### 1 ####
Guest
