short fic cookie Run
คุกกี้น้ำตาลหิมะ x คุกกี้ภูตอัคคี
คุกกี้น้ำตาลหิมะเป็นเด็กผู้ชาย ที่.....ขี้เหงา
เจ้าตัวก็ถือว่าหน้าตาดีในระดับหนึ่ง รูปร่างบอบบางอ้อนแอ้นคล้ายเด็กผู้หญิงใบหน้าเรียวเล็กรูปไข่ นัยน์ตาสีขาว ผมสีเนื้อครีมกับผิวพรรณสีขาวเผือก ริมฝีปากบางชวนหลงไหลชอบสวมที่ปิดหูและอยู่กับสโนว์คอนและสโนว์คิงบ่อยๆและด้วยรูปร่าง+นิสัยที่ขี้อาย เลยมักจะถูกคุกกี้รสชีสเค้กจับแต่งหญิงบ่อยๆเหมือนกัน(อีชีสเค้ก.....เมิง)แต่ก็จะมีคนที่มาช่วยอยู่บ่อยครั้งคือ.........
คุกกี้รสภูตอัคคี
การพบกันของทั้งคู่ เริ่มจาก......
.......
..............
วันหนึ่งที่ หุบเขามังกร ตอนที่คุกกี้ภูตอัคคีกำลังเดินเล่นในหุบเขาจู่ๆก็มีการสั่นอย่างรุนแรงแล้วจู่สโนวคิงก็พุ่งออกมาด้วยความที่ตกใจเจ้าตัวเลยใช้พลังแมกมาใส่สโนวคิงจนละลายหายไปแล้วร่างก็ของมีร่างของคุกกี้ร่วงลงมา...ด้วยความที่ไม่เคยเห็นคุกกี้ตัวอื่นที่นี่เจ้าตัวเลยเข้าไปดูก็พบ......................
ร่างของคุกกี้หิมะที่มีรอยฟกช้ำเล็กน้อย ร่างบางค่อยๆลุกขึ้นก่อนที่จะล้มลงไป คุกกี้ภูตอัคคีเลยตัดสินใจอุ้มร่างบางแล้วพากลับไปที่โลกแคนดี้แล้วจึงกลับมาที่หุบเขาของตัวเอง แต่ เขา ไม่สามารถลืมใบหน้าหวานๆนั้นได้เลย.........จนเวลาผ่านไปเขาก็รู้สึกว่า.......
เขาชอบเด็กคนนั้น
เขาต้องการเด็กคนนั้น
เขา......ไม่อยากเสียเด็กคนนั้นไป
เขา....อยากให้เด็กคนนั้นเป็นของเขาตลอดไป...
วันนี้เขาเลยตัดสินใจว่า.......จะทำให้เด็กคนนั้นอยู่กับเขาตลอดไป
เขาเลยออกจากหุบเขาแล้วมาดักหาเด็กคนนั้นที่เมืองหิมะแล้วเขาก็เจอเด็กคนนั้น...........
หึ....
นายเสร็จแน่ๆ.....
ผมเลยเดินไปหาเด็กคนนั้นแล้วใช้มนต์ที่แอบไปเรียนมาจากคัมภีร์ของพ่อมดเด็กคนนั้นเลยสลบลงไปภายใต้อ้อมแขนของผม.....
หึๆ............
รับรองว่านายได้มีความสุขแน่ๆ........
ร่างของคุกกี้น้ำตาลหิมะค่อยๆฟื้นขึ้นมาในห้องๆหนึ่งที่อุญหภูมิอุ่นๆพอประมาณแล้วตรงปลายเตียงก็มีร่างเปลือยเปล่าของคุกกี้ภูตอัคคีนั่งอยู่ แต่พอหันกลับมามองตัวเองก็พบว่าร่างของตัวเองก็เปลือยเปล่าเหมือนกัน.........
นะ...นี่คุณภูตอัคคี ปล่อยผมไปเถอะฮะ
ริมฝีปากบางสั่นระริก รับรู้ได้ถึงฟันที่ขบสั่นในปากจากความตื่นตระหนกที่แล่นพล่านไปทั่วร่าง แสงของลาวาที่ลอดผ่านทาบทับบนเงาข้างใบหน้าคมเข้มที่หันมามองด้วยสายตาที่เจ้าเล่ห์
...แล้วไง?
ร่างสูงถาม แต่กลับไม่รอคำตอบ แม้มือน้อยจะผลักไสสุดแรง แต่ร่างสูงก็โน้มลงมาทาบทับ ปลายจมูกคลอเคลียไปกับลำคอขาวเนียน กดจูบหนักๆ ลงบนชีพจรที่กำลังสั่นระริกไม่สนใจเสียงสะอื้นที่เริ่มครวญในลำคอของคนอายุน้อยกว่า ลิ้นร้อนไล่เลียขึ้นไปแตะบนแก้มนิ่มที่หยดน้ำตาเริ่มกลิ้งไหลลงมา
มือใหญ่ลูบศีรษะของเด็กที่กำลังร้องไห้ไม่คิดชีวิตราวกับจะปลอบโยน ปลายนิ้วสางเส้นผมสีครีมเข้มสวยแผ่วเบา ก่อนเรียวปากหนาจะแตะลงบนหน้าผาดลาดเนียน
กลัวเหรอ? เอ่ยถามด้วยน้ำเสียงที่เหมือนกับจะอ่อนลง ใบหน้าคมละห่างมาเล็กน้อย ก่อนใช้นิ้วเกลี่ยหยดน้ำตาที่คลอเต็มหน่วยตากลมใส คุกกี้น้ำตาลหิมะพยักหน้าหงึกหงัก แต่ยังติดสะอื้นในลำคอ
มือใหญ่แตะลงข้างแก้มนิ่มที่ชื้นรอยน้ำใส ก่อนประคองขึ้นมาใกล้ จนลมหายใจอุ่นผะผ่าวรินรดบนนผิวหน้านวล
แต่ชั้นจะไม่หยุด… แล้วก็จะไม่ปล่อยนายไปไหนอีกแล้ว
ดวงตาสีขาวเงินเบิกกว้างอย่างตกตะลึง ริมฝีปากเตรียมจะส่งเสียงกรีดร้องขอให้คนช่วยแม้รู้ว่าไร้หวัง ถึงจะมีคนได้ยิน แต่ใครในที่แห่งนี้จะหาญกล้าพอจะขวางคนตรงหน้า
และคุกกี้ภูตอัคคีก็ไม่เปิดโอกาสให้อีกฝ่ายได้ต่อต้านด้วย ริมฝีปากหนาฉกวูบลงมา.. บดเบียดกับเรียวปากเล็กน้อยของเด็กหนุ่ม
เสียงอู้อี้ครางประท้วง พอๆ กับลิ้นน้อยๆ อ่อนเดียงสาที่พยายามดุนดันขับไล่ และมือที่ไม่หยุดผลักไส แต่กำลังและเรี่ยวแรงอันน้อยนิดนั่นไม่ส่งผลกระทบอะไรเลย
ชายหนุ่มไม่แม้กระทั่งเสียเวลาไปรวบจับมือที่ต่อต้านนั่นด้วยซ้ำ ขณะที่ไล่ต้อนในโพรงปากนุ่มนิ่มของเด็กน้อย มือสากก็เลื่อนไล้ไปตามร่างกายอันบอบบางของเด็กหนุ่ม
อ๊ะ… หลุดเสียงครางออกมาได้แค่คำเดียว มือที่ปัดป้องอีกฝ่ายก็ต้องยกขึ้นมาปิดกลั้นเสียงตัวเองไว้ เรียวปากที่คุกคามช่วงชิงลมหายใจถอดถอนให้กอบโกยโอกาสได้เพียงครู่เดียว ก็ย้ายลงไปบนลาดไหล่เปล่าเปลือยที่ถูกดึงรั้งร่นลงมา ฟันคมขบหัวไหล่เล็กเบาพอให้สะดุ้ง
หากสิ่งที่ทำให้วาบไหวที่สุดไม่ใช่ริมฝีปากนั่น… แต่เป็นปลายนิ้วหยาบสากที่แตะลงบนหน้าอกเล็ก… สัมผัสของมันระอุร้อนอย่างประหลาด และยิ่งเพิ่มพูนความร้อนมากขึ้นไปอีก เมื่อปลายนิ้วนั่นเคล้นคลึงบนยอดอกเล็กสีแดงอ่อนราวกับทับทิมเม็ดน้อย
ร่างกายอ่อนเยาว์…ไร้เดียงสาเกินกว่าจะรู้จักกันอดกลั้น มันแข็งตึงขึ้นตามที่ผู้มีประสบการณ์มากกว่านำพา
เสียงสะอื้นหายไปแทนที่ด้วยเสียงครางเครือ ความรู้สึกร้อนวูบวาบประหลาดเต้นระริกไปทั่วร่างกายสาว อึดอัดกับความรู้สึกไม่คุ้นชินที่ก่อตัวในร่าง
มันไม่ใช่ความเจ็บปวด…. แต่เป็นอะไรที่น้ำตาลหิมะไม่เคยรู้จักมาก่อน
….ม่ะ… ไม่เอา….
จากที่กลัวอีกฝ่าย คราวนี้คุกกี้น้ำตาลหิมะเริ่มกลัวตัวเองมากกว่า เขาเป็นอะไรไป…. ร้อน… ร่างกายมันร้อน…
ราวกับสองมือและริมฝีปากที่แตะต้องลงบนผิวกายส่งผ่านความร้อนจากร่างสูงมาให้
อย่า…หยุดที รู้สึกสับสนจนน้ำตาเอ่อ ได้แต่หอบหายใจเสียงพร่า หากสิ่งที่ตอบแทนกลับเป็นใบหน้าคมที่เลื่อนลงมาใกล้ คางสากถูไถกับลำคอ ก่อนจะเลื่อนขึ้นมาประกบจูบแนบแน่นบนเรียวปากเล็กบาง กลืนกินถ้อยคำห้ามปราม
เสียงของเหลวและผิวเนื้ออ่อนชื้นแฉะที่บดเบียดกันและกันเหมือนดังก้องอยู่ในหัว คุกกี้น้ำตาหิมะยิ่งหลับตาแน่น ไม่สนว่าน้ำตาหรือจะอะไรที่หล่นร่วงจากดวงตาตัวเอง เขาไม่อยากรับรู้อีกแล้ว แต่กลับต้องสะท้านเฮือก ยามที่ฝ่ามือใหญ่แนบลงบนหน้าท้องแบนราบ ทั้งที่ยังริมฝีปากยังคงคลอเคลียพัวพันไม่ห่าง มือหนาค่อยๆ เลื่อนลงต่ำไปถึงสะโพกเล็ก
นิ้วเรียวยาวที่สอดแทรกเบิกทางเข้าไปในร่องเร้นน้อยที่เผยออ้าจากการรุกเร้านั้น เคลื่อนตัวอย่างระมัดระวัง
บนเนินเนื้อนั่นสัมผัสที่ก่อนนั้นไร้ไรขนบางเบา มีเพียงนวลเนื้อเปล่าเปลือย เพราะยังเด็กมากเหลือเกิน ซ้ำขนาดตัวเขากับเด็กเบื้องล่างผิดกันลิบลับ
ลำพังแค่มือเดียวก็โอบอุ้มหรือหิ้วได้แล้ว ยิ่งพอได้ทาบทับแนบชิดยิ่งตระหนักได้ว่า
เด็ก…..ช่างเปราะบาง
ราวกับเรือนแก้วที่ดูทรงพลังแข็งแกร่งยามมองจากไกลๆ หากเมื่อจับต้องแรงเกินไปก็จะแตกสลายคามือ
ลมหายใจกระตุกเป็นช่วงๆ ร่างกายสะท้านไหวเป็นระยะ ยามส่งผ่านปลายนิ้วเข้าไปให้ลึกล้ำกว่าเดิมเพื่อเตรียมพร้อม ต่อให้อยากครอบครองเป็นเจ้าของ แต่ร่างสูงก็ไม่อยากให้เด็กตรงหน้าเจ็บจนฝังใจ นับต่อแต่นี้จะเกลียดจนไม่อยากมองหน้า และถ้าเพิ่มความกลัวเข้าไปอีก
เขาคง….
แต่…
แค่คิดว่าดวงตาคู่นี้.. ที่เคยมองมาจะเกลียดกัน
“ฮ๊ะ…ฮ๊า….”
คุกกี้น้ำตาลหินะหยุดสะอื้นแล้วแต่ยังเกร็งจนเขารู้สึกได้ ใบหน้าแดงก่ำ ริมฝีปากเม้มแน่นแต่ไม่อาจเก็บซ่อนเสียงครางปริ่มจะขาดใจไว้ได้ เพียงแค่เริ่มต้น…. นิ้วที่เคล้นคลึงวนในช่องทางที่ตอดรัดแน่น มันเล็กแคบ… ถึงจะมีหยดหยาดจากห้วงอารมณ์ที่ถูกบังคับปลุกเร้าค่อยหล่อลื่นจนมันช่ำเยิ้มไปจนโคนนิ้วก็ตาม แต่ขนาดของมันเทียบไม่ได้กับความต้องการที่ตื่นตัวขึ้นของเขาแม้แต่น้อย
อย่าเกร็ง…
ร่างสูงกล่าว พลางช้อนร่างเล็กขึ้นนั่งบนตัก มือลูบแผ่นหลังบาง ประคองให้อยู่ในท่านั่งดีๆ แล้วจัดแจงให้สองมือที่อ่อนแรงนั่นวางบนบ่าตัวเองเพื่อพยุงกายไว้
อ๊ะ…เจ็บ… ผม..เจ็บ แค่ส่วนปลายที่เริ่มแตะเบิกทางเข้าไป เด็กหนุ่มก็สะดุ้งไหวอย่างแรง น้ำตากลับรื้นขึ้นคลอดวงตาคู่โตอีกครา
ผ่อนลมหายใจ…. ช้าๆ… ช้าๆ… ถ้าเกร็งจะยิ่งเจ็บ
คุกกี้ภูตอัคคีปลอบ เรียวปากหนาจุมพิตบนหน้าผากเนียนชื้นเหงื่อมือที่วางบนบ่าสั่นระริกและจิกแน่นจนขึ้นข้อขาว แต่ความแข็งขึงร้อนผ่าวก็ยังถูกดุนดันเข้ามาทีละนิด
อึ่ก… ไม่ไหว…. ไม่…ไม่ไหวหรอกฮะ เด็กน้อยเจ็บร้าวเหมือนกับร่างกายถูกแยกออกเป็นสองส่วน รู้สึกได้ถึงบางอย่างในตัวกำลังฉีกขาด แต่ร่างสูงเองก็อดทนเหมือนกัน ตอนนี้เขาเข้าไปได้เพียงครึ่งทาง แต่เบื้องล่างของเด็กหนุ่มตอดรัดเขาจนแทบคลั่ง ภายในนั้นมันนุ่มอุ่นบีบรัดจนแทบจะละลาย
มือใหญ่รั้งสะโพกเล็กของร่างที่คร่อมทับอยู่ให้ลดต่ำลง อาศัยแรงจากร่างกายของเจ้าตัวเอง ฝืนบังคับให้รับเข้าแก่นกายของตนเข้าไป
เล็บคมจิกลงไปบนบ่ากว้างจนได้เลือด พอกับฟันคมขาวที่จบลงมาตามกัน คุกกี้น้ำตาลหิมะไม่ยอมร้อง แต่เลือกที่จะปิดกลั้นเสียงไว้ด้วยวิธีนี้ ในการสะกดความเจ็บปวดที่แล่นริ้วขึ้นไปตามเรือนกายที่ถูกชำแรกแทรกเข้าไป
อึ่ก…
เจ็บจนน้ำตาซึม รู้สึกได้ถึงริมฝีปากสากที่ไล่จูบปลอบบนหัวตา ทำได้แค่นั่งนิ่งๆ ให้อีกฝ่ายทำตามใจชอบ ถึงจะเข้ามาได้หมดแล้ว แต่ก็ทำเพียงรั้งใบหน้าจากบ่ามาจูบเบาๆ แล้วมากอดไว้หลวมๆ ลมหายใจที่ระรดลงมาร้อนผะผ่าวราวกับไอของเปลวเพลิง ห่างเพียงคืบ เด็กหนุ่มเห็นได้ชัดเจนถึงหยาดเหงื่อที่ไหลรินลงมาตามขมับ
อดทน….แล้วก็อดกลั้น
แต่ถึงอย่างนั้น…เด็กหนุ่มก็ยังรับรู้ได้ถึงหยดเลือดที่รินไหลจากเบื้องล่างของตัวเองอยู่ดี ถึงจะพยายามข่มอารมณ์ไว้ไม่ให้ทำรุนแรงเกินควร แต่ขนาดร่างกายที่ต่างกันเกินไป ก็ยังสร้างความบาดเจ็บให้เขาอยู่ดี
อย่าขยับ…อยู่นิ่งๆ
ร่างของคุกกี้ภูตอัคคีขบฟันกรอดเอ่ยด้วยเสียงที่ราวกับเสียงคำราม ร่างสูงกอดร่างบางแน่นกว่าเดิม แล้วฝังจมูกลงไปตามกกหูและซอกคอ พยายามดึงรั้งสติและความต้องการที่ปรารถนาจะแทรกกายดึงดั้นเข้าไปสัมผัสโพรงเนื้อนุ่มอุ่นที่ตอดรัดแน่น แล้วบดขยี้กลืนกินความบริสุทธิ์ไร้เดียงสาให้สมใจ
แต่ถ้าทำอย่างนั้น…ร่างกายที่เปราะบางนี้ เด็กตรงหน้าคงรับมันไม่ได้ แล้วบอบช้ำ
คะ…คุณ…ภูตอัคคี…ไหวมั้… ยังไม่ทันสิ้นเสียงถาม ริมฝีปากเล็กที่ช้ำจนแดงก่ำก็ถูกประกบจูบอีกครั้ง คราวนี้ไม่ได้ทำเพียงรุกล้ำทีละน้อยและเล็มชิมรสเช่นคราวนี้ แต่เรียวลิ้นหนาพลันดูดดึงไล่ต้อนไปภายในโพรงปากน้อยรุนแรง รวามกับจะเก็บเกี่ยวทุกความหวานภายในดูดสูบกันก็ไม่ปาน
ฝ่ามือที่เคยประคองกอดไว้หลวมๆ ก็เริ่มเลื่อนไล้ไปตามแนวโครงของสันหลัง ปลายนิ้วเหล่านั้นร้อนระอุพาลให้ขนลุกกราว ยิ่งฝ่ามือนั่นไล่ลงต่ำไปเคล้นคลึงบีบสะโพก มันก็ยิ่งรู้สึกแปลกๆ ผนังโพรงเนื้ออ่อนนุ่มตอดรัดแรงด้วยความความรู้สึกวาบไหว ซึ่งคนที่ฝังกายอยู่ในนั้นรับรู้ได้แทบจะในทันที จึงลองขยับกายสวนเข้าไป ร่างเล็กกระตุกสั่น แต่ไม่ได้ครางราวกับจะขาดใจเหมือนก่อนหน้านี้ เป็นเสียงแผ่วหวิวแฝงด้วยความอึดอีดและสุขสม ซ้ำยังผวากอดคอเขาไว้ซะแน่น จนอดไม่ได้ที่จะยกยิ้มเอ็นดู
ไม่ต้องเกร็ง…. หายใจช้าๆ
ภูตอัคคีกล่าว มือค่อยๆ ประคองสะโพกเล็กกดลงมาทีละน้อยอย่างช้าๆ แล้วค่อยเริ่มความเร็วและถี่กระชั้นขั้นทีละนิด ร่างกายสอดประสานไร้ช่องว่าง หูได้ยินเสียงครางต่ำลึก แต่คุกกี้น้ำตาลหิมะเลือกที่จะหลับตา ฝังใบหน้ากับลาดไหล่หนาและกอดอีกฝ่ายไว้แน่น
ความรู้สึกสุดท้ายคือในหัวขาวโพลน รับรู้ได้ถึงของเหลวอุ่นจัดที่หลั่งรินเข้ามาในสุดที่ลึกที่สุดของร่างกายตัวเอง
ดวงตาสีขาวเงินปรือปรอยด้วยความเพลียและเหนื่อยอ่อน ก่อนที่ศีรษะเล็กจะซวนซบลงกับอกของคนที่ตระกองกอดไว้ ก่อนที่ร่างสูงจะพูดออกมาว่า
...ขอโทษ....ชั้นทำให้นายเจ็บสินะ
แต่ร่างบางกลับเอื้อมมือมาลูบใบหน้าคมคายพร้อมกับพูดออกมาว่า......
"ไม่เป็นไรหรอกฮะ.....ผมก็ชอบคุณภูตอัคคีเหมือนกันฮะ......แต่คราวหน้าทำเบาๆหน่อยนะฮะ............"
ก่อนร่างบางจะซบไหล่แล้วหลับลงไป........
นัยน์ตาสีแดงเข้มมองใบหน้าอ่อนเยาว์หลับพริ้มไปอย่างนึกเอ็นดู พลางเอนกายลงกับเตียงกว้าง แล้วหลับใหลไปทั้งที่ยังกอดร่างเล็กไว้ในอ้อมแขน