#CUT
#CUT Hiding Friend MINNO
เจโน่ถูกบีบรัดร่างกายด้วยสองแขนแกร่งของเพื่อนสนิทที่อยู่ตรงหน้า คนตัวเล็กกว่าร้องออกมาด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความเจ็บปวด แรงกอดที่รุนแรงเกินไปจนมันมากกว่าคำว่ากอด แรงบีบรัดที่เกิดจากความโมโหไม่ได้อ่อนโยนเหมือนอย่างที่เคยเป็น
ความกลัวเริ่มก่อตัว และทำให้เจโน่อยากต่อต้านคนตรงหน้า
อยากหนีไปให้ไกลจากอ้อมกอดหนี ทั้งๆที่เขาเคยโหยหากอดนี้มาโดยตลอด
แต่คราวนี้เจโน่กลับอยากหลีกหนีจากอ้อมกอดนี้ อยากหลบหน้าคนที่จ้องมองเขาอยู่
"แจมินปล่อยกู!"
เจโน่ใช้แรงที่เหลือที่มีอยู่ดันอกแกร่งให้ออกจากร่างกายของตัวเอง แต่เพราะพิษไข้ที่ยังมีอยู่ มันยิ่งทำให้เจโน่แรงลดลงเกือบเท่าตัว
แจมินใช้มือทั้งสองข้าง ยกตัวคนตรงหน้าจนลอยขึ้น พร้อมกับโยนร่างบางของเพื่อนสนิทลงไปนอนกับเบาะเตียงนุ่มสีขาว ร่างกายของเจโน่อ่อนแอ และอ่อนล้าเกินกว่าจะมีแรงลุกหนีจากคนตรงหน่้า
แจมินค่อยๆปลดกระดุมเสื้อสีดำของตัวเองออกทีละเม็ด ก่อนจะขึ้นมาคร่อมคนที่นอนหมดแรงอยู่บนฟูกเตียงสีขาวสะอาด ใบหน้าเจโน่ขึ้นสีแดง พร้อมกับน้ำตาที่คลอดวงตาสีใส
แจมินจับแขนทั้งสองข้างของเพื่อนสนิทไว้เพียงมือเดียว ก่อนจะใช้มืออีกข้างหนึ่ง กระชากเสื้อตัวบางของเพื่อนสนิทออกจนไม่เหลือชิ้นดี
เจโน่ดิ้นขัดขืนด้วยความตกใจ แต่ดูเหมือนว่ายิ่งเขาดิ้น แรงแจมินยิ่งเพิ่มขึ้นและแรงของตัวเขาเองกลับลดลง
เจโน่ไม่อยากให้แจมินทำแบบนี้ ไม่อยากเลยแม้แต่นิดเดียว
เจโน่เพียงแค่อยากดูแลเพื่อนสนิทที่อยู่ตรงหน้า ก็แค่นั้น
"แจมินกูขอร้องนะ..."
เสียงขอร้องอ้อนวอนขอเจดน่พร่ำบอกไม่หยุด แต่คนร่างสูงก็ไม่ได้ยิน เพราะในหัวของแจมิน มีเพียงภาพของแฟนสาว ที่ยืนพอดรักกับผู้ชายอีกคนหนึ่ง ที่ไม่ใช่เขา
ความโทสะของคนร่างสูงเริ่มมากขึ้นเรื่อยๆ ร่างสูงจับร่างเล็กพลิกหันตัวก่อนจะจับกางเกงของเพื่อนสนิทแล้วดึงให้ขอบกางเกงร่นลงมาถึงขาอ่อนสีขาวนวลของเพื่อนสนิท มืออีกข้างหนึ่งถูกใช้ในการล็อคแขนของเพื่อนสนิทตัวบางได้เป็นอย่างดี เจโน่อยากดิ้นให้หลุดมากเพียงใด แต่อาการป่วยและไข้ก็ทำให้เขาอ่อนแรงลง
ไม่มีทางหนีเลย
"อ...อ๊....แจ....อ๊ะ!!!"
แจมินใช้นิ้วเรียวยาวสอดแทรกเข้าไปในช่องทางด้านหลังของเพื่อนสนิท ก่อนจะดันเข้าไปอย่างช้าๆ ข้างในร่างกายของเพื่อนสนิทตัวขาวร้อนผาวเพราะพิษไข้ ช่องทางรักของเพื่อนสนิทที่นุ่มนวลและฝืดแน่นทำให้แจมินเริ่มหายใจแรงขึ้นเรื่อยๆ
นี่เป็นครั้งแรกของเจโน่ แจมินรู้ดี
เขาอยากเอ่ยคำขอโทษในหลายๆเรื่อง แจมินรู้ตัวดีทุกอย่าง ว่าเขากำลังทำอะไรอยู่ และคนที่เขากำลังทำร้ายคือใคร
แต่ขอได้ไหม
ขอแค่ได้ระบายบางอย่าง
ถึงจะเจ็บ แต่ขอล่ะ
อดทนอีกหน่อย ได้มั้ย?
"แจ...ฮึก..."
เจโน่เริ่มลดแรงขัดขืนลง เขาไม่มีแรงแม้แต่จะขยับร่างกายเมื่อเพื่อนสนิทของเขาเองเริ่มขยับนิ้วเรียวช้าๆผ่านช่องทางฝืด และเริ่มเร่งจังหวะเร็วขึ้น และแรงขึ้นกว่าเดิม
"ม...ไม่...แจมิ..."
"มึงรักกูมั้ย?"
ร่างสูงเริ่มขยับนิ้วเรียวเข้าออกเร็วและแรงขึ้น ก่อนจะค่อยๆสอดนิ้วที่สองเข้าไปโดยที่ร่างเล็กของเพื่อนสนิทไม่ทันได้ตั้งตัว
เจโน่ซุกหน้าเข้าไปในหมอนใบใหญ่ ที่แจมินใช้หนุนนอนทุกคืน
กลิ่นเพื่อนสนิท ที่แอบรักมาตลอด....
แจมินเขยิบร่างตัวเอง เบียดเข้ามาแนบชิดแผ่นหลังเนียนของเพื่อนสนิท ก่อนจะหายใจรดข้างหูเพื่อนสนิทตัวเองเร็วและแรงขึ้นเรื่อย เสียงหัวใจของร่างสูงเต้นแรงขึ้นตามจังหวะขยับนิ้วของเขา ดังก้องผ่านแผ่นหลังของเพื่อนสนิทที่นอนร้องไห้อยู่เบื้องล่างเขา
"มึงรักกูมั้ยเจน?"
แจมินยังคงถามซ้ำๆ และยังคงขยับนิ้วแรงขึ้นเรื่อยๆ เจโน่ขบเม้มริมฝีปากกระจับแน่น อั้นเสียงร้องที่ตัวเองไม่อยากปล่อยออกมา มันทรมาน แต่ก็ขัดขืนไม่ได้
"เจน"
เสียงลมหายใจที่รดใบหูเจโน่ ทำให้หัวใจของเขาเต้นผิดจังหวะิีกครั้ง ใบหน้าร้อนผ่าว และร่างกายที่อุณหภูมิสูงขึ้นเรื่อยๆ ทำให้เจโน่เริ่มมองหลายๆอย่างเลือนลางไป
แจมินยังคงเรียนร่างบางซ้ำๆ และขยับนิ้วเรียวทั้งสองนิ้วเรื่อยๆ
"รัก...."
"....."
"กูรักมึงแจมิน"
สิ้นเสียงคำบอกรักจากคนที่นอนตัวร้อนผ่าวเบื้องล่าง ก็สิ้นขีดจำกัดความอดทนของร่างสูงเมื่อนั้น
แจมินไม่สามารถกักกั้นความคับแน่นที่อยู่ภายใต้กางเกงของเขาได้อีกต่อไป
"อ...อ๊า!!!"
แจมินสอดแก่นกายใหญ่ของตัวเองเข้าไปในข่องทางรักของเพื่อนสนิทตัวเอง แต่ไม่ได้อ่อนโยนเหมือนครั้งที่เขาสอดนิ้วเรียวยาวของเขาเข้าไป
เขาสอดใส่มันเข้าไปทีเดียว โดยไม่ออมแรงให้เพื่อนสนิทเลยสักนิด
ช่องทางรักของเจโน่มีเลือดสีแดงสดออกมา ความคับแน่นที่มากเกินกว่าจะทำให้แจมินขยับตัวได้ เขาจึงได้ปล่อยมันทิ้งค้างไว้อยู่แบบนั้น
เขาแช่มันไว้ และไม่ขยับร่างกายใดๆ
"จ...เจ็...."
แจมินพลิกร่างของเพื่อนสนิทให้นอนหงาย เผยให้เห้นยอดอกสีชมพูระเรื่อ เพื่อนสนิทของเขา ผิวสวยเกินกว่าจะถูกทำลาย
แต่ในคืนนี้ ร่างบางที่นอนจ้องมาที่ดวงตาของเขา ร้องขออ้อนวอนให้เขาหยุด
ถูกทำลายด้วยน้ำมือของนาแจมินเสียเอง
นาแจมินคนที่ทะนุถนอมเจโน่มาตลอด ในคืนนี้ เขากลับทำลายมันเองกับมือ
"แจมินกูขอร้อง...ม...ไม่ท..."
"เพื่อกู..."
เจโน่เงียบไป แจมินก้มลงมอบรสจูบให้กับเจโน่อย่างอ่อนโยน ริมฝีปากหนาค่อยๆกดเม้มริมฝีปากของเจโน่ช้าๆ ก่อนจะดูเม้มเพื่อให้ร่างเล็กตรงหน้าผ่อนคลาย
จูบแรกของเจโน่ ก็เป็นของแจมินอีกครั้ง
"เพื่อกู...ได้มั้ย?..."
"...."
"ทนเจ็บอีกนิด เพื่อกูได้มั้ยเจน?"
แจมินจดจ้องเข้าไปที่ดวงตาของเพื่อนสนิทที่สั่นไหว และเต็มไปด้วยหยดน้ำสีใส เจโน่สะอื้นอีกครั้ง เจ็บปวดเหมือนร่างบางกำลังจะแหลกสลาย
แต่เพื่อคนที่เขารัก...
ถึงแม้ร่างกายจะบ่งบอกแทนคำพูดว่าเขาไม่ไหวที่จะรองรับอะไรจากแจมินอีกแล้ว
แต่เพื่อนสนิทที่นอนจมพิษไข้และความเจ็บปวดอย่างเจโน่ กลับพยักหน้าและยกมือกอดรอบคอเพื่อนสนิทที่เขารักที่สุด
ต่อให้เจ็บแค่ไหน ก็ย่อมทนได้
ต่อให้ทรมานแค่ไหน เขาก็ยอม
หากมันเป็นสิ่งที่คนที่เขารักที่สุดต้องการ เขาก็พร้อมจะรับมัน
แจมินขยับร่างกายเข้าออกมาผ่านความฝืดเคืองของช่องทางรักจากคนตรงหน้า แจมินก้มลงกอดเพื่อนสนิทที่นอนร้องไห้สะอึกสะอื้นอยู่เบื้องล่างเขา ใบหน้าที่ชุ่มไปด้วยหยดน้ำตา แนบชิดติดกับบ่ากว้างของร่างสูง
ยามร่างกายของเพื่อนสนิทขยับเข้าออก มันเจ็บปวดเกินกว่าจะรับไหว เจโน่รู้ดี ว่าที่แจมินทำไป ไม่ใช่เพราะความรัก
แต่มันเป็นเพียงเพราะอารมณ์ และแจมินเพียงแค่ต้องการสิ่งระบาย
รู้อยู่แก่ใจ ว่าที่ทำอยู่ในตอนนี้คืออะไร แต่เจโน่กลับไม่ขัดขืนและยอมรับมันไว้ด้วยความเต็มใจ
สิ่งที่เจ็บ ไม่ใช่ช่องทางรักที่เริ่มฉีกขาด และมีเลือดซึมออกมาน้อยๆ แต่เป็นหัวใจดวงนี้ของเจโน่มากกว่า ที่บีบรัดแน่นเสียจนเขาเจ็บกลางใจขึ้นมาเสียดื้อๆ
แจมินผละร่างกายออกมาห่างจากเจโน่เพียงไม่กี่คืบ ก่อนจะขยับร่างกายสอบเข้าออกผ่านช่องทางรักของเพื่อนสนิท เร็วและแรงขึ้นเรื่อยๆ
เสียงกระทบกันของผิวหนังยามเมื่อร่างสูงขยับร่างกายกระแทกเข้าออกดังประสานไปพร้อมกับเสียงร้องครางของคนใต้ร่างเขาเป็นจังหวะน่าฟังจนแจมินอยากกระแทกให้ร่างเล็กตรงหน้าเขาร้องโอดครวญดังมากกว่านี้
แต่เขาทำไม่ได้...ไม่รู้ว่าเพราะอะไร แต่เขาทำไม่ลงจริงๆ
ใบหน้าเสเกของร่างบางเมื่อเขากระแทกเข้าไป
ดูก็รู้ว่าเจ็บขนาดไหน ทำไมถึงยังอดทนมากขนาดนี้
ความเจ็บแล่นผ่านหัวใจแจมินทันที เมื่อเขาเกิดคำถามนั้นขึ้นมาในใจ
เจโน่มองเห็นใบหน้าของเพื่อนสนิท ที่ขยับแก่นกายเข้าออกผ่านตัวเขา ความร้อนบนใบหน้าเริ่มเพิ่มอุณหภูมิสูงขึ้นเรื่อย รวมถึงร่างสีขาวบางก็เริ่มเปลี่ยนเป็นสีแดงอ่อนๆ ใบหน้าของแจมินที่มีผมประใบหน้าคมเล็กน้อย เป็นสิ่งเดียวที่เจโน่มองเห็นอยู่
ยามเมื่อร่างสูงกระแทกแก่นกายเข้าออกถี่ยิบ จนเขาหายใจไม่เป็นจังหวะ กลุ่มผมที่บดบังใบหน้าเพื่อนสนิทที่เขาหลงรักมาเกือบสิบปี สั่นไหวไปตามแรงกระแทกเรื่อยๆ
“....เจน”
เจโน่น้ำตาไหลอีกครั้ง
เขาดีใจ ที่แจมินเรียกชื่อของเขา ไม่ใช่ชื่อของคนอื่นที่เขาไม่ต้องการจะได้ยิน
เจโน่หลั่งน้ำตาออกมา เสียงสะอื้นเริ่มดังขึ้นเรื่อยๆ จนแจมินต้องหยุดการเคลื่อนไหวของร่างกาย
ความต้องการของแจมินพุ่งสูงจนเกินกว่าจะหยุดได้ แต่ก็ต้องฝืน เมื่อเห็นว่าเพื่อนสนิทที่ทนรับแรงกระแทกที่รุนแรงของเขาร้องไห้ออกมาจนสะอึกสะอื้น
“เจน...กูขอโทษ”
แจมินเจ็บตรงกลางใจ เป็นความเจ็บที่มากล้นจนอธิบายออกมาเป็นคำพูดและกลั่นออกมาเป็นหยาดน้ำตาไม่ได้
เจ็บ ที่รู้ว่าเพื่อนสนิทแอบหลงรักตัวเองมากมายขนาดนี้ แต่เขาไม่เคย
ไม่เคยแม้แต่จะแยแส ไม่เคยแม้แต่จะหันกลับหลังมามองเพื่อนรักของเขาเลยสักนิด
ทำไมเขาถึงทำกับคนคนนี้ได้มากขนาดนี้กันนะ?
“แจ...ฮึก....มิน...”
เพื่อนสนิทร้องเรียกชื่อคนตรงหน้า มือเล็กทั้งสองยกขึ้นกอดรอบคอแกร่งของเพื่อนสนิท แจมินจ้องมองไปยังใบหน้าของเจโน่ คิ้วทั้งสองของเจโน่ย่นเข้าหากัน น้ำตาหยาดใสไหลรินอาบแก้ม ปากบางกระจับสั่นเทายามเรียกชื่อเขา
เจโน่...
“รัก....นะ....”
แจมินนิ่งเงียบไปแทบจะทันทีหลังจากเพื่อนสนิทบอกรักเขาด้วยน้ำเสียงสั่นเทา
มันเจ็บ จากก้นบึ้งหัวใจของเจโน่
รัก ทั้งๆที่ก็รู้ว่าเขาไม่เคยหันมามองเลย...
“เจน...กู...”
แก่นกายของแจมินถูกช่องทางรักของเจโน่บีบรัดโดยไม่ได้ตั้งใจ ร่างบางตรงหน้าสะอึกสะอื้น ทำให้เขาควบคุมอารมณ์และร่างกายของเขาไม่ได้ แจมินหายใจหอบแรง เพราะอารมณ์ที่ค้างคาและพุ่งสูง แต่เขาก็ต้องอดทน อดทนให้มากๆ
เพราะแค่นี้ เจโน่ก็เจ็บมากพอแล้ว
“ทำ...ต่อเถอะนะ....”
เจโน่จ้องมองไปที่ใบหน้าของแจมิน พร้อมกับลูบใบหน้าคม เลื่อนมือไปตามแก้มของเพื่อนสนิทที่คร่อมร่างเขาไว้อย่างอ่อนโยน มือน้อยๆสั่นเทาเพราะความเจ็บที่ค้างอยู่ที่ช่องทางรักของตัวเอง เจโน่รู้ดี ว่าแจมินทนแทบจะไม่ไหว และต้องการขยับร่างกายกระแทกเข้ามาในตัวเขามากแค่ไหน
ความอ่อนโยนจากมือน้อยๆของเพื่อนสนิท
เสียงหอบหายใจ ที่ทำให้หน้าอกของร่างบางใต้ร่างเคลื่อนขยับขึ้นลงตามแรงหายใจ
มันน่ามอง น่ามองเหลือเกินสำหรับแจมิน
เขามีของดีใกล้ตัวขนาดนี้ ทำไมถึงมองไม่เห็นมันนะ....
“แต่มึงจะ...”
“ไม่เป็นไรนะ....อึก....”
“.....”
“ทำต่อ...นะ...แจม...”
ขีดความอดทนของแจมินขาดสะบั้น
เขาไม่ทนอีกต่อไปแล้ว
เจโน่ของเขา แสนดีเหลือเกิน...
ร่างกายสูงขยับแก่นกายเข้าออกผ่านช่องทางรักอีกครั้ง โดยไม่มีกำแพงความรู้สึกเมื่อก่อนหน้ามากั้นอีกแล้ว
ในเวลานี้ ตอนนี้ มีเพียงแค่เขา กับเจโน่เท่านั้น
แจมินก้มลงมอบจูบให้กับเจโน่อีกครั้ง แต่คราวนี้กลับรุนแรงมากกว่าเดิมหลายเท่า เมื่อร่างสูงโน้มตัวลงมามอบจูบที่แปลกใหม่ มันเต็มไปด้วยความต้องการ และโหยหาความหอมหวานจากเพื่อนสนิท แจมินเบียดลิ้นร้อนเข้าไปแทรกโพรงปากอ่อนนุ่มที่ร้อนผ่าวเพราะพิษไข้
เจโน่หอบหายใจแรงและถี่เสียงจนแจมินอยากกระแทกแก่นกายเข้าออกทั้งคืน
เจโน่เบือนหน้าหวานหลบหนีการจู่โจมที่เริ่มรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ เสียงร้องที่ถูกปิดกั้นไว้ด้วยริมฝีปากรูปกระจับ ขบเม้มเข้าหากันจนขึ้นเป็นสีแดงเหมือนลูกเชอรี่ แจมินใช้มือหนาทั้งสองข้าง จับเอวคอดบางไว้แน่น ก่อนจะกระแทกแก่นเข้าออกด้วยความแรงที่มากกว่าเดิม
แต่ถึงทำอย่างนั้น เจโน่ก็ไม่ร้องออกมากสักที
แจมินต้องการ
ต้องการฟังเสียงร้องของเจโน่ในตอนนี้ที่สุด
“เจโน่อา...”
แจมินใช้มือข้างหนึ่งลูบผมของเพื่อนสนิทที่น้ำตาคลอเบ้า ก่อนจะพรมจูบไปทั่วไรผมที่ชื้นเหงื่อของคนตัวเล็ก เจโน่หอบหายใจสั่น ร่างกายรับแรงกระแทกเข้ามามากเสียจนเสียความสมดุล เจโน่ไม่สามารถควบคุมร่างกายเขาได้อีกต่อไป ทั้งเหนื่อยและอ่อนล้า
“ไหวมั้ย?”
แจมินถามเพื่อนสนิทก่อนจะใช้มือข้างหนึ่งที่ลูบหัวเพื่อนตัวน้อยก่อนหน้านี้ ใช้ประคองใบหน้าหวานและใช้นิ้วโป้งเกลี่ยน้ำตาที่ไหลรินออกมา
เจโน่ก็ยังคงเป็นเจโน่ อยู่วันยันค่ำ
ร่างเล็กพยักหน้าเบาๆ เป็นคำตอบว่าเขายังไหวอยู่ แจมินจูบลงที่หน้าผากชื้นของคนตรงหน้าอีกครั้ง
คนใต้ร่างของเขาช่างน่าเอ็นดูเหลือเกิน
ถึงจะไม่ได้เซ็กซี่ หรือยั่วยวนเหมือนแฟนสาวของเขา
แต่คนตรงหน้า กลับลบภาพที่เขาเจอมาก่อนน้านี้ไปเสียหมด
แทนที่ด้วยภาพของเจโน่ที่เรียกร้องหาชื่อของแจมินอยู่อย่างนั้น
อ่า...
แจมินตกลงไปในหลุมของเจโน่ จนโงหัวไม่ขึ้นแล้วล่ะ
“ร้องออกมาได้มั้ยเจน?”
เจโน่ลืมตากว้างกว่าเดิมเพียงเล็กน้อย จ้องมองไปที่ดวงตาของแจมินที่ไม่มีความโทสะเหลืออยู่ เหลือแต่เพียงความอ่อนโยน ความเอ็นดูที่มีให้เขา
หัวใจดวงน้อยๆของเจโน่กลับมาเต้นแรงอีกครั้ง...แต่แตกต่างจากก่อนหน้านี้ตรงนี้
มันไม่ได้เจ็บปวด อย่างที่มันควรจะเป็น
“อย่าอั้นเสียงได้มั้ย?”
แจมินร้องขอเพื่อนสนิทตรงหน้า ก่อนจะก้มลงแตะริมฝีปากรูปกระจับ กดเม้มริมฝีปากเพียงชั่วครู่ก่อนจะถอนริมฝีปากออกมาพร้อมกับเสียงจุ้บที่ได้ยินเมื่อใดก็ทำให้ใจเต้นได้เมื่อนั้น
แจมินจับแขนเล็กทั้งสองข้างของเจโน่วางบนไหล่กว้างของตัวเอง ก่อนจะใช้แขนทั้งสองข้างของตัวเอง สอดลอดผ่านช่องเข่าของเพื่อนสนิทตรงหน้า
แจมินใช้แขนหนาของเขายกขาของเจโน่กางออกเป็นรูปตัวเอ็ม นั่นทำให้แจมินเข้าไปลึกกว่าเดิม
“อะ...อ๊า!!.....อ๊า!!”
แจมินกระแทกแก่นกายตัวเองเข้าไปลึกกว่าเดิม และเจอจุดอ่อนที่ทำให้เจโน่ขาสั่นจนได้
อยู่ตรงนี้นี่เองนะ...
นิ้วเรียวของเจโน่จิกแผ่นหลังแจมินจนเป็นรอยยาว แจมินเจ็บใช่เล่น แต่มันก็ระบายความเสียวซ่านของเพื่อนสนิทของเขาได้เป็นอย่างดี
แรงกระแทกที่เพิ่มขึ้นเร็วและแรงขึ้น ทำให้เจโน่มือสั่น
จุดกระสั่นที่แจมินกระแทกเข้ามาเรื่อยๆ มันรู้สึกวาบหวิวแปลกๆ จนเจโน่ไม่สามรถควบคุมตัวเองได้อีกต่อไป
แจมินยังคงกระแทกแก่นกายของตัวเองเข้ามาย้ำซ้ำๆ ที่จุดเดิมที่เป็นจุดอ่อนของเจโน่
ใบหน้าหวานของเพื่อนสนิท จ้องมองมาที่ร่างสูง สายตาที่หวานหยด เหมือนต้องการแจมินมากจนขาดไม่ได้
มันช่างน่าหลงใหล น่าหลงใหลเสียจนแจมินหนีไปไหนไม่รอดอีกต่อไปแล้ว
“อ๊ะๆๆๆ!!!”
“แจมิ...อ๊ะ..อ๊า”
“ฮะ...อื้อ!...จ...แจมิน...อ...อ๊า”
แจมินชอบเสียงครางของเจโน่
ชอบที่สุด...
“เจน...”
“แตกในนะ”
แจมินพูดไปเพียงไม่กี่วินาที
ไม่มีเวลาให้เจโน่เผื่อใจเลยแม้สักนิด
ร่างสูงกระแทกแก่นกายเข้าออกลึกๆ เพียงไม่กี่ครั้ง น้ำรักสีขาวขุ่นถูกปลดปล่อย
ภายในร่างกายของเพื่อนสนิทของเขา
แจมินกระตุกร่างกายเพียงเล็กน้อย เจโน่เงียบนิ่งไป นั่นทำให้แจมินฉุดคิดขึ้นได้ ว่าเพื่อนสนิทของเขาอ่อนแรงมากขนาดไหน
แจมินจ้องมองไปที่ใบหน้าหวานที่ย่นคิ้วเล็กน้อย ดวงตาที่ถูกปิดลง พร้อมกับหยดน้ำใสที่ไหลออกมาเพียงเล็กน้อย
เจโน่หลับพักผ่อน เพราะเขาเหนื่อยเกินไป
แจมินค่อยๆถอนแก่นกายของเขาออกมาช้าๆ ใจจริงก็อยากจะอุ้มคนตรงหน้าไปชำระล้างสิ่งที่เขทิ้งค้างไว้ในร่างกายของเพื่อนสนิทอยู่หรอก
แต่เห็นนอนหลับสนิทแบบนี้ เขาก็ไม่อยากปลุกคนตรงหน้ามากเท่าไหร่
เจโน่เหนื่อยเพราะเขามามากแล้ว เจโน่ควรได้พักบ้าง
นั่นคือสิ่งที่แจมินตระหนักได้เมื่อสายไป
นานเท่าไหร่แล้วนะ ที่คนตรงหน้าต้องมาคอยรองรับอารมณ์ที่แจมินต้องเอามาระบายกับคนคนนี้เสมอ
เมื่อไหร่ที่เขาทะเลาะกับแฟนสาวด้วยเรื่องเล็กๆ เจโน่คือคนที่คอยอยู่ข้างกายเขาเสมอ
ไหล่น้อยๆ ของเพื่อนสนิทคนนี้นี่แหละ ที่คอยเป็นที่พักพิงเมื่อเขามีปัญหาต่างๆ
ไม่ว่าจะเรื่องครอบครัว ที่เขาทุกข์ใจ เจโน่เป็นคนเดียวที่อยู่ข้างๆเขาในตอนนั้น
ไม่ว่าจะเรื่องคะแนนที่สอบออกมาไม่ได้อย่างที่หวัง เจโน่เป็นคนเดียวที่คอยให้กำลังใจมาเสมอ
“ทำไมโง่อย่างนี้วะไอ่เหี้ย...”
อดไม่ได้ที่จะสบถออกมา แจมินกอดร่างเหนื่อยล้าของเพื่อนสนิทจากข้างหลัง เหมือนทุกคืนที่เขานอนด้วยกัน ร่างอุ่นๆของเพื่อนสนิทแนบชิดกับตัวเขา แจมินกอดร่างของเพื่อนสนิทแน่น เสียงลมหายใจที่ค่อยๆเบาลง ทำให้แจมินอุ่นใจขึ้น
เจโน่ไม่เป็นอะไรแล้ว
ต่อไปนี้ ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น
ร่างบางที่อยู่ในอ้อมแขนของเขาในตอนนี้
เขาจะดูแลสิ่งที่มีค่าที่สุดในตอนนี้ให้ดีที่สุด เท่าที่เขาจะทำได้
แจมินรู้คำตอบของตัวเอง จนกระทั่งตอนนี้
ถึงแม้ว่ามันจะสายไป แต่ว่า....
“รักนะเจน”