ในยุทธภพมียอดคนผู้เป็นปรจารย์อยู่สี่คน คือ
ปรมจารย์วิชายุทธุ์ เฒ่าเมามายผู้รู้สรรพวิชาการต่อสู้ ไปมาไร้เงา วรยุทธ์ล้ำเลิศอยากคาดเดาได้
ปรมจารย์วิชาเวทย์ เซียนเฒ่าผู้มีเมตตา ที่ใดมีมหันตภัยที่นั้นมีท่านผู้นี้ค่อยช่วยเหลือ แต่แค่ช่วยเหลือเท่านั้น ไม่ทักไม่ทาย ไม่พูดกับใคร
ปรมจารย์วิชาแพทย์ เฒ่าหน้าเลือด รักษาได้ทุกโรค ใครใกล้ตายช่วยให้ฟื้นคืน ขออย่างเดียวเงินถึง ป่วยเป็นอะไรก็หายได้ทั้งนั้น
ปรมจารย์วิชาค่ายกล เฒ่าพิศดาร ขี้หงุดหงิด ขี้โมโหไม่พอใจใครคนนั้นกลับบ้านไม่ได้ เดินวนเวียนอยู่ในค่ายกลเป็นแรมเดือนแรมปี อารมณ์ดี ก็ดีใจหาย อารมณ์ร้ายใครก็เอาไม่อยู่
ตาเฒ่าทั้งสี่เป็นปรมจารย์ที่เหล่าเด็กน้อย เด็กไม่น้อย ทั้งสามัญชน คนชั้นสูงหรือแม้แต่เหล่าเชื้อพระวงศ์ล้วนอยากจะกราบกรานเป็นลูกศิษย์ลูกหา แต่แค่เจอตัวก็อยากแล้ว แม้แต่งานทดสอบพรสวรรค์บางปีก็ไม่ปรากฏตัวให้เหล่าปุถุชนคนธรรมดาได้เห็นแม้เพียงเงา แต่ปีนี้กลับมาครบทั้งสี่คน ผู้คนต่างสงใสสิ่งใดกันดึงผู้ที่เป็นดังตำนานทั้งสี่มารวมกันในปีนี้ หรือว่าผู้มีพรสวรรค์ชั้นเลิศจะถือกำเนิดแล้ว
ข่าวลือทั้งหลายถูกเล่ากันไปปากต่อปาก จนงานทดสอบปีนี้เป็นที่จับตามอง ที่แม้แต่เหล่าเชื้อพระวงศ์ทั้งหลายก็เข้าร่วมงานกันมากมาย อย่างไม่เคยมีปรากฏ
เด็กคนแล้วคนเล่าขึ้นสู่แท่นพิธี เหล่าเชื้อพระวงศ์เด็กก็มีพรสวรรค์ชั้นเลิศโดยเฉพาะองค์รัชทายาทผู้ถือครองถึงสามธาตุ และมีพลังยุทธ์ขั้นกลางแม้ยังเด็ก เหล่าชนชั้นสูงหลายคนก็น่าสนใจทั้งบุตรชายแม่ทัพอุดร และแม่ทัพประจิมที่เป็นผู้ถือครองสองธาตุ พลังยุทธ์ขั้นสูงทั้งคู่ แต่หลังจากนั้นกลับไม่มีเด็กคนใดที่จะมีพรสวรรค์ดังมีทุกคนได้ตั้งความหวังไว้ จนกระทั้งเด็กน้อยหน้าตาน่ารักจิ้มลิ้มผู้หนึ่งเข้ามาในแท่นพิธี ประกายแห่งเวทย์แสดงถึงความมีพรสวรรค์ด้านพลังเวทย์อย่างเข้มข้นทั้งยังมีธาตุแสงที่หาอยาก แต่นั้นก็ยังไม่สามารถดึงดูดเหล่าปรมจารย์ได้ จนเหล่าผู้คนสงสัย หากไม่ใช่เด็กคนนี้แล้วจะเป็นผู้ใด เด็กคนแล้วคนเหล่าผ่านไปแต่เหล่าปรมจารย์ก็ไม่ได้แสดงถ้าทีใดออกมาเลยแม้เพียงนิด จนกระทั้งถึงคราวของเด็กคนสุดท้ายที่ทุกคนต่างรู้จักในนามตัวไร้ค่าผู้ไร้ซึ่งพรสวรรค์ทั้งทางเวทย์และวรยุทธ์ลูกสาวเพียงหนึ่งเดียวของท่านแม่ทัพพิทักษ์แคว้น
เป็นดังที่ทุกคนคาดการณ์ไว้เด็กไร้ค่าก็ยังคงไร้ค่า แท่นวัดพลังไม่สามารถวัดสิ่งใดจากนางได้เลย
แต่ก่อนที่พิธีจะจบลงนั้นกลับมีเด็กขอทานผู้หนึ่งวิ่งเข้ามาแล้วตะโกนก้องว่า "ยังไม่หมดยังเหลือข้าอีกคน" ผู้คนต่างตกใจกับการปรากฏตัวของเด็กหญิงที่ดูสภาพไม่จืดผู้นี้ เป็นที่รู้กันทั่วไปอยู่แล้วว่าพลังนั้นมักจะสืบทอดทางสายเลือด ซึ่งมีอยู่ในเหล่าคนชนชั้นสูง เป็นเรื่องอยากที่คนธรรมดาจะมีพลังวิเศษเหมือนดังแม่หนูธาตุแสงคนนั้น แล้วเด็กที่ดูสกปรกมอซอผู้นี้ก็ไม่มีแววเป็นผู้มีพรสวรรค์เลยแม้แต่น้อย ทุกคนจึงไม่ค่อยสนใจนักแล้วแยกย้ายกันกลับบ้าน เด็กหญิงหาได้สนใจผู้ใด นางเดินตรงไปที่แท่นพิธีแล้ววางมือน้อยลงบนลูกแก้ว เพียงเสี่ยวพริบตาทุกคนก็ได้รู้ว่าเหตุใดเหล่าปรมจารย์จึงได้มากันครบในปีนี้ ผู้มีพรสวรรค์สี่ธาตุได้กำเนิดขึ้นแล้ว
เหล่าผู้คนต่างยินดี และคิดว่าในที่สุดยอดคนก็ได้ถือกำเนิดในแผ่นดินนี้แล้ว อีกไม่นานแคว้นนี้คงจะเจริญด้วยมีกำลังเป็นยอดคนผู้มีถึงสี่ธาตุเวทย์ และเป็นผู้มีพรสวรรค์ในพลังยุทธ์ขั้นสูงเป็นแน่แท้ แต่ใครจะรู้หลังจากการต่อสู้แย่งชิงลูกศิษย์ในครั้งนั้นกลับมีเด็กสองคนได้เข้าเป็นลูกศิษย์ของเหล่าปรมจารย์ หนึ่งคือเด็กหญิงผู้มหัสจรรย์ แต่อีกหนึ่ง กลับเป็นขยะไร้ค่าแห่งแคว้น เสียได้ เวลาเพียงไม่กี่ปี เด็กหญิงตัวน้อยทั้งสองคนเดินทางติดตามอาจารย์ได้รับการอบรมสั่งสอนคนหนึ่งเป็นกุลสตรีที่งดงามทั้งกายใจ เป็นยอดพธูอันดับหนึ่งแห่งเมืองหลวง เป็นลูกสาวเพียงคนเดียวของแม่ทัพพิทักษ์ดินแดน ผู้คลาดแคล้วจากสมรสพระราชทานด้วยฝีมือศิษย์พี่หญิงเพียงหนึ่งเดียวของนาง นางมารเป่ยเยว่
และใช้แล้ว หนึ่งคือยอดพธู อีกหนึ่งคือนางมารผู้ที่มีพรสวรรค์สี่ธาตุผู้นั้น ยอดพธูถูกนางมารลักพาตัวและหายไป พร้อมๆกับการย้ายถิ่นฐานของครอบครัวท่านแม่ทัพเพื่อตามหาลูกสาว หลังจากที่บ้านเมืองสงบสุขรุ่งเรืองแต่แม่ทัพผู้ยิ่งใหญ่กลับต้องเกษียณตัวเองออกไปเป็นเพียงสามัญชน เพื่อตามหาลูกสาว ชาวบ้านผู้เคารพรักบูชาท่านแม่ทัพทั้งแผ่นดินยิ่งคิดยิ่งเคียดแค้นนางมารผู้นั้นเสียจนนางจามไม่หยุด
และข้าก็คือนางมารผู้นั้น ผู้บริสุทธิ์ที่ต้องเสียสละตนเองเพื่อท่านลุงและท่านป้า และน้องสาวบุญธรรมเพียงคนเดียวของข้า ด้วยคุณสมบัติบ้าอำนาจของว่าที่น้องเขย และแผนเสร็จศึกสิ้นเกาทัณฑ์ขององค์ฮ่องเต้ที่ข้ารับรู้แล้วระเหี้ยใจ ด้วยความนิยมที่มีมากเกินไปของท่านลุง แผนลักพาตัวนี้จึงเกิดขึ้น และน้องสาวคนงามของข้าก็ได้ก้าวเข้าสู่ร่มพระศาสนาอย่างเต็มตัวอย่างที่นางวาดหวังไว้แต่ต้น พร้อมทั้งท่านลุงและท่านป้าที่ได้ออกจากชีวิตอันวุ่นวายได้ปลีกวิเวกใช้ชีวิตประสาตายาย อย่างมีความสุข ซึ่งนั้นก็ดี ถ้าไม่ติดว่าพวกตาแก่ แค้กๆ พวกอาจารย์สุดหล่อของข้าร้องจะเอาศิษย์หลานอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน ข้าสาวน้อยผู้แสนบอบบางที่สุดในแผ่นดินจึงต้องออกมาจับ ไม่ใช่ ข้าหมายถึงมาหาสามีที่ดีสักคน ทำลูกสักโหลแล้วแยกย้าย พอมีลูกหูของข้าก็น่าจะโล้งขึ้นมามาก
นั้นจึงเป็นสาเหตุให้ข้าต้องเข้าเมืองหลวง เมืองที่รวบรวมเหล่าชายหน้าตาดีเอาไว้มากมาย ซึ่งสถานที่ที่รวมเหล่าชายงามก็มีอยู่สองที่หลักๆ คือ สถานศึกษา และสอง หอชายงาม ซึ่งตัวเลือกที่สองน่าสนใจมาก ง่าย สะดวก ไม่เรื่องมาก และเป็นงาน ผู้ชายหน้าตาดี ลูกออกมาต้องน่ารักสมใจอาจารย์แน่ๆ แต่ด้วยรู้ถึงสันดาร อะแฮ่มนิสัยอันขี้เกียจของข้าอาจารย์จึงสั่งห้ามไว้ตั้งแต่ต้นแล้ว แต่มีหรือที่เด็กดีอย่างข้าจะเชื่อฟัง แน่นอนข้อนี้อาจารย์ก็รู้เช่นกัน อาจารย์จึงส่งแม่ชีศิษย์น้องผู้น่ารักของข้ามาเทศนาสิบจบ การเทศน์ที่หลับในไม่ได้เช่นนี้ทรมานข้าที่สุด ดังนั้นข้าจึงจำเป็นต้องเข้ามาหาผู้ชายชั้นดีตามมาตรฐานของอาจารย์ในหุบเขามังกร สถานศึกษาชั้นเลิศของเหล่าคนชนชั้นสูง และเชื่อพระวงศ์จากทั่วทุกสารทิศ เฮ่อ เหนื่อยตั้งแต่เท้าสักข้างก็ยังไม่ก้าวเข้าไป ข้ากลับเลยได้หรือไม่ เกิดเป็นนางมารนี้เศร้าจริงๆ
แต่ที่น่าละเหี่ยใจกว่าการที่ข้าจะต้องมานั่งหลับในก็คือ ที่นี้ข้าสร้างศัตรูไว้เป็นกองทัพ เพราะฉะนั้นซิกเนเจอร์หน้ากากหมาน้อยของข้าจึงต้องถอดออก แล้วใช้หน้าสดแทน ซึ่งมันก็จะไม่เป็นอะไรถ้าข้าไม่ได้เกลียดเลือด โดยเฉพาะเลือดกำเดา น่าเบื่อจริง แต่อย่างน้อยก็ยังโชคดีมีโลกนี้มีผ้าปิดผ้า ที่มีมาทำสากเบืออะไรก็ไม่รู้ ปิดยังไงก็เห็นอยู่ดี ก็ยังดีกว่าไม่มีอะไร
และเรื่องราวการใช้ชีวิตกับคนอื่นที่ไม่ใช่อาจารย์ ศิษย์น้อง ท่านลุง ท่านป้า อาเหม่ยผู้ติดตามของศิษย์น้อง ก็ได้เริ่มต้นขึ้น ที่นี้ ข้ารู้สึกได้ว่า
มันจะต้องมันส์หยดแน่ๆ
............................................................
ขอกราบสวัสดี มิตรรักแฟนนิยายทุกท่าน ขอต้อนรับเข้าสู่นิยายเรื่อง นางมารร่ายรัก
ก่อนอื่นขอเตือนเรื่องนี้มีแต่พร้อตในหัวซึ่งเปลี่ยนได้ตามอารมณ์ของไรท์ และความถี่ในการอัพจะขึ้นอยู่กับความว่างและอารมณ์ เพราะฉะนั้นขออภัยไว้ล่วงหน้าถ้ามีการดอง ใครใจบางรับไม่ไหว กรุณาอย่าเข้ามาอ่าน เราไม่อยากทำร้ายจิตใจคุณ ด้วยไหดองเกลืออย่างไม่มีกำหนด หากเว้นว่างนานไป แบบไม่ไหวแล้ว ผู้ใดสนใจอย่างแต่งต่อตามสบาย เพียงโพสต์มาขอเจ๊สักนิด และจะส่งพร้อตที่เหลือให้ แต่ขณะที่เจ๊ยังมีแรง ไม่โดนหามส่งโรงบาลด้วยความหนักของงานราช งานหลวง งานส่วนร่วม งานส่วนตัว งานเพื่อสังคม บลาๆ ไปเสียก่อน ขอสงวนสิทธิ์ให้เป็นของเจ๊แต่เพียงผู้เดียวเท่านั้น ห้ามคัดลอกใดๆทั้งสิ้น สนใจคนโคอยูนะแต่ดูอารมณ์ก่อน สุดท้ายนี้หวังว่าเรื่องนี้จะจบไปด้วยคำว่า จบบริบูรณ์ ไม่ใช่ ดองบริบูรณ์
ขอบคุณค่ะ