‘ถึงพระองค์ที่มองลงมา...ท่านรู้สึกยังไงบ้างหรือที่ผู้รับใช้อันภักดีของท่านได้กระตุ้นบาปราคะให้เกิดขึ้นในใจของข้าพเจ้าเเทนที่จะเป็นความสุขสงบ? ท่านที่เฝ้ามองลงมา ท่านผู้สถิตในใจของเขา ท่านไม่รู้สึกหรือว่าผู้รับใช้ของท่านน่าย่ำยีเพียงใดในยามที่ทั้งห้วงความคิดเเละจิตใจของเขาพร่ำเรียกหาเเต่ท่าน? ’
...ธีโอฟิลัสมองว่าตนเองคือพระเจ้า ภายใต้หน้ากากอันเอื้ออารีของจิตแพทย์ผู้เก่งกาจนั้นมีเนื้อแท้อันสุดแสนจะกระหายเลือดอยู่
เมื่อพบเหยื่อที่ต้องรสนิยม เขาล่อลวง ไล่ล่า เข่นฆ่าและดื่มกินอย่างไม่ปรานี ที่ผ่านมาเขาควบคุมตัวเองได้ดีมาตลอด
เปลือกนอกอันแสนสุภาพอ่อนโยนถูกสวมใส่จนกลายเป็นสัญลักษณ์ประจำตัว
จนกระทั่งพบลูกแกะของพระเจ้าที่มีดวงตาสีเทาหม่นตัวนั้นหน้ากากที่ใส่ไว้เริ่มปริแตก
เขาตัดสินใจทิ้งทุกอย่างที่มีและไล่ล่าเพื่อหวังจะได้เข้าครอบครอง...
ไม่มีลูกแกะตัวไหนที่ถูกธีโอฟิลัสหลงลืม ความหวานล้ำของลูกแกะทุกตัวติดตรึงอยู่ในใจของเขาเสมอ ดวงตา ลิ้น สมอง ริม ฝีปาก เส้นเลือด และผิวหนัง ทุกสัดส่วนของลูกแกะหล่อหลอมให้เขาเป็นพระเจ้าได้อย่างไร้ที่ติ
ทุกวันคืนธีโอฟิลัสเฝ้าเติมเต็มส่วนที่ขาดหาย เฝ้าตามหาความเน่าเฟะที่เปล่งประกายมาประดับไว้ในตัว เขาตามหาและตามหา เมื่อพบชิ้นหนึ่ง เขากลืนกินและค้นหาชิ้นต่อไป ไม่เคยมีลูกแกะผู้เสียสละตัวไหนที่สามารถหยุดเขาเอาไว้ได้ ไม่มี จนกระทั่งเขาได้พบกับลูกแกะตัวนี้ ทันทีที่ได้สบเข้ากับดวงตาสีเทาหม่นคู่นั้น สัญชาตญาณบางอย่างในส่วนลึกก็กรีดร้องอย่างบ้าคลั่ง เขายินดีเป็นล้นพ้น ตื้นตันจนแทบเสียสติ
เป็นคนคนนี้! เป็นคนคนนี้อย่างแน่นอน!
พระเจ้าที่อยู่ในจิตวิญญาณ –ส่วนหนึ่งของเขา-กู่ร้องบอกสมองเขาจนสิ้นเสียง ภายในหัวอื้ออึงไปหมด เสมือนความบิดเบี้ยวทุกอย่างที่อยู่เบื้องลึกถูกกวนจนคลุ้ง ทุกอย่างพร่าเลือน มีเพียงแต่สัญชาตญาณเท่านั้นที่เร่งเร้าให้ไขว่คว้ามา โดยไม่ทันรู้ตัวเขาทิ้งทุกอย่าง ทิ้งเหล่าลูกแกะที่เคยหมายตาไว้ทุกตัวแล้วออกตามล่าลูกแกะตัวนี้อย่างสุดกำลัง!!
ธีโอฟิลัสยิ้ม ลูกแกะที่น่าสงสารตัวนี้เป็นเขาได้ดีเท่ากับที่เขาเป็นลูกแกะตัวนี้ เราทั้งคู่ต่างเกิดมาเพื่อกลืนกินกันและกัน
เราสองคนจะรวมกันเป็นหนึ่ง เป็นดวงอาทิตย์อันงดงาม บาดตาและแสนโสมมไปด้วยกัน
เราจะเปล่งประกายไปด้วยกัน ตราบจนพระเจ้าองค์ใหม่ถือกำเนิดขึ้นมา