คำนำ
มีคนพูดว่า คนเราเลือกที่เกิดไม่ได้ แต่เลือกที่จะเป็นได้
สำหรับฉัน ผู้มีความฝันมากมายมาตั้งแต่เด็กๆ ฝันอยากจะเป็นนักออกแบบเสื้อผ้า อยากทำธุรกิจเกี่ยวกับแฟชั่น อยากเป็นนักเขียน อยากเป็นเจ้าของโรงงานอะไรก็ได้ที่มีคนงานมากๆ และฉันเป็นคนช่างฝันที่ลงมือทำทุกอย่างที่ฝัน ประสบความสำเร็จบ้าง ล้มเหลวบ้าง จะไม่นั่งท้าวคางทำตาลอยฝันเฉยๆโดยไม่ลงทุนลงแรง
แต่ธุรกิจจัดสรรที่ดินสร้างบ้านขายนี้ ไม่เคยกล้าคิด เพราะว่าไกลเกินเอื้อม อยู่ๆก็มีเพื่อนมาทั้งดึงทั้งลากให้ไปร่วมหุ้นจัดสรรที่ดินสวนเกษตรขาย ทั้งๆที่กลัวแทบตาย แต่ก็ผ่านร้อนผ่านหนาวมาจนถึงวันที่สร้างบ้านขาย และสามารถชักจูงลูกค้าให้เชื่อว่า ซื้อลงทุนให้เช่าก็ได้ แล้วจะดูแลให้ตลอดไปจนกว่าจะหมดแรง
เมื่อสร้างบ้านเสร็จ หาลูกค้าให้ได้จริงๆ ฉันก็พบตัวเองอยู่ท่ามกลางคนชาติต่างๆซึ่งหนักไปทางฝรั่ง ในบ้านฉัน บางครั้งก็จะมีเด็กฝรั่งวิ่งเข้ามาเล่นซ่อนแอบ มาขอขนมกิน เวลาทะเลาะกันเองก็ร้องไห้แงมาฟ้องฉัน เป็นที่อัศจรรย์และตื่นตาตื่นใจของเพื่อนฝูงและแขกที่แวะมาเยี่ยม เพราะไม่เคยเห็นบรรยากาศแบบนี้ที่ไหนในประเทศไทย
สิ่งเหล่านี้ ฉันไม่เคยฝัน คนต่างจังหวัดไกลปืนเที่ยงอย่างฉัน รอบๆบ้านมีแต่คนพูดภาษาใต้และภาษามลายู แค่ได้มาเรียนหนังสือในกรุงเทพก็หรูแล้ว ไม่เคยเป็นนักเรียนนอก แต่ต้องมาเป็นหัวหน้าหมู่บ้านที่ดูแลฝรั่ง ต้องพูดภาษาอังกฤษในชีวิตประจำวันทั้งๆที่พูดไม่คล่อง ต้องดูแลเอกสารการเช่าเป็นภาษากฏหมายของภาษาอังกฤษ เป็นกรรมการห้ามทัพเวลาฝรั่งทะเลาะกันเอง เป็นคนกลางเวลาคนเช่าฝรั่งเรียกร้องต่อรองเจ้าของบ้าน ต้องแก้ปัญหาจิปาถะให้ลูกบ้านฝรั่งตั้งแต่เรื่องส่วนตัวจนถึงเรื่องซ่อมแซมทุกอย่างในบ้าน
สิ่งเหล่านี้มาแบบของแถมที่ไม่เคยคาดคิด แรกๆก็งงๆแบบอึดอัด แต่ก็ทำใจได้ เมื่อนึกได้ว่า นี่คือสิ่งที่เราสร้างขึ้นมาเองทั้งหมด นอกจากตัวบ้านที่ช่วยกันออกแบบเอง สระว่ายน้ำ ต้นไม้ สนามเด็กเล่น แล้วยังมีชีวิตต่างๆที่ค่อยๆใส่เข้าไปให้ได้บรรยากาศที่ไม่เหมือนใครแบบนี้ คิดได้ว่ามีคนอีกเป็นล้านคนที่อยากอยู่ในบรรยากาศอย่างนี้ แต่เขาทำไม่ได้เพราะทนไม่ไหวที่จะถูกรบกวนแบบไม่เป็นเวล่ำเวลาอย่างเรา หรืออาจรวยเกินไปจนไม่จำเป็นต้องมีชีวิตแบบนี้ ทุกครั้งที่ถูกรบกวน ฉันก็จะทำใจให้สนุกกับการแก้ปัญหา คิดว่ามีโอกาสสร้างความรู้สึกที่ดีกับฝรั่งเหล่านี้ แล้วยังมีวัตถุดิบเรื่องแปลกๆเพี้ยนๆมาเขียนอีกต่างหาก ใครจะมีโอกาสอย่างเรา
ประวัติผู้เขียน
เกิดที่อำเภอเล็กๆ ชื่ออำเภอมายอ จังหวัดปัตตานี มีพี่น้องทั้งหมดห้าคน ผู้ชายหนึ่งคน ผู้หญิงสี่คน ตัวเองเป็นคนสุดท้อง ครอบครัวค้าขาย เป็นคนกลางรับซื้อยางพารา ตั้งแต่จำความได้จึงเห็นยางทั้งแบบแผ่นและก้อนยางกองอยู่เต็มบ้าน หน้าบ้านก็จะมีช้างบรรทุกยางเต็มกูบมาส่ง ยืนเรียงเต็มหน้าบ้านเป็นประจำ
อายุหกขวบครอบครัวจึงย้ายเข้าอยู่ในตัวจังหวัด มาเริ่มค้าไม้และวัสดุก่อสร้าง
ประวัติการศึกษา
เริ่มเรียนประถมเตรียมจนถึงประถมสี่ที่โรงเรียนจีนชื่อโรงเรียนจ้องฮั้ว บัจจุบันยังพอฟังเข้าใจภาษาจีนกลาง
ประถมห้าถึงประถมเจ็ดที่โรงเรียนวรคามินอนุสรณ์
มัธยมศึกษาปีที่หนึ่งถึงสามที่โรงเรียนสตรีประจำจังหวัด “สตรีเดชะปัตตนยานุกูล”
มัธยมศึกษาปีที่สี่และห้าเป็นนักเรียนประจำที่โรงเรียนเขมะสิริอนุสสรณ์
จบปริญญาตรีคณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชีจากจุฬาลงกรณมหาวิทยาลัย สาขาการจัดการ
มีบุตรสาวสองคน คนแรกชื่อ ชนนิกานต์(หนามเตย) พงศ์ธนากร บรูคส์ เรียนจบ สาขาPolicy Studyมหาวิทยาลัยนันซัน ประเทศญี่ปุ่น สมรสกับ Mr.Keith Brooks มีบุตรสาวสองคน ชื่อ Victoria Mattana Brooks และ Audrey Jean Brooks ปัจจุบันอาศัยอยู่ในประเทศไทย
คนที่สองชื่อ ปาหนัน สโคโพวี เรียนจบปริญญาตรี คณะ Food Science จากวิทยาลัยนานาชาติ มหาวิทยาลัยมหิดล ปริญญาโทภาคภาษาอังกฤษ สาขา Marketing จากคณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี จุฬาลงกรณมหาวิทยาลัย ปริญญาโทสาขาMarketing and innovation จาก London School of Marketing ประเทศอังกฤษ ทำงานด้านคอนซูมเมอร์ โพรดักส์รีเสิร์ชที่ประเทศอังกฤษ สมรสกับ Mr,Ivan Skopovi มีบุตรสาวหนึ่งคน ชื่อ Vivian Skopovi ปัจจุบันอาศัยอยู่ที่ กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ
ประวัติการทำงาน
ได้เข้าสู่ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ตั้งแต่ปี 2532 โดยเริ่มจากการจัดสรรที่ดินสวนเกษตรตามความนิยมของสมัยนั้น และจัดสรรที่ดินเปล่าสำหรับปลูกบ้าน ต่อมา ปี2538ได้เริ่มจัดสรรบ้านพร้อมที่ดินขายบนที่ดินดั้งเดิมที่ซื้อไว้นานแล้ว แต่ต้องหยุดการก่อสร้างในปี2540 เนื่องจากบริษัทเงินทุนที่เป็นเจ้าหนี้ถูกปิดพร้อมกันทั้งประเทศ ต่อมา ปี2544ได้รับการสนับสนุนด้านการเงินจากบริษัทเงินทุนเกียรตินาคิน ให้ดำเนินการก่อสร้างต่อจนเสร็จสิ้นสามารถโอนบ้านให้ลูกค้าได้ครบทุกรายที่ซื้อตั้งแต่เริ่มต้นโครงการ และเนื่องจากมีโรงเรียนนานาชาติมาเปิดใกล้หมู่บ้านหลายโรงเรียน จึงมีความคิดเรื่องหาคนเช่าให้ลูกค้าที่ไม่พร้อมเข้าอยู่เพื่อลดภาระการดูแล จนมีลูกค้าต่างชาติเช่าเต็มทุกหลังที่ฝากให้หาคนเช่า จนเป็นที่ต้องการซื้อบ้านเพื่อลงทุนให้เช่าอีกจากลูกค้ารายเดิมและเพื่อนฝูง จึงทำให้เกิดโครงการที่ 2 3 และ4ซึ่งอยู่ใกล้กับโครงการแรก ทำให้สามารถบริหารการเช่าได้ค่อนข้างมีประสิทธิภาพ
จากการที่ต้องดูแลบ้านเช่าอย่างต่อเนื่องมาเป็นเวลาสิบกว่าปี ทำให้เกิดความชำนาญในการจัดการและดูแลผู้เช่าจนเป็นระบบ และมีเครือข่ายเป็นที่รู้จักของเอเจนท์หาบ้านเช่าทั้งที่เป็นเครือจากต่างประเทศและเอเจนท์ภายในประเทศ แล้วยังให้คำแนะนำการตกแต่งบ้านสำหรับเช่าที่ถูกรสนิยมสำหรับคนชาติต่างๆ ตลอดจนให้ความช่วยเหลือด้านข้อมูลต่างๆที่จำเป็นในการดำรงชีวิตอยู่ในเมืองไทยแก่ผู้เช่าที่เพิ่งย้ายมาจากต่างประเทศใหม่ๆ
เป็นเจ้าของโครงการที่ตั้งใจอยู่ด้วยกันกับลูกบ้าน ชีวิตประจำวันจึงต้องคลุกคลีอยู่กับลูกบ้านทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ จนมีเรื่องมากมายทั้งน่าขบขันและทั้งขันไม่ออกให้เก็บมาเล่า