ลิขิตรักนางพญา
1
ตอน
1.99K
เข้าชม
34
ถูกใจ
1
ความคิดเห็น
27
เพิ่มลงคลัง

ลิขิตรักนางพญา

บทนำ

มู่อี้ผิน

แสงอาทิตย์สาดส่งกระทบระยิบระยับ สะท้อนกับม่านน้ำตกที่ไหลหึความรู้สึกอบอุ่นและเย็นช่ำในคราวเดียวกัน  ภายใต้ม่านน้ำตกสูงชันนั้นกับซ่อนเร้นถ้ำเอาไว้อย่างมิดชิด  ความชื้นจากน้ำตกทำให้ภายในถ้ำเย็นช่ำราวอยู่ในฤดูหนาวตลอดเวลาทั้งที่ยามนี้เป็นฤดูใบไม้ผลิที่แสนอบอุ่น  ร่างบอบบางของหญิงสาวนางหนึ่งนั่งอยู่บนโขดหินใหญ่กลางถ้ำในส่วนที่ลึกที่สุด  แม้ดวงตาจะปิดสนิทหากแต่ใบหน้าคมเรียว  จมูกโด่งเป็นสันและริมฝีปากแดงช่ำราวผลอิงเถานั้นทำให้มิอาจปกปิดความงดงามของนางได้แม้แต่น้อย  เรือนผมยาวสีดำสนิทราวน้ำหมึกแผ่สยายละพื้น ตัดกับชุดสีขาวบริสุทธิ์ที่นางสวมใส่  เบื้องหน้าปรากฏเสือขาวตัวใหญ่ที่นอนหมอบนิ่งหากแต่สายตาดุดันของมันกับจดจ้องที่ปากถ้ำอย่างมิยอมกระพริบตา เสือขาวตัวนี้เดิมทีเป็นเพียงสัตว์ป่าตนหนึ่ง แต่เพราะในทุกฤดูใบไม้ผลิสตรีงดงามผู้นี้มักจะมาบำเพ็ญเพียรที่นี่เพื่อบำเพ็ญเพียรเพิ่มตบะของตน ทำให้สัตว์ป่าที่อยู่โดยรอบต่างมารับเอาไอทิพย์ของนางและร่วมสอดส่องดูแลนางไปด้วย

ดวงตางดงามคมคายมิแพ้ใบหน้าของนางลืมตาขึ้นเมื่อรับรู้ได้ว่ามีผู้มาเยือน ริมฝีปากสีแดงสดยกยิ้มอย่างดีใจ ลุกขึ้นจากที่นั่งของตนย่อกายลงพื้น

“คาราวะท่านปู่”

“ลุกขึ้นเถิด”

ชายชุดสีเทา ใบหน้ามีรอยเหี่ยวย่นบ่งบอกอายุของตนว่าล่วงเลยมานาน เส้นผมและคิ้วเป็นสีขาวเช่นเดียวกับหนวดเครา หากแต่ใบหน้าและแววตาของเขากับแฝงความกังวลอย่างชัดเจน

“ท่านปู่มาหาข้าถึงที่นี่คงมีเรื่องสำคัญมาก”

น้ำเสียงหวานใสราวเสียงพิณเอ่ยถาม ชายชราถอนหายใจยาวจดจ้องใบหน้างดงามของหลานสาวตนก่อนเอ่ยเสียงกังวล

“มู่อี้ผิน หลานรัก เวลานี้ชะตาของเจ้าจะต้องพบกับด่านสวรรค์  เจ้าจะพบกับชายผู้หนึ่งผู้ถือชะตาด้ายแดงของเจ้า”

“แสดงว่าข้ากำลังจะได้แต่งงาน ท่านควรจะยินดีนะเจ้าคะ”

ชายชราส่ายหน้าไปมา ด่านสวรรค์มิใช่เรื่องที่หน้ายินดีสักนิด หลานรักของเขาย่อมต้องพบเจอเรื่องราวอีกมากมายให้ฝ่าฟัน

“แล้วเจ้าจะได้รู้เองว่ามันเป็นเรื่องที่สมควรยินดีหรือไม่  แต่หลานรักจงจำไว้สิ่งหนึ่ง เจ้าจะต้องไม่ลืมเรื่องการบำเพ็ญเพียรเพิ่มตบะเป็นอันขาด”

 

 

บทที่1

เฟยเทียน

ณ ชานเมืองของเมืองหลวง  ที่อุดมไปด้วยความเขียวขจีของทุ่งหญ้า สวนผัก ท้องนา ท้องฟ้ามีสีฟ้าครามสดใส บรรยากาศเย็นสบาย มีสายลมพัดยอดไม้ไหวเอน ทำให้ดอกหญ้าปลิวไสว ช่างเป็นวิมานดินของคนฐานะยากจนเช่นนัก มีครอบครัวฐานะยากจนครอบครัวหนึ่งอาศัยอยู่ "เฟยเทียน"คือชื่อของชายหนุ่มรูปงาม ร่างทะมัดทะแมง ผิวสองสี ใบหน้าคมเข้ม ดวงตาเฉียบคม เขาเป็นคาที่มีสติปัญญาดี เฉลียวฉลาด ตั้งใจศึกษาหาความรู้ต่างๆมาใส่ตัว ชอบอ่านตำราต่างๆ และปีนี้เขาได้ตั้งใจมากเพื่อที่จะเดินทางสู่เมืองหลวงไปสอบจอหงวนให้ได้ ในขณะที่เฟยเทียนกำลังหมกมุ่นอยู่กับการตำรา ได้มีหญิงชราร่างบาง ผิวหนังเหี่ยวย่นไร้ซึ่งความเต่งตึงเฉกเช่นหญิงสาว สีผมขาวหม่นซึ่งถูกรวบไว้อย่างเรียบร้อย มายืนอยู่ตรงหน้าของเขาและจ้องมองเขาอย่างเอ็นดู ชายหนุ่มเงยหน้าขึ้น พร้อมกับพูดว่า

"มีอะไรหรือเปล่าท่านแม่"

"เฟยเทียน"

"ขอรับท่านแม่"

"สัมภาระของเจ้าที่จะต้องใช้เดินทางไปเมืองหลวงในวันพรุ่งนี้ ข้าได้เตรียมไว้ให้เจ้าเรียบร้อยแล้วนะ"  "ขอบพระคุณขอรับท่านแม่ นี่ก็ดึกมากแล้วท่านแม่เข้านอนเถอขอรับ"

"เจ้าก็เช่นกัน พรุ่งนี้ต้องออกเดินทางแต่เช้าตรู่"

"ขอรับท่านแม่ ข้าขออ่านตำราอีกสักหน่อยก่อน"

หลังจากอ่านตำราเสร็จเสียงปิดตำราเบาๆ มีลมพัดเข้ามาเบาๆทางช่องลม ทำให้เขาเคลิ้มหลับไปในที่สุด

ความตั้งใจไปสอบจอหงวนของเฟยเทียน มันคือความฝันสูงสุดของเขามาตั้งแต่เด็กๆ เขาพยายามอ่านตำราไม่ให้ขาดตกบกพร่อง จนสามารถสอบผ่านมาได้ ทำให้แม่ของเขามีความภูมิใจในตัวเขามากสม เขาคิดมาเสมอว่าถ้าเขาได้รับตำแหน่งที่ยิ่งใหญ่นี้จะทำให้เขาและแม่ของเขาได้มีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น แม่ของเขาก็จะไม่ต้องมาทำไร่ทำนาให้เหน็ดเหนื่อยและด้วยตำแหน่งจอหงวนนี้จะทำให้เขามีชื่อเสียง ยศฐาบรรดาศักดิ์ ช่างเป็นการสร้างเกียรติแก่วงศ์ตระกูลยิ่งนัก

เขาสะดุ้งตื่นด้วยสีหน้าที่มีความฉงนยิ่งนัก ภาพในความฝันมันช่างติดตาเหลือเกิน ภาพหญิงงามที่มีใบหน้าเรียวคม จมูกโด่งเป็นสัน ริมฝีปากแดงช่ำ ผมยาวสีดำสลวยยาวละพื้น "หญิงงามผู้เลอโฉมนางนั้นเป็นใครกัน แล้วทำไมข้าถึงฝันเห็นนาง"เขานั่งครุ่นคิดอยู่นาน สักครู่ก็มีเสียงเรียกดังขึ้น

"เฟยเทียน เฟยเทียน นี่ๆๆ แม่เตรียมหม่านโถวไว้ให้เจ้าไว้กินระหว่างทางด้วยนา...เผื่อเจ้าหิวขึ้นมาเมื่อไหร่ก็จะได้เอามันมากินประทังชีวิตได้ เจ้าต้องเดินทางหลายวัน แม่ก็อดเป็นห่วงเจ้าไม่ได้นี่นา..."แม่พูดจบพลางถอนหายใจ"เฮ้อ"ก้มหน้างอตัวลงเหมือนคนหมดแรง

"โธ่....ท่านแม่ข้าไปสอบจอหงวนนะ ข้าไม่ได้จะจากท่านแม่ไปไหน ไม่เท่าไหร่ข้าก็กลับมาหาท่านแม่แล้ว"

"อืมๆ...ยังไงซะแม่ก็ขอให้เจ้าทำความฝันที่ตั้งใจไว้ได้สำเร็จนะ"

"ไม่ต้องห่วงนะท่านแม่ ข้าจะตั้งใจทำให้จงได้"

พูดจบก็ก้มห้วยกมือคาราวะท่านแม่ แล้วก้าวขาออกจากกระท่อมน้อยของเขา ซึ่งในการก้าวขาออกจากบ้านครั้งนี้เขาเลือกก้าวท้าวขวาออกก่อน เพราะนั่นมันคือเคล็ดลับความโชคดีของเขาที่ได้กระทำมาแต่ครั้งยังเล็ก ซึ่งทุกครั้งที่เขาจะต้องออกจากบ้านเพื่อไปทำนา ปลูกผัก เขาจะถือเคล็ดนีเสมอเขาชื่อว่ามัาจะทำให้เขาโชคดี พบเจอแต่สิ่งดีๆ เมื่อเขาเดินไปได้สักพักก็หันกลับมาตะโกนว่า

"ข้าไปก่อนนะท่านแม่ ดูแลตัวเองดีๆ อีกไม่นานข้าจะกลับมา"

"โชคดีนะเฟยเทียน"

ในขณะที่เขาเดินนั่นใจของเฟยเทียนก็ยังคงครุ่นคิดถึงสตรีแสนงามที่ปรากฏอยู่ในความฝันของเขาเมื่อค่ำคืนที่ผ่านมา

ทุ่งหญ้า ป่าเขาเขียว ท้องนาเขียวขจี เสียงน้ำไหลเซาะหินในลำธาร เสียงสายลมพัดพัดทิวไม้ปลายยอดหญ้า เปรียบราวเสียงดนตรีที่กลมกลืนกัน มันช่างเพราะสะกิดในห้วงหัวใจเหลือเกิน เฟยเทียนหลับตาพริ้มเคลิบเคลิ้มไปกับบรรยากาศที่แสนจะทำให้เขามีความสุขและลืมเรื่องราวในความฝันของเขาไปได้ในชั่วขณะหนึ่ง และคิดใจว่า "แล้วข้าจะกลับมา แล้วข้าจะกลับมา ลาก่อนท่านแม่"

บทที่ 2

การเดินทางของเฟยเทียน

เฟยเทียน ชายหนุ่มที่เต็มเปี่ยมไปด้วยพละกำลังชาย ที่หอบเอาความหวังและความฝันออกเดินทางมุ่งหน้าสู่เมืองหลวง เพื่อการสอบจอหงวน เขาจะต้องเดินทางผ่านป่าเขาลำเนาไพร เขาจะต้องฝ่าฝันอุปสรรคต่างๆในป่าเพียงลำพัง

หลังจากที่เฟยเทียนเดินทางออกจากหมู่บ้าน จนตอนนี้ก็ใกล้ค่ำแล้ว เขาพยายามเดินหาที่นอนหลับพักผ่อนจนได้มาเจอโรงเตี๊ยมแห่งหนึ่ง เขานั่งลงอย่างใจเย็นและผ่อนคลาย แล้วเสียงจากเถ้าแก่โรงเตี๊ยมก็ดังขึ้นข้างๆกายเขา "รับอะไรดีครับคุณชาย" "ข้าขอหม่านโถว กับน้ำชาก็พอเถ้าแก่ ว่าแต่ที่นี่พอมีห้องพักให้ข้าได้หลับสบายสักคืนมั้ยท่าน" เฟยเทียนเอ่ยถาม " มีขอรับคุณชาย เดี๋ยวถ้าคุณชายกินอิ่มแล้วข้าจะให้เสี่ยวเอ้อไปพาไปนะขอรับ" เสี่ยวเอ้อ เดี๋ยวถ้าคุณชายท่านนี้กินอิ่มแล้ว ช่วยพาเค้าไปพักผ้อนด้วยนะ" เถ้าแก่ตะโกนสั่งเสียงดัง "ได้ขอรับเถ้าแก่"เสี่ยวเอ้อตอบรับ

เมื่อเฟยเทียนกิ่นอิ่ม เสี่ยวเอ้อก็รีบทำตามคำสั่งจากเถ้าแก่ พาเฟยเทียนไปยังห้องพักทันที "เชิญตามมาทางนี้ครับคุณชาย"ระหว่างเดินตามเสี่ยวเอ้อนั้น เขาเหลียวมองบรรยากาศรอบๆโรงเตี๊ยม เขาพยเห็นแต่ความมืดและเงียบสงัด "ห้องนี้แหละขอรับคุณชาย พักผ่อนให้สบายนะขอรับ ข้าไปล่ะขอรับ"

เมื่อเฟยเทียนเปิดประตูเข้าไป เขาก็พบความสบายกายคิดว่าคืนนี้ข้าต้องหลับสบายแน่ๆ เตียงที่คลุมด้วยผ้างดงาม หมอนที่จัดอย่างเป็นระเบียบ ม่านมุ้งดูสะอาดตา ทำให้รู้สึกผ่อนคลายจากความเมื่อยล้าได้มากเลยที่เดียว เขารีบชำระล้างร่างกายและเปลี่ยนชุดในทันทีทันใด ในขณะที่เฟยเทียนกำลังจะเอนกายลงนอน ภาพหญิงงามผู้เลอโฉมก็กลับเข้ามาในห้วงความคิดเขาอีกครั้ง เขานึกถึงนางผู้น้นอย่างมีความสุข มีรอยยิ้มน้อยๆ จนเคลิ้มหลับไป

แสดงเพิ่มเติม

รีวิว (0)

เรื่องนี้ยังไม่มีรีวิว