นาวาอากาศตรี มารุต เลิศรุจี วัย 33 ปี
ทหารอากาศหนุ่มมาดขรึม โลกส่วนตัวสูง ไม่ชอบให้ใครมาวุ่นวาย ชีวิตนี้มีแต่เรื่องงานเท่านั้น
เนตรอัปสร สิริประภา วัย 18 ปี
สาวมัธยมปลายที่ตั้งตัวเป็นหัวโจกคุมเด็กเกรียนประจำหมู่บ้าน
เธอห้าว แก่นเซี้ยวและไม่เคยกลัวใคร
ใครจะไปคิดว่าเขาจะได้พบกับเธออีก
ยัยเด็กแสบที่กล่าวหาว่าถูกเขากระทำชำเราตั้งแต่วันแรกที่พบกัน
แต่ในวันนี้...เธอกับเขาต้องมาอยู่ร่วมชายคาในสถานะใหม่
คนที่ไม่เคยอยากวุ่นวายกับใคร เลยได้เวลา...เอาคืน...
โปรย...
“เอ่อ...สะ...สวัสดีค่ะ...พี่รุต” เนตรอัปสรยกมือไหว้เขาด้วยท่าทีหวั่นๆ
“สวัสดีครับน้องเนตร...” มารุตยิ้มให้ แต่มันเป็นรอยยิ้มที่ทำให้คนรับขนลุกเกรียวราวกับเห็นรอยยิ้มของมัจจุราชอย่างนั้น
“แม่ฝากรุตพาน้องไปที่ห้องหน่อยะลูก แม่จะไปดูแม่บ้านเตรียมมื้อค่ำก่อน ตามสบายนะจ๊ะหนูเนตร”
“ขอบคุณค่ะป้าเพ็ญ แต่หนูไปที่ห้องเองก็ได้ค่ะ หนู...เกรงใจพี่รุตพี่เค้าอาจจะยุ่งอยู่ก็ได้” เนตรอัปสรหาทางเอาตัวรอด
“ไม่เป็นไรครับ ตอนนี่พี่ว่างพาเราไปได้สบาย มาทางนี้สิครับพี่จะพาไปเอง”
นายทหารหนุ่มไม่พูดเปล่ายังมีน้ำใจช่วยขนกระเป๋าเสื้อผ้าของเธอติดมือขึ้นไปอีกด้วย เนตรอัปสรจึงไม่มีทางเลี่ยงอีก
และเมื่อขึ้นมาถึงห้องแล้ว เทพบุตรในตอนแรกก็เริ่มแปลงร่างเป็นปีศาจร้าย
“ไงจ๊ะเมียจ๋า...คิดถึงผัวถึงขนาดต้องตามมากรุงเทพเลยเหรอ”
เขาคว้าร่างเล็กเข้ามาในอ้อมกอดโดยที่เธอไม่มีโอกาสได้ตั้งตัวด้วยซ้ำ
“ตาลุงลามก! ปล่อยเดีี๋ยวนี้นะ” เด็กสาวดิ้นรนสุดกำลัง เธอว่าแล้วเขาต้องไม่ใช่คนดีแน่ๆ
“เรียกผัวว่าลุงแบบนี้ไม่น่ารักเลยนะทูนหัว มามะเรามารื้อฟื้นความหลังกันหน่อยดีกว่า”
เขาแกล้งพาเธอไปบนเตียง เล่นเอาเนตรอัปสรถึงกับหน้าเหวอ
“อย่า...อย่าทำอะไรบ้าๆ นะ ลุงก็รู้ว่าเราสองคนไม่ได้มีอะไรกันจริงๆ ซะหน่อย ถ้าลุงยังโกรธหนูขอโทษก็ได้ เรา...สงบศึกกันเถอะนะ”
“มันไม่ง่ายไปหน่อยเหรอ เธอทำให้ฉันถูกตราหน้าว่าปล้ำเด็กไม่พอ ยังต้องให้ฉันเสียค่าทำขวัญให้อีก แค่ขอโทษคงไม่พอมั้ง”
เขาไม่พูดเปล่ากลับแกล้งลูบไล้ไปทั่วเอวคอดราวกับพวกโจรโรคจิต
“ละ...แล้ว...ลุงจะเอายังไงล่ะ จะเอาเงินคืนก็ได้นะ หนูจะคืนให้หมดเลย” เธอพยายามต่อรอง
“เงินน่ะฉันมีเยอะแยะ แต่คราวก่อนจ่ายสินสอดโดยไม่ได้เข้าหอ เธอว่าตอนนี้ฉันควรทำยังไงดีล่ะ”