สีคิริยา มนตราแห่งรัก (เรื่องนี้หมดสัญญากับสนพ.แล้ว) จึงเอามารีรันใหม่ค่ะ

รักโรแมนติก

สีคิริยา มนตราแห่งรัก (เรื่องนี้หมดสัญญากับสนพ.แล้ว) จึงเอามารีรันใหม่ค่ะ

สีคิริยา มนตราแห่งรัก (เรื่องนี้หมดสัญญากับสนพ.แล้ว) จึงเอามารีรันใหม่ค่ะ

เบลินญา

รักโรแมนติก

31
ตอน
4.54K
เข้าชม
54
ถูกใจ
14
ความคิดเห็น
12
เพิ่มลงคลัง

 

สีคิริยา มนตราแห่งรัก

เบลินญา

www.mebmarket.com

ณ ดินแดนแห่งความฝันและอารยธรรมรุ่งเรืองยาวนานกว่าหนึ่งพันปีไอรดาละทิ้งทุกอย่างมาที่นี่หวังเติมเต็มความฝันที่ขาดหายทว่าใครเล่าจะคาดว่าภายใต้ซากมหานครเก่าแก่สลักเสลาด้วยภาพนางอัปสรงามวิจิตรจะกลายเป็นจุดเริ่มต้นนำเธอย้อนกลับไปสู่บันทึกประวัติศาสตร์ในช่วงก่อนหน้าที่จะเกิดสงครามแย่งชิงบัลลังก์ชักนำไปสู่การพบกันระหว่างหญิงสาวผู้ข้ามผ่านห้วงอนาคตและหัวหน้าโจรกบฏผู้ไม่เชื่อในบัญชาสวรรค์โชคชะตากำหนดให้ทั้งคู่ร่วมถักทอสายใยความผูกพันที่เคยขาดหายไปไกลถึงสุดเส้นขอบฟ้าพันธนาการหัวใจมิให้พรากจากดุจดังเช่นคำสัญญา‘เราจะอยู่ร่วมกันนิรันดร’'

 

อัปสรสวรรค์ที่งามหยาดเยิ้มชวนฝันอย่างอัศจรรย์นี้มีถิ่นสถิตอยู่ที่เพิงผาสูงชันของพระราชวัง สีคิริยา (Sigiriya) ที่ซุกซ่อนเรื่องราวอันขมขื่นของอดีตกษัตริย์ศรีลังกาพระองค์หนึ่งเอาไว้ บัดนี้เหลือเพียงร่องรอยภาพที่แหว่งวิ่นสึกกร่อน กับซากประวัติศาสตร์ที่ไม่อาจย้อนกลับไปแก้ไข กลายเป็นมรดกโลกชิ้นสำคัญที่ทิ้งหลักฐานบ่งบอกความสามารถอันเหลือเชื่อของมนุษย์ในการนิรมิตภูเขาหินทั้งลูกให้เป็นสรวงสวรรค์ 

ภาพเขียนสีบนปูนเปียก(Fresco) นี้ ซุกซ่อนอยู่สูงลิบ หลงเหลือให้เห็นอยู่ราว 10 ภาพจากร่องรอยเดิมที่เชื่อว่าน่าจะประดับประดาอยู่รายรอบภูเขานับร้อยนับพันภาพ เป็นงานศิลปะอันวิเศษสุดด้วยฝีมือช่างราชสำนักที่เมื่อได้เห็นก็ชวนตื่นตลึงด้วยความงามละเมียดของเส้นสายและความสดใสของสีที่ยังเจิดจรัสอย่างไม่น่าเชื่อว่าภาพเหล่านี้มีอายุกว่า 1,500 ปีแล้ว 

 

สีคิริยา หรือ ภูเขาสิงห์เป็นพระราชวังบนภูเขาสูงชันถึง 80 องศา ตั้งตระหง่านอยู่โดดเดี่ยวบนที่ราบกว้างใหญ่ ซึ่งพระเจ้ากัสปะของศรีลังกา(ครองราชย์ ค.ศ.477-495) โปรดให้สร้างขึ้นเมื่อทรงย้ายราชธานีมาจากอนุราชปุระ ด้วยทรงเห็นว่าภูเขาหินสูงตระหง่านกว่า 200 เมตรแห่งนี้มีลักษณะดั่งป้อมปราการธรรมชาติ เป็นชัยภูมิที่เหมาะแก่การป้องกันภัยคุกคามจากอริราชศัตรูที่สุด 

พระราชวังมีภูเขาหินเป็นศูนย์กลาง รายรอบด้วยอุทยานอันยิ่งใหญ่ตระการตา ทั้งอุทยานน้ำพุ อุทยานหิน อุทยานดอกไม้ลดหลั่นเป็นระดับชั้นลงมาจากยอดจนถึงที่ราบเชิงเขา ซึ่งวางผังไว้อย่างสวย งามเป็นระเบียบ มีระบบชลประทานที่สมบูรณ์แบบกินเนื้อที่หลายร้อยไร่

และภูเขาทั้งลูกถูกสลักให้เป็นรูปสิงโตหมอบ เจาะหน้าผาเป็นบันไดสูงชันสำหรับปีนป่ายขึ้นไปสร้างพระราชวังอยู่บนยอดเขาราวกับวิมานแห่งสมมุติเทพ  ขณะที่เหล่านางสนมกำนัลหลายร้อยนางกระจายกันอยู่รายรอบอุทยาน สรงสนานอยู่ตามสระน้ำและเที่ยวเล่นในสวนดอกไม้เพื่อบำรุงบำเรอกษัตริย์ผู้โปรดการเสวยโลกียสุขเพื่อให้ลืมความรู้สึกผิดบาปในพระทัยที่ได้กระทำอนันตริยกรรมด้วยการปิตุฆาตพระราชบิดา

 

เจ้าชายกัสสะปะ แย่งราชสมบัติจาก เจ้าชายโมคคัลลานะ พระอนุชาซึ่งประสูติแต่อัครมเหสีขณะที่พระองค์ทรงเป็นพระโอรสของ พระเจ้าธาตุเสนะ ที่ประสูติจากหญิงสามัญชน ทรงกระทำปิตุฆาตด้วยการจับพระราชบิดาขังคุกแล้วโบกปูนปิดฝังทั้งเป็น จากนั้นก็ปราบดาภิเษกพระองค์ขึ้นเป็นกษัตริย์พร้อมกับย้ายราชธานีหนีมา ขณะที่เจ้าชายโมคคัลลานะทรงลี้ภัยไปอยู่ที่อินเดีย 

ทั้งอุทยานอันงามวิจิตรและภาพจิตรกรรมอันเพริศแพร้วที่ตกแต่งพระราชวังแห่งนี้ ล้วนสร้างขึ้นเพื่อความเพลิดเพลินเจริญใจและประกาศความยิ่งใหญ่เกรียงไกรในบุญญาบารมีของพระมหากษัตริย์ กระนั้นก็ไม่มีผู้ใดหยั่งรู้ว่าตลอดระยะเวลา 18 ปีที่ทรงครองราชย์สถิตอยู่เหนือผู้คนบนยอดสีคิริยานั้น พระเจ้ากัสสะปะได้เสวยสุขอย่างแท้จริงหรือไม่ ? 

ขอขอบคุณข้อมูลจาก 

http://blog.eduzones.com/pattie/2598 

แสดงเพิ่มเติม

รีวิว (0)

เรื่องนี้ยังไม่มีรีวิว