วิวาห์ราชามังกร (Mpreg)
3
ตอน
11.3K
เข้าชม
160
ถูกใจ
51
ความคิดเห็น
189
เพิ่มลงคลัง

 

“ชีวิตนี้ใครเล่าจะอยากตายแต่หากเป็นลิขิตสวรรค์แล้วใครจะทัดทานได้ ถึงแม้ข้าอยากจะขัดลิขิตสวรรค์เพียงไรก็คงหนีไม่พ้น” น้ำเสียงสั่นเครือเปล่งออกมาอย่างปลงตกกับชีวิต หากแต่เมื่อตรองดูให้ถ้วนถี่ก็จะรับรู้ได้ถึงแววประชดประชันในชะตาชีวิตที่ตนนั้นไม่อาจเลือกทางเดินของชีวิตได้ 

จาง ไป๋หลิง เด็กรับใช้หนุ่มจากตระกูลคหบดีผู้มั่งมีแห่งต้าหลางนั่งร่ำไห้อย่างสุดกลั้น โชคชะตาชีวิตที่ไม่อาจกำหนดเองได้ คอยแต่ให้ผู้อื่นชักนำว่าเห็นควร ชี้ไปทางซ้ายก็ต้องไปซ้าย ชี้ไปทางขวาก็ต้องไปขวา ถูกสอนให้มอบชีวิตแด่ผู้เป็นนาย จงรัก ภักดี ซื่อสัตย์ ถึงแม้ว่าทุกคนในจวนจะรู้ว่าเป็นบุตรชายของ หลวนซาง คหบดีผู้มั่งคั่ง หากแต่กลับไม่ได้รับการยอมรับและเหลียวแลจากบิดาแม้สักเสี้ยวของความเมตตาสงสาร ด้วยเพราะมารดาของไป๋หลิงนั้นเป็นแค่บ่าวรับใช้ในจวน เขาจึงถูกปฏิบัติอย่างบ่าวทาสคนหนึ่งเสมอมา 

และเหตุที่ทำให้เด็กหนุ่มวัยสิบแปดปีต้องมานั่งคร่ำครวญเป็นเพราะตนนั้นถูกร่างทรงทำนายทักว่าไปขโมยสมบัติล้ำค่าจากวังบาดาล สมบัติชิ้นนั้นจะทำให้เจ้าแห่งบาดาลพิโรธและจะส่งภัยพิบัติมายังต้าหลางหากไม่ได้นำไปคืน และการจะคืนสมบัติได้นั้นต้องมีการเซ่นสังเวยผู้ขโมยสมบัติไปด้วย นั่นจึงเป็นเหตุให้ไป๋หลิงถูกกำหนดวันตายเอาไว้ในคืนพระจันทร์เต็มดวง 

ใกล้รุ่งก่อนวันที่จะมีร่างทรงเดินทางมายังจวนคหบดีหลวน ไป๋หลิงได้ฝันถึงสถานที่แปลกประหลาด เป็นหอบูชาแห่งหนึ่งซึ่งประดับไปด้วยอัญมณีแสนวิจิตรสีทองเรืองรองทั้งหลัง ทั้งยังรายล้อมด้วยตะเกียงดวงไฟสีฟ้า บานประตูทองหนาหนักเปิดออกเชื้อเชิญให้คนนอกเข้าไปด้านใน สองเท้าของไป๋หลิงย่ำย่างเข้าไปด้วยหัวใจที่เต้นระส่ำ เมื่อย่างเท้าเข้าไปประตูก็ปิดลงทิ้งให้ผู้บุกรุกยืนเคว้งอยู่ในความมืด ใจดวงน้อยของไป๋หลิงเต้นระรัวด้วยความกลัว แต่แล้วความหวาดกลัวก็ค่อยหายไปเมื่อดวงไฟสีฟ้าเปล่งแสงขึ้น จากหนึ่งดวงเป็นสองดวง สามดวง จนทั้งภายในหอบูชาแห่งนั้นสว่างเผยให้เห็นความวิจิตรงดงามด้วยภาพวาดมังกรกายสีดำพาดอยู่บนกำแพงโอบล้อมรอบผนังภายในทั้งหลัง ตรงกลางมีแท่นทองอร่ามตั้งอยู่สะท้อนแสงแวววาวเชื้อเชิญให้ไป๋หลิงต้องเข้าไปดู ด้วยความอยากรู้สองเท้าจึงขยับย่างเข้าไปดูใกล้ ๆ ก็ปรากฏเป็นลูกแก้วสีนิลแวววาวขนาดประมาณหนึ่งกำปั้นวางอยู่บนเบาะนวมทอง สองมือบางเอื้อมไปยกลูกแก้วขึ้นมาดูใกล้ ๆ พลันสองหูก็ได้ยินเสียงคล้ายมีคนพยายามกระทุ้งเปิดประตู ไป๋หลิงจึงไปหาที่หลบโดยที่อุ้มลูกแก้วไปด้วย แล้วก็สะดุ้งตื่นจากความฝันด้วยหัวใจที่เต้นระส่ำ 

และจากการทำนายของร่างทรงทำให้ชาวเมืองที่งมงายกดดันให้หลวนซางจับตัวไป๋หลิงเอาไว้เพื่อรอทำพิธีบูชายัญ เขาถูกขังไว้ในกรงริมชายหาดเพื่อรอเวลาให้ดวงจันทร์คืนวันเพ็ญตั้งตรงกลางศีรษะ ตากลมบวมช้ำทอดมองชาวเมืองที่มารอสาปส่งตัวกาลกิณีอย่างเขาแน่นขนัด พลางสอดสายตามองหาบิดาบังเกิดเกล้า 

“ข้าช่างโชคดีเหลือเกินที่ได้รู้ทั้งวันเกิดและวันตายของตนเอง” ร่างบางกล่าวกับบ่าวของจวนที่ได้รับหน้าที่ให้มาเฝ้าตน 

“เจ้ามันรนหาที่เอง” บ่าวคนนั้นหัวกลับมาซ้ำเติม 

“ข้ารนหาที่? ข้าทำอะไร ใครต่างก็รู้เห็นว่าข้าอยู่แต่ในจวนแล้วจะเอาเวลาใดไปขโมยสมบัติที่อยู่ถึงวังบาดาล มีแต่พวกคนงมงายอย่างพวกเจ้าเท่านั้นที่หลงเชื่อคำกล่าวของร่างทรง” 

บ่าวรับใช้ได้ฟังก็คิดตามคำพูดของไป๋หลิง เมื่อระลึกได้ว่าเป็นจริงอย่างที่เขาพูดก็รู้สึกผิดแต่กลับทำอะไรไม่ได้จึงทำได้แค่ไว้อาลัยให้กับไป๋หลิง 

“เจ้าช่วยให้คนไปตามท่านหลวนซางมาพบข้าได้หรือไม่” 

“มีเรื่องอะไร” ยังไม่ทันที่บ่าวรับใช้จะไปไหนพลันเสียงของเจ้าของจวนก็ดังขึ้น บ่าวรับใช้เห็นดังนั้นก็ถอยออกมายืนให้ห่างจากกรงขังของไป๋หลิง 

“ท่านเชื่อคำพูดของร่างทรงผู้นั้นจริงหรือขอรับ” 

“ข้าเชื่อ” 

“ท่านเชื่อคำพูดของคนอื่นแต่กลับไม่เชื่อคำพูดของบ่าวผู้ภักดีของท่านเลยหรือขอรับ” 

“คำพูดของเจ้ามีค่าอะไรให้ข้าต้องเชื่อ” 

“ก่อนข้าจะต้องตาย ข้าขอคำนับลาท่านเป็นครั้งสุดท้าย ในฐานะของบ่าวผู้ภักดีของท่านและในฐานะบุตรที่ท่านไม่เคยแยแส ขอให้ท่านอยู่อย่างสุขสบายขอรับนายท่าน” ไป๋หลิงโขกคำนับลงกับพื้นทรายด้วยหัวใจที่แตกสลาย  

“เหอะ” ชายชราสะบัดแขนเสื้อก่อนจะหันหลังให้อย่างไม่ใยดี แม้แต่สักครั้งเขาก็ไม่เคยได้รับเศษของความใยดีจากผู้ที่ได้ชื่อว่าเป็นบิดาผู้บังเกิดเกล้า 

ร่างบางนั่งพิงกรงไม้พลางเงยหน้าทอดมองดวงจันทร์สาดแสงสว่างกลางท้องฟ้ายามราตรี ดวงดารานับพันยังส่องแสงระยับเคียงคู่คลายความยุ่งเหยิงในจิตใจของไป๋หลิงได้บ้าง ดวงจันทร์ยังคงเคลื่อนตามกาลเวลาจนลอยเด่นสว่างตั้งตรงบนศีรษะ ไป๋หลิงหลับตาพลางสูดหายใจเข้าปอดก่อนจะลุกขึ้นยืนเต็มความสูงออกจากที่กุมขังเพื่อให้ผู้คนได้ตรึงติดแพไม้และสาปส่ง 

ร่างทรงพร่ำบริกรรมคาถาเพื่อเริ่มพิธีบูชายัญต่อเจ้าแห่งวังบาดาล เมื่อสิ้นเสียงบริกรรมคาถาแพของไป๋หลิงก็ถูกผลักให้ลอยไกลจากฝั่ง 

“แม้แต่การตายของข้า ข้ายังไม่สามารถเลือกได้เลย” ไป๋หลิงพูดทั้งน้ำตา ก่อนที่คลื่นจะซัดพาแพให้ลอยออกสู่ทะเลกว้าง 

แสดงเพิ่มเติม

รีวิว (0)

เรื่องนี้ยังไม่มีรีวิว