REAWAKEN : FIRE AGE
3
ตอน
998
เข้าชม
29
ถูกใจ
1
ความคิดเห็น
8
เพิ่มลงคลัง

 

 

เรื่องนี้จะออก yaoi นิดหน่อยเพราะตัวเอกของเรา เคยเป็นผู้ชายก่อนมาเป็นผู้หญิง

 

นิยายเรื่องนี้มีสองเรื่อง แต่ทั้งสองเรื่องมีความเชื่อมโยงกันเหมือนจิ๊กซอว์สองชิ้น

 

______________________________________________________________________

 

 

~TRAILER~

 

 

 

“ข้าไม่เข้าใจจริงๆ.. กษัตริย์โซโลมอน ทำไมท่านถึงอยากจะออกไปจากอาณาจักรของท่านนัก? ทำไมท่านถึงเกลียดการเป็นพระราชา?ไม่อยากลองทำอะไรที่มันยิ่งใหญ่กว่านี้บ้างเหรอ”

 

ปีศาจตนแรกที่ถูกอัญเชิญมาถามขึ้นด้วยความอยากรู้อยากเห็น นิสัยของปีศาจคือการยั่วยุ ทำทุกทางเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ตนเองต้องการ แต่ทั้งหมดปัจจัยนี้เกิดจากการที่สามารถมองทะลุจิตใจของมนุษย์ได้อย่างทะลุปรุโปร่ง ไม่ว่าจะอายุมากแค่ไหน อาชีพอะไร พวกปีศาจถึงได้ทะนงตนยิ่งนัก ยิ่งเป็นเขา เทพแห่งปีศาจด้วยแล้ว ของเหล่านั้นย่อมไม่ต้องพูดถึง

 

แต่ทว่าตอนนี้เขากลับรู้สึกหมูกับหมูหมาตัวหนึ่ง... เขาไม่เคยสามารถมองทะลุเข้าไปในหัวใจของเด็กหนุ่มประหลาดคนนี้ได้เลย และถึงแม้อยากจะช่วยเด็กหนุ่มคนนี้จากใจจริง ก็ไม่สามารถทำได้

 

โซโลมอนเพียงยกยิ้มมุมปากขึ้นมาเท่านั้นพร้อมหัวเราะด้วยเสียงใสดังกังวาน

 

เหล่าปีศาจอีกหลายสิบตัวผุดขึ้นมาทันที ทั้งหมดล้วนรายล้อมเด็กหนุ่มเพียงคนเดียวและมองด้วยความใคร่รู้ พวกเขาชื่นชอบเสียงหัวเราะของเด็กหนุ่มคนนี้ยิ่งนัก เพราะมันใสราวกับระฆังแก้ว และถึงแม้จะสาดโคลนชั้นตํ่าแค่ไหน ก็ไม่มีวันแปรเปลี่ยนเป็นอื่นได้ แต่ทุกครั้งที่เด็กหนุ่มคนนี้หัวเราะ นัยน์ตาของเขากลับทอแสงอ่อนลง กลายเป็นดวงตาแห่งความว่างเปล่า เห็นดังนั้นปีศาจเทพตนแรกที่ถูกอัญเชิญมาก็เม้มปากแน่น แต่โซโลมอนกลับพูดแขวะออกมาขำๆแทน

 

“นี่... บอกแล้วใช่ไหมว่าเรียกแค่ชื่อก็พอ ไม่ต้องเต็มยศนักหรอก”

 

เหล่าปีศาจทั้งหลายพอได้ยินเข้าก็สะอึกเบาๆ ด้วยกลัวว่าจะเป็นการเสียมารยาทต่อเจ้านายตัวเองเข้า เลยไม่มีใครกล้าพูดอะไรอีก ได้แต่ดำเนินกิจกรรมของตัวเองต่อไปอย่างเงียบๆ แต่ปีศาจหน้าใหม่ที่เพิ่งถูกอัญเชิญมาช่วยจัดการสร้างเมืองใหม่ของโซโลมอนกลับขมวดคิ้ว ด้วยนิสัยดื้อรั้นเลยเอ่ยถามออกมาด้วยความอดไม่ได้ แต่เขาไม่รู้เลยว่านั่นคือคำถามที่ล้านล้านล้าน... ที่ปีศาจทุกตนได้เคยถามไปแล้ว ปีศาจตนอื่นๆที่อยู่กันมานาน พอได้ยินเข้าก็ทำหน้าระเหี่ยใจไปตามๆกัน

 

“ท่านไม่หวังในสิ่งใดเลยหรือ? ตำแหน่ง ชื่อเสียง เงินทอง? ลาภยศเล่า?”

 

เพราะทุกครั้งที่ถาม โซโลมอนมักจะทำเพียงยิ้มบางๆ ราวกับมันเป็นแค่เครื่องประดับบนใบหน้า เอาห้อยไว้เพื่อกั้นจมูกกับคางเท่านั้น แล้วสุดท้ายก็จะมองออกไปที่หน้าต่างเช่นเดิม

 

โซโลมอนหันไปหาปีศาจตนนั้นช้าๆแล้วถามกลับ “ตำแหน่ง ชื่อเสียง เงินทอง ลาภยศ คิดว่าทั้งหมดนี้ ต้องจ่ายด้วยอะไรถึงจะได้มาครอง?”

 

ปีศาจตนแรกที่ถูกอัญเชิญมาหันขวับไปหาเด็กหนุ่มประหลาดทันที นี่เป็นครั้งแรกที่โซโลมอนมีปฏิกิริยากับคำถามนี้ ปีศาจตนอื่นๆรีบหยุดกิจกรรมของตน หันมามองกันเป็นตาเดียว

 

ปีศาจตนที่ถาม เมื่อเห็นดังนั้นเลยรีบตอบทันที “ของสำคัญ ก็ต้องจ่ายด้วยอะไรที่สำคัญเท่ากันสิขอรับ”

 

โซโลมอนมองดวงตาของปีศาจตนนั้นทะลุไปถึงจิตใจ เขาหัวเราะอีกรอบแล้วพูดขึ้นช้าๆด้วยความอ่อนโยน “สิ่งของเหล่านั้น บางครั้ง การที่จะได้มาอาจจะต้องฆ่าฟัน แย่งชิง เสียสละ ละทิ้ง โป้ปด สิ่งเหล่านั้นจึงล้วนเป็นเพียงขยะที่ข้าไม่ต้องการ”

 

ปีศาจทั้งหลายถึงกับพูดไม่ออก บางตนก็กระซิบกันไปมา บ้างก็ว่าเหมาะสมแล้ว เพราะไม่มีอะไรจะได้มาฟรีๆ บ้างก็ว่าเขาคิดมากเกินไป บ้างก็ว่าเขาโง่งม...

 

“สิ่งเดียวที่ข้าปราถนาคือความสงบสุข... ญาติมิตร สหายที่จริงใจต่อข้าเพียงเท่านั้น”

 

บรรยากาศที่เต็มไปด้วยเสียงกระซิบพูดคุย ตอนนี้กลับเงียบสนิท พวกเขารู้ว่ามันไม่มีทางเป็นไปได้ ยิ่งด้วยตำแหน่งหน้าที่การงานที่ไม่สามารถลาหยุดหรือลาออกได้นอกจากความตาย มากไปกว่านั้น เพราะด้วยความปราถนาที่ดูเรียบง่ายเกินไปจนไม่มีใครคาดคิดมาก่อน ทำให้พวกเขาตื่นตะลึง

 

“สิ่งที่ข้าหวังมันเป็นไปไม่ได้ มันเป็นสิ่งที่ไม่สามารถทำได้ ไม่ว่ากับใคร คนไหนก็ตาม”

 

ใช่... ในชาตินี้น่ะนะ

 

“ข้าไม่เข้าใจเจ้าจริงๆโซโลมอน” ในที่สุดเทพปีศาจตนแรกก็ได้กล่าวระบายความในใจออกมา เขาถอนหายใจดังเฮือก

 

“บัลลังก์ของท่านก็ไม่มีใครสามารถแย่งได้... ท่านไม่มีอะไรต้องกลัว ท่านอยู่บนจุดสูงสุดของทุกสรรพสิ่ง สิ่งใดไม่ชอบก็ทำลายให้มันพินาศเสีย กะไอเพียงญาติมิตร กับคนอื่นๆที่ไม่มีค่าอะไรจะเอามีดมาจ้วงเจ้า จะสนใจไปทำไม?”

 

“แล้วพอขึ้นไปได้ ข้าถามเจ้าหน่อย ขึ้นไปแล้วอยู่อย่างโดดเดี่ยว ปัดพี่น้องท้องเดียวกันที่คิดจะครองบัลลังก์ ฆ่าเพื่อนสนิทที่เห็นหน้าค่าตากันมาตั้งแต่เกิด สุดท้ายแล้วดวงใจของข้า... มันจะอยู่ที่ใด”

 

คราวนี้เทพปีศาจกลับเงียบไป เมื่อไม่รู้จะพูดอะไรต่อไปเลยได้โกหกคำโตออกมา “ข้าเข้าใจท่าน เพราะข้าเองก็เป็นเทพปีศาจองค์หนึ่งเช่นกัน”

 

คราวนี้โซโลมอนเพียงยิ้มบางๆเท่านั้น เพราะเมื่อมองสายตาของเทพปีศาจที่มองมาก็รู้ได้ถึงคำตอบทันที สักพักจึงกล่าวว่า “ถ้าไม่เจอเอง ก็ไม่มีวันเข้าใจ”

 

เทพปีศาจได้แต่มองเด็กหนุ่มที่ไม่สนใจอะไรอีกด้วยความจนใจ โซโลมอนเองก็ทอดสายตามองออกไปนอกหน้าต่าง เสพความสงบสุขที่ตัวเองไม่สามารถครอบครองได้ดังเดิม

 

เทพปีศาจหันหลังให้โซโลมอนก่อนจะเดินออกจากห้องไป

 

 

“ไม่มีใครบนโลกนี้เข้าใจเจ้าหรอก... แม้กระทั่งโลกแห่งปีศาจหรือสวรรค์เอง ก็ไม่มีใครสามาถเข้าใจคนอย่างเจ้าได้”

 

 

พรึ่บ!!!!!

 

หญิงสาวผุดลุกขึ้นหายใจหอบแรง เหงื่อท่วมกาย เธอเสยผมหน้าม้าขึ้นแล้วรีบลุกขึ้นไปล้างหน้าทันที

 

“ฝันอะไรกัน...” 

 

แสดงเพิ่มเติม

รีวิว (0)

เรื่องนี้ยังไม่มีรีวิว