ช่วยคิดหน่อย
0
ตอน
392
เข้าชม
33
ถูกใจ
1
ความคิดเห็น
2
เพิ่มลงคลัง

 

“สุดห่างไกลโหยทิวทัศน์อันสุดจะห่วงหา คิดถึงไอเย็น เบาบาง เมื่อหิมะโปรย  หยุดดึงรั้ง เฝ้าตามหา รอยแห่งทางเดินนั้น ก่อความทรงจำที่เคยเลือนรางขาดไปสับสน วกวน ชะตามันไร้ทางออกแม้ทางนั้น สุดที่ดวงตาจะพบเหลือแค่เพียง ความลังเลคลุมเครือนี้ส่องแสงจางจาง เล็กเกินจะไขว่สุดที่ดวงตา จะมองพบเห็นหากเสียมันไป ฉันคงหวาดหวั่น หมดความหวังไปทำลายจนแตกมลาย ด้วยหัวใจ ความมืดจะพลันโดนขจัด ดับจากเจือจางลับหายขับขานลำนำอ้อนวอนกล่อมจิตหยดน้ำตาจะ หลั่งรินและไหลจากนี้จะยัง ก้าวเดินหยัดอยู่สืบต่อชีวิตไปบนนภาจะแหงนมองแลด้วยดวงตาสีแดงอันพานประสบกับเส้นทางวันพรุ่งนี้เราจะออกเดินไป...”

 

เสียงใสปานกระดิ่งของหญิงสาวคนนึงขับกล่อมบทเพลงเพื่อไว้อาลัยให้แก่ดวงวิญญาณ60000ดวงของวันนี้เธอเป็นเทพแห่งความตายเธอนั้นค่อยดูแลความสมดุลของโลกไม่ให้มีสิ่งใดขาดหรือเกิน ที่จริงเธอก็เป็นเพียงมนุษย์ธรรมดาๆคนนึงแต่เธอได้เจอกับเทพีผู้สร้างโลก เธอบอกว่าอยากให้ฉันที่ไม่มีญาติพี่น้องช่วยดูแลหน้าที่บางอย่างให้เธอหน่อย ฉันตอบตกลงไปเธอบอกว่าหลังจากนี้ฉันจะเป็นเทพชั่วคราวได้ทำหน้าที่รักษาสมดุลของโลก ฉันไม่คัดคานและตกลงจะทำตอนนั้นฉันอายุเพียง7ขวบจึงไม่รู้ว่าสิ่งที่ต้องทำมันทำให้คนเกลียดเจ็บแค้นและรังเกลียดฉันตอนนั้นฉันคิดเพียงว่าฉันได้ทำเพื่อคนทั้งโลกที่ฉันอยู่อาศัยคิดว่าจะมีคนเห็นค่าในตัวฉันบ้างแต่มันไม่ใช้

 

ฉันทำหน้าที่ได้ดีค่อยบอกให้คนไปเก็บวิญญาณคนมาตอนที่มันเยอะจนเกินไปแต่ฉันไม่รู้ว่าด้วยวิทีไหนคนของฉันส่งปีศาจไปบุกหมูบ้าน ทำให้เมืองสองเมืองเกิดส่งครามขึ้น ผู้คนต่างล้มตายกันเป็นจำนวนมากและค่อยสาปแช่งตัวฉัน ยิ่งฉันโตฉันก็ยิ่งรับรู้สิ่งที่ฉันทำแต่ถึงจะรับรู้แต่ก็ไม่อาจทำสิ่งใดได้เพราะทุกคนมีจุดจบที่เหมือนกันนั้นคือความตายหากผู้คนไม่ยอมรับความตายแล้วชีวิตจะมีความหมายได้ยังไงในเมื่อไม่ตายและถึงฉันจะไม่ทำให้มีคนตายเพื่อสมดุลของมนุษย์ พวงเขาจะมีประชากรเพิ่มขึ้นและก็เกิดสงครามกันเองแต่ฉันไม่อาจปล่อยให้เป็นแบบนั้นได้จึงยอมรับคำสาปแช่งและทำให้ตัวเองเป็นสิ่งที่มนุษย์รังเกลียด พวกเขาวาดภาพฉันในร่างโครงกระดูกสาวใต้ผ้าคลุมสีดำปิดหน้าค่อยเก็บเกี่ยววิญญาณคนไปเป็นของบรรพกาลและเรื่องเล่าเกี่ยวกับเธอมากมาย ผู้คนต่างเรียกขานกันในชื่อเงาสีดำแห่งความตาย เพราะไม่เคยมีใครได้เห็นร่างที่แท้จริงของเธอ

 

ฉันเงาสีดำแห่งความตายที่จริงก็เคยมีชื่อแต่กาลเวลา ทำให้ลืมตัวตนในอดีตกาลไป ตอนนี้ก็120ปีแล้วที่ทำหน้าที่นี้ในตอนนี้ดูเหมือนมนุษย์จะทำส่งครามกันแทบจังทุกที่ทุกเวลาเลย ก็ไม่รู้ว่าที่มนุษย์ทำส่งครามเกิดจากอะไรแต่มนุษย์จำนวนเริ่มน้อยลง7ใน10ส่วน

 

“ดูเหมือนเราต้องไปดูซะหน่อยแล้ว”หากว่ายังเป็นแบบนี้ต่อไปต้องแย่แน่ๆต้องรีบจบเรื่องนี้โดยเร็วที่สุด เรือนผมสีดำรัตติกาเงาเป็นประกายดวงตาแดงฉานราวทับทิมริมฝีปากแดงปานเชอรี่หน้าเรียวเล็กคมสาวขนตายาวเป็นแพ

และนี้คือร่างที่มนุษย์เคยบอกว่าเป็นโครงกระดูกนั้นท่าคนเหล่านั้นได้เห็นคงจะไม่กล้าประเมินใครอีก  ร่างบางเข้าไปในเมืองคิดจะหาสาเหตุจากที่ใกล้ๆที่มีส่งครามกันในเมืองค่อนข้างเงียบเหงาผู้คนนั้นดูผอมบางไม่สดใสนอนตามตรอกซอกซอยดูอิดโรยดูแล้วที่เห็นมีเพียงผู้หญิงเท่านั้นเองน่าแปลกจะมีก็มีแทบนับจำนวนได้เลยฉันเข้าไปในร้านอาหารแห่งหนึ่งเข้าไปถามข่าวจากที่นี้หน้าจะดีกว่าฉันถามเกี่ยวกับสาเหตุของคนในแถบนี้ก่อนที่ดูไม่มีชีวิตชีวา คำตอบที่ได้ทำให้ฉันต้องคิดหนักดูเหมือนมันจะแย่กว่าที่คิดเอาไว้อีกตอนนี้ผลของส่งครามทำให้คนไม่มีงานทำไม่มีอาหารเนื่องจากทั้งสองเมืองกำลังทำส่งครามทำให้ภาษีแพงขึ้นและอาหารเริ่มลดลงไม่สามารไปยังเมืองอื่นเพื่อหางานเนื่องจากกำแพงมีทางออกทางเดียวซึงที่นั้นกำลงมีส่งครามอยู่

ฉันถามคนของร้านว่าทำไมถึงทำส่งครามสาเหตุที่ทำส่งครามเกิดจากผู้หญิงคนหนึ่งเธอมีหน้าตาที่งดงามราวกับเทพทีดาทั้งอ่อนโยนฉลาดมีความสามารสูงพระราชาและเจ้าชายอีกหลายเมืองต่างทำส่งครามเพื่อแย่งเธอกัน  (นี้เหรอสาเหตุของส่งครามทำให้คนอื่นลำบากเพื่อความอยากของตัวเอง) ฉันคิดแผนบางอย่างได้ว่าต้องทำอะไรให้ส่งครามนี้ต้องจบลงด้วยความสูญเสียให้น้อยที่สุดถึงต้องแลกกับชีวิตของฉันเอง

ฉันมุ่งตรงไปที่สาวน้อยผู้เป็นเหตุของเรื่องฉันรู้มาว่าเธอเป็นเจ้าหญิงของเมืองแห่งเอลฟ์ที่ๆพลังของแสงสถิตอยู่มากที่สุดฉันคิดจะฆ่าเธอคนนั้นซะเพื่อการนั้นต้องเข้าถึงตัวเธอให้ได้

ตอนนี้ฉันมาถึงที่แห่งนี้แล้ว(สาวน้อยเจ้าช้างมีบาปหนาจริงแค่การมีอยู่ของเจ้าก็ได้ภาคชีวิตคนอื่นไปไม่น้อยอย่าได้คิดโทษฉันเลย) ฉันเคลื่อนตัวผ่านเงาคนในปราสาทและตามมุมมืดจนมาถึงสวนได้ยินมาจากเมลคุยกันมาว่าเจ้าชายจากเมืองอื่นมาหาเธอแทบทุกวัน วันนี้มา7พระองค์และตอนนี้พวกเข้าอยู่ที่สวนกันตอนนี้ฉันกำลังแอบดูคนทั้ง8ที่กำลังพูดคุยกันอย่างสนุกสนานพวกเค้าคงจะไม่รู้ว่าในขณะที่พวกเค้ากำลังพูดคุยกันอยู่นั้นได้มีคนที่ต้องตายเพราะสิ่งที่พวกเค้าตัดสินใจพวกเค้าไม่รู้สึกอะไรเลยหรอ แต่สายตาของฉันไปสะดุดเข้ากับผมสีดำของชายผู้หนึ่งเค้าดูไม่ค่อยมีสวนรวมในบทสนทนาเลยราวกับไม่พอใจอะไรบางอย่าง

ตึกตักๆๆ ราวกับหัวใจที่เหี่ยวเฉากับมาเต้นอีกครั้งโลกที่เคยเป็นสีเท่าก็กับมีสีสันสดใสขึ้นมาสีที่ฉันลืมไปหมดแล้วว่ามันมีสีอะไรบ้างมันราวกับ...โลกได้เปลี่ยนไปความรู้สึกแปลกใหม่ที่ไม่เคยสัมผัสมาก่อนมันกำลังเรียกร้องอะไรบ้างอย่างที่ฉันไม่รู้แต่ดูเหมือนตอนนี้คนตายกำลังเพิ่มขึ้นฉันจึงปัดความรู้สึกนี้ไปก่อนสิ่งที่ต้องทำนั้นคือปิดชีวิตเด็กสาวคนนั้นส่วนแผนต่อจากนั้นคงต้องใช้ความพยายามหน่อยเพื่อทำให้กับสู่ความสงบ

ฉันปรากฏร่างขึ้นจากเงาใต้ต้นไม้ใหญ่ที่พวกเค้านั่งอยู่ พวกเค้าดูตกใจยืนขึ้นมากันเจ้าหญิงไว้จากสายตาของฉัน

“เธอเป็นใคร!?”เจ้าชายองค์1ที่อยู่หน้าสุดเอ่ยถามฉัน

“เงาสีดำแห่งความตาย”ฉันตอบคำถามเค้าแล้วเดินเข้าไปใกล้เลยๆ

“เธอมาที่นี้ต้องการอะไร?”ฉันหยุดเดินก่อนจะมองไปที่ชายผมสีดำ

“ฉันต้องการชีวิตของเจ้าหญิงคนนั้น”ฉันตอบก่อนจะปรากฏร่างตรงหน้าของสาวน้อยก่อนกลิบที่อยู่ในมือแทงเข้าที่หัวใจของเธอเธอดูตกใจดวงตาเบิกโพลงล้มลงกับพื้นเหร่าเจ้าชายต่างตกใจพากันเข้าไปเข้าไปประคองร่างเจ้าหญิง

“ไปตามหมอมาเร็ว!! เธอ!นางคนสารเลวฆ่าเธอทำไม!!!”ชายผมดำชักดาบออกมาก่อนพุ่งมาทางที่ฉันอยู่ ฉันรู้สึกเจ็บกับคำพูดของเค้าฉันก็แค่มีเหตุผลที่ต้องทำแบบนี้ฉันหลบดาบของชายผมดำจนผ้าคุมสีดำเทิกขึ้นด้านบนนิดหน่อยแต่ก็มากพอจะทำให้เห็นใบหน้าใต้ผ้าคุมดำนั้นได้เค้าหยุดชะงักนิดหน่อยก่อนจะจองฉันด้วย

สายตาไม่อยากจะเชื่อฉันเดินถ่อยหลังคิดจะไปจากที่นี้โดยเข้าไปในเงาของชายผมดำและออกจากที่นี้ไปอย่างรวดเร็วไม่มีใครเห็นเธออีก(แผนต่อไปของฉันได้เริ่มขึ้นแล้ว)


    “ทำไมกันรู้สึกเจ็บที่อกด้านซ้ายเกิดอะไรขึ้น! ทำไมชายคนนั้นไม่เข้าใจในสิ่งที่ฉันทำกัน แค่ชีวิตของเจ้าหญิงคนนั้นเพียงคนเดียวมันช่วยชีวิตคนได้อีกมากมาย”ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นหลังจากกลับมาถึงปราสาทฉันก็รู้สึกโกธรเจ้าหญิงคนนั้น ที่ทำให้ฉันโดนชายผู้นั้นตะคอกใส่ แล้วทำไมฉันถึงลืมภาพของชายผมดำ ตาสีน้ำเงินเข้มของเค้าทำให้ฉันไม่อาจละสายตาได้เลย

ช่างเรื่องนั้นไว้ก่อนฉันรู้สึกถึงกลิ่นอายบางอย่างจากเจ้าหญิงคนนั้น รู้สึกได้เลยว่าเธอไม่ใช่มนุษย์เธอเป็นสิ่งที่ไม่ควนจะมาอยู่ที่นี้ สัตว์ที่อยู่ในห้วงอีกมิตินึง โลกที่เธอคนนั้นอยู่มันว่างป่าวเท่าที่รู้มิตินี้แม้แต่เทพีผู้สร้างโลกก็ไม่อาจเข้าไปแทรกแซงได้และถูกแยกออกจากมิติอื่นๆ กายเป็นมิติต้องห้าม แต่ที่ฉันสงสัยคือเธอออกจากที่นั้นได้ยังไงและมาล่วงล้ำอาณาเขตเข้ามาได้ไงดูแล้วมันไม่คงไม่ใช้เรื่องที่ฉันจะคุมได้ฉันจะต้องรายงานเรื่องนี้ต่อเทพีโดยเร็วแล้วฉันส่งข้อความให้นกส่งศาลสีดำก่อนนึกถึงภาพคนที่ฉันจะส่งให้  ที่ๆฉันอยู่เวทมนต์เป็นสิ่งที่จำเป็นกับชีวิตประจำวันมากคนที่ไม่สามารใช่เวทมนต์ได้นั้นไม่มี คนที่มีพลังมากแน่นอนว่ามีอำนาจมากด้วยเช่นกัน และมันแน่นอนพลังคือทุกสิ่งทุกอย่างสำหรับโลกนี้ แต่น่าตลกถึงจะมีพลังมากมายแค่ไหนพวกเค้าไม่คิดจะใช่พลังนั้นปกป้องคนที่ออนแอ แต่กลับสู้กันเองเพื่อสรรหาผู้ที่แข็งแกร่งที่สุด อยากเป็นที่สุดของโลกแล้วไงล่ะพวกเค้าก็ตายอยู่ดี

“อ๊ะ เกิดอะไรขึ้นกับนกส่งศาลของฉันกัน”ฉันออกไปยังที่ๆนกส่งศาลหายไปแต่กับเจอเจ้าหญิงน้อยในมือเธอกำนกสีดำไว้อยู่ !!(ทำไมเธอยังไม่ตาย ฉันฆ่าเธอแล้วนี้)ฉันเข้าไปแอบในเงาแถวๆที่เธออยู่

“นางแม่มดเอาแต่แอบอยู่ในเงา ออกมาสิ แก่อยากฆ่าฉันไม่ใช้หรอ ตอนนี้แก่ได้ทำให้แผนของฉันเกือบสำเห็จแล้ว555 ตอนนี้มนุษย์ทำส่งครามกันเพราะแก่ฆ่าฉันพวกมันเลยโทษกันเองจนส่งครามปะทุหนักกว่าเดิม555” จริงหรอทำไมถึงเป็นแบบนี้ล่ะแทนที่พวกเค้าจะโกธรแค้นฉัน และมาลงที่ฉันแทน (ฉันต้องทำอะไรซักอยากก่อนที่ทุกอย่างจะจบสิ้น เพราะน้ำมือของฉันอาจทำให้โลกถึงจุดจบได้ ที่จริงฉันไม่คิดว่ามนุษย์จะทำอะไรแบบนี้เลยเจ้าหญิงคนนั้นน่าจะสร้างสถานการณ์นี้ขึ้นมา)

“เป็นเพราะเธอเลยจริงๆ ขอบใจมากมันทำให้ฉันไม่ต้องเหนื่อยกับการเอาใจใสเหล่าชายผู้โง่งมนั้น อีกไม่นานมนุษย์จะถึงจุดจบ หึ ฉันจะทำลายให้หมด จะทำลายโลกนี้ให้ดู”อยู่ๆเธอก็หายไป(เธอไปไหนแล้ว!!)ฉันกางปีกสีดำออกแล้วโผบินขึ้นบนท้องฟ้า ใช้ดวงตาของเทพจ้องมองลงมาบนโลก สิ่งที่เห็นมันทำให้ฉันกลัวศพคนเต็มไปหมด ในนั้นมีคนที่ฉันรู้จักรวมอยู่ด้วย มีทั้งเพื่อนที่เค้าไม่รู้ว่าฉันเป็นใครแต่ก็ทำดีกับฉัน ทั้งท่านยาที่ค่อยให้ลูกอม คุณลุงร้านอาหารที่ใจดี ฉันกำหมัดแน่นตัดสินใจบางอย่างได้ ฉันยกมือขึ้นประสานมือไว้ที่อก วงเวทม่วงปรากฏใต้เท้าของฉันเป็นวงกว้าง สะท้านโลกาเกิดสั่นไหว ดินที่ฉันยืนสั่นโลกก็สั่น แสงสีม่วงของเวทที่ฉันรายวนอยู่ที่อกของฉัน ตึกตักๆๆ ในตอนนี้ทั้งโลกคงจะได้ยินเสียงหัวใจของฉัน เหล่าดวงวิญญาณที่ตายจากผลของส่งครามต่างส่งเสียงข้อร้องอ้อนวอน “ไม่ต้องห่วง ฉันจะปกป้องเอง ทั้งคนที่รัก ครอบครัว เพื่อน มันจะจบลงเดียวนี้” (แลกกับชีวิตของฉัน)

ร่างของฉันเปลี่ยนไปตัวตนอีกคนนึงกำลังกรีดร้องอย่างหวาดกลัว “ตัวตนอีกคนของฉันขอยืมพลังด้วย ถึงเวลาต้องร่วมเป็นหนึ่ง ในตอนนี้โลกที่ฉันอยู่มันกำลังเปลี่ยน                                       โลกที่ฉันไม่รู้จัก ฉันอยากให้มันกลับมาเป็นเหมือนเดิม” ทั่วทั้งร่างบางเรืองแสงสีม่วง

วงเวทที่อยู่ตรงพื้นใต้เท้ากับพุ่งขึ้นไปบนท้องฟ้า ฉับพลันท้องฟ้ากับสว่างสดใส โลกที่เคยเป็นสีเท่าแดงเพราะควันไฟและละอองเลือดกับมีแสงส่องลงมาที่โลกอีกครั้ง

เงาสีดำที่ไม่รู้ที่มาที่ไปกลับคุมโลกทำให้แสงไม่อาจส่งมาถึงอีกมันก่อเป็นร่างที่ใหญ่โตค่ายคนปรากฏตรงหน้าของฉันมันจองมองราวกับได้ชัยชนะแล้ว

“แก่ไม่มีวันชนะฉันได้หรอก เงาสีดำแห่งความตาย ฉันจะทำลายโลกที่แก่ปกป้องนักปกป้องหนา ฮะๆๆไม่มีปาฏิหาริย์ไหนที่จะช่วยแกได้”เงาดำพูดออกมาด้วยความสะใจ เสียงของมันดังมากทำให้ต้นไม้บนโลกปลิวตามแรงลม ร่างบางพุ่งขึ้นไปก่อนจะรายเวทขนานใหญ่ซัดใส่เงาดำนั้น บึ้ม!!!!! กึ่ง….. โลกเกิดสั่นไหวอีกครั้ง เงาดำกรีดร้องก่อนที่มันจะหายไป (หนีไปแล้วสินะ)คนที่เห็นการต่อสู้เมื่อกี้คงคิดว่ามันสุดยอดเงาสีดำแห่งความตายช่างแข็งแกรง แต่ใครจะรู้ภายใต้ใบหน้าที่นิ่งสงบ  กำลังทรมานอย่างแสนสาหัส เธอได้ใช้พลังชีวิตไปเกือบหมดแล้วในตอนนี้และเธอคงอยู่ได้อีกไม่นาน

ฟิว.... เสียงหวีดร้องของลมฟ้าอากาศเข้าหอกสีดำพุ่งมาจากด้านหลังของฉันพุ่งทะลุร่างฉันไป อัก!! หงึก อึก ฉันกระอักเลือดออกกองใหญ่บนร่างปรากฏรายแผลที่อก น้ำตาที่ไม่เคยปรากฏบนใบหน้านี้กับไหลรินออกมาไม่หยุด(ฉันกำลังจะตายหรอ)คำส่งจำมากมายปรากฏขึ้นมาในต่อที่กำลังจะตายฉันนึกถึงชายผมสีดำ ฉันอยากเห็นหน้าเค้าอีกซักครั้ง

“แซบนักนะนางแม่มด ฮะๆฉันบอกแก่แล้วว่าไม่มีปาฏิหาริย์ใดจะช่วยแก่ได้”

“ปาฏิหาริย์หรอ...ฉันจะสร้างมันขึ้นมาเอง จะฝ่าไปให้ดู ชีวิตนี้ฉันจะกำหนดมันเอง วันพรุ่งนี้ยังคงรอฉันอยู่!!”(ไม่ มันไม่มีวันพรุ่งนี้สำหลับฉัน แต่ไม่ใช่กับคนอื่น)

ฉันใช้เวทสร้างคันธนูขึ้นมา คันธนูสีม่วงฉันเร็งคันธนูไปทางที่เงาดำอยู่ฉันรู้ว่ามันอยู่ไหน นกสีทองพุ่งไปข่างหน้าอย่างไม่ลังเล

“แก่ยิงไปที่ไหนนะ ฮะๆๆๆ”เสียงหัวเราะดังขึ้นอย่างน่ารำคลาน

จากคำนั้น ที่เคยสาบานต่อกันเอาไว้ ฉันนั้นจารจำคำนึง มันกลับหวนมาก่อคมหนาม ที่คมแหลม

ปรากฏบนทางนั้น จากความทรงจำเมื่อยามมันคืนกลับมาแบกรับ ชะตา ลำพัง ดังที่จารจด ด้วยมือนี้ สุดเกินจะคืนกลับย้อนฉันยังคง จะดึงดัน จะกำไว้

จะยิ้มบางๆ ที่ดูอบอุ่นจะร้อยพันคำแห่งอธิษฐาน จะเฝ้าดูแล ฉันจะปกปักษ์ ไม่จากร้างห่าง ทำลายความโศกเศร้าไป ด้วยหัวใจ ความเศร้าจะ พลันโดนขจัด ดับจากเจือจางลับหาย ประสานลำนำ ด้วยความอบอุ่น หยดน้ำตารินจากความรักนั้น

จากนี้จนวันที่จะแตกดับ สืบต่อชีวิตไป บนนภาสุดกว้างไกล จงแย้มบานลอยลับไป นำทางเราเถิด ปีกดอกไม้ ยังหนนั้น พลันสืบต่อ เดินไป..."

 คำวอนสุดท้ายจะวิงวอน โปรดทำให้มันสมใจจริงดั่งอธิษฐาน โปรดนำพา ส่งแสงเพียง หนึ่งนี้ไป จากฉัน ไป แด่เธอ ส่องแสงจางจาง เล็กเกินจะไขว่ สุดที่ดวงตา จะมองพบเห็น หากเสียมันไป ฉันคงหวาดหวั่น หมดความหวังไป ทำลายจนแตกมลาย ด้วยหัวใจ ความมืดจะ พลันโดนขจัด ดับจากเจือจางลับหาย ขับขานลำนำ อ้อนวอนกล่อมจิต หยดน้ำตาจะ หลั่งรินและไหล จากนี้จะยัง ก้าวเดินหยัดอยู่ สืบต่อชีวิตไป ความลังเลจะหายไป ความเศร้าจะเลือนร้างไปนำพาคำตอบ แห่งดวงตา ยังหนนั้น

เราจะออกเดินไป...

 

 คำวอนสุดท้ายจะวิงวอน โปรดทำให้มันสมใจจริงดั่งอธิษฐานโปรดนำพา ส่งแสงเพียง หนึ่งนี้ไป จากฉัน ไป แด่เธอส่องแสงจางจาง เล็กเกินจะไขว่ สุดที่ดวงตา จะมองพบเห็นหากเสียมันไป ฉันคงหวาดหวั่น หมดความหวังไปทำลายจนแตกมลาย ด้วยหัวใจ ความมืดจะพลันโดนขจัด ดับจากเจือจางลับหายขับขานลำนำ อ้อนวอนกล่อมจิต หยดน้ำตาจะ หลั่งรินและไหลจากนี้จะยัง ก้าวเดินหยัดอยู่ สืบต่อชีวิตไปความลังเลจะหายไป ความเศร้าจะเลือนร้างไปนำพาคำตอบ แห่งดวงตา ยังหนนั้นเราจะออกเดินไป...”ลูกสอนที่ยิงออกไปนั้นได้ส่งบทเพลงแห่งคำอธิษฐานไปทุกที่ ที่มีส่งครามททำให้ส่งครามหยุดลง ก่อนลูกสอนจะพุ่งมาที่ฉันอย่างเร็ว

 

“หึ ฉันรู้ว่าแก่อยู่ในเงาของฉัน มาตายไปด้วยกันเถอะ” บึ้ม!!!!! (มันจบแล้วสินะแสงอาทิตย์มันช่างแสบตาจริงๆเลย)  เสียงร้องเหดังขึ้นอย่างดีใจ หายนะได้จบลงแล้วพวกเค้าร้องเสียงดังขอบคุณท่านเทพแห่งความตาย

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

“บุตรแห่งข้าทำได้ดีมาก ข้าจะให้เจ้าได้ในสิ่งที่เจ้าต้องการมาตลอดเองลูกข้า”

 

“จบจ้า”

 

นี้คือโฉมหน้าของเจ้าหญิง

งดงามจิ่มๆเลย

 

 

 

 

 

ขอขอบคุณที่เข้ามาอ่านค่ะ

 

 

แสดงเพิ่มเติม

รีวิว (0)

เรื่องนี้ยังไม่มีรีวิว