กาวน์คล้องเกียร์
6
ตอน
5.27K
เข้าชม
50
ถูกใจ
6
ความคิดเห็น
49
เพิ่มลงคลัง

บทนำอารัมภบทต้นเรื่อง

ท่ามกลางฝูงชนคนมากมายที่เดินขวักไขว่กันไปมา ณ มหาวิทยาลัยอันแสนกว้างใหญ่ที่ถูกขนานนามว่าเป็นดินแดนแห่งการศึกษาอันดับต้นๆของไทย  ในวันที่เริ่มต้นการศึกษาของภาคเรียนที่ 1 ช่วงต้นเดือนสิงหาคมก็จะเป็นวันที่รุ่นพี่แต่ละคณะต่างตั้งหน้าตั้งตารอคอยการมาเยือนของน้องใหม่ที่กำลังจะก้าวเข้ามาใช้ชีวิตในรั้วมหาวิทยาลัย วันนี้บรรยากาศร้อนอบอวลแต่ต่างเต็มไปด้วยความอบอุ่นการเฝ้ารอ พี่ๆต่างก็มาต้อนรับน้องๆอย่างเนืองแน่น ผู้ปกครองต่างมาส่งลูกส่งหลานจากทั่วสารทิศจากต่างถิ่น เพื่อมาส่งลูกๆ ณ สถานที่แห่งการเรียนรู้อันยิ่งใหญ่แห่งนี้ วันนี้เป็นวันแรกของการรับน้อง น้องใหม่ทุกคนต้องมารวมกันตรงหอประชุมขนาดใหญ่ที่เต็มไปด้วยนักศึกษาน้องใหม่ต่อแถวเรียงรายเข้าคิวไปนั่งเรียงกันอย่างเป็นระบบระเบียบ พี่ๆได้ให้น้องใหม่แบ่งกลุ่มทำกิจกรรมร่วมกันอย่างสนุกสนาน

นนท์ หนุ่มหน้าหวานนักศึกษาน้องใหม่คณะแพทยศาสตร์ ผู้มีบุคลิกภาพที่โดดเด่นที่ใครๆก็ต่างเหลียวมองกันโดยเฉพาะหนุ่มๆต่างมองนนท์ด้วยสายตาอันพิษสวาทเพราะหลงใหลในมนต์เสน่ห์ของเขาไปเหมือนโดนสะกดจิตไปชั่วขณะเพราะด้วยหน้าตาที่หวานปานผู้หญิงนั้นเอง นนท์เดินเข้าไปในหอประชุมด้วยความงวยงงสงสัย เพราะหลังจากที่ครอบครัวได้ยกโขยงกันมาส่งเขาทั้งตะกูลทั้งอาม่า ป๊า ม๊า เฮียนาย(พี่ชาย) และอานุช(น้องสาว) แต่ก็เกือบไม่ได้ร่ำลากันแล้วเพราะวันนี้เป็นอีกวันที่มอวุ่นวายอย่างมากรถก็ติดคนก็เยอะแต่เมื่อทุกคนมาส่งก็รีบขนของขึ้นห้องไปแต่นนท์ก็ต้องรีบวิ่งไปที่หอประชุมโดนด่วนเพื่อเข้ารวมทำกิจกรรมที่เขาจัดไว้ให้ นนท์วิ่งไปอย่างช้าๆด้วยความงงๆว่าต้องไปที่ไหน “รถก็เยอะ คนก็เยอะ ร้อนก็ร้อน แม่งกูต้องไปไหนต่อว้ะ” นนท์บ่นพึมพำอยู่ในลำคอและยืนมองหาที่ไปอยู่ใต้ต้นไม้ด้วยความสงสัย ไม่นานรุ่นพี่ก็เรียกให้ไปเข้าแถวรวมกับเพื่อนๆ แล้ว นนท์ทำตามคำสั่งรุ่นพี่ได้อาการหืดหอบเพราะความเหนื่อยจากการวิ่ง ทั้งที่ในใจเขาไม่ได้อยากทำเลยด้วยบุคลิกที่ดูเหมือนผู้หญิงตัวเล็ก (สูง 158 ซม. หนัก 47 กม.) ผิวขาวเพราะเป็นลูกคนจีนจมูกโด่ง ปากทรงกระจับสีชมพูอมแดงหน้าออกหมวยๆออกแนวผู้ชายสายหวานซึ่งเขาไม่ชอบหากมีคนทักเขาว่าเป็นอาหมวย และสิ่งที่นนท์มักจะเป็นปัญหาที่สุดก็คือเป็นคนไม่ค่อยยิ้มหน้าเหวี่ยงทำให้ไม่ค่อยมีใครกล้าเข้าหา นนท์เป็นลูกคนกลางที่อยู่ในตระกูลคนจีน พ่อทำอาชีพค่าขายอยู่ที่บ้าน ส่วนแม่เป็นนางพยาบาลในโรงพยาบาลเล็กๆในอำเภอต่างจังหวัด ครอบครัวของนนท์ไม่ได้ร่ำรวยมากนักเพราะอากงเคยทำธุรกิจจนถึงขั้นล่มลลายทำให้ต้องอพยพย้ายโขยงทั้งครอบครัวไปใช้ชีวิตใหม่ที่ต่างจังหวัด แต่นนท์เองกลับเป็นคนที่ขยันตั้งแต่เด็กเป็นคนตั้งใจเรียนและเรียนเก่งจนสามารถสอบติดคณะแพทย์ได้ แต่ด้วยฐานะทางบ้านที่ไม่ได้ร่ำรวยมากนักทำให้เขาเกือบจะไม่ได้เรียนหมอเพราะป๊ากับม๊าต้องส่งลูกเรียนถึงสามคนและคณะแพทย์ก็ยังมีค่าเทอมที่สูงอีกด้วย ถ้าไม่ได้ผู้อำนวยการของโรงพยาบาลที่แม่ประจำอยู่สนับสนุนค่าใช้จ่ายเป็นทุนให้แล้วนั้นนนท์ก็คงไม่ได้เรียนหมอตามที่นนท์ใฝ่ฝันไว้ตั้งแต่เด็ก นนท์เป็นเด็กที่เงียบขรึมขัดกับบุคลิกโดยสิ้นเชิงเขาฝันมาสักวันจะต้องเป็นหมอเพื่อมารักษาอากงที่ป่วยเป็นมะเร็งทำให้เขาดูแลตั้งแต่เด็กแต่ไม่นานเขาก็ต้องเสียอากงไปโดยที่เขายังไม่ได้ทำตามฝันที่อยากทำไว้และให้อากงได้เห็น โดยส่วนตัวนนท์เป็นคนที่ไม่ชอบความวุ่นวายไม่ชอบการเข้าสังคมที่มีคนเยอะๆ แต่วันนี้เขาต้องมานั่งต่อแถวในสถานที่แห่งนี้มาทำอะไรก็ไม่รู้  “เมื่อไหร่จะเสร็จเนี่ย!” เขาบ่นด้วยความหงุดหงิดในใจ ด้วยอากาศที่ร้อนที่ปกตินนท์เป็นคนผิวขาวทำให้หน้าแดงกล่ำเหงื่อไหลไปท่วมตัวจนทำให้เขาหงุดหงิดและแสดงอาการเหวี่ยงสายตาให้กับเพื่อนๆที่นั่งข้างๆจนไม่มีใครกล้าที่จะทักทายเขาเลยเลย จนกระทั้ง

“นี่เธอๆ เธอชื่ออะไรหรอ?” หนุ่มเสียงหล่อทักทายเขาด้วยน้ำเสียงเจ้าเล่ห์พิกล เขารู้สึกหงุดหงิดไม่อยากยุ่งกับใครจึงไม่ได้ตอบโต้อะไรกลับไป แต่เมื่อชายหนุ่มยังไม่ได้คำตอบ เขาก็ถือวิสาสะเอามือมาสะกิดเบาๆที่หลังของนนท์ ปลุกอารมณ์ชวนนนท์โมโหนจนเริ่มรู้สึกโมโหอย่างน่ารำคาญใจมาก “โธ่เว้ย นี่นาย มายุ่งวุ่นวายกับเราทำไมเนี่ย รำคาญอย่ามายุ่งได้ป้ะ” นนท์หันหลังไปตะคอกด้วยความโมโหอย่างเกรี้ยวกราด แต่เขาก็ต้องชะงักกับความหล่อเหลาของคนตรงหน้า หนุ่มหน้าคมผิวสีแทน ดวงตาเป็นประกายชวนน่าหลงใหล ทำให้เขาชะงักไปชั่วขณะ แต่เขาก็ชะงักกับสิ่งที่ชายหนุ่มพูดขึ้นมาซึ่งทำให้เขาไม่พอใจอย่างมาก “อ้าว! นึกว่าเป็นทอมซะอีก ที่ไหนได้เป็นตุ๊ดนี่หว่า” พูดเสร็จก็หัวเราะเยาะและยังชวนเพื่อนข้างๆมาดูอีกต่างหาก “มึงๆดูคนนี่สิกูนึกว่าเป็นทอมแต่เป็นตุ๊ดแม่งหน้าหวานกว่าพี่สาวกูอีกว่ะ55555” ด้วยบุคลิกที่ขี้กวน เจ้าเล่ห์ ทำให้นนท์ไม่พอใจกับคำพูดของไอ้บ้ารูปหล่อนี่ซะเลย นนท์สวนกลับด้วยอารมณ์ฉุนเฉียวอย่างบอกไม่ถูก “ไม่รู้จักกัน แต่มาว่าให้คนอื่นแบบนี้ บ้านกูเรียกว่าคนไม่มีมารยาทนะ!!!” ด้วยความโมโหนนท์พูดออกไปอย่างไม่ทันได้คิด แต่อีกคนกลับไม่สะทกสะท้านกับคำพูดของเขาเลย แถมยังเปลี่ยนเรื่องให้นนท์งงในอารมณ์ของมันอีก “กูชื่อกรนะ เรียนวิศวะ มึงล่ะชื่ออะไร? เรียนคณะไหนเหรอ?” กร หนุ่มหน้าคมผิวสีแทนลูกนักธุรกิจ ที่รวยอันดับต้นๆของประเทศ ทางบ้านของเขามีฐานะที่มั่งคั่งมากจนทำให้เขาเป็นที่หมายตาของสาวๆทั่วทั้งแคว้น ไม่ว่าใครต่างก็อยากจะเป็นลูกสะใภ้บ้านหลังนี้กันทั้งนั้น น่าแปลกที่เขาออกจะครบเครื่องสมบูรณ์แบบไปซะทุกอย่าง แต่กรกลับไม่เคยสนใจผู้หญิงคนไหนเลยสักคน เขาเองก็ได้แต่สงสัยในตัวเองเหมือนกัน พ่อแม่ของกรเลี้ยงดูเขาด้วยเงินตรา ไม่ว่ากรจะอยากได้อะไรเขาก็ได้ ทั้งเสื้อผ้าแบรนด์เนม รถราคาแพง หรือแม้แต่คอนโดหรูๆราคาเหยียบล้านก็ซื้อให้ กรคิดว่าครอบครัวของตนไม่อบอุ่นเอาเสียเลย เพราะเขาคิดว่าเขาไม่เคยได้รับความรักความดูแลหรือความอบอุ่นจากใครเลย เพราะทุกวันภายในบ้านมีแต่ปัญหาเข้ามาให้พ่อต้องแก้ไขในหลายเรื่อง จนบางทีแทบจะไม่มีเวลาให้เขาเลยแต่พ่อกลับมีเวลาให้เหล่านางสนมที่พ่อเลี้ยงไว้ ส่วนแม่เองก็เอาแต่ติดกับการเข้าสังคมคุณหญิงคุณนายจนหลงลืมลูกไปในที่สุด เขาใช้ชีวิตแบบการไม่ได้มาซึ่งความรักแต่ถูกครอบครัวเลี้ยงด้วยเงิน เงิน เงิน เงินและเงิน จนบางทีกรก็ได้แต่สงสัยและอาจถูกหลงลืมถึงคำว่า รัก ว่ามันเป็นยังไงต้องรู้สึกอย่างไร จนเขาไม่สามารถมอบความรักให้ใครได้เพราะกลัวตัวเองผิดหวังในความรักอย่างมาก เหมือนกับสิ่งที่เขาได้เผชิญอยู่

ในหอประชุมกิจกรรมยังดำเนินไปอย่างช้าๆสำหรับนนท์ที่บ่นในใจว่าน่าเบื่อชิปหายอยู่ตลอดเวลา และนนท์เองก็ยังต้องมาซวยซ้ำซวยซ้อนที่ต้องมานั่งใกล้กับไอ้บ้าหน้าหล่อกวนประสาทนี่อีกเพราะนนท์ยังไม่พอใจกับคำที่เขาพูดไปเมื่อสักครู่นี้ โธ่เว้ยเมื่อไหร่จะเสร็จเนี่ยยยย แต่อีกฝ่ายกลับรู้สึกผิดมากที่ทำให้อีกฝ่ายเงียบไปโดยไม่โต้กลับจนทำให้เขาคิดว่าอีกฝ่ายคงไม่พอใจกับกับพูดของเขาแน่ๆเลย “มึงๆเป็นไรอ่ะเงียบทำไมกูก็แค่แซวๆเล่นๆอ่ะ งอนเป็นตุ๊ดไปได้” เขาพยายามชวนอีกฝ่ายให้คุยด้วยแต่ก็ไม่ได้รับคำตอบกลับมา จนทำให้เขารู้สึกผิด “มึงกูขอโทษละกันนะที่กวนตีนมึงอ่ะ” เขาขอโทษแต่อีกฝ่ายกลับไม่ยอมคุยด้วยเอาซะเลย แปลกนะทำไมกูถึงได้ใส่ใจในตัวของไอ้ตุ๊ดหน้าหวานคนนี้ด้วยว้ะซึ่งก็ไม่เคยรู้จักอะไรกันมาก่อนเลยเขาคิดอยู่ในใจกูเป็นบ้าอะไรว้ะเนี่ยยยยยยย

 

ฝากติดตามด้วยนะครับ เขียนเรื่องแรกในชีวิต

นนท์ปกรณ์

แสดงเพิ่มเติม

รีวิว (0)

เรื่องนี้ยังไม่มีรีวิว