ขอโทษ ... ที่รักนายไม่ได้

Y

ขอโทษ ... ที่รักนายไม่ได้

ขอโทษ ... ที่รักนายไม่ได้

Running1312

Y

0
ตอน
633
เข้าชม
34
ถูกใจ
0
ความคิดเห็น
1
เพิ่มลงคลัง

ทำไมความรักถึงได้ชอบเล่นตลกกับชีวิตของคนเรานัก คนที่รักเรา เรากลับไม่รัก แต่กับคนที่เขาไม่ได้สนใจเราแม้แต่เพียงนิด เรากลับหลงรักเขาหัวปักหัวปำ ถ้าเรื่องของหัวใจและความรัก สามารถที่จะกำหนด หรือสั่งให้ทำตามได้ มันคงจะเป็นการดี เพราะจะได้ไม่มีใครที่จะต้องมีรักที่เป็นทุกข์เหมือนกับที่เราเป็นอยู่ทุกวันนี้
เราชื่อดิว ชีวิตเราค่อนข้างที่จะอิสระ เสรี ที่เป็นอย่างนี้ได้เพราะเรากล้าที่จะเปิดเผย กล้าที่จะยอมรับตัวเอง ถึงแม้ในตอนแรกที่ยอมเปิดเผยตัวตนที่แท้จริงของตัวเองนั้น จะยังไม่มั่นใจนัก ว่าคนรอบข้างจะรู้สึกอย่างไร จะมีพฤติกรรม หรือจะทำตัวกันอย่างไร จะมองเราแปลกไปไหม จะมีใครสักคนไหมที่เลิกคบกับเราไปเพราะเพียงเพื่อเราอยากเป็นตัวของตัวเอง โดยเฉพาะพ่อแม่และญาติ ๆ เราทำใจอยู่พักใหญ่ที่จะตัดสินใจบอกกับพวกเขาไปว่า เราเป็นเกย์ เป็นเกย์ที่ไม่ได้หมายถึงว่า พรุ่งนี้ตื่นขึ้นมาแล้วจะลุกขึ้นมาแต่งหน้า แต่งตัวแบบผู้หญิง เราจะยังคงเป็นเราอย่างทุก ๆ วัน เราทำตัวอย่างไรกับพ่อ แม่ กับพี่น้อง เราก็จะยังคงเป็นแบบนั้น เพียงแต่ว่า เราจะไม่สามารถที่จะมีครอบครัวอย่างผู้คนส่วนใหญ่เขาได้แค่นั้นเอง การที่เราตัดสินใจบอกออกไปนั้น เพราะหลาย ๆ สาเหตุ ด้วยไม่อยากที่จะให้ใครที่ช่างสงสัย พูดคุยซุบซิบ ด้วยเราไม่อยากให้พ่อแม่ตั้งหน้าตั้งตารอหลานที่มีเราเป็นพ่อ ด้วยความที่สนิทกับเพื่อนมาก ๆ ไม่เคยที่จะปกปิดอะไรกัน เราก็เลยตัดสินใจบอกกับทุกคนออกไป ผลที่ออกมานั้นดีเกินคาด ไม่ว่าใครที่อยู่รอบ ๆ ตัวเรา เขาไม่ได้เกิดปฏิกิริยา หรือพฤติกรรมต่อต้านอะไรเราเลย กลับยังคงทำตัวเป็นปกติเช่นเดิม รักเรายังไง ก็ยังคงรักอยู่แบบนั้น เราเลยได้เป็นเราอย่างมีความสุขที่สุด อย่างที่หลาย ๆ คนไม่กล้าที่จะยอมรับ ต้องคอยสร้างภาพให้ตัวเองมีแฟนเป็นผู้หญิงเพื่อปกปิดความเป็นเกย์ของตัวเอง บางคนถึงกับลงทุนแต่งงาน ทำไมเขาช่างเป็นคนเห็นแก่ตัวกันแบบนี้ ไม่สงสารคนที่จะรับเคราะห์กรรม อย่างลูกที่เกิดมา เขาไม่รู้อิโหน่อิเหน่อะไรด้วยเลย
โอ๊ต แล้วภูมิไม่ได้มาด้วยเหรอ เราเอ่ยถามเมื่อเราไปถึงจุดนัดพบระหว่างเรากับเพื่อน ที่จะไปดูหนังด้วยกัน
แล้วดิวชวนภูมิด้วยเหรอ โอ๊ตเอ่ยถามเรากลับมา
ดิวคิดว่าโอ๊ตเป็นคนชวนนะสิ เราตอบกลับไปด้วยน้ำเสียงที่บ่งบอกได้ถึงความผิดหวังกับการที่ภูมิ คนที่เราแอบชอบอยู่นั้นไม่ได้มาดูหนังด้วยกันในวันนี้ โอ๊ตนั้นเป็นเพื่อนของเรามาตั้งแต่สมัยเรียนมัธยมปลาย เข้าเรียนมหาวิทยาลัยก็เรียนที่เดียวกัน เพียงแต่คนละคณะ ส่วนภูมินั้นเป็นเพื่อนร่วมคณะกับโอ๊ตที่โอ๊ตได้แนะนำให้เรารู้จัก ครั้งแรกที่เราได้พบกับภูมิเรารู้สึกประทับใจ เรายอมรับว่าประทับใจในรูปร่างและหน้าตาของเขา ซึ่งไม่ว่าจะดูไปส่วนไหนของร่างกาย ทุกส่วนจัดได้ว่าสมบูรณ์แบบ เราตกหลุมรักภูมิตั้งแต่วันนั้น หลังจากนั้นไม่ว่าโอ๊ตจะชวนเราไปไหน เราจะบอกให้ชวนภูมิไปด้วยเสมอ เรารู้ดี รู้ดีอยู่แก่ใจว่าโอ๊ตเพื่อนเรานั้น คิดอะไรกับเรา คิดมานานแล้วตั้งแต่สมัยเรียนมัธยมด้วยกัน แต่เราคิดกับเขาได้เพียงแค่เพื่อน
ถ้าดิวไม่อยากดูเมื่อไม่มีนายภูมิ เราไม่ต้องดูก็ได้นะ โอ๊ตเป็นคนเอ่ยขึ้นมาด้วยน้ำเสียงบ่งบอกถึงความน้อยใจ
ดูสิ ไม่เป็นไร ไว้ชวนเขาคราวหน้าก็ได้ เรายังคงพูดไปแบบนั้นได้ ทั้ง ๆ ที่เรารู้ว่านายโอ๊ตกำลังน้อยใจเราอยู่ แต่เราอยากให้เขายอมรับมันให้ได้ว่าระหว่างเราและเขานั้นไม่สามารถที่จะเกินเลยจากคำว่าเพื่อนรักกันไปได้เลย
งั้นรอบหน้าโอ๊ตจะบอกให้ภูมิมาดูเป็นเพื่อนดิวแล้วกันนะ ว่าแล้วนายโอ๊ตก็เดินเอื่อยไปรอเราอยู่ตรงทางเข้าโรงหนัง เราจึงรีบตามไปจนทัน เมื่อไปถึงตัวนายโอ๊ตเราจึงเอาแขนของเราคล้องเข้าที่แขนข้างที่ว่างอยู่ของนายโอ๊ตทันที
เราไปกันเถอะ เราพูดไปด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม แต่นายโอ๊ตกลับทำหน้าฉงน หันมามองหน้าเรา คงจะงงกับการกระทำของเรา
อืมม ไปกันเถอะ แล้วโอ๊ตก็ตอบกลับมาด้วยน้ำเสียงที่สั่นไม่ใช่เล่น
ไม่ว่าโอ๊ตเขาจะรักเราขนาดไหน แต่เขาไม่เคยคิดที่จะละเมิด หรือล่วงล้ำความเป็นส่วนตัว หรือทำอะไรที่เกินเพื่อน อย่างมากที่สุด หากมีการกอดเกิดขึ้นเมื่อพวกเราดีใจอะไรสักอย่าง เขาก็จะกอดเราแบบกอดเพื่อน ทั้ง ๆ ที่เรารู้ว่าใจเขาไม่ได้คิดแบบนั้น หลังจากดูหนังกันจบเรารู้สึกได้ว่านายโอ๊ตมีสีหน้าอิ่มเอิบ มีความสุขเป็นที่สุด ยิ้มแย้มแจ่มใส ร่าเริ่งตลอดเวลา เราเองก็ดีใจที่เห็นเพื่อนมีความสุข แต่ถ้าหากนายโอ๊ตเขารู้ว่าในขณะที่เขากำลังดีใจที่ได้ดูหนัง ได้นั่งทานข้าวอยู่กับเรานั้น ในใจของเรามันคิดถึงแต่นายภูมิตลอดเวลา เขาจะยังคงยิ้มแย้ม เริงร่าอยู่แบบนี้ไหม
ปีใหม่เราได้รับของขวัญชิ้นใหญ่จากโอ๊ต นายโอ๊ตเดินแบกตุ๊กตาหมีตัวใหญ่กว่าตัวเขาอีกเข้ามาให้เราที่บ้าน
โอ๊ตตั้งชื่อหมีตัวนี้แล้วนะ โอ๊ตให้ชื่อว่าน้องดิว นายโอ๊ตเอ่ยขึ้นมาหลังจากบอกเราว่าตุ๊กตาหมีตัวนี้เป็นของขวัญปีใหม่สำหรับเรา
แต่ถ้าดิวไม่ชอบให้หมีตัวนี้ชื่อน้องดิว ดิวจะเปลี่ยนมันก็ได้นะ โอ๊ต ยังคงพูดต่อไป เราเห็นเขาเอาจริงเอาจัง เราเลยตั้งใจฟังเพียงอย่างเดียว ไม่พูดขัดอะไรเขา
เมื่อคืนโอ๊ตบอกน้องดิวแล้วว่า ตั้งชื่อให้ว่าชื่อน้องดิว แล้ว ... เอ่อ ... โอ๊ต ก็บอกกับน้องดิวไปแล้วด้วยว่าให้น้องดิวรับรู้ไว้ว่าโอ๊ตรักน้องดิวมาก นายโอ๊ตพูดด้วยน้ำเสียบราบเรียบปกติ แต่ปกปิดความตื่นเต้นไว้ไม่ได้ เพราะไหนมือที่สั่นน้อย ๆ กับหน้าที่กำลังแดงเหมือนลูกตำลึงสุก
ขอบคุณมากโอ๊ต เราเอ่ยขอบคุณพร้อมกับสวมกอดนายโอ๊ตไปหนึ่งครั้ง โอ๊ตคงไม่ได้ตั้งตัว จึงได้แต่นั่งตัวแข็งทื่อ
ดิวเตรียมของขวัญไว้ให้โอ๊ตเหมือนกันนะ แต่มันไม่ได้ชิ้นใหญ่ขนาดนี้ เราบอกโอ๊ตพร้อมกับส่งกล่องของขวัญที่ข้างในเป็นเสื้อเชิ้ตแบบที่โอ๊ตชอบใส่
ขอบคุณนะ โอ๊ตเอ่ยขึ้นพร้อมกับรอยยิ้ม แต่ในใจเราตอนนี้เริ่มที่จะเป็นกังวล เราเตรียมของที่ธรรมดามาก ๆ ไว้ให้นายโอ๊ตที่แสนดี แต่เรากลับเตรียมสร้อยคออย่างดีไว้ให้นายภูมิ เราไม่กล้าที่จะบอกกับโอ๊ตว่าเราเตรียมของขวัญไว้ให้ภูมิด้วย แต่โชคชะตามันเล่นตลก เมื่อภูมิโทรศัพท์หาโอ๊ต โอ๊ตเลยบอกว่าอยู่กับเราที่บ้าน เอาของขวัญมาให้ โอ๊ตเลยชวนให้นายภูมิมาหาที่บ้านเรา เมื่อนายภูมิมาถึง เราดีใจมาก จนอยากจะเข้าไปสวมกอดเขาสักครั้ง แต่เราทำแบบนั้นไม่ได้ เพราะนายภูมิยังไม่มีทีท่าอะไรกับเรา แถมนายโอ๊ตเพื่อนที่แสนดีที่มาตกหลุมรักเราก็นั่งอยู่ตรงนี้ด้วย นายภูมิมีของขวัญชิ้นเล็ก ๆ ใส่กล่องมาให้เรา เราจึงจำใจที่จะต้องให้ของขวัญของเรากับนายภูมิไปต่อหน้าต่อตานายโอ๊ต แถมนายภูมิยังแกะกล่องของขวัญออกดูตอนนั้นได้อย่างทันใจเป็นที่สุด เมื่อเห็นว่าข้างในเป็นสร้อยคอเส้นงาม นายภูมิถึงกับดึงเราไปกอด เราดีใจ และมีความสุขมาก ยิ้มแก้มแทบปริ แต่เมื่อสายตาของเราไปพบกับกับสายตาของนายโอ๊ตที่กำลังแดงเรื่อ เหมือนกำลังจะมีน้ำตา ใบหน้าที่เคยยิ้มแย้มอยู่ก่อนหน้า กลับหงอยเหงา เศร้าซึม เราจึงต้องหยุดยิ้ม และค่อย ๆ แยกตัวเองออกมาจากการกอดของนายภูมิที่เราเองต้องการนักหนามานานแสนนาน แต่เราไม่อยากทำร้ายนายโอ๊ตให้มากกว่านี้ จึงต้องตัดใจออกมาจากอ้อมกอดของนายภูมิ หลังจากนั้นเราสามคนจึงไปดื่มฉลองกันนิดหน่อย มีเพียงนายโอ๊ตที่ดื่มหนักกว่าใครเขาหน่อย ดื่มกันไปจนเริ่มมึนกันพอตัว นายภูมิจึงขอตัวแยกกลับไปก่อนหลังจากมีโทรศัพท์สายหนึ่งโทรเข้ามาหาเขา เรารู้สึกผิดหวังเป็นยิ่งนักที่นายภูมิต้องรีบกลับ ไหนจะสงสัยว่าใครที่โทรมาแล้วทำให้นายภูมิต้องรีบไป เราก็เลยหน้าหงอยไปเหมือนกัน
งั้นเราก็กลับกันเถอะ โอ๊ตพูดลากเสียงเหมือนคนเมา เราจึงกลับบ้านกันโดยที่นายโอ๊ตมาส่งเราที่บ้านตามที่เขาต้องการ ทั้ง ๆ ที่เราสามารถกลับเองได้
ขอโอ๊ตไปบอกลาน้องดิวหน่อยได้ไหม โอ๊ตเอ่ยขึ้นเมื่อมาถึงหน้าบ้านของเรา เขาต้องการขึ้นไปบอกลาตุ๊กตาหมีตัวใหญ่ที่เขาให้เราเป็นของขวัญ ที่เขาตั้งชื่อมันเองว่า น้องดิว
ได้สิ มาสิ เราพูดพร้อมกับจูงมือนายโอ๊ตเข้าบ้านตรงไปยังห้องนอนของเราที่เจ้าน้องดิวถูกวางพิงไว้ที่หัวเตียงของเรา นายโอ๊ตจับตัวน้องดิวให้นั่งตรงหน้าเขา โดยที่น้องดิวนั้นนั่งอยู่บนเตียงส่วนนายโอ๊ตนั้นนั่งอยู่กับพื้นห้อง
น้องดิว โอ๊ตจะกลับบ้านแล้วนะ น้องดิวอย่าลืมนะว่าโอ๊ตรักน้องดิวมาก นายโอ๊ตพูดพร้อมกับโผเข้าไปโอบกอดน้องดิวหรือตุ๊กตาหมีตัวใหญ่ตัวนั้น ทุกเหตุการณ์อยู่ในสายตาของเรา แต่เราไม่รู้ว่าเราจะทำยังไงได้ ในเมื่อเราถามใจเราแล้วว่าเราพร้อมที่จะรักนายโอ๊ตคนนี้ได้หรือไม่ คำตอบที่ได้คือไม่พร้อม
โอ๊ต นายเมามากแล้วนะ กลับไม่ไหวนอนที่นี่ก็ได้นะ เราพูดพร้อมกับเข้าไปจับไหล่ของโอ๊ตเพื่อเป็นการปลอบใจ
โอ๊ตนอนที่นี่ไม่ได้หรอก เดี๋ยวจะมีใครเข้าใจดิวผิด โอ๊ตพูดประชดประชันเราด้วยสายตาที่กำลังเอ่อไปด้วยน้ำตา พร้อมกับลุกขึ้นเดินออกไปจากบ้านของเรา
เมื่อปิดบ้านเรียบร้อยแล้ว เราจึงรีบแกะของขวัญของนายภูมิที่ให้เราไว้เมื่อตอนกลางวัน ปรากฏว่าเป็นสร้อยข้อมือ เราชอบเป็นที่สุด ชอบตรงนายภูมิเป็นคนให้เรามา แล้วคืนนั้นเราหลับไปอย่างมีความสุข ถึงแม้ภายในใจจะยังคงเป็นกังวลอยู่กับเรื่องว่าใครโทรมาหานายภูมิ นายภูมิถึงได้รีบกลับ และตอนนี้นายโอ๊ตจะเป็นยังไงบ้าง แต่ในที่สุดเราก็หลับอย่างมีความสุขกับการได้ใส่สร้อยข้อมือจากนายภูมิ
หลังจากนั้นนายโอ๊ตยังคงทำตัวเหมือนเดิม เหมือนเช่นปกติ ดูแล เทคแคร์ เอาใจใส่เราอยู่ตลอดเวลา เราเองก็ยังคงทำตัวเหมือนเดิม คิดได้แค่เพียงว่าเขาเป็นเพื่อน แต่เรากลับคิดถึงนายภูมิมากขึ้น ทั้ง ๆ ที่เขาไม่ได้มาหา แวะเวียนมาเยี่ยม หรือโทรมาหาเราบ่อยนัก เราเองต่างหากที่เป็นฝ่ายพยายามติดต่อหาเขา ทุกอย่างดูเหมือนจะเป็นปกติอยู่เช่นทุก ๆ วัน นายโอ๊ตยังคงตัดใจจากเราไม่ได้ เราเองยังคงทำใจให้รักนายโอ๊ตไม่ได้ และที่สำคัญเรายังไม่รู้ว่านายภูมิคิดกับเรายังไงกันแน่ 
จนวันแห่งความรัก วันที่ 14 กุมภาพันธ์แวะเวียนมาถึง นายโอ๊ตมารับเราไปทานข้าวเย็นด้วยกัน พร้อมด้วยของขวัญที่โอ๊ตตั้งใจเลือกมาให้เรา นั่นคือสร้อยคอพร้อมจี้รูปหัวใจ โอ๊ตขอที่จะเป็นคนสวมให้เราเอง เราจึงต้องก้มตัวลงไปหานายโอ๊ตใกล้ ๆ เพื่อให้เขาได้สวมสร้อยคอเส้นนั้นให้กับเรา เราจึงให้รางวัลนายโอ๊ตไปเป็นการหอมแก้มหนึ่งครั้ง กลางที่สาธารณะชน นายโอ๊ตหน้าแดงระเรื่อ ไม่รู้ว่าด้วยความดีใจหรือด้วยความอาย เราจึงได้ให้ของขวัญของเรากับนายโอ๊ตไปบ้าง นั่นคือ เข็มติดเน็คไท ที่มีคำว่า Love อยู่ด้วย เราดื่มฉลองกันนิดหน่อย ดูนายโอ๊ตจะกลับมามีความสุขอีกครั้งที่ระหว่างเรากับเขาในตอนนี้ไม่มีนายภูมิมาขวางกั้น แต่ในใจเรายังคอยเป็นกังวลอยู่ตลอดว่า จะทำยังไงให้เราได้ให้ของขวัญที่เราเตรียมไว้ให้นายภูมิ ในเมื่อตอนนี้เขาไม่อยู่ด้วย แต่ด้วยความที่เห็นนายโอ๊ตเป็นสุข เราจึงไม่เอ่ยถามถึงนายภูมิกับเขา เกรงว่าจะทำให้ความสุขของเขาต้องจบลงซะก่อน ปรากฏว่าวันวาเลนไทน์ วันแห่งความรักในวันนั้น เราไม่ได้ให้ของขวัญกับนายภูมิ คนที่เราหลงรัก ทั้ง ๆ ที่เราเตรียมเอาไว้ก่อนล่วงหน้าตั้งนาน ดังนั้น ในเช้าวันรุ่งขึ้น เราจึงรีบแต่งตัวออกจากบ้าน เดินทางไปหานายภูมิที่อพาร์ทเม้นต์ เมื่อเราไปถึง เราต้องแปลกใจกับคนที่มาเปิดประตูให้เรากลับไม่ใช่นายภูมิ แต่เป็นใครที่ไหนไม่รู้ ที่หน้าตาหล่อเหลาเอาการ รูปร่างดี ผิวขาวเนียน เขาคนนั้นยังคงเปลือยร่างกายท่อนบนอยู่ โดยท่อนล่างมีเพียงกางเกงขาสั้นบ็อกเซอร์เพียงตัวเดียว เห็นแค่นี้ไม่ต้องมีใครมาบอกอะไรกับเรา เราก็รู้ได้ด้วยตัวเอง สิ่งที่เรารู้มันทำให้เราหัวใจสลาย เหมือนกับมันแตกออกเป็นเสี่ยง ๆ เราไม่สามารถที่จะยืนตรงอยู่ตรงนั้นได้ เราจึงต้องโซเซไปพิงขอบประตู จนนายภูมิออกมาจากห้องน้ำมาเห็นว่าเป็นเรา เขาจึงได้แนะนำให้เราได้รู้จักกับคนที่มาเปิดประตูให้เราว่าชื่อ แก้ว เป็นแฟนของเขา นายภูมิรู้อยู่แก่ใจว่าเราคิดอะไรกับเขา ดังนั้นเขาจึงใช้เวลาที่แก้วเข้าไปอาบน้ำพูดคุยกับเรา เพื่อทำความเข้าใจซึ่งกันและกัน
ภูมิต้องขอโทษดิวนะครับ ภูมิรู้ดีว่าดิวคิดยังไงกับภูมิ นายภูมิพูดขึ้นมา พร้อมกับเว้นช่วงไประยะหนึ่งก่อนจะพูดต่อขึ้นมาอีก
ภูมิรักดิวได้เพียงเพื่อนเท่านั้น ภูมิมีคนที่ภูมิรักอยู่แล้ว ภูมิเสียใจที่ทำให้ดิวต้องเสียใจ แต่ภูมิหวังเป็นอย่างยิ่งว่าดิวจะเข้าใจภูมินะครับ นายภูมิพูดพร้อมกับจับไหล่ของเราเหมือนกับต้องการปลอบใจ
ครับดิวเข้าใจ ดิวมาเพื่อให้ของขวัญที่ได้เตรียมไว้ก็พอใจแล้วละ เราพูดออกไปพร้อมกับยื่นกล่องที่เตรียมมาที่ภายในนั้นคือแหวนเงินหนึ่งวง แต่เมื่อสังเกตดูไปบนนิ้วมือของนายภูมิ คงจะไม่มีที่ว่างที่จะใส่แหวนของเราแล้ว เพราะตอนนี้ที่นิ้วมือของเขามีแหวนเงินวงใหม่ที่น่าจะได้จากแก้วเมื่อคืนนี้สด ๆ ร้อน ๆ สวมอยู่แล้ว ก่อนที่น้ำตาแห่งความเจ็บปวดของเราจะไหลรินลงมาให้นายภูมิได้เห็น เราจึงรีบเดินกลับออกมาจากห้องของเขาโดยที่ไม่ได้กล่าวลาแต่อย่างใด เมื่อเราออกมาถึงหน้าอพาร์ทเม้นต์ เราไม่รู้ว่าสิ่งต่อไปที่เราจะทำคืออะไร เราไม่รู้ว่าเรากำลังจะไปไหนต่อ คนคนเดียวที่เข้ามาในห้วงความคิดของเราตอนนั้นคือนายโอ๊ต เราจึงได้โทรไปหานายโอ๊ต โดยพูดออกไปได้เพียงประโยคเดียวว่าตอนนี้อยู่หน้าอพาร์ทเม้นต์ของนายภูมิ แล้วเราก็ร้องไห้ออกมา ไม่นานนัก นายโอ๊ตคนที่รักเราเสมอก็มาถึง นายโอ๊ตเดินเข้ามาโอบไหล่เรา ไม่ได้เอ่ยถามว่าทำไมเรามายืนร้องไห้อยู่ที่นี่ ไม่ได้ถามอะไรทั้งสิ้น พาเราขึ้นรถกลับไปยังบ้านของเขา เขายังคงเป็นเพื่อนที่ดีที่สุดอยู่เสมอ เขายังคงเป็นคนที่รักเราอยู่เสมอ โอ๊ตจัดการหาผ้าชุบน้ำมาเช็ดหน้า เช็ดแขนให้เรา เพราะสภาพเราที่ทั้งเปื้อนน้ำตา เปื้อนฝุ่น ทำให้ดูแทบจะไม่ได้ หาน้ำหวานเย็น ๆ มาให้เราดื่ม แต่เราปฏิเสธ เราเรียกร้องหาเบียร์ นายโอ๊ตไม่เคยขัดใจเราอยู่แล้ว เขาจึงจัดการให้เราพร้อมด้วยกับแกล้ม แต่ในเวลาที่คนเรากำลังเจ็บช้ำหัวใจแบบนี้ ไม่มีทางที่จะกินกับแกล้มเข้าไปได้ เราเลยนั่งซดแต่เบียร์ แก้วแล้วแก้วเล่าปนน้ำตาตัวเอง นายโอ๊ตยังคงไม่เอ่ยถามอะไรเรา ปล่อยให้เรานั่งดื่มต่อไป และคอยเติมเบียร์ให้เรายามที่เบียร์ในแก้วเหลือน้อยลง
เราไปหาภูมิที่ห้องเขามา เราไปพบกับแฟนของเขา เขาบอกเราว่าเขารักเราไม่ได้ เขามีแฟนแล้ว เราจำได้ว่าเราพูดออกไปแบบนั้น แต่ไม่มีคำพูดใดหลุดออกมาจากปากนายโอ๊ตเลยแม้แต่คำเดียว แต่เขากลับเข้ามาโอบกอดไหล่ของเราเหมือนเป็นการให้กำลังใจ
โอ๊ตเราขอโทษ เราขอโทษ เราพูดไปพร้อม ๆ กับการสะอื้น
ดิวจะขอโทษอะไรโอ๊ตกันละ ไม่เห็นมีอะไรที่ต้องขอโทษ โอ๊ตตอบกลับมา
สำหรับโอ๊ต แค่เพียงได้ใกล้ชิดกับดิว ได้เป็นเพื่อนกับดิว ได้ดูแล ได้ช่วยเหลือดิว เหมือนอย่างเช่นตอนนี้ คนแรกที่ดิวนึกถึงคือโอ๊ต โอ๊ตก็ดีใจมากแล้วละ โอ๊ตพูดออกมาเหมือนกับจะรู้ว่าเราขอโทษเขาเรื่องอะไร คำพูดของโอ๊ตยิ่งเป็นเหมือนคมมีดที่มากรีดลงกลางใจที่กำลังแตกเป็นเสี่ยง ๆ ถึงเราจะรู้ว่านายโอ๊ตรักเรามากแค่ไหน แต่เรายังคงทำได้เพียงกอดคอเขาในฐานะเพื่อน เป็นที่พึ่งยามที่เราหัวใจแตกสลาย ด้วยทั้งเหนื่อยและปวดใจ ไหนจะด้วยความเมา เราหลับไปตอนไหนเราไม่รู้ รู้แต่เพียงว่าพอเราตื่นขึ้นมาอีกครั้งด้วยอาการปวดหัวไม่ใช่เล่น เราพยายามยันร่างกายตัวเองให้ลุกขึ้นนั่งได้ เราถึงได้เห็นว่าสภาพที่เรานอนนั้น เป็นที่นอนที่เป็นเบาะหนา ๆ ของนายโอ๊ต ตรงท่อนล่างของเรายังคงมีผ้าห่มผืนบางถูกห่มปิดไว้ให้ ส่วนเสื้อนั้นตอนนี้เราใส่เสื้อกล้ามอยู่เพียงตัวเดียว ซึ่งคงเป็นนายโอ๊ตที่เปลี่ยนเสื้อให้เรา และให้เราใส่เสื้อของเขา เมื่อมองไปรอบ ๆ เราเห็นกะละมังใส่น้ำเล็ก ๆ ซึ่งก็รู้ได้เลยว่านายโอ๊ตคงใช้เช็ดหน้าเช็ดตัวให้เราอีกครั้งก่อนที่จะเปลี่ยนเสื้อให้เรา แต่ที่เราสะดุดตาที่สุดคือนายโอ๊ตคนที่แสนดีคนนี้กึ่งนั่งกึ่งนอนฟุบหน้าหลับอยู่ข้าง ๆ เบาะของเขา โดยที่ในมือยังคงถือผ้าเช็ดหน้าผืนเล็ก ๆ อยู่ ทุกสิ่งทุกอย่างที่ผ่านมาที่นายโอ๊ตทำให้เรา จนมาถึงตอนนี้ เวลานี้ เวลาที่เขานอนฟุบหน้าหลับอยู่ตรงหน้าเรานั้น เราซาบซึ้งใจมาก มากจนน้ำตาของเราต้องรินไหลออกมาอีกรอบ เราไม่รู้ว่านายโอ๊ตเขาต้องเจ็บปวด เสียใจ หรือต้องร้องไห้เพราะความรักที่ให้เรามา แต่ไม่เคยได้รับกลับไป กี่ครั้งกี่ครามาแล้ว ตลอดเวลาเขาคงเส้นคงวาเหมือนเดิม แต่ทำไมไอ้เจ้าหัวใจของเรามันถึงเป็นหัวใจที่แข็งขนาดนี้ ไม่ยอมที่จะเปิดใจให้กับนายโอ๊ตได้เข้ามาเลย เรารู้ในใจของเราดีว่าถึงแม้เราจะไม่ได้รักกับนายภูมิเราก็คงจะไม่มีทางที่จะมารักกับนายโอ๊ตคนนี้ได้เลย ทำไมเราเป็นคนแบบนี้ เราบอกตัวเองให้ลองมองดูนายโอ๊ตที่กำลังนอนหลับอยู่ต่อหน้าเรา มองดูว่าเขาทุ่มเทมากมายเพียงใดเพื่อเรา เขาไม่ได้ทำเพื่อเราแค่เพียงครั้งนี้ครั้งเดียว เขาทำมันมาตลอด ทำมันมาด้วยความเต็มใจ แต่ใจเราไม่ยอมรักเขาสักที เราเลยทำได้เพียงเอามือของเราไปลูบผมของเขาเบา ๆ พร้อมกับพูดกับเขาเบา ๆ ว่า
เราขอโทษ ที่เราไม่ได้รักนาย

แสดงเพิ่มเติม

รีวิว (0)

เรื่องนี้ยังไม่มีรีวิว