เดือนมีนาคม ปี 3XXX
22.50 น.
"หาวว....ง่วงจังเลย ในที่สุดก็ทำโปรเจคใหม่เสร็จสักทีนึง"ชายหนุ่มหน้าตาดีใส่แว่นเล็กๆกำลังเอนหลังพิงพนักเก้าอี้ลอยพื้นสีขาว เบื้องหน้าเขาปรากฎเป็นก้อนสีเหลี่ยมลูกบาศก์ขนาดฝ่ามือ
ชายหนุ่มคนนี้ขื่อ โคโรดะ ริว เขาเป็นนักประดิษฐิ์และออกแบบเทคโนโลยีระดับกลางคนหนึ่งของบริษัทโยโยม่าที่ผลิตอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ขั้นสูงรายใหญ่ของโลก ทันใดนั้นประตูอัตโนมัติพลันเปิดออกพร้อมมีคนเดินเข้ามา
"กาแฟหรอ เอาวานไว้ตรงหน้าคอมพิวเตอร์นั่นแหละ....โอ๊ยย"ริวยกมือขึ้นกุมหัวของเขาที่โดยสันแฟ้มฟาดใส่
"กาแฟหรอ.. เอาแฟ้มไปกินก่อนไป๊...."หญิงสาวรูปร่างอ้อนแอ้นสวมชุดบุคลากรระดับสูงเท้าเอวโดยมืออีกข้างพึ่งยกแฟ้มออกมาจากการฟาด
"โถ่ หัวหน้าซิสุมิเองหรอ ไอ้ผมก็นึกว่ามีกาแฟมาส่งซะอีก"ซิสุมิเธอเป็นหัวหน้าของริวและเป็นนักประดิษฐิ์และออกแบบเทคโนโลยีระดับแอดวานซ์เพียงคนเดียวของบริษัทแห่งนี้ และยังเป็นลูกพี่ลูกน้องของเขาอีกด้วย
"ฉันนี่แหละจะเป็นใครไปได้ และสิ่งประดิษฐิ์ของนายเสร็จแล้วหรอ? มันคืออะไร"ซิสุมิถาม
"มันคือสิ่งประดิษฐิ์ที่ผมทุ่มเทแรงกายแรงใจค้นคว้าและประดิษฐิ์ขึ้นมา มันคือ....มันคือ..."
"มันคืออะไรกันเล่ารีบๆบอกมา"ซิสุมิพูดพลางยกแฟ้มขึ้นมาอีกที
"มันคือ....เครื่องมองทะลุใยผ้าครับ..."
เปรี้ยง!! โครมมม!!
ปรากฎร่างของริวบินไปด้วยแรงตบอย่างรุนแรงด้วยพลังของแฟ้มซิสุมิ
"ไอ้บ้านี่ นึกว่าไอ้เครื่องที่นายใช้เวลาสร้างมามันจะดีกว่านี่เสียอีก.."ซิสุมิกำลังโกรธ
"โอ๊ยย!! หัวหน้า ผมแค่ล้อเล่นแค่นั้นเอง อูยย...มันคือหุ่นยนต์ทำลายล้างขนาดจิ๋วครับ"ริวว่าแล้วก็กดปุ่มตรงด้านข้างของลูกบาศ์ก ฉับพลันลูกบาศ์กขนาดฝ่ามือพลันแยกออกเป็นส่วนๆในทันที และดูเหมือนว่าจะมีพลังแม่เหล็กดูดชิ้นส่วนต่างๆมาประกอบกันไม่นานจึงปรากฎหุ่นยนต์ตัวเล็กขนาด2ฝ่ามือขึ้นมา
"โห!! นี่มันเจ๋งมากเลยนะเนี่ย ไม่น่าเชื่อว่านายจะผลิตมันออกมาได้"ซิสุุมิพูดออกมา
"ใช่ไหมล่ะครับ ระดับผมแล้ว.....อะ จ๊ากกก"ริวกุมหัวของตนเองทันที ดูเหมือนซิสุมิจะฟาดออกมาแรงเกิน
"ไอ้บ้า!! เดี๋ยวนี่ไม่มีสงครามแบบฆ่าทำลายล้างกันแล้ว ในปัจจุบันประเทศต่างๆทำสงครามเศรษฐกิจเพียงเท่านั้น อีกอย่างหุ่นยนต์จิ๋วนี่น่ะ มีคนออกแบบไปเมื่อนาน100มาแล้วแต่ก็ไม่มีคนยอมรับ หัดหาข้อมูลมาใส่กระโหลกของนายซะบ้าง"ริวคุกเข่าทั้งสองข้างและก้มหน้าลงอยู่เบื้องหน้าซิสุมิที่กำลังเทศนาอยู่เป็นคุณป้าแถวบ้าน
"คราบบ..ผมผิดไปแล้วคราบ ยกโทษให้ผมด้วยนะคราบ ท่านหัวหน้าซิสุมิ"เซนเอาหัวจรดพื้นขอขมาซิสุมิที่ยังพูดไม่หยุด
"นายนี่มัน....เฮ้อ ฉันจะบ้าตายที่มีลูกพี่ลูกน้องอย่างนายซักวันนึงแหละ"ซิสุมิกุมขมับของเธอและส่ายหน้า"เอาล่ะ ทีหลงก็หัดศึกษาหาความรู้ซะบ้างก็ดี เอาไอ้หุ่นกระป๋องจิ๋วนี่ไปทิ้งได้แล้ว"
"ขอบพระคุณใต้เท้าอย่างสูง"ริวใช้สกิลขั้นเทพของเขา"ประจบสอพลอ"โดนทันที หลังจากนั้นจึงโดนสันแฟ้มไปอีกทีนึงก่อนที่ซิสุมิจะเดินออกไป
หลังจากซิสุมิเดินออกไปริวลูบหัวของเขาและสีหน้าทะเล้น สดใสพลันเปลี่ยนไปเป็นสงบนิ่งและเริ่มเก็บหุ่นยนต์จิ๋วของเขาใส่ถุงถำและเดินไปตรงประตู เซ็นเซอร์แสกนม่านตาและประตูจึงเลื่อนเปิดออก
ผ่านไปซักพักริวจึงลงลิฟต์มาถึงชั้นล่างและเดินไปตรงถังขยะและทิ้งถุงดำลงไปทันที
บึ้มมมมม!! ตูมมม!!
เกิดระเบิดบนตัวอาคารชัั้นบน ริวมองขึ้นไปและสีหน้าพลันแตกตื่นโดยทันที จะไม่ให้แตกตื่นได้อย่างไรล่ะ ก็ชั้นนั้นมันเป็นชั้นบนสุดและเป็นห้องของซิสุมินั่นเอง
ริวไม่รอช้าวิ่งไปที่ลิฟต์ ระหว่างทางโดนคนที่แตกตื่นกระแทกจนเซไปบ้างแต่ก็รีบเดินไปกดลิฟต์ขึ้นสู่ชั้นรองสุดท้ายและเดินออกมาขึ้นบรรได ริวเดินขึ้นมาเห็นผู้คนที่เป็นผู้ช่วยของซิสุมิหลายคนกำลังช่วยดับไฟอยู่ เขากวาดสายตาไปทั่วแต่ไม่เจอซิสุมิ จึงเดินไปจับคอเสื้อของผู้ช่วยและถามอย่างตื่นตระหนกว่า
"พีสาวผม ซิสุมิอยู่ที่ไหน!!!"
"หัวหน้ายังอยู่ข้างในอยู่เลย.."ริวปล่อยมันลงพื้นทันที และรีบมองหาหนทางช่วย เขาพลันเหลือบไปเห็นผ้าผืนใหญ่ ริวไม่รอช้าคว้าถังน้ำราดใส่ผ้าและตัวเขาจนชุ่มและคลุมผ้าแล้วจึงหยิบหน้ากากออกซิเจน2อันเดินเข้าไปทางด้านขวาของห้องนี้ในทันที
หลังจากเดินเข้ามาแล้วปรากฎซากหักพังมากมาย ไฟที่ลุกลามอย่างวดเร็วจนเครื่องดับไฟติดอยู่ด้านบนพ่นลงมาเท่าไรก็ไม่มีทีท่าจะหยุดลง ฉับพลันริวมองเห็นร่างๆหนึ่ง เขาไม่รอช้าเดินเข้าไปในทันทีและสวมหน้ากากออกซิเจนให้ซิสุมิที่กำลังสำลักควันทันที
"ระ...ริว "ซิสุมิที่ได้รับออกซิเจนพลันถูกอุ้มโดยริวทันที
"ริว พี่ต้องไปกดปุ่มทำลายห้องนี้ก่อนที่ไฟจะลามไปถึงของปฎิกรณ์ไม่งั้นทั้งอาคารได้หายไปแน่นอน"
"มันอยู่ตรงไหนพี่"ริวถามอย่างรีบร้อนขณะที่อุ้มซิสุมิไปตามทางเดิมที่เข้ามา
"มันอยู่ในแล็ปของพื้นจุดที่อยู่ด้านซ้ายสุด เร็วเข้า พี่ว่าเรามีเวลาไม่มาก"
หลังจากซิสุมิพูดจบริวก็อุ้มจนมาถึงหน้าทางออกโดยมีผู้ช่วยยืนอยู่
"ริวหยุดทำไม เราต้องรีบไปทางด้านซ้ายชองชั้นนี้แล้วนะ ไม่มีเวลาแล้ว ริว..ริว"
"พี่ครับผมมีเรื่องอยากจะบอก"ซิสุมิที่ได้ยินดังนั้นพลันใจสั่นสะท้านขึ้นมาทันที
"ริว นายจะทำอะไรน่ะ รีบไปกันได้แล้ว"เสียงเธอเริ่มสั่นๆ
"ไม่ได้หรอกครับ พวกเราไปไม่ทันแล้วล่ะถ้าผมอุ้มพี่อยู่อย่างนี้"
"ไม่..ไม่นะริว นายไม่ทำสิ่งที่พี่คิดไว้หรอกใช่ไหม"ซิสุมิเริมมีน้ำตาออกมา
"ผมไม่มีทางเลือก...."ฉับพลันเคนผลักส่งซิสุมิออกไปให้ผู้ช่วยของซิสุมิโดยทันที
"ไม่ ไม่นะเคน อย่าไปนะ ขอร้องล่ะ ฮือๆ...อย่า"ซิสุมิร้องไห้พยายามเข้าไปหาเคนแต่ก็ถูกพวกผู้ช่วยห้ามเอาไว้
"พี่ครับ ตลอดเวลาที่ผ่านมา ถึงผมจะไม่ดี ทำตัวน่ารำคาญ ทำอะไรก็ไม่ได้เรื่อง แต่พี่ครับ...ผมน่ะ...รักพี่ที่สุดนะ"เคนถอดแว่นออกและส่งให้กับผู้ช่วยของซิสุมิและวิ่งไปทางซ้ายในทันที
"ไม่นะ กลับมาริว อย่าไป..ขอ.ร้องล่ะนะ."
ซิสุมิที่ดิ้นหลุดพยายามไล่ตามแต่ก็มีเหล็กที่ถูกไหม้หลอมละลายตกลงมาบังทางเข้าไว้ ซิสุมิจึงถูกลากออกมา
"มันอันตรายนะครับท่านหัวหน้า"ผู้ช่วยคนหนึ่งที่ลากซิสุมิออกมา
.
.
.
ริวในตอนนี้กำลังวิ่งอย่างสุดกำลังและไม่นานจึงมาถึงห้องซ้ามือสุดและเห็นปุ่มสีแดงปุ่มหนึ่ง เขาไม่รอช้ากดไปที่ปุ่มนั้นโดยทันที
เขารู้อยู่แล้วว่าถ้าเขานำซิสุมิมาด้วยเหล็กที่ทลายมาปิดทางทั้งสองคนจะออกไปไม่ได้ วิธีที่ดีที่สุดก็คือการเสียสละ ริวนั่งพิงผนังห้องไว้
"ลาก่อนครับ พี่สาวซิสุมิ"ริวพูดพร้อมน้ำตาที่ไหลเป็นสาย
ปรากฎเสียงที่ขาดๆหายๆดังออกจากทั้งห้อง
[ร----บบ..กำละ ทำลาย ตัวว..เอง ภายใน10...9..8...7....6....5....4...3...2...1...แซ่ดด---]
ปรากฎมีม่านพลังใสสีเหลืองครอบทั้งห้องไว้อย่างแน่นหนา เคนหลับตาลงอย่างเชื่องช้า ผ่ายซิสุมิที่อยู่ด้านยอกเห็นม่านพลังสีเหลืองใสพลันแตกตื่นสุดขีดเพราะเธอรู้ว่าเคนกดปุ่มทำลายตนเองไปแล้ว
"เคนนนนนน!!!....."
วื้ดดดดดด!! ฟรึ่บบบบ!!
ม่านพลังหดตัวลงอย่างรวดเร็วในทันที พร้อมห้องท้้งห้องหายไปอย่างไร้ร่องรอยพร้อมทั้งเคนด้วย
ซิสุมิที่เห็นพลันบ่อนน้ำตาแตกและนั่งลงร้องไห้อย่างหนักหน่วง ผ่านไปนานพอสมควรพอเธอเริ่มร้องเบาลง ผู้ช่วยคนหนึ่งเดินเข้ามาใกล้และยื่นแว่นของริวให้ซิสุมิดดยทันที ซิสุมิที่เงยหน้าขึ้นมาดวงตาแดงก่ำจากการร้องไห้เห็นดังนั้น จึงเอื้อมมือสั่นๆไปหยิบแว่นของริวออกมากอดไว้กับตัวเองและสลบไปในที่สุด
.
.
.
.
"อืมมมม เช้าแล้วหรอเนี่ย"ริวงัวเงียตื่นและลุกนั่งขึ้นมา ฉับพลันสายตาของเขาพลันกวาดมองไปรอบๆกูแล้วแปลกตามาก ดูจากผนังห้องเหมือนเป็นลวดลายที่แปลกตา
เพล้งงงงง!!
เสียงที่ทำให้ริวหันไปมองทันที เขาเห็นหญิงสาวแต่งตัวเหมือนเมดสีดำ มีหูเหมือนแมว หางกลมๆยาว สีผมสีเทาอ่อน ดูเหมือนหญิงสาวคนนั้นจะตกใจเป็นอย่างมาก ไม่นานน้ำตาของเธอจึงเอ่อล้นออกมา
"องค์หญิง!! ท่านทรงฟื้นจากนิทราแล้ว!!"