OPEN
31 December 2017
ฝากเพจด้วยจ้า ไว้ติดตามข่าวสารน้า เพจร้างมานานตอนนี้กลับมาใช้งานแล้วจ้า ฮ่าๆ
Smile_Lynlalin
Smile_Lynlalin
บทนำ
‘เพลงต่อไปเป็นเพลงจากหนุ่มน้อยคนหนึ่งที่อยากบอกความรู้สึกให้กับหญิงสาวที่เขาแอบชอบอยู่นะครับ ซึ่งเขาเองก็ไม่รู้ว่าสาวที่เขาแอบชอบอยู่รู้หรือยังนะครับ จึงฝากบอกความรู้สึกผ่านบเพลงที่มีชื่อว่า รู้ยัง ของคุณต้นธนษิตคร๊าบบบ’
สิ้นเสียงของดีเจวิทยุคลื่น 175 พูดด้วยอารมณ์ตื่นเต้นตามแบบฉบับหนุ่มอารมณ์ดีของเขาเพื่อปลุกเร้าอารมณ์ของคนฟังให้รู้สึกสนุกเรียบร้อยแล้วเสียงดนตรีก็ค่อยๆ ดังขึ้นมาแทนที่เป็นขณะเดียวกับที่ผมเดินมาถึงเริ่มสระน้ำในสวนลุมพินีที่ผมมักจะมาเดินเล่นพร้อมกับฟังเพลงจากคลื่นวิทยุทางโทรศัพท์ผ่านหูฟังแบบสมอลทอร์คที่แถมมาตอนซื้อโทรศัพท์เป็นประจำทุกเย็น
“ทำไมพี่ต้องทำกับแนนอย่างนี้ด้วยคะ พี่มาหลอกแนนทำไม!!”
แต่เมื่อเดินมาถึงสถานที่ที่ผมชอบมานั่งฟังเพลงเป็นประจำก็พบกับชายหญิงคู่หนึ่งที่ดูเหมือนกำลังทะเลาะกันเสียงดังอย่างไม่อายใครจนเสียงของหญิงสาวที่แต่งตัวแสนเซ็กซี่ด้วยชุดปาดไหล่สีแดงที่ยาวผ่านน้องสาวของเขามาแค่คืบเดียวรวมถึงร้องเท้าส้นเข้มสูงปรี๊ดดังแทรกเข้ามาในหูฟังอย่างที่ผมไม่สามารถห้ามได้ แต่สายตาผมกลับมองไปที่ชายหนุ่มที่อยู่กับหญิงสาวคนนั้นมากกว่า
ชายคนนั้นสวมเสื้อเชิ้ตสีขาวที่ถูกพับแขนขึ้นไปจนถึงข้อศอกทั้งสองข้างโดยมีนาฬิกาเรือนหรูประดับอยู่ที่ข้อมือส่วนท่อนล่างก็สวมกางเกงสแล็คขายาวสีดำกับรองเท้าหนังสีเดียวกับกางเกงที่ถูกขัดจนเงาวับอย่างภูมิฐาน ดูแล้วไม่น่าเชื่อว่าบุคคลนี้จะไปหลอกลวงอะไรหญิงสาวคนนั้นได้ แต่ก็อย่างว่าคนสมัยนี้รู้หน้าไม่รู้ใจ ในขณะที่ผมกำลังจะเลิกสนใจคนสองคนแล้วหันหน้ามามองสระน้ำที่อยู่ตรงหน้าก็ได้ยินเสียงดังมาจากที่ที่มีสองหนุ่มสาวนั้นอีกครั้ง แต่เสียงนี่กลับไม่ใช่เสียงพูดคุยหรือด่าทอเหมือนก่อนหน้า
เพี๊ยะ!!
แต่เป็นเสียงเนื้อแก้มที่ถูกฝ่ามือเรียวสวยนั่นกระทบเข้าอย่างจัง หรือเรียกง่ายๆ ว่าการตบนั่นเอง! ผมถึงกับอ้าปกค้างกับเหตุการณ์ตรงหน้าอย่างตกตะลึง แต่ชายคนนั้นก็ไม่ได้โต้ตอบอะไรได้แต่ยืนนิ่งจนหญิงสาวชุดแดงเดินสะบัดก้นออกไป
‘มีใครที่เขาเฝ้าคอยแต่เธอตรงนี้ รู้ยัง ไม่ใช่ความบังเอิญก็ตั้งใจเดินมาให้เจอ มีใครที่เขาเฝ้ามองแต่เธอตรงนี้ รู้ยัง…’
อยู่ๆ เสียงร้องของพี่ต้นก็ดังขึ้นมาเป็นจังหวะเดียวกันกับที่ชายที่ถูกตบหน้าคนนั้นหันมาสบตากับผมพอดี ผมถึงกับทำตัวไม่ถูกรีบหันหน้าหลบอย่างร้อนรนเพราะไม่อยากเดือดร้อนและถูกกล่าวหาว่าแอบฟังทั้งที่เพียงแค่บังเอิญเดินมาได้ยินเท่านั้นเอง! ไม่ได้ตั้งใจเดินมาให้เจอพวกเขาสักหน่อยเพียงแต่ที่ตรงนี้เป็นที่ที่มมานั่งฟังเพลงประจำอยู่แล้ว เพราะฉะนั้นพวกเขาต่างหากที่เดินมาทะเลาะกันตรงที่ประจำของผม พอหันกลับไปมองอีกครั้งชายคนนั้นก็เดินออกไปแล้ว
เฮ้อ เกือบซวยแล้วไหมล่ะ พี่ต้นนะพี่ต้นมาร้องอะไรตอนนี้ เนื้อเพลงก็ช่างเหมาะเจาะเสียเหลือเกิน!
Rrrr
หลังจากไปนั่งฟังเพลงวิทยุที่สวนลุมพินีจวบจนเวลาล่วงเลยจนถึงหนึ่งทุ่มผมก็เดินกลับมาบ้านเฉกเช่นทุกวัน แต่ขายังไม่ทันพ้นประตูบ้านเสียงโทรศัพท์ที่ผมถือโดยสวมสมอลทอร์คอยู่ก็ดังขึ้น
‘หิน’ เพื่อนสนิทผมเอง
“ฮัลโหล”
(เค้ก! กูมีเรื่องอยากจะขอให้ช่วย มึงต้องช่วยกูนะ กูทนแบบนี้ต่อไปไม่ไหวแล้ว)
ทันทีที่กดรับสายเสียงของบุคคลปลายสายก็ตอบกลับมาอย่างร้อนรนจนผมอดเป็นห่วงเพื่อนรักไม่ได้
“มึงเป็นอะไร เกิดอะไรขึ้น”ผมเอ่ยถามพลางเดินเข้าไปในบ้านแล้วนั่งลงบนโซฟาในห้องรับแขกพรางหยิบหมอนอิงที่วางอยู่ข้างๆ มาวางรองไว้บนตัก
(พี่กูกลับมาจากแคนาดาแล้ว)
“พี่อิฐอ่ะหรอ”
(อาห๊ะ แต่มันเปลี่ยนไปว่ะ) น้ำเสียงของหินเอ่ยออกมาแบบแผ่วๆ บ่งบอกถึงความกังวล
“ยังไง”
(พี่อิฐเย็นชากับกูมากเลยและที่สำคัญมันกลับมาได้สองอาทิตย์แต่แย่งแฟนกูไปสามคนแล้ว! มึงต้องช่วยกูนะเค้ก กูไม่รู้จะไปพึ่งใครแล้ว)
ช่วงแรกน้ำเสียงของหินค่อนข้างจะดูเศร้าๆ ก่อนจะเปลี่ยนน้ำเสียงเป็นอารมณ์โกรธที่ถูกแย่งแฟนไปถึงสามคน นี่สินะสาเหตุที่ทำให้มึงเปลี่ยนแฟนบ่อยในระยะเวลาแค่สองอาทิตย์ ก่อนจะเปลี่ยนอารมณ์อีกรอบเป็นเว้าวอนในระยะเวลาอันสั้น
เปลี่ยนอารมณ์ไวชิบ -_-
“มึงจะให้กูช่วยอะไร คงไม่ได้จะให้กูไปซุ่มตีพี่มึงหรือแย่งแฟนมึงจากพี่มึงมาอีกทีหรอกนะ”
ผมบอกกันไว้ก่อนเพราะไอ้เพื่อนผมคนนี้มันชอบคิดอะไรแปลกๆ อยู่เสมอจนผมไม่กล้ารับปากทันทีว่าจะช่วยได้ ส่วนเรื่องแย่งแฟนมันกลับมายิ่งแล้วใหญ่พี่น้องตระกูลนี้มันหน้าตาดีครับไอ้หินเคยเอารูปพี่กับมันตอนเด็กๆ ให้ผมดูอยู่
(กูไม่ได้จะให้มึงไปซุ่มตีพี่กูหรือแย่งแฟนกูจากพี่กูหรอก แต่มึงต้องมาเป็นแฟนกู)
!!!!!!
ผมถึงกับสตั๊นกับคำขอบ้าๆ ที่เพื่อนสนิทผมเอ่ยออกมา
“มึงจะบ้าหรอไอ้หินกูเป็นผู้ชาย!”ผมด่ามันกลับไปทันทีที่ได้ยินคำขอจากปลายสาย
(ก็เพราะมึงเป็นผู้ชายไงกูถึงอยากให้มึงมาแกล้งเป็นแฟนกูหน่อย นะเค้กกูต้องการให้มึงช่วยจริงๆ น้า เค้กเพื่อนร๊ากกกกก)
ไอ้หินไม่พูดเปล่าแต่มันกลับทำน้ำเสียงอ้อนวอนแบบที่มันชอบทำใส่ผมเวลาผมโกรธหรืองอนมันเป็นประจำและผมก็จะใจอ่อนให้มันทุกครั้งไป -_-
เฮ้อ
“เออๆ ก็ได้ แต่มึงต้องให้เหตุผลที่สมเหตุสมผลก่อน”
(ไม่ยาก ก็แฟนกูที่พี่กูแย่งไปทั้งหมดเป็นผู้หญิงแสดงว่าพี่กูไม่มีรสนิยมชอบผู้ชาย และถ้าหากกูแกล้งว่าคบกับมึงพี่กูก็จะเขวคิดว่ากูเป็นเกย์และเลิกแย่งแฟนกูไปเอง)
เหอะ ความคิดไอ้หินก็ดูเหมือนจะฉลาดนะแต่มันจะไม่เสี่ยงไปหน่อยหรอ?
“เออๆ กูยอมช่วยก็ได้ แล้วกูต้องทำยังไงบ้าง”
(มึงแค่เออออตามกูก็พอ เดี๋ยวกูสานต่อเอง)
ทำไมคำพูดมันดูไว้ใจไม่ค่อยได้เลยวะ ผมคิดถูกแล้วใช่ไหมที่ตอบตกลงจะช่วยมันไป ทำไมผมรู้สึกลางสังหรณ์ไม่ค่อยดีเลย...