My secret love
ช่วงเวลามัธยมคือช่วงเวลาที่ดีที่สุด มีกิจกรรมที่สร้างสรรค์ควบคู่กับวิชาการ มีเพื่อนพ้องที่ดีและไว้ใจได้ ใช้ชีวิตอย่างสนุกสนาน ไม่ต้องแบกรับภาระอะไร และสิ่งที่ขาดไม่ได้นั่นคือ... ความรัก ความรักในวัยเรียนผู้ใหญ่หลายคนบอกว่าเป็นไปได้ยาก พอจบมัธยมก็ต้องแยกย้ายเลิกรากันไป มีน้อยคู่นักที่จะได้คบกันไปจนแต่งงาน สุดท้ายมันก็กลายเป็นแค่ความรักของเด็กๆ
“แต่มันก็แค่ความคิดของผู้ใหญ่เท่านั้นล่ะ
~
” ร่างสูงสะบัดหน้าไล่ความคิด พลันมองไปยังหญิงสาวผมยาวสลวยด้านข้าง ขาที่ยาวเกินมนุษย์มนายกขึ้นไขว้ ดวงตาเจ้าเล่ห์ตราตรึงอยู่กับหญิงสาวข้างกาย เธอคือรักแรกและรักเดียวในใจเขา หญิงสาวใบหน้าหวานดุจน้ำเกสรจากดอกกุหลาบในยามเช้า ร่างบางขยับตัวลุกขึ้นเดินออกจากโต๊ะไปอย่างไม่สนใจสายพานแห่งความรักที่เขานั้นทอดไปให้ทางสายตา ดวงตาคู่โตเรียวสวยได้รูปไม่ปรากฏความรู้สึกใดๆออกมา ปากอิ่มชมพูปิดแน่นสนิท หน้ากลมเชิดขึ้นอย่างไม่สนใจสิ่งรอบข้าง ร่างสูงบางสมส่วนค่อยๆขยับตัวไปอย่างช้าๆจนพ้นประตูห้องเรียน
“ใบไผ่” เสียงทุ้มจากร่างสูงในห้องตะโกนไล่หลัง พลันลุกขึ้นวิ่งตามร่างบางตรงหน้า เพียงไม่กี่ก้าวเท่านั้น เขาก็ได้เดินขนาบข้างหญิงสาวผู้เป็นยอดดวงใจ
“ฉันจะไปห้องน้ำ” ปากบางพูดขึ้นเป็นประโยคแรกของวัน น้ำเสียงเย็นชาเหมือนน้ำแข็งขั้วโลกเหนือไม่สามารถทำให้ชายร่างสูงสะท้านได้แม้แต่น้อย
“อื้อ ไปสิ ฉันจะยืนเฝ้าให้” ใบหน้าหล่อร้ายเผยยิ้ม
“ไม่ต้อง” ร่างบางเดินเข้าห้องน้ำไปโดยไม่หันมามองผู้หวังดีประสงค์รัก เขาผู้สวมบทเป็นการ์ดยืนเฝ้าหน้าห้องน้ำ
“เห้ย ซันจิ มายืนทำอะไรตรงนี้วะ?” กลุ่มผู้ชายในสภาพเสื้อหลุดออกจากกางเกงไม่ต่างจากผู้ชายร่างสูงผู้สวมบทเป็นการ์ดให้หญิงสาวด้านใน เขาดึงมือที่ล้วงกางเกงออกไปแตะมือกับเหล่าเพื่อนเก่าสมัยม.ต้น
“นี่แกมายืนส่องสาวถึงหน้าห้องน้ำหญิงเลยหรอวะ นิสัยไม่เปลี่ยนไปเลยจริงๆ ฮ่าๆ”
“ไง ได้อยู่ห้องเดียวกับแฟนจนได้สินะ ลืมพวกเราไปแล้วล่ะสิ”
“ฉันไม่ลืมพวกแกหรอกน่า ใครจะลืมน้ำฉี่ร่วมสาบานได้ลง ฮ่าๆ” แขนยาวพาดไปบนไหล่เพื่อนชาย
“อ๋อ ที่แท้ก็มายืนเฝ้าเมีย ฮ่าๆ หวัดดีใบไผ่” หนึ่งในแก๊งค์หันไปทักทาย หญิงสาวที่กำลังเดินออกจากห้องน้ำ
“อือ” ใบหน้านิ่งพยักหน้าเบาๆ ก่อนเดินผ่านวงล้อมไป
“จะผ่านไปกี่ปี ยัยนี่ก็ยังเย็นชาไม่เปลี่ยนไปเลยจริงๆ” เพื่อนร่วมสาบานหันไปมองหน้าเพื่อนรัก ผู้ยอมทุ่มเททั้งแรงกายแรงใจเพื่อพิชิตใจยัยเย็นชาแล้วส่ายหน้าเบาๆ
“ไปก่อนนะ ใบไผ่รอฉันอยู่” ขายาววิ่งตามร่างบางไป ทิ้งไว้แต่กลุ่มเพื่อนทั้งสามที่มองตามหลังเขาไปอย่างเหนื่อยใจ
“เมื่อไหร่มันจะเลิกวิ่งไล่ตามยัยเย็นชานั่นกันวะ?” หนึ่งในกลุ่มพูดขึ้นก่อนดูดอมยิ้มต่อ
“มันก็รักของมันแหละน่า ไม่อย่างนั้น มันไม่ตามจีบมาตลอดสามปีหรอก นี่ก็เข้าปีที่สี่แล้วหวังว่ามันจะไม่แห้วเหมือนปีก่อนๆล่ะเนอะ” อีกคนล้วงกระเป๋าเดินนำเข้าห้องน้ำไป
“กูว่าไม่มีทางว่ะ ขั้วโลกที่ว่าหนาวก็ยังไม่หนาวเหน็บเท่าใจใบไผ่ งานนี้คงต้องปิดร้านเหล้าแล้วล่ะ”
“เห้ออออออ
~~~
”
*ขออนุญาตนำเจ้าของรูปมาใช้ประกอบนะคะ