:: SF: Reborn :: When Reborn sick!!! (RL) ::
0
ตอน
4.63K
เข้าชม
38
ถูกใจ
2
ความคิดเห็น
27
เพิ่มลงคลัง

 

ปัง

 

“รีบอร์นนนนนนนนนนนนนนน”

 

“ตื่นเดี๋ยวนี้เลยนะ นายจะนอนกินบ้านกินเมืองไปถึงไหน หายหัวไปไหนมาตั้ง 2 วัน รู้มั้ย คนทั้งแฟมิลี่เป็นห่วงนะ”

 

“...................................................”

 

“อย่ามาเงียบนะ นายเป็นบ้าอะไรของนายเนี่ย เล่นอะไรไม่ตลกนะ”ร่างบางเดินไปที่เตียงใหญ่สีขาวสะอาดตาตรงหน้าด้วยความเป็นห่วง มือบางค่อยๆ ดึงผ้าห่มที่คลุมร่างข้างในจนมิดออกอย่างเบามือ เพราะไม่อยากทำให้คนตรงหน้าตื่นมากะทันหัน ก็รู้ๆ กันอยู่ว่าคนอย่างรีบอร์นเวลานอนห้ามใครรบกวน ถ้ายังไม่อยากตายก่อนวัยอันควร

 

“เฮ้ย ตัวร้อนจี๋เลย”

 

 

 

 

“อะไรนะ! รีบอร์นไม่สบาย”

 

“ไม่ต้องห่วงคุณรีบอร์นหรอกครับรุ่นที่ 10 พวกเราส่งเจ้าวัวบ้าไปดูแลคุณรีบอร์นเรียบร้อยแล้วครับ”โกคุเดระมือขวาคนเก่งแห่งวองโกเล่รายงานทันที

 

“ห๊ะ! ส่งแรมโบ้ไปเนี่ยนะ”นภาของวองโกเล่ร้องด้วยความตกใจ คิ้วสีน้ำตาลแทบจะชนกันทันที

ด้วยความกังวลและเป็นห่วงแรมโบ้

 

“ไม่เป็นไรหรอกสึนะ”เสียงทุ้มเอ่ยขึ้นพร้อมกับรอยยิ้มประจำตัวที่มักจะถูกส่งไปให้ใครต่อใครไปทั่ว

 

“แต่!”สึนะขัดขึ้นด้วยความกลุ้ม พลางเดินวนไปวนมาในห้องทำงานของตน

 

“เอาน่า คนที่จะทำให้รีบอร์นยอมฟังก็มีแต่...แรมโบ้คนเดียวนี่นา”ยามาโมะโตะเอ่ยอย่างสบายๆ พลางส่งรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ไปให้คนสวยผู้เป็นมือขวาของท้องนภาตรงหน้า แต่ร่างบางเจ้าของเรือนผมสีควันบุหรี่ไม่สนใจ กลับถลึงตาใส่อย่างไม่ยอมและตำหนิกลายๆ  ร่างสูงหัวเราะเบาๆ ที่แกล้งร่างบางให้หงุดหงิดเล่นอย่างชอบใจ

 

“ก็จริงของนาย”

 

 

 

 

“เฮ้ย ตัวร้อนจี๋เลย”เสียงหวานร้องอย่างตกใจ เพราะตนไม่เคยเห็นรีบอร์ยจะเจ็บไข้อะไรเลย แต่ไหงกับมานอนตัวร้อนอย่างกับไฟคนเดียวในบ้านแบบนี้ มิน่าละ ถึงหายไปตั้ง 2 วัน แล้วที่ไม่ยอมบอกใครก็เพราะจะกลัวเสียฟอร์มละซิ

 

“มันกินได้มั้ยละ ไอ้ฟอร์มที่นายชอบเต๊ะท่าเนี่ย ห๊า เป็นไงละ หวัดกินเลย เห็นมั้ย แล้วไม่ยอมบอกใครอีก อยากตายมากรึไง...”เสียงหวานบ่นเจี้ยวจ้าวไม่หยุด ขณะที่มือบางก็ทำหน้าที่ไม่น้อยหน้า ร่างบางค่อยๆ บรรจงเช็คตัวให้ร่างสูงเบาที่สุดเท่าที่จะทำได้

 

“เราต้องทำได้ซิแรมโบ้ แค่เปลี่ยนเสื้อผ้าให้รีบอร์นแค่นี้เอง ผู้ชายเหมือนกัน จะไปอายทำไม”แรมโบ้ให้กำลังใจตัวเอง ขณะที่ค่อยๆ เปลี่ยนเสื้อผ้าให้ร่างสูงตรงหน้า

 

“สงสัยจะอาการหนักจริง ขนาดโดนตัวขนาดนี้ยังไม่ตื่น แล้วถ้ามีคนมาดักฆ่านายตอนนี้ นายไม่ซี้แหง๋แก๋หรอ”ร่างบางค่อยๆ ใส่เสื้อตัวใหม่ที่เป็นชุดนอนของร่างสูงอย่างบรรจง ราวกับของสำคัญที่ต้องทะนุถนอม

 

>.<

 

“เอาน่าๆ หลับตาไว้ก็ไม่เห็นหรอก ฮึบ”แรมโบ้หลับตาทันที มือบางรีบเปลี่ยนชั้นในของร่างสูงอย่างรวดเร็ว แต่ข้างในกับเต้นแรงจนกลัวว่ามันจะหลุดออกมา

 

“เฮ้อออออ เสร็จสักที”รอยยิ้มบางปรากฏขึ้นบนใบหน้าหวาน มือบางข้างที่ว่างยกขึ้นเช็คเหงื่อที่เกาะไรผมเบาๆ

 

“แล้วเราจะทำยังไงต่อดีละเนี่ย ยา! จริงซิ ต้องให้รีบอร์นกินยานี่นา”ร่างบางเก็บอุปกรณ์ที่ใช้เช็คตัวร่างสูงโดยที่ไม่ทันสังเกตว่าพื้นตรงนั้นมีน้ำหกอยู่ ทำให้ขาสวยที่กำลังจะก้าวนั้นลื่น

 

พรืด

 

“เฮ้ยยยยยยยยยยยยย”

 

ตุ๊บ

 

“โอ๊ยยยยยยยยยยย เจ็บอะ”เสียงหวานโอดครวญด้วยความเจ็บ จนไม่ได้สังเกตว่าตนเองลื่นแล้วเสียหลักหน้าขมำอยู่บนเตียงใหญ่และยิ่งไปกว่านั้น พอเงยหน้าขึ้นมาก็เจอกับใบหน้าหล่อเหลาของรีบอร์นเต็มๆ

 

“...อือออออ...”เสียงครางในลำคอ ทำให้แรมโบ้ชะงัก

 

“รีบอร์น! นายฟื้นแล้ว”ร่างบางเอ่ยอย่างดีใจจนลืมตัวว่าตนเองนั้นนั่งอยู่บนเตียงรีบอร์น แถมยังใกล้กันมากด้วย

 

“....แรม..โบ้”เสียงแหบเอ่ยชื่อร่างบางตรงหน้าเหมือนคนที่ละเมอกึ่งหลับกึ่งตื่น ขณะที่ตาคมค่อยๆ ปรือขึ้น เหมือนคนที่ใกล้จะได้สติ สมองอันชาญฉลาดของรีบอร์นค่อยๆ เริ่มทำงาน ถึงแม้จะรู้สึกปวดหัว แต่รีบอร์นกำลังประมวลเหตุการณ์ตอนนี้อยู่

 

“รีบอร์น นายเป็นยังไงบ้าง ปวดหัวมากรึเปล่า มึนหัวอยู่มั้ย”แรมโบ้ช่วยประคองร่างสูงให้นั่งได้

 

“น้ำ”เสียงแหบเอ่ยขึ้น

 

“อ๊ะ นี่น้ำ ค่อยๆ กิน”มือบางประคองแก้วน้ำในระดับที่ร่างสูงดื่มได้สะดวก มือบางอีกข้างถือทิชชู่รองไว้ใต้คางกันไม่ให้น้ำหยดเลอะ

 

“ หิวข้าวมั้ย”แรมโบ้ถาม มือบางค่อยๆ วางแก้วลงบนโต๊ะ

 

“..........................”

 

“กินยารึยัง ไม่ได้กินอะไรมากี่วันแล้ว”เสียงหวานเอ่ยขึ้นอีกครั้ง เมื่อร่างสูงตรงหน้าไม่คิดจะปริปากเอ่ยคำใดๆ ออกมาทั้งสิ้น

 

“...........................”

 

“เงียบทำไมเนี่ย ฉันไม่ได้พูดกับคนใบ้นะ”แรมโบ้โวยนิดๆ อย่างเหนื่อยใจ

 

“ฉันไม่ใช่คนใบ้”เสียงทุ้มที่เอ่ยขึ้นอย่างลำบาก สายตาคมสบกับนัยตาหวานสีมรกตคู่สวย

 

“ทีแบบนี้ละตอบ”แรมโบ้แขวะเบาๆ

 

“เดี๋ยวฉันไปทำอะไรให้กินจะได้กินยา”แรมโบ้ลุกขึ้น เพื่อจะลงไปยังชั้นล่าง

 

“ฉันไม่หิว”รีบอร์นเอ่ยเรียบๆ

 

“ตลกละ! ไม่ได้กินอะไรมาตั้งสองวัน ไม่หิวตายก็บุญแค่ไหนแล้ว อย่ามาวางท่ามากได้มั้ย”เสียงหวานเอ่ยอย่างเอาเรื่องนิดๆ

 

“ใครสนละ ฉันไม่ได้ขอ”ร่างสูงค่อยๆ นอนลง

 

“อยากตายรึไง”แรมโบ้ถามอย่างหาเรื่องนิดๆ เพราะตนเองก็แอบจะโมโหเบาๆ ที่รีบอร์นไม่ยอมดูแลตัวเอง

 

“ไม่ใช่เรื่องของแก”ร่างสูงเอ่ยอย่างตัดบท

 

แปร๊บบบบบบ

 

 

 

 

 

...ฉันรู้และเข้าใจมาโดยตลอด...

 

...ฉันมันไม่มีค่าในสายตานายอยู่แล้ว ตั้งแต่เมื่อก่อน จนแม้กระทั้งตอนนี้...

 

…ความเจ็บปวดกับคำพูดแสนเย็นชาของนาย สายตาที่ดุดัน ความเอาแต่ใจของนาย ทุกอย่างที่เป็นนาย...

 

...ทำไมฉันถึงได้ตัดใจไม่ได้สักทีนะ...

 

 

 

“ตื่นมากินข้าวซะ”กลิ่นข้าวต้มช่างเย้ายวนชวนให้คนที่หลับไปเพราะพิษไข้ ค่อยๆ ลืมตาขึ้นยามเมื่อได้ยินเสียงหวานดังแผ่วๆ มา

 

“กินหน่อยนะ จะได้กินยา”เสียงหวานเหมือนจะอ้อนนิด เผื่อร่างสูงจะยอมใจอ่อน

 

“นะๆ รีบอร์น นายไข้ขึ้นสูงมากเลยนะ กินหน่อยเถอะ”ร่างบางยังคงไม่ยอมแพ้ ทำทุกวิถีทางให้รีบอร์นยอมทานอะไรสักนิดก็ยังดี

 

“ก็ได้ แต่นายต้องมานั่งบนตักฉัน”รีบอร์นยื่นข้อเสนอให้ร่างบางตรงหน้าที่ดูเหมือนจะอึ้งในเงื่อนไขของตน

 

“ห๊ะ! แล้วทำไมฉันต้องไปนั่งบนตักนายด้วย”แรมโบ้โวยวายทันทีที่ตนได้สติ ใครจะบ้าไปนั่งบนตักนายกันละ นายมันเจ้าเล่ห์ที่สุด

 

“หรือว่ากลัว?”ปากบางสวยแสยะยิ้มอย่างผู้ชนะ

 

“ฉันไม่ได้กลัว แค่ฉันนั่งก็จบแล้วใช่มั้ย”แรมโบ้เอ่ยอย่างขัดใจ กายบางสวยค่อยๆ หย่อนลงบนขาแข็งแกร่งของร่างสูงตรงหน้า

 

“ยัง นายต้องป้อนฉันด้วย”รีบอร์นเอ่ยอย่างเอาแต่ใจ หรือว่าจริงอย่างที่คนอื่นว่า คนป่วยมักจะเอาแต่ใจสุดๆ และยิ่งเป็นรีบอร์นจอมเอาแต่ใจ ป่วยขนาดนี้จะเอาแต่ใจได้ขนาดไหนกันนะ

 

“เร็วๆ ฉันหิว!” เสียงทุ้มเอ่ยอย่างเอาแต่ใจ

 

“อ๊ะๆ อย่าลืมเป่าด้วย เดี๋ยวมันลวกปากฉัน”เสียงทุ้มเอ่ยดักคอ ร่างบางตรงหน้าจิ๊ปากอย่างขัดใจ

 

“รู้แล้วน่า ใครจะไปแกล้งนายกัน กินๆ เข้าไปเถอะ จะได้กินยาแล้วนอนพัก”เสียงหวานบ่นอย่างขัดใจที่ร่างสูงตรงหน้ารู้ทันซะได้ ถึงปากจะบ่นไปเรื่อย แต่ภายในใจตอนนี้นั้นควบคุมมันไม่ไหวอีกแล้ว ใกล้กันขนาดนี้ กลัวรีบอร์นได้ยินจังเลย ทำยังไงดี...

 

“กินยาซะ จะได้หายเร็วๆ”เสียงหวานเอ่ยดุนิดๆ มือบางสวยยื่นแก้วน้ำกับยาให้ร่างสูงตรงหน้ากิน

 

“ฉันไม่ชอบ”รีบอร์นเอ่ยปฏิเสธ หันหน้าหนีทันที

 

“ไม่ได้ นายต้องกิน จะได้หาย”มือบางข้างที่ถือแก้วน้ำ ค่อยๆ วางแก้วน้ำบนโต๊ะหัวเตียง มืออีกข้างถือยาเม็ดสีขาวไว้ หน้าหวานหันมาเผชิญกับร่างสูงอย่างเอาเรื่อง มือข้างที่วางเอื้อมไปจับหน้าของรีบอร์นให้หันมา

 

“ทำอะไรของนายเนี่ย ปล่อย!”รีบอร์นโวยวายทันทีที่แรมโบ้ล็อคคางของตนไว้

 

“ฉันก็จะทำให้นายกินยาไงละ”มือบางยัดเม็ดยาเข้าปากหยักสวยได้รูปของคนตรงหน้า อีกมือเอื้อมไปคว้าแก้วน้ำมาให้ร่างสูงดื่ม

 

“แค่กๆๆ นายทำบ้าอะไรเนี่ย รู้มั้ยว่ามันขม”รีบอร์นหันมาหาเรื่องร่างบางตรงหน้าหลังจากที่ตนรีบดื่มน้ำเพื่อให้เม็ดยาบ้าๆ ที่ติดอยู่ที่คอของตนไหลลงไปเร็วๆ แต่ก็ช้าไปแล้ว

 

“นายต้องรับผิดชอบ”รีบอร์นขึ้นเสียงด้วยความโมโห

 

“เรื่องแค่นี้เอง นายยะ...อุ๊บ..อือออออ.....อืมมมม......”เสียงหวานกลืนหายไปในลำคอเมื่อถูกปากหยักได้รูปเข้าจู่โจมโดยไม่ได้ตั้งตัว ลิ้นร้อนชื้นควานหาความหวานทั่วโพรงปากบาง เก็บเกี่ยวทุกความหวานไม่ให้หลงเหลือ แต่ยิ่งพยายามเก็บกับรู้สึกว่ามันยิ่งหอมหวานมกกว่าเดิม เหมือนดั่งคนที่ถูกอะไรบางอย่างดึงให้จมดึ่งลงไปและลึกลงไปเรื่อยๆ ยากที่จะหลุดขึ้นมาได้ ความหอมหวานที่ชวนให้ลุ่มหลงยากที่จะถอนตัวได้ ดั่งกับดักที่มีมนต์เสน่ห์มากด้วยเล่ห์ชวนให้ติดกับ   

 

“อืมมมมมมม.....”มือบางสวยที่ตอนแรกทุบไหล่กว้างเพื่อให้ปล่อยตน ค่อยๆ หมดแรงลงเมื่อสติเริ่มเลือนราง เหมือนกับอากาศที่กำลังถูกช่วงชิงไปจนเกือบจะหมด ความดุดันของรสจูบเหมือนดั่งความกระหายยามขาดน้ำ ยิ่งกระหายมากเท่าไหร่ความอยากก็ยิ่งทวีคูณมากเท่านั้น

 

“อ๊ะ..อืออออ...พะ..พอ....ก่อน”ปากบางสวยพยายามจะเรียกสติร่างสูง เมื่อตนเริ่มจะหายใจไม่ออก

 

“ติดใจละซิ”ปากหยักแม้จะถอนริมฝีปากออกมาแต่ก็ยังคลอเคลียอยู่กับกลีบปากบางอย่างหลงใหล

 

“ใครบอกนายกันละ”แรมโบ้สวนกลับอย่างไม่ยอม

 

“ก็เห็นเคลิ้มทุกที”ใช่แล้ว นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่รีบอร์นจูบเค้า มันเกิดขึ้นมาหลายครั้งแล้ว แล้วทุกครั้งรีบอร์นมักจะพูดประโยคเดิมๆ ให้เจ็บใจเล่นที่ดันเผลอไผลไปกับรสจูบนี้

 

“ปล่อยฉัน”มือบางยื้อมือออกจากมือหนาที่จับข้อมือตนไว้

 

“ไม่”เสียงทุ้มปฏิเสธเสียงแข็ง เพิ่มแรงบีบที่จับข้อมือบางนั้นอย่างลืมตัว

 

“บอกให้ปล่อย ฉันเจ็บนะ ไม่ได้ยินรึไง ห๊ะ หรือว่านะ.....อืมมมมมมมมมม”เสียงหวานถูกกลืนหายไปอีกครั้งด้วยจูบที่รุนแรงและดุดันซึ่งต่างจากจูบเมื่อกี้โดยสิ้นเชิง นายคิดอะไรของนายอยู่กันแน่ นายเป็นอะไรของนายหรือว่าเพราะพิษไข้กันนะ นายเห็นฉันเป็นของเล่นรึไง นายถึงได้ทำร้ายกันขนาดนี้ พอคิดถึงตรงนี้ น้ำตาที่ไม่ได้ไหลมานาน หลังจากที่ร่างบางทำใจและยอมรับกับมันได้แล้ว กับเอ่อไหลลงมาอย่างห้ามไม่หยุด

 

กึก

 

“ฮึก...ฮือออออออ......”เสียงสะอื้นดังขึ้นเมื่อร่างสูงถอนริมฝีปากทันทีที่เห็นหยาดน้ำตาเอ่อล้นออกมาจากตาคู่สวย

 

“นายมันใจร้ายที่สุด ทุกครั้งที่ฉันเจอนายฉันจะต้องร้องไห้เพราะนายคนเดียว ฉันเกลียดนาย”ร่างบางงอตัวเข้าหากัน ราวกับเด็กตัวเล็กๆ ที่เวลาร้องไห้แล้วชอบงอตัวเข้าหากันเหมือนดั่งเกาะกำบัง

 

จุ๊บ จุ๊บ

 

“อ๊ะ!”แรมโบ้ตกใจที่อยู่ๆ ก็รู้สึกถึงริมฝีบางนุ่มที่กำลังซับน้ำตาที่หางตาของตน อ่อนโยนราวกับปลอบประโลม

 

“ฉันขอโทษ”คำที่ไม่คิดว่าคนอย่างรีบอร์นจะหลุดปากออกมาได้ เล็ดรอดออกมาจากปากหยักเบาราวกับเสียงกระซิบ ทุกสรรพสิ่งราวกับหยุดนิ่ง ใจดวงน้อยกลับมาเต้นแรงอีกครั้ง

 

“นายแกล้งฉันตั้งแต่เด็ก ทุกครั้งที่ฉันเจอนาย นายทำฉันร้องไห้”เสียงหวานบ่นอู้อี้ราวกับคนละเมอ

 

“อืม แล้วไง”เสียงทุ้มดังขึ้นขณะที่หน้าเรียวได้รูปยังคงไม่ละออกจากซอกคอขาวที่แสนสวยชวนให้ลิ้มลอง

 

“นายชอบพูดดูถูกคนอื่น ไม่แคร์ความรู้สึกคนอื่น นายทำฉันเสียใจและเจ็บปวดกับคำพูดของนาย”แรมโบ้เล่าถึงเมื่อก่อน ราวกับจะบอกให้ร่างสูงตรงหน้ารู้ว่า...เพราะนายคนเดียว ที่ทำให้ฉันเป็นแบบนี้

 

“...อืมม....”เสียงทุ้มดังงึมงำอยู่ในลำคอ ราวกับขานรับในสิ่งที่ร่างบางพูด

 

“แต่ฉันก็ยัง...ชอบนายอยู่ดี...”ท้ายประโยคราวกับบอกตัวเองเบาๆ ตอกย้ำความรู้สึกที่ไม่เคยเปลี่ยนแปลงของตนที่มีต่อร่างสูงตรงหน้า

 

“ทำไมกันนะ ฉันถึงเลิกชอบนายไม่ได้ ไม่ว่านายจะทำร้ายฉันยังไง คนที่ฉันรักก็ไม่เคยเปลี่ยนไปเลย ตั้งแต่เมื่อก่อนจนถึงตอนนี้ มีแต่นายเต็มไปหมดทั้งหัวใจดวงนี้ไม่มีที่ว่างให้ใครอีกแล้ว...แค่นายคนเดียว รีบอร์น”เสียงหวานเริ่มรู้สึกว่ามันเงียบแปลกๆ หันมาดูปรากฏว่าเจ้าของใบหน้าเย็นชานั้นได้เข้าสู่ห้วงนิทราไปเรียบร้อยแล้ว แถมยังกอดตนแน่นไม่ยอมปล่อย แล้วแบบนี้จะลุกออกไปยังไงดีละเนี่ย ตัวก็หนัก

 

“เฮ้ออออ เอาแต่ใจจนวินาทีสุดท้ายจริงๆ ให้ตายซิ”เสียงหวานเอ่ยอย่างจำยอม แค่ตนขยับกายนิดเดียวรีบอร์นก็เพิ่มแรงกอดแน่นขึ้น อย่าว่าแต่ลุกเลย แค่ขยับยังทำไม่ได้เลย คนอะไรเอาแต่ใจจริงๆ รอยยิ้มหวานปรากฏขึ้นยิ่งขับให้ใบหน้านั้นยิ่งหวานกว่าเดิม

 

“ฝันดีนะ รีบอร์นจอมเอาแต่ใจ”แล้วร่างบางก็เข้าสู่ห้วงนิทราตามร่างสูงไปด้วยความเพลีย มือสวยเผลอกระชับอ้อมกอด คนสวยไม่ได้รู้ตัวเลยว่าเผลอซุกหน้าเข้าหาความอบอุ่น แล้วทั้งสองก็เข้าสู่ห้วงนิทราไปอย่างที่มิอาจมีใครมาพรากฝันที่แสนหวานและความอบอุ่นนี้ไปได้ ตราบเท่าที่ราตรีนี้จะหมดไป....

 

 

 

 

สวัสดีค่ะหวังว่ารีดเดอร์ทุกคนจะชอบนะคะ

ยังไงก็ฝากเม้นติชมกันได้ค่ะ

ขอบคุณที่แวะเข้ามาอ่านนะคะ J

 

 

 

 

แสดงเพิ่มเติม

รีวิว (0)

เรื่องนี้ยังไม่มีรีวิว