..ทั้งสองคนไม่เคยเจอกันมาก่อน แต่ทั้งสองคนเคยเจอกันในฝัน ต่างฝ่าย ต่างฝันถึงกันในภาพของครั้งในอดีตชาติ ทั้งสองคนตกหลุมรักกันในฝัน ทั้งๆที่ไม่เคยรู้ว่าตัวตนของคนในฝันเป็นอย่างไร และไม่เคยคิดกันเลยว่า คนในฝันนั้นจะมีตัวตนกันอยู่จริง ทั้งสองมีสายใยพี่สานผ่านหากัน ทุกครั้งที่อีกฝ่ายคิดถึงหรือรู้สึก อีกฝ่ายจะรับรู้ถึงความรู้สึกแบบเดียวกัน เรื่องราวจะน่ารัก และสนุกขนาดไหน รอติดตามอ่านกันนะคะ
ตอน..ขุนพิชิต
“ ข้าขุนพิชิตรักแม่พิกุลทองเหลือเกิน”
เสียงที่กระซิบข้างหูทำให้ใจนั้นสั่นระรัวอย่างกับกลองที่ถูกตี เสียงลมหายใจที่กระทบต้นคอขาว ๆ มือที่หยาบกร้านแต่อบอุ่นเมื่อสัมผัสที่ใบหน้าอย่างแผ่วเบา ริมฝีปากที่เย็นสัมผัสที่แก้ม กับคำพูดที่อ่อนหวาน ทำให้ใจสั่นระริก ร่างกายอ่อนระทวยไปหมด ความโหยหานี่มันอะไรกันนะ ความรู้สึกแบบนี้ มันรู้สึกรักเหลือเกิน เกินกว่าใจจะห้าม หรือดึงให้หยุดรักได้
กรี้งงงงงงงงงงง...!!!!!! เสียงนาฬิกาปลุกดังขึ้น ทำให้สาวน้อยในชุดนอน ลุกขึ้นจากเตียงนอนของตัวเองมานั่งเอามือทั้งสองข้างคุมที่ขมับไว้เพราะอาการที่ปวดหัวจากพิษไข้
“ฝันอีกแล้ว ใครคือขุนพิชิตนะ?”
.. ฉันชื่อสาลี่ ตัวฉันเองอาศัยอยู่กับครอบครัวของฉันเป็นเกษตรกร ครอบครัวฉันเป็นคนที่หัวทันสมัย แต่ก็ยังคงรักษาความดีงามของความเป็นไทยและพระพุทธศาสนาไว้อยู่ ฉันจะถูกสอนให้สวดมนต์ไหว้พระ นั่งทำสมาธิตั้งแต่เด็ก ๆ จึงไม่แปลกที่ฉันจะฝันถึงผู้ชายที่ชื่อขุนพิชิตบ่อยครั้ง และเขาเรียกฉันในฝันว่าแม่พิกุลทอง เขาคือใคร? มันเป็นคำถามที่ฉันตั้งไว้ตั้งแต่เด็ก และฝันนี้ ที่ฉันฝันจะชัดเจนในความรู้สึกทุกครั้ง แต่ทำไมฉันไม่เคยเห็นใบหน้าเขาชัด ๆ สักครั้งเดียว...
“โอ้ยยยย!! ปวดหัวชะมัดเลย ยิ่งคิดยิ่งปวด”
“สาลี่!! ลุกมากินยากินข้าวได้แล้วนะ เดี๋ยวพ่อออกไปฟาร์มก่อนนะ” เสียงทุ้ม ๆ ของผู้ชายวัย 40 ตระโกนเรียกลูกสาวที่นอนป่วยเพราะพิษไข้ บอกให้ลงมากินข้าว
ที่บ้านของสาลี่เองนั้นมีอาชีพเกษตรกร เลี้ยงโคนม และทำไร่ สาลี่เป็นเด็กสาวที่เพิ่งเรียนจบมัธยมปลายและได้เลือกที่จะเรียนต่อมหาลัย แต่มีหลายเหตุการณ์ที่ครอบครัวของสาลีจะไม่ยอมให้สาลี่ออกไปเรียนนอกบ้านเพราะ พี่นัด พี่นัดเป็นแฟนของสาลี่ที่ทางครอบครัวไม่ได้ปลื้มในตัวพี่นัด และครอบครัวพี่นัดเองก็เช่นกัน ทั้งสองครอบครัวไม่ลงรอยกัน ทำให้สาลี่กับพี่นัดนั้นลำบากใจมาก
“สาลี่...วันนี้อย่าไปไหนนะ แม่มีเรื่องจะคุยด้วย” น้ำเสียงและสีหน้าของแม่ ทำให้สาลี่รู้สึกกังวลใจว่าจะต้องเป็นเรื่องเกี่ยวกับพี่นัดแน่ ๆ
และคืนนั้นหลังจากอาหารเย็นทุกคนในบ้านรวมทั้งยาย กับพี่ชายที่เป็นลูกพี่ลูกน้องมานั่งรวมกันในที่เดียวกันหมด ด้วยสีหน้าที่ตรึงเครียด
“สาลี่..แม่อยากให้สาลี่เลิกคบกับนัดนะ นี่คือคำขอร้องจากแม่” แม่ทำหน้านิ่งและเรียบ น้ำเสียงที่นิ่ง ๆ ไม่ได้มีอารมณ์โมโหเหมือนครั้งก่อน ๆ ที่แม่เคยสั่งห้าม ไม่ให้ออกไปข้างนอกกับพี่นัด
“แม่...ทำไมพูดแบบนี้ละคะ สาลี่กับพี่นัดรักกันนะแม่ แม่น่าจะสนับสนุนนะคะ ขนาดพ่อยังไม่ว่าสาลี่แบบแม่เลย” สาลี่พูดพรางมองไปหาพ่อ แต่พ่อก็หลบสายตาหนี สาลี่เริ่มรู้สึกถึงเรื่องมันจะไม่จบแบบสงบสุขแน่ ๆ
“แม่ขอแล้วนะสาลี่ อย่าไปยุ้งกับนัดอีก นี่คือคำขอที่แม่จะขอ และทุกคนก็เห็นด้วยที่จะให้สาลี่เลิกคบกับนัด สาลี่กับนัดไม่เหมาะกันนะลูกอีกอย่างครอบครัวนัดไม่ได้ชอบครอบครัวของเราและมีปัญหากันมากมาย ฉะนั้นมันเป็นไปไม่ได้ที่สาลี่กับนัดจะได้มาอยู่ด้วยกัน เชื่อแม่นะสาลี่ ถ้าสาลี่ไปอยู่กับนัดสาลี่จะมีแต่เสียใจ” เมื่อแม่พูดจบสาลี่หันไปมองทุกคนที่นั่งในห้อง ทุกคนกลับหลบสายตาของสาลี่และนั่งก้มหน้า ทำให้สาลี่น้ำตาไหลพรากพร้อมกับบอกเหตุผลต่าง ๆ นา ๆ กับความดีที่พี่นัดมีแต่ก็ไม่มีใครยอมรับฟังในคำของสาลี่เลย
“พ่อก็เห็นด้วยกับแม่หรือคะ ไหนพ่อบอกว่าสาลี่รักใคร พ่อก็รักกับสาลี่ด้วยทำไมตอนนี้ พ่อถึงเข้าข้างแม่ให้สาลี่เลิกคบกันกับพี่นัดละคะ” ใบหน้าที่เปื้อนไปด้วยน้ำตา มองไปทางพ่อ ทำให้ทุกคนยิ่งนิ่งเงียบหนักไปกว่าเดิม
“ใช่...พ่อพูดแบบนั้นและมันก็เป็นเรื่องจริงที่พ่อนั้นรักสาลี่นะลูก แต่พ่อก็รักสาลี่มากเพราะสาลี่คือลูกสาวที่พ่อรัก ฉะนั้นสาลี่เชื่อคำที่แม่บอกนะ พ่อว่าคราวนี้แม่เขาทำถูกนะลูกที่เลือกบอกให้สาลี่ออกห่างมาจากนัด เพราะนัดไม่เหมาะกับสาลี่ และครอบครัวเราเข้ากันไม่ด้วย” เสียงของพ่อพูดแบบปวดใจที่เห็นลูกสาวอันเป็นที่รักร้องไห้ และเมื่อเห็นลูกสาวร้องไห้แบบเจ็บปวดแล้ว ยิ่งทำให้หัวใจผู้เป็นพ่อแทบขาดด้วยเช่นกัน
“แม่คุยกับป้ามณีแล้ว ป้ามณีบอกว่าหลานชายของป้ามณี เพิ่งกลับมาจากเมืองนอก มีฐานะและนิสัยที่ดีมาก อีกอย่างแม่ก็เชื่อหลวงตาเพราะหลวงตาท่านไม่โกหกแน่นอน ว่าถ้าแต่งงานกับหลานชายของป้ามณีก็จะดีทุกอย่าง ถ้าหลานชายของป้ามณีกลับมาถึงเมืองไทยมาเมื่อไหร่ เมื่อนั้นสาลี่ก็ต้องเตรียมตัวหมั้นทันที” เมื่อแม่พูดจบ สาลีก็วิ่งเข้าไปในห้องนอนร้องไห้อย่างกับคนที่เสียสติ ทั้งเสียใจและปวดหัวใจที่สุด
“ทำไมมันต้องเกิดเรื่องบ้า ๆ แบบนี้กับฉันด้วยนะ ฉันไปทำร้ายอะไรใครไว้หนักหนา ถึงได้โดนทำร้ายหัวใจขนาดนี้” สาลี่ร้องไห้จนเพลอหลับไป และทุกครั้งที่สาลี่ไม่สบายใจหรือเกิดเรื่องสาลี่จะหลับฝันเห็นผู้ชายใส่ชุดในสมัยโบราณ และเรียกตัวเองว่า ..ขุนพิชิต..เสมอ ๆ
“ แม่พิกุล แม่พิกุล” เสียงเรียงที่ฟังแล้วทำให้หัวใจร่องลอย มีผู้ชายคนหนึ่งใส่เสื้อผ้าฝ้ายสีฟ้าอ่อน นุ่งโจงกระเบนสีน้ำตาลอ่อนมานั่งอยู่ตรงหน้าสาลี่ นิ้วมือที่เรียวยาวแต่หยาบกร้าน บอกให้รู้ถึงมือคู่นี้ได้ผ่านการจับอาวุธ หรือได้ทำงานอย่างหนักมามากมาย เขาได้จับมือสาลี่ขึ้นแล้วจูบที่มืออย่างแผ่วเบา ริมฝีบากเย็น ๆ สัมผัสที่มือของสาลี่ แต่กลับร้อนไปที่ใบหน้า ของสาลี่แทน
“คุณเป็นใครคะ คุณคือใคร? ทำไมเรียกฉันว่า พิกุลทอง ฉันชื่อสาลี่นะคะ ไม่ใช่พอกุลทอง พิกุลทองคือชื่อของแฟนคุณรึคะ”
“ก็ชื่อแม่หญิงเองนั้นแหระ แม่หญิงของพี่ แม่หญิงพิกุลของไอ้ขุน” เขาลุกขึ้นมาสวมกอดสาลี่แนบไว้ที่อก กลิ่นหอมอ่อน ๆ ของดอกไม้ชนิดหนึ่งที่หอมมาก หอมชื่นใจ กลิ่นหอมแบบนี้คุ้น ๆ จังเลย
“กลิ่นหอมจังเลย” เสียงสาลี่พูดแบบเสียงเคลิ้ม ๆ
“อุ้ย!!..” สาลี่อุทานขึ้นพร้อมเอามือปิดที่ปากเอาไว้ เพราะดันพูดคำว่าหอมตอนที่เขาคนนั้นเข้ามาสวมกอด แถมทำหน้าตาแบบเคลิ้มสุด ๆ อีกต่างหาก ชายคนนั้นยิ้มอย่างอ่อนโยน ใบหน้าที่ยิ้มนั้นถึงแม้จะมองเห็นไม่ชัดเจน แต่ก็รู้สึกได้ว่า เขานั้นช่างอ่อนโยน ใจดี และอบอุ่นเหลือเกิน
“มันคือกลิ่นดอกพิกุล หอมใช่มั้ย แต่ไม่หอมเท่ากายของแม่พิกุลของพี่หรอกนะ” สาลี่ได้ถึงกับเขินนั่งบิดไปบิดมา
“แม่พิกุลอย่าโกรธ แม่นายท่านกับขุนหลวงท่านเลยนะ เพราะท่านอาจจะหวังดีต่อตัวแม่เอง ฉะนั้นอย่าได้โกรธเคืองพวกท่านเลย” เขาพูดพรางเอามามาลูบที่ปลายผมของสาลี และจับปลายผมอีกข้างทัดหู ทำให้เห็นต้นคอขาว ๆ ของสาลี่
“ทำไมคุณรู้คะ คุณรู้ได้ยังไง ?” สาลี่ทำหน้า งง และมองหน้าเขา แต่ก็ต้องหลบสายตาเพราะเขาได้มองมาทางสาลี่ สายตาที่ไม่อาจต้านทานได้ มองอย่างกับจะกินทั้งตัวให้ได้
“รู้สิขอรับ แม่หญิงของพี่ เพราะพี่อยู่กับแม่หญิงเสมอ และจะไม่หนีแม่หญิงไปไหนอีกแล้วด้วย” เขามองที่สาลี่ด้วยสายตาที่อ่อนหวานจนใจสาลี่เต้นโครมคราม
“แต่ฉันชื่อสาลี่นะ ไม่ได้ชื่อแม่พิกุลของคุณ คุณอาจเข้าใจผิดก็ได้นะคะ อีกอย่างคุณเป็นนี่นะ เพราะตั้งแต่ฉันฝันเห็นคุณ ฉันก็ไม่เคยเห็นหน้าคุณแบบชัด ๆ เลยสักครั้งเดียว”
“พี่ไม่ใช่ผี และนี่ก็ไม่ใช่แค่ฝัน และตอนนี้พี่กอดแม่พิกุลจริง ๆ และนี่คือแม่พิกุลเมียพี่จริง ๆ แล้วสักวัน พี่จะมาหาแม่พิกุล และทวงคำสัญญาที่แม่ได้ให้พี่เอาไว้”
..สาลี่สะดุ้งตื่นสุดตัวเพราะเสียงนาฬิกาปลุกให้ตื่นเพื่อลงไปช่วยคนในฟาร์ม...
“ฝันแบบนี้อีกแล้ว เมื่อไหร่ฉันจะได้เห็นหน้าคุณชัด ๆ ได้สักทีนะ แต่ก็ชั่งมันแค่ฉันรู้ว่ามีคุณอยู่ในฝัน มีคุณที่เข้าใจและอยู่ข้าง ๆ ฉันก็ดีใจที่สุดแล้วถึงแม้มันจะเป็นแค่ฝันก็เถอะ”
...สาลี่ลงไปช่วยงานในฟาร์มตามปกติ แต่ทุกคนก็ยังคงมองสาลี่แบบประหลาดใจว่า สาลี่ไม่ได้มีท่าทีที่จะเสียใจเหมือนทุกครั้งที่ทะเลาะกันกับแม่เรื่องของพี่นัด แต่กลับดูสาลี่ร่าเริงแจ่มใสกว่าปกติด้วยซ้ำไป
“ฉันต้องรู้ให้ได้ว่าคุณเป็นใคร ..ขุนพิชิต...”
...รอตอนต่อไป..