“คนเจ้าเล่ห์…”
เธอทุบตีไปที่หลัง ไหล่ ของเขาเบาๆ รู้สึกราวกับว่าพรหมจรรย์ได้ถูกทำลายลงอีกครั้ง เมื่อร่างกายอันใหญ่โตของเขาเบียดบดเข้าหาเธอจนถึงที่สุดของความปรารถนา
แม้จะมีความแตกต่างทางกายภาพระหว่างเธอกับเขา หากท้ายที่สุดมันกลับไม่ใช่อุปสรรค เมื่อความต้องการในกันและกันช่วยประคับประคองให้มันดำเนินไปตามธรรมชาติได้อย่างน่าอัศจรรย์ใจ
“ฉันมีความสุขเหลือเกิน”
จากตอนแรกที่เจ็บจวนเจียนจะขาดใจ ก็แปรไปเป็นความสุขซาบซ่าน แทรกซึมเข้าไปในทุกอณูเซลล์ ร่างกายคล้ายจะหลอมเหลวด้วยความเร่าร้อนที่เขาป้อนให้ จากสะโพกสอบที่ส่งมอบความรู้สึกเสียดเสียวอันเกิดจากการเสียดสีตามจังหวะกระทั้นถี่…ที่เขาเป็นคนควบคุมเกมส์
“คาร์ลอส”
เธอเรียกชื่อเขาอีก น้ำเสียงปริ่มปานว่าจะขาดใจ ริมฝีปากสั่นระริกขบเม้มไปมา ขณะที่ใบหน้าร่อนลอย คล้อยเคลิ้ม มือเรียวเลื่อนลงไปรั้งบั้นท้าย เรียกร้องถึงความล้ำลึก คนตัวโตตามใจด้วยการผนึกร่างกายประสาน ส่งผลให้ปลายเล็บน้อยๆจิกกรีดไปกลางแผ่นหลังซึ่งท่อนแขนน้อยๆของเธอโอบรัดไม่รอบ…โดยไม่ใส่ใจต่อเสียงฝนที่ระรัวแรงจนหลังคาแทบรั่ว
หญิงสาวยอมรับว่า ‘มันเป็นความรู้สึกที่ไม่เคยคิดว่าในชีวิตหนึ่งจะมีโอกาสได้พานพบ’ คาร์ลอสทำให้เธอค้นพบความลี้ลับของร่างกาย เขาทำให้เธอได้ค้นพบตัวเอง เขาปลดปล่อยเธอจากโลกใบเล็ก เปิดหูเปิดตาเธอจากการรับรู้แคบๆที่เข้าใจผิดมาโดยตลอดว่า ‘การร่วมรักระหว่างชายหญิงคือการที่ฝ่ายชายขยับร่างกายอยู่บนตัวของฝ่ายหญิงในช่วงสั้นๆ…แล้วฟุบหลับโดยไม่สนใจว่าจากนั้นเธอจะรู้สึกอย่างไร?’ เหมือนที่เกิดขึ้นหลายๆครั้งกับปราโมทย์
ทว่ากับคาร์ลอส…มันไม่เป็นเช่นนั้น เขาสามารถหยิบยื่นความรู้สึกอันล้ำลึก แตกต่าง กระทั่งส่งเธอไปสู่สวรรค์ได้ครั้งแล้วครั้งเล่า