Tobi X Deidara
6
ตอน
29.6K
เข้าชม
110
ถูกใจ
49
ความคิดเห็น
79
เพิ่มลงคลัง

ข้าพเจ้าแต่งเพื่อสนองตัณหาตนเองเท่านั้นน้ะค้ะพอดีดูเรื่องนี้แล้วรู้สึกชอบเลยแต่งส้ะเลยเรื่องนี้เป็นนิยายเรื่องแรกค่ะมีไรเม้นติชมกันด้าย เม้นกันสักนิดเพื่อเป็นกำลังใจน้ะค้ะ

Tobi deidara

เสียงท้องฟ้าที่กำลังคำรามและสายฝนที่กำลังตกลงมาสู่พื้นดินสายฝนที่ตกลงมาผู้คนเคยเปรียบว่าเหมือนน้ำตาแห่งความเศร้าโศกและเหมือนดั่งหัวใจของคนๆนึงที่กำลังร้องไห้.. ร่างสูงใส่ผ้าคลุมที่ดำลายเมฆสีแดงขอบขาวคือสัญลักษณ์ขององค์กรแสงอุษา เขาถอดหน้ากากสีส้มลายน้ำวนที่มีรูเพียงข้างเดียวออกใบหน้าหล่อคมตาข้างขวามีเนตรวงแหนสีแดงปรากฎข้างขวาคือเนตรลายน้ำวน สังสาระที่ร่างสูงปิดเอาไว้ผมดำเงายาวประคอซบหน้าลงกับผมสีบลอนด์ทอง.. เขากอดร่างตรงหน้าแน่นคุกเข่าลงกับพื้นอย่างอ่อนแรงกระชับอ้อมกอดไว้แนบกายใบหน้าที่ซุกลงกับผมบลอนด์ตัวสั่นด้วยความเศร้าโศกเสียใจ.. ร่างบอบบางที่ตอนนี้เลือดกลายเป็นสีเทาร่างทั้งร่างซีดเผือดไม่มีลมหายใจของคนตรงหน้า.. แค่นี้ก็บอกคำตอบแก่เขาได้แล้ว… เดอิดาระ…ตายแล้ว…ไม่น้ะ..ทำใม?...ทำใมล่ะ?? ทำใมถึงเป็นแบบนี้เขาหลงรักเดอิดาระมาตั้งหลายปีเขาที่เป็นคนใจอำมหิตนี้มีเพียงหนึ่งเดียวที่เขาแพ้ นั่นก็คือเดอิดาระ

เขาก่อตั้งแสงอุษาขึ้นมาเพื่อที่จะทำลายทุกอย่างแต่ก็ปิดบังตัวตนเอาไว้และยกมันให้กับนางาโตะที่เขาทำแบบนี้นั่นก้เพราะเขามีสายเลือดอุจิวะและมีเนตรสีแดงฉานเป็นสิ่งที่เดอิดาระเกลียดที่สุด เดอิดาระเกลียดเนตรวงแหวนที่มันทำให้เขาพ่ายแพ้มาก่อนตอนที่สู้กับอิทาจิเดอิดาระโดนคาถาลวงตาเข้าไปและพ่ายแพ้แก่อิทาจิเดอิดาระเกลียดเนตรนี้ เขาจึงต้องปิดบังตนเองเอาไว้เพื่อที่จะได้ใกล้ชิดกับคนที่ตนรักเขาปิดบังตนเองอยู่ภายใต้หน้ากากมาหลายปีและใช้ชื่อว่า โทบิ เขาเปลี่ยนนิสัยตนเองเมื่ออยู่ต่อหน้าเดอิดาระเท่านั้นแต่คนอื่นๆในองค์กรนั้นรู้ดีว่าเขาเป็นใครและไม่ว่าไครก็ต่างเกรงกลัวเขาทั้งนั้นเขาจึงให้ทุกคนอย่าบอกเดอิดาระเพราะยังไม่ถึงเวลาเขากลัวเดอิดาระจะเกลียดเขามากเหลือเกิน เขายอมทำตัวเป็นเด็กๆถึงแม้จะโดนผมบลอนด์ว่าตนหรือระเบิดก็ตามแต่นับได้ว่าเป็นช่วงเวลาแห่งความสุขที่สุดในชีวิตที่ได้อยู่กับร่างบาง โทบิคิดเสมอว่าถึงแม้จะโกหกเดอิแต่เขาคิดว่าอิกไม่นานเขาจะบอกเรื่องทั้งหมดให้ร่างบางได้รู้ ถึงจะถูกร่างบางเกลียดก็ตาม แต่ว่า.. มันเสียเวลาเปล่า…

เดอิดาระจากเขาไปแล้วโดยที่เขาไม่รู้ว่าไครฆ่า เขากำลังจะบอกความจริงกับเดอิดาระแท้ๆทำใม ทำใม!! ทำใมโชคชะตาถึงใจดำนัก เขาสูญเสียทุกอย่าง ทั้งเพื่อน อาจารย์ หรือที่ให้กลับ แม้แต่คนที่เขารักที่สุดก็ยังถูกพรากไปโดยไม่มีวันหวนกลับ ช่างน่าสมเพชจริงๆชั้น …”เดอิดาระ เซมไป  ฮึกๆ”… เสียงที่สั่นเครือน้ำตาที่ไหลออกมาจากความเสียใจหัวใจที่บีบรัดอยู่ในอก ความรู้สึกนี้มันเจ็บปวดเหลือเกินเมื่อเห็นคนที่ตนรักนอนจมกองเลือดอยู่ตรงหน้าความเจ็บก็ยิ่งทำให้เขาทรมานเขารักร่างบางมาก มากขนาดตายแทนได้

ขอร้องเถอะ อย่าพรากเขาไปจากผมเลยเขาคือแสงสว่างเพียงหนึ่งเดียวในหัวใจของปีศาจอย่างผมอย่าเอาเขาไปเลยถ้าเป็นไปได้เอาชีวิตไปแทนเสียยังดีกว่าผมไม่อยากเห็นเขาตายจริงๆ… จะไม่ได้เห็นอิกแล้วจริงๆนะหรอ.. ผมสีทองดั่งแสงของท้องฟ้าดวงตาสีฟ้าน้ำเลนั่น…เสียงตะคอกดุด่า.. เสียงความโกรธ.. เสียงหัวเราะ.. หรือแม้กระทั่ง รอยยิ้มที่เคยให้เขาเหมือนอย่างเคย… ไม่มีอิกแล้ว.. ร่างบางตรงหน้า.. จากเขาไปแล้ว..  “ฮึก…รุ่นพี่… ผมยังไม่ได้บอกอะไรรุ่นพี่เลย..มันสายไปแล้วจริงนะหรอคับ…?…” โทบิที่ซบหน้าลงกับผมสีบลอนด์ทองก้มปล่อยให้น้ำตาร่วงไหลลงไปพร้อมน้ำฝนที่ตกลงมาเหมือนกับรับรู้ถึงความเศร้าโศกของตนหัวใจที่แตกสลาย ทั้งที่ยังไม่ได้ลงมือทำอะไรชัดเจนสักอย่าง มันเปล่าประโยชน์จริงๆเขาอยากจะบอกเดอิดาระเหลือเกินว่าเขารักร่างบางมากแค่ใหนเขาไม่ต้องการให้เรื่องมันเกิดขึ้นแบบนี้เลย ไม่มีทาง… ความตาย จะไม่พรากเดอิดาระไปจากเขา!!...

โทบิคิดอะไรออกบางอย่างถึงหนทางออกเขานิ่งคิดประมวลสักครู่ เมื่อคิดได้ดังนั้นโทบิยืนขึ้นและหยิบหน้ากากสีส้มขึ้นมาสวมปกปิดใบหน้าตนเองพร้อมกับอุ้มร่างบางในท่าเจ้าสาวกอดแน่นราวกลับกลัวว่าอิกฝ่ายจะหนาวแต่มันก็คงไร้ประโยชน์.. เมื่ออิกฝ่ายไม่รับรู้อะไรแล้ว.. โทบิกระชับกออดแน่นและเขาหลับตาสักครู่นึงและเปิดออกมานัยน์ตาสีแดงลายแถบดำคล้ายน้ำวนสะท้อนบนดวงตาเขาใช้เนตรวงแหวนเคลื่อนย้ายมิติย้ายตนเองไปสถานที่ๆต้องการจะไป พลันพริบตาเดียวโทบิก็หายไป..

 

 

 

ณ เมืองคิริงาคุเระ(ใช่ป่าวอ้าา แฮร่ๆ)

เมืองนี้เป็นเมืองที่มีแต่ฤดูฝนเท่านั้นว่ากันว่าเมืองนี้เหมือนกำลังร้องไห้อยู่ตลอดเวลา..

ตัดมาที่ตึกสูงที่สุดในหมู่บ้านถูกสร้างขึ้นมาสูงตะหง่านสามารถมองได้รอบทั้งหมู่บ้านหากขึ้นไปยืนรอบๆยังคงร้อมรอบไปด้วยสายฝน ภายในห้องๆนึงที่อยุ่ในตึกสูงห้องที่มีหัวหน้าหมู่บ้านคอยประจำนั่งอยู่ซึ่งก็คือนางาโตะหนุ่มผมสีแดงที่เป็นเอกลักษญ์เฉพาะตัวของตระกูลอุซึมากินั่งอยู่บนเก้าอี้บนโตะมีกระดาษรายงานต่างๆวางอยู่แต่แล้วนางาโตะก็รับรู้ถึงพลังจักระมหาศาลโผล่ที่กลางห้องตนเขานั่งมองผู้มาเยือนว่าเป็นใคร

ห้องที่มืดสนิทแต่โทบิก็รับรู้ได้ว่ามีคนอยู่เขาใช้เนตรเคลื่อนย้ายมิติมาหาเพนโดยใช้เวลาแค่ไม่กี่นาที นางาโตะเงยหน้ามองคนเบื้องหน้าพร้อมเบิกตากว้าง “มา ดาระ?” นางาโตะเอ่ยขึ้นอย่างสงสัยที่อิกฝ่ายมาหาตนแบบนี้เพราะปกติจะใช้กระดาษของโคนันสื่อสารมาหาตนก็ได้แล้วทำใมถึง.. ความคิดทั้งหมดของหนุ่มผมแดงหยุดลงเมื่อเห็นคนในอ้อมกอดที่มาดาระถือมา ร่างนั่นหรือว่า.. “เดอิดาระตายแล้ว โดยฝีมือของใครชั้นก็ไม่อาจทราบ” โทบิ ตอบคำถามที่คิดว่าอิกฝ่ายกำลังสัยอยู่ เรื่องที่เกิดขึ้นทำให้นางาโตะตกใจยิ่งขี้น เขามั่นใจว่ามอบภารกิจง่ายๆให้เดอิทำเพราะรู้ดีว่าเดอิคือคนที่มีพลังแข็งแกร่งพอตัวเลยทีเดียวพลังของหมอนั่นถึงขั้นเป็นอาชยากรรมระดับS เขาถึงได้ชวนให้เข้าร่วมองค์กร คนที่จะเข้าได้ต้องมีความสามารถพอที่เข้าจะมาได้ และหลังจากคู่หูคนก่อนของเดอิดาระตายมาดาระก็ใช้ชื่อโทบิสวมหน้ากากและขอเป็นคู่หูขอเดอิดาระ น่าแปลกมาก มาดาระปีศาจเลือดเย็นกลับมาทำนิสัยบ้าๆบอๆเป็นเด็กๆเขายังแปลกใจเลยเขาคือผู้ก่อตั้งแสงอุษาขึ้นมาและแข็งแกร่งมากเขายังไม่คิดกล้าหือกับอิกฝ่ายเลย เรื่องพลังเนตรที่ตาข้างขวาของเขาและวิชาแข็งแกร่งอิกมากแต่ก็ยกตำแหน่งให้เขาดูแลแทนชั่วคราว

 

ที่เขาปิดบังใบหน้าตนและใช้ชื่อเป็นโทบิทุกคนในองค์กรต่างก็รู้ๆกันหมด ยกเว้นเดอิดาระเพราะมาดาระสั่งห้าม แถมยังพูดอิกว่าไครขัดคำสั่งจะฆ่าให้หมดหากมีใครปากโป้งเรื่องของเขา ทุกคนจึงปิดเงียบไว้เหลือจอมซื่อบื้อคนเดียวที่ไม่รุ้เรื่องอะไรเขาหยุดคิดไว้และมองร่างผอมบางที่ตอนนี้ร่างกายเป็นร่างสีขาวซีดเลือดกลายเป็นสีเทาหัวใจหยุดเต้นแล้วเขารู้ได้ทันทีว่าอิกฝ่ายตายแล้วแต่ยังอดสงสัยไม่ได้ว่ามาดาระจะพาเดอิมาหาเขาทำใม “นายมาที่นี่ มีธุระอะไร?” นางาโตะอดที่จะถามไม่ได้ … มาดาระเดินมาหาเขาใกล้ๆดวงตาสีแดงฉานตอนนี้ปรากฏมาให้เห็นทำเอาเขาขนลุกได้เลยแต่คำพูดต่อมาของอิกฝ่ายทำเอาเขาช็อคยิ่งกว่า “ชุบชีวิตให้เดอิส้ะ”  มาดาระกล่าวออกมาด้วยน้ำเสียงนิ่งงัน  “ทำใมต้องทำด้วย หมอนั่นก็แค่ขยะขององค์กร ถ้าหมอนั่นตายเดี๋ยวชั้นหาคู่หูคนใหม่ให้นายก็ได้”  นางาโตะตอบอย่างไม่ใส่ใจและนั่นยิ่งทำให้มาดาระโกรธสายตาสีแดงนั่นมองเขาเหมือนกับจะบอกว่าหากแกพูดอะไรไม่เข้าท่าละก็ได้ไปเฝ้ายมบาลที่นรกแน่ “อย่าพูดอะไรแบบนั้นอีก ไม่งั้นแกคงรู้ว่าแกจะเป็นยังไง” มาดาระพูดเสียงเหี้ยม “เฮือก! ทะ โทษที” นางาโตะสะดุ้งเฮือกเมื่อสำผัสได้ถึงจิตสังหารที่อิกฝ่ายแผร่ออกมา

“ชั้นรู้ว่านายทำได้เพราะงั้นรีบชุบชีวิตเขาส้ะ” มาดาระพูดถึงเป้าหมายตนอิกครั้ง “นายจะให้ชั้นใช้วิชาชุบชีวิตคนตายงั้นหรอ แต่มันต้องมีคนสังเวยน้ะชั้นคิดว่ามันไม่ใช่สิ่งที่ดีนัก” นางโตะกล่าวถึงสิ่งแลกเปลี่ยนของวิชาต้องห้าม  “มันไม่ใช่ถาม แต่ชั้นขอสั่งให้นายทำส่วนชีวิตคนกี่ล้านคนชั้นก็จะหามาให้” มาดาระกล่าวด้วยน้ำเสียงเย็นชาเขาไม่สนอะไรทั้งนั้นชีวิตคนกี่ชีวิตก็ช่างมันปะไรขอแค่ได้ร่างบางกลับมาก็พอแล้ว “เอาจริงหรอ.. แต่ชั้นคิดว่ามั..” นางาโตะยังไม่ทันพูดจบอิกฝ่ายก็ขัดส้ะก่อน “หุบปาก แล้วเข้าเรื่องส้ะที หากยังไม่ยอมทำตามชั้นจะเผาแกเดี๋ยวนี้แหละ” น้ำเสียงติดหงุดหงิดและแววตาเพียงข้างเดียวที่มองมามีความหมายว่าเขาเอาจริง “กะ ก็ได้ สิ่งที่ต้องสังเวยคือคนตระกูลอุซึมากิแบบชั้นที่มีพลังชีวิตสูงและอยู่ได้นานหลายปี” นางาโตะกลาวจบก็เงยหน้ามองมาดาระที่ตอนนี้เหมือนกำลังคิดอะไรอยู่ “แต่ว่า ตระกูลนี้มันล่มสลายไปแล้วหนิ กลุ่มที่เหลือรอดก็มีอยู่น้อยมากไม่ใช่รึไง” มาดาระตอบ ตระกูลขึ้นชื่อเรื่องพลังชีวิต ความอึด แต่เหลือน้อยเต็มทีแล้ว “1ในทีมเหยี่ยวของซาซึเกะ.. อุซึมากิ คาริน..” เมื่อนางาโตะกล่าวจบก็ยกยิ้มมองมาดาระ มาดาระรู้ไดด้ทันทีว่าอิกฝ่ายจะสื่อไร “เลือดผู้บริสุท อิก1คนด้วยละ ส่วนศพของหมอนั่นไปแช่ไว้ก่อนเถอะ” มาดาระหายไปจากห้องนั้นทันทีหลังจากอิกฝ่ายพูดจบ เขาพาเดอิดาระมาห้องตนวางร่างบางไว้ในตู้แช่คล้ายโลงศพ และเมือวางเขาก็จุมพิตเบาบนหน้าผากเย็นเฉียบของเดอิเบาๆ “รอผมก่อนน้ะคับ เซ็มไป.. คุณจะต้องกลับมาหาผม อย่างแน่นอน.. ครืดดดด” เสียงปิดของฝาโลงและมาดาระก็เริ่มหาของสังเวยเพื่อจะได้มาชุบชีวิตเดอิ แม้มันจะยากเย็นสักเพียงใดก็ตามแต่เพื่อให้ได้เจอรอยยิ้มนั้นอิกครั้งแม้ชีวิตก็ไม่เสียดายเขาตั้งใจไว้แน่วแน่ว่าจะต้องชุบชีวิตเดอิดาระให้ได้

******************************

ง่วง ถ้าสั้นไปขออภัยจะทยอยลงพล็อตเรื่อยๆค่ะ อย่าลืมเม้นให้กำลังกันด้วยน้ะฮับ

แสดงเพิ่มเติม

รีวิว (1)

5.0