เมื่อข่าวลือเรื่องการปรากฏตัวกลับมาอีกครั้งของยอดนักสืบสุดหล่อลากแถมยังฉลาดตาคมอย่าง คุโด้ ชินอิจิ กลับมาเรียนหลังจากหยุดหายไปร่วมครึ่งปี แพร่ไปทั่วโรงเรียนมัธยมปลายเทย์ตัน เหล่าแฟนคลับหญิงก็มาร่วมแสดงความยินดี กันเสียยกใหญ่จนเรียกได้ว่า เว่อวังอลังการ เสียยิ่งกว่างานวันเกิดของเขาที่จัดทุกๆปีเสียอีก
บรรดาตุ๊กตาหมีและกุหลาบวางกองสูงอยู่ข้างๆโต๊ะจนบุรุษในห้องหลายๆคนรู้สึกอิจฉาแต่ก็ได้เพียงแต่ส่งสายตาจิกกัดไปให้ยอดนักสืบหน้าหวานเท่านั้น
และแน่นอน ในบรรดาสายตาจิกกัดเหล่านั้นมีสายตาคู่หนึ่งที่คอยแผ่ออร่าดำทมิฬออกมาทุกๆครั้งที่คุโด้เผยรอยยิ้มหวานบนใบหน้าจนเหล่าสตรีหน้าแดงก่ำ นั้นคือ สายตาของแฟนหนุ่มลับๆ คุโรบะ ไคโตะ
“พี่ชินอิจิคะ วันนี้ขอให้สนุกกับการเรียนนะคะ”นั้นคือคำพูดสั่นๆของสาวน้อยคนหนึ่งที่อายุห่างจากเขาหนึ่งปี ซึ่งเธอพูดประโยคนี้ออกมาอย่างกล้าๆกลัวๆ เมื่อรู้สึกเสียวสันหลังวาบราวกับมีสัตว์ร้ายกำลังจับจ้องทุกการกระทำของเธออย่างไม่วางตา
“ขอบคุณนะครับ”ชินอิจิ ยิ้มหวานตอบกลับไป โดยไม่ส่งสายตาอาฆาตของบุรุษโต๊ะข้างๆแม้แต่น้อย ในมือพลางถือช่อดอกกุหลาบสีแดงที่เพิ่งได้รับล่าสุดเอาไว้
เมื่อเห็นว่าผู้ให้ช่อดอกไม้เดินออกจากห้องเรียนจนหลับตา ชินอิจิก็นั่งลงกับเก้าอี้ของตนเอง ก่อนจะฟุบหน้าลงกับโต๊ะอย่างเหนื่อยล้าเพราะต้องคอยปั้นหน้ายิ้มหวานรับเหล่าสาวๆสวยๆของโรงเรียนแห่งนี้
“ชินจี้ ทำไมนายต้องส่งยิ้มหวานให้พวกนั้นด้วย”ไคโตะเปิดบทสนทนาด้วยน้ำเสียงไม่สบอารมณ์
“ไม่ได้เหรอ ก็แฟนคลับส่วนใหญ่หน้าตาน่ารักนี่นะ”
“ไม่ได้! ชินจี้ห้ามยิ้มให้ใครนอกจากฉัน”
“ทำไมล่ะ ไค…” ไม่ทันที่ชินอิจิจะได้พูดจบ ประตูของห้องเรียนก็ถูกเปิดโดยรุ่นพี่แสนสวย ซึ่งหลงใหลในตัวเขาหัวปักหัวปำ และเธอก็มาพร้อมกับกล้องเค้กที่ดูแล้วเค้กด้านในคงจะเป็นฝีมือพี่แกเองเป็นแน่แท้
“ชิ” ไคโตะสบถเมื่อไปสบสายตาเขากับดวงตากลมสีดำของสตรีที่เดินผ่านหน้าเขาไป แล้วมาหยุดอยู่ตรงหน้าของคุโด้
“เอ่อ พี่คุโด้ค่ะ ช่วยรับเค้กที่ฉันทำเองไว้ด้วยค่ะ”เธอยิ่นเค้กมาด้านหน้าร่าง ข่มตาหลับปี๋ ใบหน้าแดงก่ำ คุโด้ไตร่ตรงกับตนในใจสักพัก ก่อนจะยื่นมือออกไปรับ แต่ทว่า มือของแฟนหนุ่มขี้ห่วงก็จับมือของเขาเอาไว้ให้หยุดชะงัก แล้วกระชากร่างของเขามาจูบต่อหน้าต่อตาแฟนคลับ สาวสุดสวย และต่อหน้าต่อตาเพื่อนทั้งห้องเรียน
เสียงคุยแซ่ดๆที่ก่อนดังไปทั่วห้องพลันเงียบลงเมื่อทุกคนหันมาเห็นคุโด้ ชินอิจิ หนุ่มสุดฮ็อตกลายเป็น เกย์ ไปต่อหน้าต่อตา
ไคโตะ เรียวดวงตาสีม่วงของตนไปสบสายตาเขากับอีกฝ่ายอย่างเหยียดๆ มือหนาภายใต้ยูนิฟอร์มโรงเรียน โอบเอวของคุโด้ เอาไว้ แล้วจึงกดจูบที่หนักหน่วงลงไปยังริมฝีปากของอีกฝ่าย ชินอิจิร้องออกมาเป็นระยะ เพื่อขัดขืนอีกฝ่าย ใบหน้าของเขาแดงก่ำ เพราะความเขินอาย แต่นั้นยิ่งทำให้ ไคโตะพอใจแล้วใส่ลิ้นร้อนของตนเข้าไปยังโพรงปากของอีกฝ่าย ลิ้นร้อนกวัดแกว่งเพื่อควานหาความหวานจากในโพรงปากนั้น แล้วจึงถอนริมฝีปากออกอย่างอิ่มเอม
“หนังสดโว้ยยยย”
“หิ้ววว”
เหล่าผู้ชายในห้องพากันโห่ร้องอย่างพอใจ แต่แล้วเมื่อหญิงสาวเจ้าของเค้กรีบวิ่งออกไปทั้งน้ำตาเสียงทั้งห้องก็เงียบลงอีกครั้ง
“ไคโตะ นี่นายทำบ้าอะไร”ชินอิจิหันมามองค้อนแฟนตนเอง
“บทลงโทษที่นายทำให้ฉัน ‘หึง’ ไง” นั้นคือคำพูดสุดท้ายก่อนที่คาบโฮมรูมจะเริ่มขึ้น
และแล้วข่าวลือเรื่องใหม่นี้ก็แพร่สะพัดไปทั่วโรงเรียนเทย์ตัน แต่แทนที่จะทำให้คุโด้ ชินอิจิ ผู้ถูกกล่าวหาว่าเป็นเกย์นั้นถูกมองอย่างประหลาดในสายตาเหล่าสตรี กลับกลายเป็นว่าแฟนคลับของเขาดันเพิ่มขึ้นเสียอย่างนั้น ทั้งคุโรบะ ไคโตะ ที่ใช้ชีวิตในรั่วโรงเรียนโดยการแกล้งเขาและเกรียนคุณครูผู้สอนไปวันๆ ดังขึ้นได้ในชั่วพริบตา
แต่ทว่าการกระทำนี้ก็ทำให้ ชินอิจิ ไม่เอ่ยปากพูดคำใดกับแฟนหนุ่มของตนเลยแม้เพียงนิด จึงทำให้บรรยากาศรอบๆตัวของทั้งคู่ ช่างน่าอึดอัดจนไม่ควรเข้าใกล้เป็นอย่างมาก
เมื่อถึงเวลาพักกลางวัน แม้นทั้งสองจะยังเดินเคียงบ่าเคียงไหล่กัน แต่ก็ใช่ว่าทั้งคู่จะหันมาสบตากันเลย
“ชินจี้ ฉันขอโทษนะ อย่างอนสิ” คุโรบะ ผายมือตนเองไปด้านหน้าแล้วกำมือก่อนจะแบมันออกอย่างรวดเร็ว เผยให้เห็นดอกกุหลาบสีขาวดอกหนึ่ง
รอยยิ้มบนใบหน้าของคุโรบะ ไม่ได้ทำให้บุรุษซึ่งนั่งอยู่ข้างๆหันมาสนใจแม้แต่น้อย สิ่งที่เขาได้รับคือความเมินเฉยราวกับเขาไม่มีตัวตนอยู่ ชินอิจิ ยังคงใช้ขายาวเดินตรงไปข้างหน้าอย่างไม่แยแสใดๆ
แต่ทว่าร่างนั้นก็ต้องหยุดชะงักเมื่อคุโรบะรีบวิ่งไปดักหน้าล้วคุกเข่าของตนเองลงกับพื้นปูนเรียกให้นักเรียนคนอื่นๆหันมาสนใจเขาแทนที่จะเป็นอาหารกลางวัน มือหนาเอื้อมไปกุมมือของอีกฝ่ายเอาไว้แล้วจึงจุมพิตลบนหลังมือนั้นอย่างแผ่วเบา
“ชินจี้ ฉันขอโทษ หายโกรธฉันเถอะนะ ถ้านายไม่พอใจฉันจะไม่ทำอีก ขอร้องล่ะ อย่าเมินฉันเลยนะ”ประโยคหลังน้ำเสียงของคุโรบะเริ่มสั่นเครือและแผ่วเบา ดวงตาสีม่วงอเมทิตส์เลื่อนขึ้นมาสบตากับอีกฝ่าย น้ำใสๆที่เอ้อคลออยู่ในดวงตานั้นทำให้ชินอิจิ ถึงกัดฟันกรอด เพิ่มข่มความเจ็บปวดในใจของตนเอง
“ฉันจะยกโทษให้นายก็ได้ ต-แต่ว่า อย่าทำอีกนะ โดยเฉพาะ…ในที่สาธารณะ”ชินอิจิ เอ่ยพูดประโยคหลังอย่างแผ่วเบาแล้วเบนใบหน้าหวานไปทางอื่น ตามนิสัยของตนเอง
.
.
.
.
.
.
.
.
"ชินจี้ วันนี้อยากไปบ้านชินจี้"คุโรบะกอดคอเเฟนสุดที่รักของตัวเอง ด้วยรอยยิ้มบนใบหน้า พร้อมกับดวงตาสีม่วงที่ลุกวาว จนสามารถมองออกได้อย่างง่ายดาย ว่าจะไป'ทำอะไร..'
“.ถ้านายจะไปทำเรื่องอย่างว่า ฉันไม่ให้ไป"แต่ก็ถูกคุโด้ ชินอิจิพูดตัดบทเสียก่อน มือพลางหยิบขวดน้ำในกระเป๋าออกมาดื่ม จากการนั่งโดนอาจารย์ซักเรื่องทำไมไม่มาโรงเรียน ทำให้เขาคอเเห้งเหลื่อเกิน
"โหดร้าย งั้นไปเปิดห้องกัน"
พรวดด
"หาา พูดบ้าอะไรของนาย" คุโด้ตกใจถึงกับสำลักน้ำที่ดื่มเข้าไปออกมา
"ก็ชินจี้ไม่ยอมให้ทำในห้องนอน ก็ไปเปิดห้องเอาก็ได้"
"นี้นาย มีอารมณ์มากขนาดนั้นเชียว?"
"ก็ชินจี้ซึนแล้วน่ารักนี่น่า"
“หาา ไอโรคจิต"
"ไม่ได้โรคจิตสักหน่อยชินจี้ยั่วเองต่างหาก"
คุโด้ ชินอิจิ ได้แต่ถอนหายใจอย่างหน่ายๆ เขารู้อยู่แล้วว่าตัวเองเป็นคนซึนเดเระมากแค่ไหน แต่เขาก็คิดว่าเหตุผลที่แฟนหนุ่มของตนพูดออกมานั้นฟังไม่ขึ้นเลยแม้แต่นิด
"ไคโตะ.."
“?” คุโรบะ ไคโตะตอบด้วยแววตาสงสัยจนเหมือนกับกำลังแสดงละครแอ๊บอยู่
“หลังจากที่ฉันคืนร่างเดิมดูนายจะหาเรื่อง ทำอย่างว่า ตลอดเลยนะ"คุโด้พูดอย่างหน่ายๆ เขาจ้องไปยังใบหน้าอีกฝ่ายที่เเสดงใบหน้าอ้อนออกมา
“ก็ฉันอยากทำมานานเเล้วนี่น่า"
"เก็บกดเหรอไง”
"ถ้าได้ปลดปล่อยกับชินจี้ก็ดีนะ"
“หา =////=" คุโด้ ชินอิจิหน้าแดงก่ำ มือที่กำลังกำสายสะพายกระเป๋าเอาไว้เริ่มสั่นเครือ ด้วยความเขินอาย
"ชินจี้ หน้าแดงเเล้ว"
“ไม่ได้เเดงสักหน่อย เพราะพระอาทิตย์ตกดินต่างหากล่ะ!"ชินอิจิ ตวาดลั่นก็ห้องเรียนยามเย็นจนทำให้ทุกสายตาในห้องเรียนหันมาจับจ้องที่เขาเป็นตาเดียว และเหมือนสายตาของเหล่าผู้หญิงส่วนใหญ่จะแฝงไว้ด้วยความนัยที่ว่า 'เอากันไวๆนะ'
"เป็นมุขของคนซึนที่ประหลาดดีนะ"
"หุบปาก!"
"งั้นก็ทำให้ฉันหุบปากให้ได้สิ"เสียงเจ้าเล่ห์ดังขึ้นสนั่นห้องเรียน ดูเหมือนอีกฝ่ายจงใจใช่เสียงที่ดังเพื่อให้ทุกคนหันมาสนใจ
หิ้วววว หิ้ววววว
ตามมาด้วยเสียงของนักเรียนในห้องที่ทั้งเป่าปากบ้าง ปรบมือบ้างจนดังแซ่ดๆไปทั่วห้องเรียนอีกครั้งจนทำให้รู้สึกหมือนแดจาวูกับช่วงเช้าของวันอย่างไรอย่างนั้น
“จูบเลย”
“จูบเลย" เสียงของคนทั้งห้องพูดเป็นคำๆเดียวกันไม่เว้นเเม้เเต่โซโนโกะ ทำให้ใบหน้าของชินอิจิยิ่งเเดงก่ำเข้าไปอีก จนเมื่อเทียบกับมะเขือเทศแล้วคงสีไม่ต่างกัน
ชินอิจิตัดสินใจจับมือของอีกฝ่ายแล้วลากออกมาจากตรงนั้น เขาก็ไม่ค่อยสบอารมณ์จากการโดนอีกฝ่ายแกล้งแบบนั้น แต่นั้นก็ไม่เหมือนแกล้งมากนัก เพราะยังไงก็ได้เสียเท่าๆกันทั้งสองฝ่าย
"ชินจี้ จะลากฉันไปม่านรูดก็ไม่บอก"อีกฝ่ายก็ยังไม่เลิกพูดหยอดเขาสักที จนเขาเริ่มหงุดหงิด
‘ถือว่าเอาคืนเรื่องที่นายจูบฉันเมื่อเช้าแล้วกัน หึๆ’
“นายอยากทำมากขนาดนั้นเลยเหรอ” ชินอิจิเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา จนทำให้ฝ่ายถูกถามรู้สึกผิด
“คือ ถ้าชินจี้ไม่อยากก็…”ไม่ทันที่เขาจะพูดจบอีกฝ่ายก็จับมือหนาของเขา แล้วลากให้เดินตามไป
ทั้งสองมาหยุดยืนอยู่ในห้องนอนของคุโด้ซึ่งอยู่ในบ้านอันโอ่อ่า คุโด้ก็พลักร่างของอีกฝ่ายลงกับเตียงอันอ่อนนุ่ม ก่อนจะขึ้นคร่อมพร้อมกับรอยยิ้มเจ้าเล่ห์บนใบหน้าจนชวนให้ฝ่ายที่นอนราบอยู่เสียวสันหลังไม่น้อย
เขาตัดสินใจบดขยี้ปากของอีกฝ่ายอย่างเมามันส์ มือที่อยู่ไม่สุขเริ่มปลดเปลื้องเสื้อผ้าของคนด้านล่างออกจนหมด เผยให้เห็นกล้ามเนื้อหน้าท้องอันน่าหลงใหลซึ่งไม่น่าที่จะมีได้ในร่างของจอมโจรกะล่อน
"ชินจี้จะรุกฉันเหรอ...อึก...อืม"ชินอิจิถอนริมฝีปากออกชั่วครู่เเล้วจึงกดมันลงไปใหม่ ความหวานเเละความร้อนรุ่มเเพร่เขาสู่โพรงปากของทั้งคู่ ทั้งสองจูบกันอยู่นานเนิ่นนานและเมื่อฝ่ายด้านบนถอนริมฝีปากที่แดงมากนั้นออก เขาก็ได้เห็นร่างของคนด้านล่างที่ข้อมือถูกผูกติดอยู่กับหัวเตียงโดยฝีมือเขาเอง
"ก็นายอยากทำหนิ" ชินอิจิเลียริมฝีปากของตนเอง ดวงตาสีครามฉายเเววเจ้าเล่ห์และเหนือกว่าอย่างเห็นได้ชัด
“สมกับที่เป็นเมียจอมโจร มือเบาจนถึงขึ้นผูกมือฉันไว้ได้ โดยที่ฉันไม่รู้ตัว"ฝ่ายด้านล่างไม่ได้แสดงท่าทีขัดขืนเลยเเต่กับสนุกเสียมากกว่า
“ใครบอกว่าฉันเป็นเมียนาย นายต้องเป็นเมียฉัน" เมื่อพูดจบชินอิจิก็โน้มใบหน้าลงไปซุกไซร็กับคอของอีกฝ่าย ด้วยแรงจูบนั้นทำให้เกิดรอยแดงซึ่งตัดกับผิวขาวนั้นอย่างชัดเจน และเกิดเสียงครางอย่างแผ่วเบาของอีกฝ่าย
"อ่า อือ"ชินอิจิโน้มหน้าลงไปเลียกับยอดอกสีชมพูของอีกฝ่าย เขาทั้งเลียทั้งดูดมันเพื่อเรียกเสียงครางอันเเสนยั่วยวนจากฝ่ายตรงข้าม
เมื่อได้ยินเสียงครางของฝ่ายร่างชินอิจิก็รู้สึกว่าตัวเองกำลังอยู่เหนือกว่าอีกฝ่ายได้สำเร็จ ความแค้น และ ความสะใจ มันออกมาจนเรียกได้ว่า ปะทุ เลยทีเดียว ชินอิจิ ไล่ฝามือบางลูบไล้ไปทั้วแผ่นอกแกร่งของฝ่าย ก่อนจะล้วงมันเข้าไปในกางเกงยูนิฟอร์มของโรงเรียน
แต่ทว่า มือหนาที่ก่อนถูกมัดนั้น ดันมาจับมือของร่างบนให้หยุดชะงัก เกมทั้งหมดถูกผลิกกลับอย่างง่ายดาย ร่างของชินอิจิ ถูกผลักลงให้นอนราบกับเตียง
"ผัวยอดนักสืบซะอย่าง แค่เเกะเชือกที่มือง่ายจะตายไป" ชินอิจิเบิกตากว้าง เขาคาดไม่ถึงว่าอีกฝ่ายจะสามารถเเกะเชือกที่เขารัดได้อย่างง่านดายถึงเพียงนี้
"พอแล้ว ฉันไม่เล่นเเล้ว!"ยอดนักสืบด้านล่างตวาดลั่นพลางทุบอกเเกร่งของอีกฝ่าย
"แล้วใครบอกว่าเล่น"
"อ...อ่าา ไม่..ด..เดี๋ยว..เอา..อ่าา"ชินอิจิเริ่มครางไม่เป็นศัพท์เมื่อมีของบางอย่างกระเเทกเขามาในร่างของอย่างเเรงโดยที่เขายังไม่ทันจะตั้งตัว
รอยยิ้มเย้ยหยันปรากฏขึ้นบนใบหน้าของจอมโจร คุโรบะกดจูบลงกับคอของอีกฝ่ายอย่างที่คนด้านล่างนี้เคยทำ จนมันเกิดเป็นรอยแดงซึ่งบ่งบอกว่าทั้งสองเป็นของกันเเละกัน
"อ่าา ไคโตะ เอา..ออก..อ่าา"
"อยากได้มากกว่านี้เหรอ"คุโรบะยิ้มเเสยะ เขากระเเทกสะโพกของอีกฝ่ายอย่างถี่เเละเเรงขึ้น
"อือ อ่าา อ่า"ชินอิจิเสียววาบเเละร้อนรุ่มไปทั่วทั้งร่าง เขาไม่สามารถจะทำหรือพูดอะไรได้อีกแล้ว สมองตอนนี้ขาวโพลนไม่เหลืออะไรเลย เล็บจากมือบางจิกไปยังเเผ่นหลังของอีกฝ่ายแน่น ทั้งความเจ็บปวด และ ความรู้สึกดีที่ไม่เคยได้รับมันเเพร่ซ่านไปทั่วร่าง
"ในตัวชินจี้มันรัดเกินไปแล้วนะ อ่า"
"อ่าา...ไคโตะ..ไค..อ่าา"คุโรบะ ไคโตะเห็นอีกฝ่ายผล็อยตามและเห็นเขาครางชื่อของตนออกมาก็รู้สึกดีตามไปด้วย แล้วจึงกระเเทกอีกฝ่ายแรงขึ้นอีก
"อ๊ะ! จ..เจ็บ อ่าา มัน..อึก"ความเร็วของจมูกยอดนักสืบทำให้เขาได้กลิ่นคาวเลือดออกมา ซึ่งก็เดาได้ง่ายว่ามาจากไหน
"ครั้งเเรกของชินจี้ก็ต้องจัดให้หนักหน่อยสิ จะได้ ปรับ ตัว"
"อ่าา พูด..บ้า..อะไร ..อ่าส์"ร่างของชินอิจิเริ่มยกสะโพกขึ้นให้กระเเทกยังจุดนั้นได้ง่ายขึ้น
เสียงเนื้อกระทบเนื้อดังระงมไปทั่วห้องพร้อมเสียงครางที่สอดประสานกันของทั้งสองฝ่าย ร่างของชินอิจิขยับไปตามเเรงของคนด้านบนที่กำลังใช้เเก่นกายนั้นกระเเทกเข้ามาไม่หยั่งมือ เลือดและน้ำขาวขุ่นเปรอะเปื้อนปนกันไปกับช่องทางรัก และ ผ้าปู แต่ก็ไม่มีวี่แววว่าฝ่ายไหนจะหยุด
"อือ ไคโตะ อื้ออ ฉันจะ..เสร็จ..อ่า"
"งั้นก็พร้อมกันนะ"เขากระซิบข้างหูของตนด้านล่างอย่างยั่วยวน
"อ่าาส์" ทั้งสองเเผดเสียงครางพร้อมกัน ร่างของทั้งสองเกร็งและชะงักไป น้ำขาวขุ่นที่ออกมาจากแก่นกายของชินอิจิ ไหลออกเปรอะเปื้อนไปทั้วหน้าท้อง พร้อมกับน้ำขาวขุ่นของอีกฝ่ายที่ฉีดเข้าไปยังช่องทางรัก
เมื่อจบกิจกรรมบนเตียง ความเจ็บปวดก็เเพร่ซ่านเข้ามาในร่างของชินอิจิ ดวงตาสีฟ้าครามเอ่อคลอไปด้วยน้ำตาเเห่งความเจ็บปวด ทันใดที่คุโรบะเห็นเขาได้แต่มองอีกฝ่ายอย่างเอ็นดูแล้วกดริมฝีปากตัวเองลงไปยังริมฝีปากของอีกฝ่ายอย่างแผ่วเบา
ทั้งสองผล็อยหลับไปบนเตียง เหงื่อที่ท่วมตัวของทั้งสองบ่งบอกได้อย่างนี้ว่าพวกเขาเหนื่อยกับกิจกรรมครั้งนี้อย่างมาก แม้เครื่องปรับอากาศในห้องจะเปิดอยู่ที่อุณหภูมิ22องศา เเต่ก็ใช่ว่าจะทำให้ร่างกายอันเปลือยเปล่าและร้อนรุ่มนั้นเย็นลงในชั่วพริบตาได้เลย