ด้วยตำนานที่เล่าขานกันมานานแสนนานว่าผู้คนต่างมีความเชื่อเรื่องเทพเจ้า พญานาค พญาครุฑ และเหล่าเทวดา อสูรกายมากมาย เราอาจจะเคยฟังกันมามากมาย ตามคำบอกเล่าของคนโบราณ หนังสือโบราณ นิทาน วรรณกรรม วรรณคดีแม้แต่เรื่องจากบุคคลมากมายตามคำอ้าง ตามความเชื่อท้องถิ่นต่าง ๆ ความศรัทธาต่างๆ ทำให้มีเรื่องราวมากมายหลายรู้แบบมากขึ้นเรื่อยๆ แต่เมธานันท์ก็คงมุ่งมั่นค้นคว้าหาข้อมูลต่าง ๆ ไม่ว่าจะจากหนังสือมากมาย คำบอกเล่าจากชาวบ้าน คนเถ้าคนแก่ในท้องถิ่นความเชื่อเกี่ยวกับเรื่องพญานาค เธอไม่ใช่คนที่เรียนจบมาทางด้านประวัติศาสตร์ วรรณคดี หรือพุทธศาสนา เธอเรียนจบมาทางด้านบริหารธุรกิจบริการ ซึ่งอาจจะมีบางวิชาตอนที่เรียนในมหาวิทยาลัยที่เกี่ยวข้องในช่วงเวลาที่เธอเรียนในวิชาที่เกี่ยวเธอรู้สึกสนใจเรื่องพญานาคขึ้นมาอย่างประหลาด เวลาที่เธอได้รู้เรื่องเหล่านี้ทำให้รู้สึกอยากค้นหา เฝ้าคอย และคิดถึง พร้อมกับรู้สึกผิดในเวลาเดียว ทำให้เป็นการเริ่มต้นการออกตามหาคำตอบในใจเธอ
“ เมลูก!! ทำไมถึงไม่ฟังแม่บ้าง ว่าลูกต้องไปเรียนต่อเมืองนอก ” นันทิดาโมโหสุดขีดเมื่อลูกสาวของเธฮปฎิเสธไปการเรียนต่อเมืองนอก
“แม่ค่ะ เมแค่ขอเวลาให้เมได้ตามหาในสิ่งที่เมต้องการรู้ ”
“ แล้วลูกขอเวลานานขนาดไหนกัน หะ!! ”
“ ไม่นานค่ะแม่ เมของเวลาแค่เดือนเดียวเท่านั้น ”
“ ได้ แม่ให้เวลาลูกแค่เดือนเดียวเท่านั้น ”
สุรมนต์ได้แต่ส่งยิ้มให้กับลูกสาวไม่พูดอะไรเพราะเขาเข้าใจเมธานันท์และนันทิดาดีว่าสองคนนี้ถ้าต้องการทำอะไรแล้วต้องทำให้ได้ แล้วการที่เขาไม่คัดแค้นเมธานันท์ก็เพราะเค้าเห็นใจลูกสาวดี เธอไม่เคยดื้อเลยไม่ว่านันทิดาจะอยากให้เมธานันท์ทำอะไร แต่งตัวแบบไหน เรียนแบบไหน ก็ตามเมธานันท์ไม่เคยขัด การที่เมธานันท์ได้ทำอะไรเพื่อผ่อนคลายสักเดือนก็คงดี
“ แม่ค่ะ เมอยากจะขอไปหนองคายนะค่ะ ”
“ ไปกี่วันละ ” นันทิดาพูดออกไปแบบยังมีอารมณ์ขัดเคื่อง
“ 1 อาทิตย์ ค่ะ ไปกับนายนนท์ และยัยป่าน ”
“ ระวังตัวด้วยละลูก หนูไม่เคยไปไม่คุ้นเคยต่างถิ่นต้องระวัง ” สุรมนต์บอกกับลูกสาว
“ ค่ะพ่อ หนูรักพ่อนะค่ะ ”
นันทิดาได้แต่นั่งอารมณ์เสีย แต่ก็ปนความเป็นห่วงเมธานันท์ เพราะร่างกายไม่แข็งแรงนัก เธอมักจะป่วย และมีอาการปวดหัวบ่อย ๆ การที่นันทิดาอยากจะส่งลูกสาวไปเรียนเมืองนอกนั้น เพราะน้องสาวของเธออยู่ที่นั่น และเจ้าลูกชายคนโตของเธอก็เรียนปริญญาเอกอยู่ที่นั่นเธอจึงวางใจที่จะส่งเมธานันท์ไปเรียนที่นั่นอย่างวางใจ และเพื่อลูกสาวของเรียนจบกลับมาทำงานในโรงแรมที่เธอทำอยู่อันเป็นมรดกตกทอด
“ ว่าไงยัยเม ”
“ ยัยป่านฉันขอแม่ไปหนองคายได้แล้วนะ ”
“ จริงหรอ แม่แกให้แกไปได้หรอ ฉันไม่อยากจะเชื่อ ”
“ เอาเถอะน่า ได้ไปแล้ว บอกนายนนท์ ด้วยให้เตรียมพร้อม ” ปานรวีและนนท์วัฒน์เป็นเพื่อนกับเมธานันท์เมื่อมัธยมปลายด้วยความที่ชอบอะไรเหมือนกันทำให้เข้ากันได้ดี เมื่อเริ่มเข้ามหาวิทยาลัยก็แยกกันเรียนตามความชอบ ปานรวีและนนท์วัฒน์เรียนการท่องเที่ยวตามที่ใฝ่ฝัน คงมีแต่เมธานันท์คนเดียวกะมั่งที่ต้องเรียนตามที่แม่ของเธออยากให้เรียน