บทนำ
.
.
โฮ่ง! โฮ่ง! โฮ่ง!
เสียงร้องของสัตว์ดุร้ายที่เขาแสนกลัว เห่าดังกึกก้องทำเอาเด็กร่างเล็กถึงกับตกใจสุดขีดด้วยความกลัวจนตัวสั่นเทาอย่างไม่อาจควบคุม ยิ่งเห็นสายตาคู่ดุดันของมันจับจ้องมาที่ตัวเขา ก็ทำเด็กน้อยอกสั่นขวัญแขวนจนร้องไห้ ไหนจะเขี้ยวคม
ที่เพียงแค่ได้เห็นก็จินตนาการได้ถึงความเจ็บปวดหากมันวิ่งเข้ามาฝังเขี้ยวคมลงบนผิวอ่อนนุ่มของเขา เนื้อของเขาคงหลุดติดปากมันไปแน่แท้ เด็กน้อยคิดเช่นนั้น
“ฮึ่ก ออกไปนะ ฮึ่ก ออกไป อย่าเข้ามา!!”
ประสาทสัมผัสทุกส่วนตื่นตัวระวังภัย แต่แข้งขากลับสั่นระริกไม่มีแม้แต่เรี่ยวแรงที่จะก้าวหนีจึงทำได้เพียงยืนตรึงอยู่กับที่ ปากเล็กตะโกนไล่สุนัขตัวโตตรงหน้าด้วยเสียงสั่นเทาไม่ต่างจากร่างกาย แต่ดูแล้วสุนัขตัวนี้ไม่มีทีท่าที่จะกลัวหรือถอยห่างตามที่เขาพูดไล่เลย มิหนำซ้ำมันยังขยับก้าวเข้ามาหาเขาเรื่อย ๆ
โฮ่ง! โฮ่ง!
“คุงหมา อย่ากัดผมนะ ฮึ่ก ผมกลัว ช่วยด้วย!!”
โฮ่ง! โฮ่ง!
พรึ่บ
“โอ๊ยย ฮื้ออ คุงหมาอย่าเข้ามานะ ฮึ่ก แม่ฮะ แม่อยู่ไหน ช่วยด้วย!”
เด็กน้อยผวาเฮือกด้วยความตื่นกลัวที่สุนัขเอาแต่ตั้งท่าเห่าแล้วเดินตรงเข้ามาไม่หยุดจนเขาผละถอยหลังซวนเซสะดุดล้มลงกองกับพื้น ยิ่งทำให้เจ้าสุนัขได้โอกาส
รีบวิ่งตรงเข้ามาหาเขาทันที
ใครก็ได้ ช่วยที…
ฟึ่บ!
“ไปไกล ๆ เลยนะไอ้หมาบ้า!”
แต่แล้วในชั่วพริบตา กลับมีไม้ท่อนใหญ่ลอยไปใส่เจ้าสุนัขตัวนั้นจนมันต้องวิ่งหนีไป เด็กน้อยถอนหายใจเฮือกใหญ่อย่างโล่งอก เขาคิดว่าตัวเองจะโดนสุนัขกัดเสียแล้ว โชคดีที่มีคนผ่านมาช่วยได้ทัน เด็กน้อยเงยหน้าขึ้นช้า ๆ สายตาพลันปะทะกับนัยน์ตาสีนิลที่จับจ้องมองเขาอยู่ก่อนแล้ว
กึก
ทุกสิ่งรอบตัวค่อย ๆ หยุดนิ่ง จะมีก็แต่หัวใจดวงน้อยที่กระเพื่อมไหวระลอกแล้วระลอกเล่ายากจะสงบ จังหวะการเต้นในอกซ้ายมันคล้ายกับตอนที่เขาตื่นกลัวสุนัข แต่มันกลับให้ความรู้สึกที่แตกต่าง เขาไม่ได้กำลังรู้สึกกลัวคนตรงหน้า แต่มันเป็นความรู้สึกที่เด็กตัวน้อยยากจะเข้าใจ ความรู้สึกแบบนี้มันคล้ายกับตอนที่เขานั่งดูการ์ตูนซูเปอร์ฮีโร่ที่เขาปลื้มก็ไม่ปาน
“เจ็บตรงไหนหรือเปล่า โดนหมากัดไหม”
“ยะ...ยัง ฮึ่ก มันยังไม่กัดผมฮะ”
“หยุดร้องได้แล้ว พี่ไล่หมาไปแล้ว”
“จริง ๆ เหรอฮะ”
“จริง ๆ จับมือพี่สิแล้วลุกขึ้น ดูสิล้มจนเลอะหมดแล้ว”
เด็กชายร่างสูงยื่นมือไปตรงหน้าเด็กน้อยที่ตอนนี้ร้องไห้จนตาบวมแลดู
น่าสงสาร ส่วนเด็กน้อยเอง ก็ค่อย ๆ ส่งมือตอบรับการช่วยเหลือ เพียงแค่มือที่ต่างขนาดสัมผัสกันเด็กน้อยก็รับรู้ได้ถึงความอุ่นร้อนจากฝ่ามือที่หนากว่า
อุ่นจัง…
“แล้วนี่เรามาทำอะไรแถวนี้คนเดียว”
“ผะ…ผมวิ่งตามน้องแมวมาฮะ ผมเห็นมันอยู่ที่หน้าบ้าน ตะ...แต่พอผมจะเดินเข้าไปเล่นกับมัน มันก็วิ่งหนี ผมเลยวิ่งตามมา แต่...แต่ไม่รู้มันหายไปไหนแล้ว”
“แล้วนี่บ้านอยู่ไหน เดี๋ยวพี่เดินไปส่ง”
“ทางนั้นฮะ อยู่ทางนั้น”
เด็กชายหันมองตามปลายนิ้วอีกฝ่ายที่ชี้บอกทาง เขาพยักหน้ารับก่อนจะเดินไปพร้อมกับเด็กน้อยเพื่อไปส่งให้ถึงบ้าน ระหว่างทางที่เดิน มือต่างขนาดก็ไม่ได้ปล่อยออกจากกันเลย อาจจะเป็นเพราะเด็กน้อยไม่อยากจะปล่อยมือจากคนคนนี้
ปลอดภัย…
เขาแค่รู้สึกถึงความปลอดภัย เมื่อได้จับมืออุ่นของเด็กชายร่างสูงไว้แบบนี้
“ถึงแล้วฮะ”
“อืม เราเข้าบ้านเถอะ”
“เอ่อ พะ..พี่ชื่ออะไรเหรอฮะ”
“พี่ชื่อ...”
“คุณหนู มาอยู่ที่นี่นี่เอง ลุงขับรถหาซะทั่วเลยครับ” เด็กชายไม่ทันจะได้บอกชื่อของตัวเอง คนรถที่บ้านก็ขับรถมาเจอเขาเสียก่อน
“ขอโทษนะครับลุง”
“รีบขึ้นรถเถอะครับ ขืนพาคุณหนูกลับถึงบ้านช้า คุณผู้หญิงคงได้ตัดเงินเดือนลุงแน่”
“ครับ” เด็กชายขานรับอย่างสุภาพก่อนจะหันกลับไปหาเด็กน้อย “เรารีบเข้าบ้านเถอะ วันหลังก็อย่าออกไปเดินคนเดียวล่ะ พี่ไปก่อนนะ”
พูดจบประโยคเขาก็เข้าไปนั่งในรถหรูคันสีดำ กระจกหน้าต่างรถที่ถูกเลื่อนลงให้เห็นเด็กชายในรถที่กำลังโบกมือลาด้วยรอยยิ้มพิมพ์ใจ
สายตาเด็กน้อยยังคงติดตามรถที่เคลื่อนห่างออกไป แววตาฉายความรู้สึก
ชื่นชมเด็กหนุ่มที่นั่งอยู่ภายในรถอย่างไม่ละสายตา
“บ๊าย บ่ายนะฮะพี่ฮีโร่ หวังว่าเราจะได้เจอกันอีกนะฮะ”
.
.
.