
บทที่ 1
ที่มาของ ‘เด็กชายณภัทร ณิชกุล’
12 ปีก่อน
เวลาเกือบเที่ยงคืนของวันเช่นนี้ บางพื้นที่คงเงียบสกัดปราศจากเสียงรบกวนใดๆ มีเพียงเสียงของยานพาหนะที่ยังคงมีสัญจรบ้างประปรายตามท้องถนนที่โล่งเตียน ทว่าไม่ใช่กับสถานที่แห่งนี้...
เสียงเพลงจังหวะมันส์ที่นิยมเปิดในผับดังกึกก้องไปทั่วบริเวณถนนที่ขึ้นชื่อของกรุงเทพมหานคร แม้จะดึกดื่นค่ำคืน ทว่าที่แห่งนี้กลับพลุกพล่านไปด้วยนักท่องราตรีทั้งหญิงและชายที่ต่างก็ออกมาหาความสุขใส่ตัวชายหนุ่มวัยยี่สิบปีจากดินแดนแห่งศิลปะคนนี้ก็เป็นหนึ่งในนั้นเช่นกัน
‘โดนจนได้’
เจ้าของร่างสูงเกือบสองเมตร ผู้มีใบหน้าคมหล่อเหลาอย่างคนอิตาลีโดยแท้เดินบ่นโซซัดโซเซที่ลานจอดรถหน้าร้านไปมาอย่างพยุงกายไม่อยู่พร้อมกับสะบัดหน้าเพื่อเรียกคืนสติ ทว่าก็มิอาจพยุงร่างสูงของตนไว้ได้ ก่อนจะล้มลงไปกองกับพื้นไปในท้ายที่สุด
‘คุณคะ ! เป็นอะไรหรือเปล่า!'
คนเสียงหวานเอ่ยถามด้วยภาษาสากลอย่างตกใจ เพราะอยู่ดีๆ ก็มีชายชาวต่างชาติตัวโตมาล้มพับลงต่อหน้าต่อตา จะไม่เข้าไปดูหรือถามไถ่เลยก็ดูเหมือนจะแล้งน้ำใจไปหน่อย
สาววัยสิบเจ็ดปีที่มาเที่ยวเช่นคนอื่นจึงเอ่ยถาม พร้อมกับเดินเข้าไปดูอาการชายหนุ่มแปลกหน้าด้วยความเป็นห่วง โดยลืมคำนึงถึงความปลอดภัยของตนเองยามค่ำคืน ณ สถานที่อโคจรเช่นนี้ไปโดยปริยาย รู้เพียงแต่ว่าไม่สามารถปล่อยให้เขานอนอยู่ตรงหน้าในสภาพเช่นนี้ได้
‘อือ…ร้อน’
คนตัวโตตอบอู้อี้ออกไปด้วยภาษาเดียวกัน โดยไม่แม้แต่จะมองหน้าคนถาม เพราะอาการที่ตนเป็นอยู่ตอนนี้มันเริ่มทวีคูณความทรมานขึ้นมาอีกระรอก
‘แล้วคุณจะให้ฉันช่วยอะไรไหมคะ’
หญิงสาวเสนออย่างมีน้ำใจ พร้อมกับพินิจพิจารณาคนตรงหน้าไปด้วย เนื่องจากเพิ่งจะมานึกถึงความปลอดภัยที่คนตรงหน้าอาจจะเป็นมิจฉาชีพที่ออกหาเหยื่อยามค่ำคืนก็ได้
ทว่าเมื่อเห็นหน้าตาเขาชัดเจนกลับไม่รู้สึกถึงอันตราย ไม่มีทางที่เขาคนนี้จะกลายเป็นมิจฉาชีพไปได้ แม้จะไม่มีอะไรพิสูจน์ แต่ข้างในใจกลับบอกแบบนั้น
‘นิรดาณิชกุล’ ในวัยสิบเจ็ดปีที่ออกมาเที่ยวสถานบันเทิงกับเพื่อนๆ เนื่องในโอกาสที่สอบติดเข้าเรียนระดับมหาวิทยาลัยได้สำเร็จ
แม้ตนจะอายุยังไม่ถึงเกณฑ์ในการเข้าที่แห่งนี้ แต่ด้วยที่เพื่อนเป็นน้องสาวของเจ้าของผับ จึงไม่ยากที่พวกตนจะได้เข้าไปสนุกด้านใน ในสถานที่ที่ๆ ไม่เคยแม้แต่จะย่างกรายเข้ามาสักครั้งในชีวิต
‘ร้อน…’
‘คุณว่าอะไรนะ ?’
นิรดาก้มลงเข้าไปใกล้ปากหนาที่พึมพำพูดมากขึ้น เพราะจับใจความความช่วยเหลือของเขาไม่ถนัดนัก และการกระทำนี้ทำให้ใบหน้าหวานอยู่ห่างจากหน้าคมเพียงไม่กี่เซนติเมตร
‘คุณพูดดังกว่านี้หน่อยได้ไหมคะ ฉันไม่ได้ยินเลย’ หญิงสาวเอ่ยบอก แต่ก็ไม่ได้ขยับใบหน้าออกห่าง เพราะกำลังตั้งใจฟัง
กลิ่นเหล้าผสมกับกลิ่นบุหรี่อ่อนๆ ลอยเข้าจมูกยามที่เขาเอื้อนเอ่ย ทำให้รู้ว่าผู้ชายคนนี้คงเมา และปริมาณแอลกอฮอล์ในเลือดคงสูงน่าดู มิเช่นนั้นหน้าคงไม่แดงก่ำขนาดนี้จึงตัดสินใจผละออกจากร่างสูงเพื่อขอความช่วยเหลือจากการ์ดของผับแทน
แต่ยังไม่ได้ทำอย่างที่ใจคิดก็ต้องเบิกตากว้าง เมื่อคนที่ตนเองคิดว่าเมามายกระชากตัวเข้าไปหาอย่างแรง พร้อมกับฉกจูบปากหวานอย่างรุนแรง
‘อืมมม’
ชายหนุ่มครางออกมาอย่างพอใจ เมื่อปากหวานนี้สามารถดับไฟร้อนในกายของตนได้ แม้จะไม่มาก ทว่าก็ช่วยบรรเทาให้ความทรมานลดลงไปได้บ้าง
ถึงจะไม่รู้ว่าหญิงสาวร่างนุ่มนิ่มตรงหน้าเป็นใคร แต่กลิ่นหอมอ่อนๆ ของกายสาวก็ทำให้เขาลืมตาขึ้นมองคนเสียงหวานที่มีน้ำใจมาถามไถ่อาการ หลังจากถูกยาปลุกอารมณ์เข้าไป
เมื่อเห็นคนหน้าหวานที่ก้มลงมาจนหน้าเกือบจะชิดกันชัดเจน เสือร้ายที่อยู่ในตัวทั้งยังถูกปลุกจากยานรกนั่นอีก ทำให้เสือหนุ่มรีบตะปบเหยื่อทันทีทันใด
‘นิคาโอ เบคเค็ตต์ คิงส์ตัน ’ ทายาทมาเฟียชื่อดังก้องโลกของอิตาลีอย่าง ‘นิคาซิโอ คิงส์ตัน’เดินทางมาเที่ยวเมืองไทยในช่วงซัมเมอร์เป็นครั้งแรกพร้อมกับบอดี้การ์ดประจำตัวอีกสองคน
แต่เวลานี้เจ้าการ์ดสองคนที่ติดตามมานั้นไม่รู้ไปอยู่ที่แห่งหนใด จึงทำให้นายน้อยของตนถูกเล่ห์เหลี่ยมของผู้หญิงเข้าจนได้ ถึงแม้จะโชกโชนด้วยเรื่องอย่างว่ามามากมายด้วยอายุที่เพิ่งจะเข้าสู่วัยเลขสองได้ไม่นาน ทว่าผู้ชายรึจะสู้มารยาหญิงได้ สุดท้ายก็ต้องตกเป็นเหยื่อในที่สุด
แต่ด้วยความที่มีสติอยู่แม้จะดื่มแอลกอฮอล์ไปมากโข ทำให้สามารถพาร่างกายอันแสนทรมานหนีออกมายังข้างนอกจากพวกมิจฉาชีพได้อย่างหวุดหวิดแถมยังโชคดีที่มีแม่กระต่ายน้อยรอท่าเป็นเหยื่อช่วยปลดปล่อยความทรมานของเสืออย่างเขาต่อไปได้อีก
‘อื้อ อ่อย’
หญิงสาวร้องประท้วงเมื่อตั้งสติได้ แต่คนฉวยโอกาสก็ไม่คิดที่จะปล่อย เมื่อออกแรงขัดขืน คนตัวโตก็ยิ่งตะบมจูบอย่างตะกละตะกลาม แถมยังรัดร่างนุ่มเข้าไปหาเสียแน่นขึ้นกว่าเดิมอีกด้วยซ้ำแม้ทั้งสองจะนั่งอยู่บนพื้นก็ไม่เป็นอุปสรรคสำหรับคนช่ำชองเช่นเขา
นิรดาได้แต่นึกโทษตัวเองที่ออกมาข้างนอกเพียงลำพัง เพียงเพราะอยากออกมาสูดอากาศภายนอกเสียให้ชุ่มปอดก่อนจะเข้าไปหาเพื่อนๆ ด้านในที่มีแต่กลิ่นบุหรี่และกลิ่นเหม็นอับ
ถ้าย้อนเวลากลับไปได้จริงจะไม่ยอมออกมาเที่ยวตามแรงเชียร์ของเพื่อนแน่ เพราะถ้าเป็นเช่นนั้นจริง คงไม่ต้องมาเจอกับเหตุการณ์น่ากลัวเช่นในตอนนี้
เมื่อร่างบางหยุดขัดขืนและนั่งนิ่งผิดกับแรงขัดขืนในคราแรก คนที่หลงกับรสปากหวานของกระต่ายน้อยตัวนี้ก็พลอยแปลกใจไปด้วย หรือบางทีการขัดขืนเมื่อครู่อาจจะเป็นเพียงมารยาหญิงข้อหนึ่งเท่านั้น
นิคาโอผละออกจากร่างบาง แต่มือหนายังกอบกุมแก้มนุ่มใสของหญิงสาวแปลกหน้าไว้ พร้อมกับสำรวจหน้าหวานทุกกระเบียดนิ้ว เด็กสาวที่มีโครงหน้ารูปหัวใจ ปากนิดจมูกหน่อยตามความนิยมของสาวเอเชีย ผิวหน้าขาวเนียนเหมือนผิวของเด็กทารก ผมยาวสีดำแห่งรัตติกาลยาวถึงกลางหลัง ซึ่งเป็นสีเดียวกับดวงตากลมโตที่กำลังจ้องมองมายังเขาตาใสแป๋ว
นิ้วมือเรียวคล้ายอิสตรีไล้ไปตามผิวแก้มเนียนอย่างหยุดมือไม่อยู่ก่อนจะกระทำการบางอย่างเพื่อไม่ให้คนตัวเล็กแตกตื่นตกใจไปมากกว่านี้
‘ไม่ต้องกลัวฉันไปหรอกสาวน้อย ฉันไม่ทำอันตรายเธอแน่นอน’
ชายหนุ่มวัยยี่สิบปีเอ่ยบอกเสียงนุ่มด้วยภาษาสากลที่คิดว่าสามารถสื่อสารกันเข้าใจ พร้อมกับยัดของบางอย่างเข้าปากสวย โดยไม่ให้เจ้าหล่อนได้รู้ตัว
ด้วยประสบการณ์เรื่องเพศตรงข้ามที่เป็นศูนย์ แล้วยังเป็นช่วงเวลาที่กำลังตกใจ เมื่อคนตรงหน้าพูดจาเสียงอ่อนนุ่มเป็นมิตรทำให้คนด้อยประสบการณ์ที่กำลังหวาดกลัวคล้อยตามอย่างง่ายดายแถมยังมีดวงตาสีสวยของเขาคอยสะกดให้เธอหลงใหลอีก และนั่นทำให้หญิงสาวยอมกลืนของบางอย่างลงคอตามที่เขาได้ป้อนให้อย่างไม่รู้ตัว
นิคาโอยิ้มด้วยความพอใจ เมื่อหญิงสาวปฏิบัติตามอย่างว่าง่าย และเหลือบไปเห็นสองบอดี้การ์ดที่พากันวิ่งตาตื่นตรงดิ่งมายังตนด้วยความรวดเร็ว
สองหนุ่มมาใหม่พยายามจะเข้ามาแยกหญิงสาวแปลกหน้าออกจากเจ้านายน้อยของตน เพราะไม่ไว้ใจถึงความปลอดภัย เพียงแค่ทำงานพลาดจนคลาดกันเมื่อครู่ก็ไม่รู้ว่าจะถูกลงโทษหรือไม่ จึงอยากจะแก้ตัวใหม่อีกครั้ง
ทว่าก็ต้องรีบแบรกตัวเองเอาไว้อย่างสุดตัว เมื่อเห็นสัญญาณห้ามทางสายตาของผู้เป็นนาย และรู้ได้ทันทีว่าทายาทมาเฟียต้องการอะไรเป็นลำดับต่อไป
‘เราไปกันเถอะสาวน้อย ฉันเริ่มจะทนไม่ไหวแล้วล่ะ’ นิคาโอกัดฟันพูดข่มความทรมานของตนเอง ก่อนจะดันลุกขึ้นและส่งมือให้หญิงสาวจับ
นิรดาที่กำลังพินิจมองดวงตาสีสวยขอเขาอยู่ก็ยื่นมือไปวางบนมือใหญ่อีกครั้งอย่างว่าง่าย และเดินตามไปขึ้นรถกับเขาอย่างไม่รู้สึกตัว
หนึ่งในบอดี้การ์ดที่รู้หน้าที่ของตัวเองดี ลงมาเปิดประตูให้คนเป็นนายพาแม่กระต่ายน้อยขึ้นรถไป ก่อนที่ตัวเองจะวิ่งกลับไปประจำยังที่ของตน และมุ่งหน้าตรงไปยังโรงแรมที่พักซึ่งอยู่ไม่ห่างจากที่แห่งนี้เท่าไหร่นัก
‘คุณจะพาฉันไปไหนคะ’ หญิงสาวถามออกไปอย่างเหม่อลอย
‘ไปที่ที่เธอจะชอบอย่างไรล่ะสาวน้อย’
ชายหนุ่มพูดพร้อมทั้งไล้มือไปตามแก้มเนียนของเหยื่อตัวน้อย การกระทำที่ผิดมหันต์นี้ยิ่งทำให้ใจกลางลำตัวแข็งขืนยิ่งกว่าเดิมจึงหันไปเล่นงานลูกน้องหนุ่มแทน
‘พวกแกคิดว่ากำลังแข่งรถกับเต่าอยู่หรือไงวะ ถึงได้ขับช้ายิ่งกว่าเต่าคลานแบบนี้ !’
‘ครับนายน้อย !’ ไมเคิลตอบรับอย่างแข็งขัน ก่อนจะเพิ่มความเร็วรถขึ้นกว่าเดิมตามความต้องการของเจ้านายหนุ่ม ทั้งที่ความเร็วเดิมก็ถือว่าขับเร็วเกินกว่ากฎหมายไทยกำหนดไปเยอะแล้วก็ตาม
สองบอดี้การ์ดหนุ่มสบตากันอย่างรู้ทันว่าเหตุใดทายาทมาเฟียจึงออกอาการหัวเสียเช่นนี้ แต่ก็ไม่กล้าคัดค้านในสิ่งที่ผู้เป็นนายกำลังทำ เพราะตนเองทำงานพลาดจนนายหนุ่มตกอยู่ในความทรมานเช่นนี้ จึงได้แต่ขอโทษเด็กสาวที่ตกเป็นเหยื่อทางสายตา เนื่องจากไม่สามารถช่วยเหลืออะไรได้เลย
พวกเขารู้ว่าเจ้านายหนุ่มให้ยาปลุกอารมณ์กับเด็กสาวคนนี้ ทั้งยังสะกดจิตเธอจนคล้อยตามคล้ายหุ่นยนต์ พวกเขาอยากจะคัดค้านกับการเลือกใช้วิธีนี้ของคนที่ชอบวิชาจิตวิทยานัก ทั้งที่นิคาโอสามารถหาผู้หญิงที่เต็มใจกับเรื่องอย่างว่าได้โดยไม่ต้องใช้วิธีที่ผิดกฎหมายแบบนี้และดูก็รู้ว่าหญิงสาวชาวไทยคนนี้ยังไม่บรรลุนิติภาวะ
ทว่าไม่มีอะไรที่ทายาทมาเฟียต้องการแล้วไม่ได้ ถึงที่นี่จะเป็นเมืองไทยไม่ใช่เขตอิทธิพลของตนอย่างอิตาลีก็ตาม ด้วยความที่ถูกตามใจมาตั้งแต่เด็ก จึงไม่มีใครจะห้ามความต้องการนั้นได้
ไมเคิลและไมลีย์ได้แต่ขอพรให้พระเจ้าคุ้มครองแม่สาวน้อยคนนี้ เมื่อเห็นท่าทางผู้เป็นนายที่ตั้งท่าจะตะครุบเหยื่อสาวอยู่ร่ำไป
เพียงไม่นานรถคันหรูก็แล่นมาจอดหน้าโรงแรมที่พัก พร้อมกับร่างสูงที่เดินจูงมือสาวน้อยเข้าไปด้านในอย่างเร่งรีบ พวกเขาได้แต่หวังว่าหลังจากค่ำคืนนี้ไปเด็กสาวคนนี้จะไม่พบเจอกับเหตุการณ์ที่เลวร้ายเช่นนี้อีก
ปัจจุบัน
นิรดานั่งนึกถึงเรื่องราวในอดีตที่แสนขมขื่นของตน หลังจากตื่นขึ้นมาในตอนเช้ากลับไม่พบผู้ชายสารเลวคนนั้นที่หลอกให้กินยานรกนั่นเข้าไป พบเพียงเช็คใบหนึ่งที่ไม่ระบุจำนวนเงินบนโต๊ะข้างหัวเตียง ทว่ามีชื่อเช็นกำกับไว้เรียบร้อย ไม่ว่าจะระบุจำนวนเงินเท่าไหร่ก็สามารถขึ้นเงินได้ตามที่ต้องการ แต่ไม่ใช่กับคนอย่างเธอ
หลังจากถูกตีราคาค่าตัวด้วยเช็คไม่กรอกตัวเลขใบนี้ หญิงสาวก็ไม่เคยคิดจะตามหาหรือเรียกร้องอะไรจากผู้ชายคนนั้นอีกเลย ความผิดพลาดในคืนวันนั้น นำพามาซึ่งของขวัญล้ำค่าที่สุดในชีวิตของลูกผู้หญิงคนหนึ่งนั่นก็คือ เด็กชายณภัทร ณิชกุลแก้วตาดวงใจที่ทุกคนในบ้านต่างก็หลงในความน่ารักของเด็กชายลูกครึ่งคนนี้
แม้ครอบครัวจะขายหน้าที่ลูกสาวบ้านณิชกุลท้องในวัยเรียน แถมยังไม่มีพ่อของลูกคอยดูแล เสียงซุบซิบนินทาเริ่มเบาบางลงไป เพราะความน่ารักของเด็กชาย ‘ซีโน่’ หรือ ‘ภัทร’ อย่างที่เธอเรียก ทุกคนรอบข้างกลายเป็นหลงเด็กน้อยน่ารักคนนี้ไปโดยปริยาย
แม้ตอนนี้ท่านผู้มีพระคุณทั้งสองจากจากไปด้วยอุบัติเหตุและไม่ได้เห็นพัฒนาการของหลายชายคนเดียวในบ้านอีกต่อไป ทว่าก็ระลึกถึงท่านทั้งสองอยู่เสมอ
ถึงท่านจะจากไปอย่างกะทันหันก็ไม่ได้ปล่อยให้สองแม่ลูกลำบากแต่อย่างใด เพราะท่านทิ้งมรดกเป็นตึกให้เช่าย่านธุรกิจใจกลางกรุงเทพฯ ไว้ให้ ซึ่งสามารถสร้างรายได้เป็นหลักร้อยล้านในแต่ละปี โดยไม่ต้องทำงานก็สามารถใช้ชีวิตอยู่ได้โดยไม่ลำบาก
นิรดาหลุดออกจากภวังค์ความคิดของตนเอง เมื่อได้ยินเสียงเรียกของลูกชายอยู่ข้างกาย ทุกครั้งที่มองหน้าแก้วตาดวงใจของตนก็พลอยทำให้นึกถึงพ่อของลูกขึ้นมาเช่นครั้งนี้ แม้ว่าเด็กหนุ่มจะหน้าตาไม่คล้ายนิคาโอเท่าที่ควร แต่ถึงอย่างไรก็หนีความจริงไม่พ้นว่าซีโน่เป็นลูกชายของมาเฟียแห่งอิตาลี
“แม่ฝันฮะ” เสียงทุ้มเอ่ยเรียกมารดาอีกครั้ง เมื่อเห็นท่านนั่งเหม่อลอยอยู่คนเดียว ก่อนจะได้รับรอยยิ้มหวานที่มักจะเห็นอยู่เป็นประจำ
“ว่าไงครับ” หญิงสาวตอบรับเสียงหวาน พร้อมกับกางแขนทั้งสองข้างออก เพื่อให้ลูกชายเข้ามาสวมกวด ซึ่งเจ้าตัวก็ทำตามอย่างว่าง่าย
“เปล่าหรอกฮะ ภัทรแค่คิดถึงแม่ฝันเฉยๆ” เด็กหนุ่มตอบปัด ไม่อยากทำให้ท่านต้องกังวล
ซีโน่มักเห็นมารดานั่งเหม่อแบบนี้อยู่เป็นประจำตั้งแต่ตนเองจำความได้ ท่านมักจะกลบเกลื่อนทุกครั้งที่ถามไถ่ และครั้งนี้คงไม่แตกต่างจากครั้งก่อนๆ เท่าไหร่นัก
“เอ่อ…แม่ฝันฮะ”เขาเรียกอีกครั้ง
“หืม หนูมีอะไรไม่สบายใจหรือเปล่าลูก” คนเป็นแม่ถามอย่างแปลกใจ เนื่องจากวันนี้ลูกชายดูแปลกไปจากทุกวัน
“คือว่า…คือ…” คนอยากรู้เริ่มลังเลว่าตนควรจะถามดีหรือไม่ สุดท้ายก็ถามออกไป “ภัทรมีพ่อเหมือนคนอื่นหรือเปล่าฮะ”
เด็กหนุ่มผู้อยากมีพ่อเหมือนคนอื่นรอคอยคำตอบอย่างมีความหวัง เพราะตั้งแต่จำความได้ มารดาไม่เคยพูดหรือกล่าวถึงพ่อผู้ให้กำเนิดให้ได้ยินเลยสักครั้ง แต่เขาก็มีคำตอบอยู่ในใจอยู่เรียบร้อยแล้ว
นิรดาชะงักไปเล็กน้อย เพราะล่าสุดที่ลูกถามก็ตอนที่เขาอายุได้เพียงห้าขวบ แต่หลังจากนั้นเป็นต้นมาก็ไม่ถามอีกเลยจนกระทั่งถึงตอนนี้ทว่าอยู่ๆ ทำไมถึงอยากรู้ขึ้นมา
“ทำไมถึงอยากรู้ล่ะครับ” หญิงสาวถามพร้อมกับยกมือลูบหัวเด็กชายที่ตัวโตกว่าเธอหลายเท่าด้วยความเอ็นดู
“ถ้าแม่ฝันไม่อยากตอบ ภัทรไม่รู้ก็ได้ฮะ” ซีโน่เริ่มรู้สึกผิดที่ทำให้มารดาหน้าเศร้าลง จึงเลี่ยงตอบไปเป็นอย่างอื่น เพื่อไม่ให้ท่านคิดมาก
“แม่ตอบได้ครับ” คนเป็นแม่รีบบอก เมื่อเห็นหน้าผิดหวังของลูกชาย แม้จะไม่อยากเอ่ยถึง แต่อย่างน้อยซีโน่ก็ควรจะได้รับรู้ถึงเรื่องพ่อเขาบ้าง
“จริงเหรอฮะ” คนมีความหวังถามอย่างไม่อยากจะเชื่อหูตัวเอง ทว่าก็เงี่ยหูรอฟังอย่างใจจดใจจ่อ
“พ่อของลูกเป็นคนอิตาลี แถมยังหล่อมากๆ ด้วยนะ” เธอเว้นจังหวะการพูด พร้อมกับหันไปยิ้มให้ลูกชาย ก่อนจะเล่าต่อ “เราเจอกันและรักกันตั้งแต่แม่ยังเรียนไม่จบมัธยมปลายด้วยซ้ำไป จากนั้นไม่นานเราก็มีหนุ่มน้อยหน้าตาดีลืมตาขึ้นมาดูโลกจ่ะ”
“แล้วไงต่อฮะ” เจ้าตัวพยายามปั้นหน้ายิ้มให้ดูเหมือนตื่นเต้นที่ได้ฟังเรื่องบิดาเป็นครั้งแรก เพราะตนรู้เรื่องที่มาของเด็กชายณภัทรดีว่ามีความเป็นมาอย่างไร
“หลังจากลูกเกิดมาได้ไม่นาน พ่อของหนูเขาก็เสียชีวิตด้วยอุบัติเหตุจ่ะ”
แม้จะต้องโกหกลูกเธอก็ยอม แต่จะไม่มีทางให้ซีโน่รู้ว่าเขาเกิดมาเพราะฤทธิ์ของยาปลุกเซ็กซ์ที่พ่อของเขาหลอกให้แม่กินเข้าไปจนมีเขาขึ้นมา
หญิงสาวไม่รู้เลยว่าซีโน่รู้เรื่องหมดทุกอย่าง จากไดอารี่ของตนเองที่ครั้งหนึ่งเด็กชายเคยเข้าไปในห้องนอนของมารดา และได้เจอเข้ากับไดอารี่พร้อมกับเช็คใบหนึ่งที่ไม่ระบุตัวเลข ทว่ามีซื่อเซ็นกำกับไว้ว่าเป็นของ นิคาโอ เบคเค็ตต์ คิงส์ตัน แนบอยู่ในสมุดเล่มนั้นด้วย
จากนั้นเป็นต้นมาเด็กชายณภัทรก็ตามหาคนที่มีชื่ออยู่ในเช็ค และคิดว่าเขาคงเป็นคนเดียวกับที่มารดาเอ่ยถึงในบันทึกของท่านแม้ด้วยวัยที่ยังน้อย แต่ก็ไม่เคยย่อท้อในการตามหาเบาะแสของคนที่คิดว่าเป็นพ่อผู้ให้กำเนิด และผู้ช่วยอันดับแรกก็คือเว็บไซต์กูเกิล ซึ่งมันเปรียบเสมือนเป็นแสงสว่างให้คนอยากรู้จักพ่อมีความหวังขึ้นมา
ครั้งแรกที่ค้นหารูปของผู้ชายคนนี้และได้เห็นหน้าค่าตาจากรูป กลับมั่นใจขึ้นมาว่าเขาคนนี้คือพ่อผู้ให้กำเนิดของตนจริงๆ แม้จะต้องพิสูจน์อะไรหลายๆ อย่าง แต่ก็มั่นใจเกินร้อยว่าผู้ชายที่ตามหาคือคนในรูปนี้ ทว่าทุกอย่างกลับมั่นใจขึ้นมากกว่าเดิมเมื่อได้รู้จักกับใครบางคนที่ทำให้เกิดแผนการตามล่าหาพ่อนี้ขึ้นมา
“อ่อ…อย่างนี้นี่เอง” ซีโน่ตอบรับอย่างเข้าใจ เพื่อป้องกันไม่ให้ท่านสงสัยในเรื่องที่ตนกำลังจะทำ
“อาทิตย์หน้าภัทรต้องเดินทางแล้วนี่” หญิงสาวเปลี่ยนเรื่อง เพราะไม่อยากโกหกลูกต่อไปอีก ซึ่งเด็กหนุ่มก็เข้าใจสถานการณ์ดี
“ใช่ฮะแม่ฝัน”
“งั้นเราไปช็อปกันดีกว่าไหม” คนเป็นแม่เอ่ยเสนอด้วยใบหน้าตื่นเต้น
“งั้นเราไปกันเลยฮะ” ผู้เข้าใจสถานการณ์ดีก็ตอบรับด้วยความตื่นเต้นเช่นเดียวกัน เวลาหนึ่งอาทิตย์ที่เหลือจากนี้คือการเตรียมความพร้อมกับแผนการที่วางไว้ ‘ตามล่าหาพ่อ’ ไม่เช่นนั้นคงไม่มีแรงไปสู้รบปรบมือกับคุณพ่อมาเฟียแน่
‘แล้วเจอกันฮะ คุณพ่อมาเฟีย…ที่รัก’