INTRO : แรกเจอก็ใจสั่น
INTRO
"เมื่อไรจะถึงสักทีวะ เมื่อยจะบ้าอยู่แล้ว!" เสียงทรงอำนาจจากบุคคลอันตรายที่กำลังนั่งทำหน้าบอกบุญไม่รับอยู่เบาะหลังทำเอาหัวใจแกร่งของคนขับรถกระตุกวูบอย่างเสียวสันหลัง
"กะ..เกือบจะถึงแล้วครับ" คนขับรถเอ่ยตอบคาเวียร์มาเฟียใหญ่อย่างกล้าๆกลัวๆ ใครๆก็รู้ดีว่าเขาโหดมากแค่ไหน คนที่คิดจะท้าทายอำนาจมืดของเขาก็คงมีแต่พวกที่ไม่อยากมีชีวิตอยู่ต่อไปเท่านั้นแหละ ซึ่งเขาไม่อยากจะเสี่ยงกับอารมณ์ของคนข้างหลังสักเท่าไร
คาเวียร์ถอนหายใจเฮือกใหญ่อย่างนึกรำคาญโดยมีบอดี้การ์ดคู่ใจสองคนนั่งประกบข้างอยู่เงียบๆ เขาโดนพ่อบังเกิดเกล้าเรียกตัวกลับมาจากออสเตรเลียเป็นการด่วน ด้วยเหตุที่ว่าวันนี้คือวันครบรอบการก่อตั้งโรงเรียน 'ลอเรนด์' ซึ่งพ่อของเขาเป็นผู้ก่อตั้งเมื่อสิบห้าปีก่อน แต่ติดที่ว่าพ่อของเขาต้องไปเจรจาธุรกิจที่ต่างประเทศ หน้าที่นี้เลยตกเป็นของเขาลูกชายคนเดียวของตระกูลเรสเน่ไปโดยปริยาย
กว่าจะนั่งเครื่องบินส่วนตัวมาถึงประเทศไทยก็ใช้เวลาไปหลายชั่วโมงแล้ว ซ้ำเครื่องบินยังเพิ่งลงจอดเมื่อตีห้ากว่าๆนี้เอง แต่ตอนนี้แปดโมงเช้าเขายังต้องมานั่งรถที่พ่อส่งมารับไปที่โรงเรียนอีก การเดินทางติดต่อกันมันทำให้เขาหงุดหงิดและอยากจะหยิบปืนออกมาฆ่าไอ้คนขับรถที่มันขับเหมือนเต่าคลานจริงๆ!
"ถึงแล้วครับ" เสียงคนขับรถเอ่ยบอกด้วยน้ำเสียงติดจะสั่นเล็กน้อย เป็นจังหวะเดียวกันกับที่รถยนต์คันหรูหยุดนิ่งหน้าอาคารที่มีนักเรียนรอรับอยู่เป็นจำนวนมาก
'นิค' รีบเปิดประตูเพื่อให้ผู้เป็นนายได้ก้าวออกมา ตามด้วย 'จอห์น' มือซ้ายของคาเวียร์ที่เปิดประตูลงอีกฝั่ง
เสียงกรี๊ดกร๊าดของนักเรียนหญิงดังสนั่นจนรู้สึกแสบแก้วหูเมื่อได้ยลโฉมของลูกชายผู้บริหารและผู้ก่อตั้งโรงเรียนลอเรนด์ คาเวียร์ขมวดคิ้วเข้าหากันยุ่งเป็นเชิงบอกว่าเขารู้สึกรำคาญกับเสียงโหนหวนนี้เสียจริง อาจารย์หลายท่านที่ได้เห็นสีหน้าและแววตาของลูกชายผู้บริหารก็ถึงกับหน้าถอดสี คาเวียร์ไม่คิดที่จะตีสองหน้าส่งยิ้มให้ใครอย่างจริงใจ เพราะเขาคิดว่าการแสดงออกด้วยตัวตนจริงๆของเรานั่นคือสิ่งที่จริงใจที่สุด
"สวัสดีครับคุณคาเวียร์ ผมอภิสิทธิ์เป็นผู้ดูแลรับผิดชอบนักเรียนและอาจารย์ที่นี่ครับ"
"......" อภิสิทธิ์ถึงกับหน้าเจื่อนเมื่อคาเวียร์ไม่แม้แต่จะทักทายกลับ เขาเพียงแค่ปรายตามองเพียงนิดแล้วเดินเข้าไปในโดมจัดงานโดยไม่สนใจอาการอ้าปากค้างของเหล่านักเรียนและอาจารย์ท่านอื่นๆเลยแม้แต่น้อย
ความโหดเถื่อนและเย็นชาของคาเวียร์เป็นที่รู้จักกันดีในหมู่คณะอาจารย์ที่นี่หรือแม้แต่บุคคลอื่นๆ แต่ก็ไม่คิดว่าจะน่ากลัวขนาดนี้ อภิสิทธิ์เพียงแค่คิดในใจแล้วหันไปพยักหน้าให้อาจารย์ท่านอื่นและเหล่านักเรียนให้เข้าไปในที่ที่จัดเตรียมไว้
.
.
"ฉันจะได้ออกไปจากที่นี่เมื่อไร" คาเวียร์หันไปถามนิคมือขวาคนสนิทที่นั่งอยู่ข้างๆ และมีจอห์นที่นั่งอยู่ฝั่งซ้ายมือ
"ตามกำหนดการบอสต้องร่วมพิธิเปิดอยู่ตรงนี้จนถึง 11.00 โมงครับ หลังจากนั้นก็ขึ้นกล่าวอะไรเล็กๆน้อยๆเพียงไม่กี่นาที่ สุดท้ายก็ร่วมรับประทานอาหารกับพวกอาจารย์เวลาเที่ยงนิดๆครับ จากนั้นก็คงจะกลับได้ แต่คืนนี้มีงานเต้นรำนะครับ มันคงจะไม่ดีเท่าไรหากไม่มีบอสอยู่ในงาน" นิคร่ายยาวโดยไม่เปิดโอกาสให้คาเวียร์ได้ถามต่อ เขารู้ดีว่าเจ้านายของเขาเบื่อหน่ายความวุ่นวายและไม่ชอบออกงานมากแค่ไหน
คาเวียร์ถอนหายใจเฮือกใหญ่แล้วยกมือขึ้นกอดอกอย่างเซ็งๆ เขาอยากกลับไปนอนพักจะแย่
"ขออนุญาตเสริฟน้ำและของว่างค่ะ" เสียงใสๆของใครบางคนที่ดังขึ้นใกล้ๆทำให้คาเวียร์ต้องหันไปมองอย่างช่วยไม่ได้ เด็กผู้หญิงในชุดม.ปลายของลอเรนด์กำลังถือถาดน้ำดื่มและของว่างเข้ามาหาเขาด้วยท่าทางติดจะประหมาเล็กน้อย แต่ก็ยังส่งยิ้มสดใส
น่ารัก...คำๆนี้มันผุดเข้ามาในสมองของเจ้าพ่อมาเฟียใหญ่อย่างไม่ทันตั้งตัว เขาคลายมือออกจากการกอดอกแล้วเพ่งพินิจมองหญิงสาวตรงหน้าที่กำลังนั่งชั่นเข่ากับพื้น พร้อมกับวางของว่างตรงหน้าพวกเขาสามคนอย่างบรรจง
รูปหน้าเรียวสวยเรียบเนียนจนมองไม่เห็นแม้แต่รูขุมขน ดวงตากลมโตยามกรอกกลิ้งไปมามันชั่งดูน่ารักและออดอ้อนโดยไม่ได้ตั้งใจ จมูกเล็กๆนั่นชั่งรับเข้ากับรูปหน้าได้เป็นอย่างดีถึงแม้จะไม่โด่งมากก็ตาม อีกทั้งริมฝีปากอวบอิ่มที่ถูกเคลือบด้วยลิปสติกสีชมพูอ่อนนั่นอีก เขาอยากจะลองสัมผัสมันสักครั้งเสียจริง รูปร่างหุ่นทรงชั่งน่าจับมาฟัดให้หายมันเขี้ยวสักทีสองที เหมือนจะเป็นเด็กม.ปลายแต่อะไรๆของเธอกลับไม่เด็กเหมือนที่ควรจะเป็น
"ขอตัวก่อนนะคะ" เมริสาเอ่ยออกมาอีกครั้งหลังจากวางเครื่องดื่มและของวางเสร็จเรียบร้อยแล้ว เธอเงยหน้ามองคนตรงหน้าอย่างกล้าๆกลัวๆ ยิ่งเห็นเขามองเธออยู่ด้วยสายตาแปลกๆมันยิ่งน่าขุนลุก
"ชื่ออะไร" คาเวียร์เอ่ยถามเสียงเรียบ พยายามเก็บซ่อนความรู้สึกปรารถนาไว้ภายใต้สีหน้าเรียบเฉย
"ขะ คะ?"
"ถามว่าชื่ออะไร"
"เมริสาค่ะ" เธอตอบออกไปอย่างเก้ๆกังๆ แล้วเตรียมตัวจะลุกขึ้นแต่กลับถูกมือหนาของเขาคว้าเอาไว้ซะก่อน เมริสาอยากจะร้องไห้ออกมาเสียจริง เธอคงไม่ได้ทำอะไรให้เขาไม่พอใจใช่ไหม
ถ้าเป็นแบบนั้นเธอคงไม่มีชีวิตรอดกลับไปหาพ่อกับแม่แน่ๆ T^T
"ฉันชื่อคาเวียร์"
"เอ่อ...ค่ะ" เธอไม่เข้าใจว่าเขาแนะนำตัวกับเธอทำไม ไหนจะนิ้วโป้งที่ลูบไล้ไปมากับต้นแขนเธออีก มันให้ความรู้สึกแปลกๆยังไงไม่รู้
นิคกับจอห์นหันมองผู้เป็นนายอย่างไม่อยากจะเชื่อสายตา ปกติไม่เห็นจะเข้าใกล้ผู้หญิงคนไหนแต่กับเด็กน้อยคนนี้กลับเอื้อมมือไปรั้งเธอไว้ พวกเขายกยิ้มในใจอย่างรู้ทันเจ้านายแล้วนั่งต่อไปเงียบๆ
"คุณอาปล่อยหนูก่อนได้ไหมคะ หนูต้องรีบไปนั่งที่ค่ะ" คุณอา!! เหมือนมีใครเอาไม้หน้าสามมาฟาดลงกลางกบาลหนักๆ คาเวียร์แทบจะมุดหน้าลงกับโต๊ะกระจกเตี้ยๆนี้ให้รู้แล้วรู้รอดไปเลย
นิคกับจอห์นระเบิดหัวเราะออกมาอย่างพร้อมเพรียงแต่ก็ต้องใช้มือตะครุบปากไว้เมื่อเจอสายตาคาดโทษของคาเวียร์
เมริสายืนนิ่ง ขณะที่หัวใจดวงน้อยเต้นแรงจนแทบผิดจังหวะ ไม่รู้ว่าเธอพูดอะไรผิดไปผู้ชายตรงหน้าถึงทำสีหน้าบึ้งตึง คาเวียร์ใช้เท้าเขี่ยขาของนิคเบาๆเพื่อให้นิคลุกออกไปก่อน ซึ่งนิคทำตามคำสั่งอย่างมึนงง
พรึ่บ!
"กรี๊ดดดดดดดดด!!" เมริสาร้องเสียงหลงด้วยความตกใจเมื่อถูกกระตุกเข้าไปจนชนเข้ากับบ่าแกร่งของคาเวียร์ ก่อนที่เขาจะใช้แขนยกตัวเธอให้นั่งลงตรงกลางหว่างขาแล้วกอดเอวเธอไว้หลวมๆ
นิคกลับเข้าไปนั่งที่เดิมเมื่อเข้าใจความคิดของผู้เป็นนาย เพราะที่คาเวียร์นั่งอยู่มันมีโต๊ะเล็กๆคั่นตรงกลางยังไงล่ะ
"อะ..เอ่อ..ปล่อยหนูเถอะค่ะ" ตอนนี้เมริสาอยากจะร้องไห้จริงๆ ยิ่งได้ยินเสียงกรี๊ดกร๊าดของเหล่านักเรียนหญิงคนอื่นๆเธอยิ่งอยากหายตัวไปจากตรงนี้ให้รู้แล้วรู้รอดไปเลย
"เมื่อกี้เรียกฉันว่าอะไรนะ!" คาเวียร์กดเสียงต่ำนึกอยากกลั่นแกล้งคนในอ้อมกอด เนื้อตัวของเธอสั่นเทิ้มมิหนำซ้ำพวงแก้มยังค่อยๆเปลี่ยนเป็นสีแดงระเรื่ออีกต่างหาก กลิ่นกายหอมๆของเธอมันทำให้เขาแทบคลั่ง ไม่รู้ว่าเพราะอะไรความรู้สึกหวงแหนมันถึงผุดขึ้นมาในห้วงของความรู้สึก
"คะ..คุณอาไงคะ กะ..ก็หนูได้ยินอาจารย์หลายท่านบอกว่าคุณอาคาเวียร์อายุ 29 แล้ว" ตอบไปก็กลัวไป ถ้าเขาหยิบปืนขึ้นมายิ่งเธอศพคงไม่สวยแน่
"ฉันอนุญาตให้เธอเรียกฉันว่าแบบนั้นหรือ?" เมริสาอยากกัดลิ้นตัวเองจริงๆ เธอเอียงหน้าหนีเมื่อเขาใช้จมูกคมเป็นสันคลอเคลียกับแก้มนวลอย่างถือวิสาสะจนเธอขนลุกซู่
"ไหนลองเรียกว่าป๋าซิ"
******************************
ขอเม้นท์เพื่อเป็นกำลังใจได้ไหมยู
กรุณาเข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น