อ้อนรักอสุรา
บทนำ
วงหน้างามงดท่วมท้นไปด้วยเม็ดเหงื่อผุดพรายจากกิจกรรมยามดึก เธอยกหลังมือขาวเนียนปาดไล้ไปตามขมับ สูดหายใจลึกเอาอากาศที่ร้อนชื้นและเต็มไปด้วยกลิ่นไอบางอย่างเข้าสู่ปอด ภาวนาให้หัวใจที่เต้นถี่นี้สงบลงโดยเร็ว
“ใกล้เสร็จรึยังคะ”
“อีกนิด...” เสียงทุ้มพร่าจากคนข้างล่างตอบแผ่วในลำคอ “...ตรงนั้นล่ะครับ ...เข้าไปเลย”
“แต่ฉันไม่แน่ใจว่า...”
เขาหยัดสะโพกขึ้นเมื่อเห็นว่าเธอลังเล ส่งผลให้แก่นกายร้อนฉ่าเบียดแทรกเข้าสู่ความอ่อนนุ่มปานกำมะหยี่ ตามมาด้วยเสียงอุทานหวานล้ำจากคนที่ถูกรุกราน
“ขยับสิครับ” ชายหนุ่มสั่ง “หรืออยากให้ผมสอนอีกที... ถ้าต้องสอนใหม่ ผมจะคิดค่าสอนเพิ่มนะ”
“พอ... พอแล้วค่ะ”
หญิงสาวปฏิเสธเสียงสั่นพร้อมส่ายหน้าจนผมปลิวกระจาย แต่ไม่ยอมขยับตามที่เขาเรียกร้อง ชายหนุ่มจึงแกล้งดันตัวขึ้นอีกครั้งอย่างแรง เติมเต็มอย่างวาบหวามเป็นสัญญาณเตือน เธอสะดุ้งเฮือก เกร็งหน้าท้อง ก่อนจะลองเลื่อนขึ้นลงตามที่เขาเคยสอนเมื่อไม่กี่นาทีก่อนหน้า
เสียงขาโต๊ะทำงานลั่นเอี๊ยดอ๊าด สอดประสานกับจังหวะการเคลื่อนไหวของสองร่างที่ใช้มันต่างเตียง ไฟพิศวาสลุกฮือทบทวียากจะดับ ความหวานซ่านสยิวถูกป้อนปรนเปรออย่างไม่มียั้ง
“ให้ตายเถอะเพลง... คุณแน่นเป็นบ้า” มือหน้าซึ่งอยู่ไม่สุขเริ่มฟ่อนเฟ้นไปตามบั้นท้ายที่ยังมีกระโปรงทำงานปกปิด เขาขยำแล้วขยับตอบสนองเธอด้วยทักษะที่เหนือชั้นกว่า เสียงเนื้อกระทบกันตามมาด้วยเสียงร้องลืมอายของหญิงสาว
“อ๊า... อ๊า...”
“เรียกชื่อผมซิคนดี” ชายหนุ่มจับร่างอรชรพลิกหงายเมื่อเห็นว่าสาวน้อยแรกรักไม่อาจทนต่อความเอาแต่ใจของเขาได้อีก มือหยาบดึงขาเรียวงามให้โอบรัดสะโพกแกร่งทั้งที่ยังขยับตอกตรึงเป็นจังหวะร้อนแรง แขนแน่นหนันยันลงกับโต๊ะ ทับทาบร่างบางไว้ภายใต้ไฟสลัว เส้นเลือดเหนือปกเสื้อเชิ้ตปูดโปดเพราะการออกแรงหนักหน่วง
“ไม่...”
“เรียก...” เขาดันเข้าจนสุดแล้วดึงออก ก่อนจะดันเข้าอย่างแรงอีกครั้งจนเธอสะท้านไปทั่วร่าง ทำซ้ำหลายคราพร้อมสั่งอย่างไปด้วยเจ้าบงการ “...ชื่อผม ...เรียก”
“ไม่เอา...”
“เด็กดื้อ” มุมปากหยักบิดเป็นรอยยิ้ม “ถ้าคุณไม่เรียก ผมจะไม่อนุญาตให้คุณ...”
หญิงสาวขบริมฝีปากเพื่อกลั้นเสียงอะไรก็ตามที่อาจหลุดออกมา ภาพนั้นยวนใจจนเขาต้องก้มลงไปบดเบียดกลีบปากเข้าหาแล้วดูดดึงหยอกล้อ เธอมีรสนุ่มนวลเหมือนขนมหวาน ชวนให้แทรกลิ้นเพื่อลิ้มลองว่ามีรสรัญจวนใดซุกซ่อนอยู่อีกหรือไม่
หากสะโพกกลับหยุดนิ่งราวแกล้ง ทำให้คนที่ใกล้ลอยละล่องถึงฝั่งฝันต้องครางประท้วงในลำคอเพราะค้างเติ่งกลางอากาศ กระนั้นก็ไม่รู้จะต้องทำอย่างไรเพราะไม่เคยเป็นฝ่ายร้องขอเขาก่อนสักครั้ง ชายหนุ่มถอนริมฝีปากออก แลบลิ้นเลียมุมปากอย่างเร้าใจ แล้วยิ้มยั่วอีกครั้ง
“ว่าไง”
หญิงสาวรู้ว่าเขาต้องการอะไร เธอเอียงหน้าหลบตาสีนิลเร่าร้อนคู่นั้นอย่างยอมจำนน แล้วกระซิบเบาๆ
“คุณแสน...”
“อะไรนะ ผมไม่ได้ยิน” เขาว่า กระนั้นก็เริ่มขยับอีกครั้ง ทั้งที่ใจจริงแทบจะทนต่อความเย้ายวนในการเคลื่อนตัวเสียดสีซ่านทรวงให้ตายดับไม่ไหว “เรียกอีกที เรียกดังๆ”
“คุณแสน... อ๊า... อ๊ายยย!!!”
รางวัลของการเปล่งชื่อนั้น คือการเร่งจังหวะแก่นกายร้อนฉ่าที่ยังคงฝากฝังแนบแน่นในตัวเธอ เร่งเข้าจนต้องกลั้นลมหายใจ ล้ำลึกซ่านสยิวจนเกือบทนไม่ไหว ในขณะที่เบื้องหน้าคือใบหน้าหล่อเหลาและไหล่เปลือยกว้างที่วาววับเพราะเหงื่อกาฬ กล้ามของเขาไหวขยับรับกับการซอยสะโพกอันทรงพลัง
“เรียกอีก...”
“คุณแสน...”
“เด็กดี...”
“คุณแสน... อึก...”
แล้วอารมณ์อันโลดโผนโจนทะยานก็ถูกแทนที่ด้วยแสงระยิบระยับที่ส่องจ้าจนแสบตา...
เพลงพิณสะดุ้งเฮือกเมื่อรู้ว่าเธอกำลังนอนอยู่ที่ใด ความอ่อนนุ่มจากผ้าห่มโอบล้อมกายสาวซึ่งมีเหงื่อซึมชื้น หญิงสาวค่อยๆ ปรือตาขึ้นมาสู้แสง กอดหมอนข้างแน่นขณะระลึกทบทวนความฝันแสนสยิวที่เธอเพิ่งเคยได้สัมผัส
เธอเกือบเสร็จสม...
ท้องน้อยยังเต้นตุบเป็นจังหวะ ขายังกอดก่ายกับหมอนข้างใบโปรด หัวใจสั่นระรัวราวภาพฝันเมื่อครู่เป็นของจริง
แก้มนวลขึ้นสีแดงจัดขณะซุกหน้าลงกับหมอน แทบจะกรีดร้องออกมาเมื่อพบว่าตนร่วมรักอย่างร้อนเร่ากับคนที่ ‘เกลียดขี้หน้ามากที่สุด’ ในความฝัน
สรัทกาล... ไอ้คุณแสนบ้าบงการ!!!