ตอนที่ 1 อย่าสำออย
ร่างสูงโปร่งขยับลุกออกจากที่นั่งชั้นเฟิร์สคลาสของสายการบินชื่นดัง ก่อนจะก้าวเดินลงจากเครื่อง ธันย์ ภัทรโภคิน หนีความวุ่นวายจากประเทศบ้านเกิดไปนานนับสิบปีก่อนจะได้รับข่าวร้ายว่าพ่อของเขาเสียชีวิตด้วยอุบัติเหตุทางรถยนต์พร้อมกับ 'เมียน้อย' ที่ธันย์เกลียดแสนเกลียด ดูสิขนาดจะตายมันยังเอาพ่อของเขาไปด้วย
"สวัสดีครับคุณธันย์ผมเอารถมารับ-"
ปึก!
ยังไม่ทันที่ แสนดาว จะพูดจบ กระเป๋าลากใบใหญ่ก็ถูกโยนมากระแทกกับร่างกายบอบบางอย่างแรงจนเขาเซถอยหลังไปก้าวหนึ่ง ธันย์ไม่แม้แต่จะมองหน้าเด็กรับใช้แสนสกปรกที่ตอนนี้น่าจะโตขึ้นจากเมื่อหลายสิบปีก่อนมากอยู่เหมือนกัน
ที่คฤหาสน์ภัทรโภคินค่อนข้างวุ่นวายเกี่ยวกับการจัดงานศพของประมุขอย่างท่านโสภณและคุณหญิงมาริณี อีกทั้งยังไม่มีใครกล้าเสนอตัวมารับคุณชายผู้เกรี้ยวกราดของตระกูล สุดท้ายแสนดาวจึงอาสามาด้วยตัวเอง และไม่คิดว่าเพียงแค่เจอหน้าเขาก็โดนคุณชายฟาดงวงฟาดงาใส่ซะแล้ว
แสนดาวนั่งประจำที่นั่งข้างคนขับโดยมีลุงสมหมายคนขับรถเก่าแก่ของท่านโสภณทำหน้าที่เป็นคนขับ แต่ด้วยความที่แกแก่มากแล้วเลยทำให้คุณธันย์ไม่ค่อยพอใจนัก
"ขับช้าแบบนี้ฉันว่าฉันเดินไปยังเร็วกว่า"
"ขอโทษครับ"
แสนดาวหันมาค้อมศรีษะให้กับคนที่ทำหน้าถมึงทึงอยู่ที่เบาะด้านหลัง ก่อนที่จะรีบหลบสายตาเพราะคุณธันย์มองราวกับว่านะกินเลือดกินเนื้อกัน
"ลุงสมหมายเร่งอีกนิดได้ไหมครับ"
"ครับๆคุณแสน"
สรรพนามของคนขับรถที่เรียกไอ้เด็กรับใช้ทำเอาผู้โดยสารเบาะหลังขมวดคิ้ว เขาไม่อยู่เพียงแค่สิบปี เด็กรับใช้ของนังแม่เลี้ยงชูคอมาเป็นคุณแสนได้ขนาดนี้เลยหรอ แต่ก็ไม่แปลกใจนักหรอก ก็เด็กนี่มีแม่เลี้ยงของเขาคอยถือหางให้นี่เนอะ
.
สองเท้าก้าวมาหยุดยืนอยู่ด้านหน้าคฤหาสน์สีขาว สายตาคมจ้องมองบ้านหลังใหญ่โตที่สามารถรองรับคนได้มากกว่าครึ่งร้อย ในขณะเดียวกันความจำในวัยเด็กก็ย้อนกลับมาอีกครั้ง
สองพ่อลูกยืนทะเลาะกันใหญ่โต เมื่อแม่เลี้ยงที่เอาหัวตัวเองไปฟาดกับผนังเองแต่กลับบอกว่าเป็นฝีมือของเขา
'ไอ้เด็กนรก ฉันไม่น่าให้แกเกิดมาเลย'
เจอคำพูดว่าร้ายออกจากปากผู้เป็นพ่อใครมันจะไปทนอยู่บ้านหลังนี้ได้กันล่ะ ธันย์ใช้เงินที่แม่ให้ไว้ก่อนที่จะจากโลกนี้ไปย้ายไปเรียนต่อที่ต่างประเทศและไม่กลับมาที่นี่อีกเลย จนกระทั่ง.....พ่อของเขาตาย
ทนายผู้จัดการมรดกเป็นคนติดต่อไปแจ้งข่าวและเรียนเชิญเขาให้กลับมาที่นี่ ถึงแม้จะโกรธจะเกลียดแค่ไหน พ่อก็ยังคงเป็นพ่อของเขา ธันย์เลี่ยงจากความจริงข้อนี้ไปไม่ได้ อย่างน้อยคฤหาสน์สีขาวแห่งนี้ก็ยังมีความทรงจำดีๆในวัยเด็กของเขากับพ่ออยู่บ้าง
"หยุด! ลุงมีอะไรก็ไปทำ"
ธันย์ชี้นิ้วสั่งเมื่อเห็นว่าคนขับรถเก่าแก่กำลังจะลากกระเป๋าของเขาเข้าไปในบ้าน พอลุงสมหมายจะค้านคุณธันธ์ก็ขมวดคิ้วด้วยความหงุดหงิดสุดท้ายแกจึงรีบปล่อยมือออก
"นายเอากระเป๋าของฉันไปเก็บ อ้อ แล้วไม่ต้องลากนะกระเป๋าฉันมันแพง ถ้าล้อมีแม้แต่รอยข่วนแมวฉันจะบีบคอนายให้ตายคามือ"
"ครับ"
ชายหนุ่มร่างบางค้อมศรีษะรับคำสั่งก่อนที่คุณชายของบ้านจะเดินกระแทกไหล่เขาเข้าไปก่อน แสนดาวได้แต่จับหัวไหล่ของตัวเองที่กำลังรู้สึกเจ็บจี๊ด
"คุณแสนเดี๋ยวลุงยกไปให้ก็ได้ครับ"
"ไม่เป็นไรครับ ลุงสมหมายไปพักเถอะครับเดี๋ยวแสนยกไปเอง กระเป๋าใบแค่นี้เอง"
ชายวัยชราได้แต่ยืนมองร่างเล็กๆที่ยกกระเป๋าใบใหญ่อย่างทุลักทุเล หากให้ลากไปก็คงไม่มีปัญหาแต่นี่ให้ยกไป เฮ้อ คุณแสนก็ตัวเล็กนิดเดียว คุณชายของบ้านใจร้ายได้ถึงเพียงนี้เชียวหรือ ลุงสมหมายได้แต่คิดในใจ
"ห้องฉันอยู่ไหน"
คนมาใหม่เอ่ยถามแสนดาวด้วยน้ำเสียงห้วนๆ
"ผมจัดห้องให้คุณธันย์ไปพักที่ห้องเก่าของคุณท่านครับ ห้องนั้นใหญ่ที่สุดและมีอุปกรณ์อำนวยความสะดวกครบครัน"
"เหอะ ห้องนังแพศยานั่นน่ะหรอ"
"คุณธันย์อย่าว่าแม่ใหญ่อีกเลยนะครับ อย่างน้อยท่านเสียไปแล้วคุณก็ควรให้เกียรติคนตาย โอ้ย!"
"กล้าดียังไงถึงมาสอนฉัน นายมันก็แค่คนใช้"
"โอ้ยผมเจ็บนะครับ"
ใบหน้าหวานของแสนดาวบิดเบี้ยว ยามที่ต้นแขนเล็กถูกบีบอย่างแรงและไม่มีท่าทีว่าจะผ่อนคลายลง
"อย่ามาสำออย ได้บทเรียนแพศยามาจากแม่นายเยอะเลยสิ เหอะ!"
พรึบ
คุณธันย์ไม่ใช่เพียงแค่ปล่อยมือ แต่เขาผลักแสนดาวจนถลาไปไกลมากกว่าสามก้าว คนตัวเล็กได้แต่เก็บซ่อนความรู้สึกปวดร้าวที่ต้นแขนเอาไว้
แสนดาว เป็นเด็กที่คุณหญิงมาริณีเก็บมาชุบเลี้ยง ถึงเธอจะร้ายแสนร้ายกับใครอื่น ไม่สิอาจจะร้ายแค่กับลูกเลี้ยงอย่างคุณธันย์เท่านั้น ไม่รู้ว่าเคยเกลียดชังกันมาตั้งแต่ชาติปางไหน แต่คุณหญิงมาริณีกลับเอ็นดูเขาถึงกับยกย่องให้เป็นบุตรบุญธรรมของเธอกับคุณท่าน หรืออาจจะเป็นเพราะว่าเธอเป็นหมันไม่สามารถมีลูกก็เป็นได้
"จะยืนโง่อีกนานไหม เดินนำไปสิ"
"คะ ครับ"
แสนดาวค้อมศรีษะก่อนจะเดินนำทายาทของบ้านขึ้นไปยังชั้นบน แต่ละก้าวที่เดินช่างยากลำบากเพราะเขาต้องยกกระเป๋าใบใหญ่ขึ้นไปด้วย ระหว่างทางแสนดาวได้ยินเสียงถอนหายใจอย่างหงุดหงิดของคุณธันย์อยู่หลายครั้ง แต่ถึงอย่างนั้นชายหนุ่มก็ไม่คิดจะยื่นมือเข้ามาช่วย
กว่าจะพ้นบันไดขั้นสุดท้ายก็ทำเอาเหงื่อเม็ดใสผุดขึ้นมาตามกรอบหน้า หลังมือเล็กถูกยกขึ้นมาซับมันอย่างลวกๆก่อนจะเดินนำไปหยุดอยู่ที่บานประตูสีทองซึ่งเป็นห้องใหญ่ของคุณท่าน
"เราเก็บข้าวของของคุณท่านเตรียมไปเผาส่งให้ดวงวิญญาณหมดแล้วครับ ข้างในมีเพียงแค่ห้องเปล่าๆ เท่านั้น"
แสนดาวอธิบายยามที่สายตาร้ายกาจมองสำรวจไปรอบๆห้องที่ไม่มีข้าวของเครื่องใช้อยู่เลย
"คุณธันย์จะไปกราบศพคุณท่านเย็นนี้เลยไหมครับ ผมจะได้เตรียมรถไว้รอเพราะว่าเย็นนี้ผมก็จะไปเหมือนกัน"
คืนนี้แล้วที่เป็นคืนสวดอภิธรรมวันสุดท้าย และวันพรุ่งนี้ก็จะดำเนินการส่งร่างไร้วิญญาณของประมุขแห่งภัทรโภคิณไปสู่สุขติ
"ไม่ล่ะ ฉันลงเครื่องมาเวียนหัว จะอวก"
"แต่ว่า...คืนนี้คืนสุดท้ายแล้วนะครับ"
"ฉันจะไปแค่วันเผา หรือนายมีปัญหาอะไร!"
"เปล่าครับ งั้นผมขอตัวก่อนนะครับ"
ธันย์ไม่แม้จะตอบรับ ทำให้แสนดาวค่อยๆ ขยับตัวเดินออกจากห้องไปเงียบๆ เขารู้สึกสงสารคุณท่านไม่น้อยที่แม้แต่วันสวดศพคืนสุดท้าย ลูกชายเพียงคนเดียวก็ไม่ไปให้เห็นหน้า แต่จะทำยังไงได้ เขาไม่สามารถเกลี้ยกล่อมคุณชายของบ้านได้นี่นา
.
"คนบ้านนี้ไปไหนกันหมด!"
ในยามพบค่ำท้องฟ้าด้านนอกเปลี่ยนเป็นสีดำสนิทคุณชายของบ้านก็ลงมาด้านล่างแต่ก็ไม่พบใคร มีเพียงแค่แม่บ้านชราหนึ่งและพ่อบ้านวัยกลางคนอีกหนึ่งเท่านั้น
"ทุกคนไปช่วยงานศพคุณท่านที่วัดกันหมดเลยค่ะ"
"แล้วไอ้เด็กนั่นล่ะ"
แม่บ้านหันมองสบตากับอีกคนอย่างงุนงง เขาไม่รู้ว่าไอ้เด็กนั่นที่คุณธันย์หมายถึงเป็นใคร อีกทั้งที่นี่ก็ไม่มีเด็ก
"ลูกชายหัวแก้วหัวแหวนของเจ้านายป้าไง"
"อ๋อ คุณแสนหรือคะ ออกไปวัดได้สักพักแล้วค่ะ"
"อืมช่างเถอะ ไปเอากุญแจรถมาให้ฉันคันนึงขอคันที่แพงที่สุด"
"ครับๆ"
พ่อบ้านวัยกลางคนรีบร้อนไปหากุญแจรถหรูให้อย่างเร็วที่สุด เขามาทำงานไม่ทันตอนที่คุณธันย์อยู่ที่นี่ แต่ฟังจากที่พวกคนเก่าแก่เล่าคุณชายของบ้านฤทธิ์เยอะไม่น้อยเลย และเขายังไม่อยากตกงานตอนแก่
คุณธันย์ขึ้นไปประจำที่นั่งฝั่งคนขับบนรถเบนท์ลีย์คันหรู ถึงราคามันจะแพงหูฉี่แต่รถคลาสสิคแบบนี้มันก็ดูโบราณไปหน่อย บางทีเขาอาจจะต้องเบิกเงินของพ่อมาใช้ซื้อ Bentley Bacalar ไว้ขับเล่นซักหกสิบเจ็ดสิบล้าน
ธันย์เป็นชายหนุ่มที่อายุราวๆ ยี่สิบเจ็ดปี เขาไม่ใช่คนที่ผลาญเงินไปวันๆอย่างที่คิด เพราะเขาเป็นถึงที่ปรึกษาของผู้บริหารระดับสูงที่ต่างประเทศ ถึงแม้จะไม่ใช่บริษัทของตัวเองแต่เงินเดือนเดือนนึงก็ไม่น้อยเลย ทำให้เขามีเงินใช้มากมายมหาศาลแต่หากเป็นเงินของบิดาจะใช้เล่นสักหน่อยก็คงไม่เป็นไร ดีกว่าให้คนอื่นเอาไปผลาญเล่นอย่างที่แล้วมา
***
กรุณาเข้าสู่ระบบเพื่อแสดงความคิดเห็น