แว่นใกล้จะถึงมือเขาอยู่แล้วเชียว แต่แทนที่เฮียตี๋จะรับมันไป ฝ่ามือหนากลับยื่นมาตะปบข้อมือเธอไว้แล้วออกแรงกระตุกจนร่างบางในชุดนักเรียนลอยละลิ่วตกลงไปในสระ น้ำเกลือกระเด็นเป็นวงกว้าง รวมถึงตัวเธอที่จมลงไปก้นสระก่อนจะดีดตัวขึ้นมา
หญิงสาวลูบน้ำเย็นๆออกจากตาจมูกและปาก โชคดีที่น้ำในสระมุมนี้สูงแค่ไหล่เธอเท่านั้นเลยโผล่ขึ้นมาหายใจหายคอได้
"อึก...เฮียตี๋..."
ตากลมเหลียวมองไปรอบๆ ไม่พบแม้เงาคนที่ดึงเธอตกลงมา บันไดขึ้นสระอยู่ไกลจากที่หญิงสาวยืนอยู่มาก ไม่รู้เลยว่าทิศทางที่ต้องเดินไปพื้นสระมันลึกระดับไหน
"เฮียตี๋คะ อย่าแกล้งแป้งแบบนี้แป้งกลัวนะ อ๊ะ..."
ข้อเท้าถูกคนที่อยู่ใต้น้ำดึงจนศีรษะนุ่มผลุบลงไปในน้ำอีกครั้ง ดวงตากลมโตเห็นคนที่ตั้งใจกลั้นแกล้งเธอได้ชัดเจน ก่อนที่เขาจะดีดตัวหนีขึ้นไปไขว่คว้าอากาศด้านบน
"อึก"
เตวิชเหลือบมองเด็กสาวที่คาดว่าจะดีดตัวตามเขาขึ้นมาติดๆแต่ทว่ากลับผิดคาด ผมยาวดำสนิทสยายหลุดออกจากโบว์และยางมัดผม
"แป้ง!..."
ชายหนุ่มดำลงไปในสระอีกหน มือหนาตะปบลงบนไหล่บอบบางดึงคนตัวเล็กขึ้นมาก่อนจะยกร่างนุ่มนิ่มวางลงบนขอบสระ
แค่ก แค่ก
ปาลิตาทั้งไอทั้งสำลักน้ำออกมาใบหู ตา จมูกรวมถึงปากแดงก่ำไปหมด
"เป็นยังไงบ้าง"
เขาขยับเข้ามายืนขนาบข้างขาเรียวก่อนที่มือหนาจะเอื้อมมาลูบแผ่นหลังบอบบางให้เบาๆ สีหน้าเฮียตี๋เรียบเฉยไม่ได้แสดงท่าทางถูกใจเมื่อได้กลั่นแกล้งเธอเช่นทุกครั้ง
"เฮียคะ...แป้งกลัว...แป้งว่ายน้ำไม่เป็น"
ตากลมเอ่อคลอไปด้วยหยาดน้ำตาหลุบลงมองใบหน้าคมคายที่อยู่ระดับอก หญิงสาวกลัวอย่างที่บอกกับเฮียตี๋จริงๆ บิดาเคยบอกว่าจะส่งเธอไปเรียนว่ายน้ำ แต่ดันเกิดเรื่องขึ้นกับครอบครัวเธอเสียก่อน เรื่องนี้เลยถูกพับเก็บไปอย่างถาวร
"ไม่ทำแล้ว... ไม่ต้องร้อง"
เสียงทุ้มแผ่วลง ปลายนิ้วโป้งสากเกลี่ยไล่หยาดน้ำตาที่ไหลหยดลงบนแก้มใสให้อย่างนุ่มนวล นานหลายนาทีที่เผลอแสดงความอ่อนแอให้คนตรงหน้าได้เห็น
ปาลิตาใช้มือดันขอบสระพยุงตัวเตรียมจะลุกขึ้นแต่ทว่าขาเหมือนไร้เรี่ยวแรงขึ้นมา เฮียตี๋ที่มองดูอยู่ว่ายน้ำกลับไปยังบันไดขึ้นสระก่อนจะรีบเดินตรงเข้ามาหาเธอ
"ลุกไหวไหมแป้ง มาเฮียช่วย"
ท่อนแขนแข็งแรงคว้ารวบเอวบางไว้ก่อนที่ร่างนุ่มนิ่มจะถไลลงสระอีกหน
"เกิดอะไรขึ้น! หนูแป้งทำไมเปียกปอนอย่างนั้นละลูก"
เสียงคุณหญิงลภาภัทรดังมาแต่ไกล แต่ทว่ารอบนี้บุตรชายตัวดีของท่านหาได้สะทกสะท้านกับเสียงมารดาไม่ เตวิชประคองร่างเล็กลุกขึ้นก่อนจะหันไปคว้าผ้าเช็ดตัวมาคลุมทับเสื้อนักเรียนสีขาวที่เปียกลู่แนบเนื้ออวดความอวบอิ่มด้านใน
"อาตี๋! ลื้อแกล้งน้องใช่ไหม"
สายตาอันแหลมคมของผู้เป็นมารดาพุ่งตรงมาที่เขาอย่างกับกล้องวงจรปิดที่จับภาพทุกการเคลื่อนไหวอยู่ตลอดเวลาและสิ่งที่ท่านคิดก็ถูกทั้งหมด
"ว่าที่คู่หมั้นเขาจะหยอกกันบ้างไม่ได้เลยเหรอม๊า"
เตวิชยักไหล่อย่างไม่ยี่หระปล่อยมือออกจากร่างนุ่มนิ่มแล้วหยิบผ้าผืนเล็กขึ้นมาเช็ดผมตนเองไปด้วย
"เล่นกันจริงเหรอหนูแป้ง"
มารดาเหลือบมองมาที่เขาสลับกับใบหน้าหวานอย่างไม่เชื่อคำพูดของบุตรชายตัวดี ใบหน้าหวานที่เริ่มซีดเพราะความเย็นของอากาศยามค่ำคืนพยักลงช้าๆ เธอไม่อยากให้เฮียตี๋ถูกคุณป้าตำหนิเลยชิงตอบเสียก่อน
ได้ยินมารดาถอนหายใจเฮือกใหญ่ ก่อนที่ท่านจะเดินมาโอบประคองร่างเล็กเพื่อพากลับเข้าบ้าน ไม่ลืมเหลือบมองเขาตาเขียวอีกหน
"ขึ้นไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าเถอะหนูแป้ง คืนนี้นอนที่นี่แหละ พรุ่งนี้เช้าหนูตื่นกินข้าวกินปลาเรียบร้อยป้าค่อยให้คนไปส่ง"
ท่านเอ่ยขึ้นแกมออกคำสั่ง คนตัวเล็กที่ไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากทำตามได้แต่เดินตามเจ้าของบ้านขึ้นไปบนห้องที่คุณป้ามอบให้เธอไว้นานแล้ว
โชคดีหญิงสาวพอมีเสื้อผ้าเก็บไว้ในตู้สีชมพูที่คุณป้าซื้อให้ตั้งแต่เมื่อเก้าปีก่อนอยู่บ้าง ไม่อย่างนั้นคงลำบากเพราะต้องทนตัวเปียกปอนกลับไปที่คอนโด
สี่ทุ่ม
หลังมือเล็กยกขึ้นขยี้จมูกหลังจากจามติดๆกันหลายครั้งจนจมูกโด่งรั้นแดงก่ำ
ก๊อก ก๊อก ก๊อก
เสียงเคาะประตูดังขึ้นติดกันสามครั้ง ปาลิตายันกายเตรียมลุกขึ้นไปเปิดประตู เข้าใจว่าเป็นคุณหญิงลภาภัทรที่อาจมีอะไรจะคุยกับเธอ
แกร่ก!
ประตูถูกเปิดเข้ามาแสงสลัวด้านนอกส่องผ่านร่างสูงใหญ่ เห็นเพียงแค่เงาเธอก็รู้ว่าเป็นใคร ปาลิตาเอื้อมไปเปิดโคมไฟที่หัวเตียงก่อนจะลุกขึ้นนั่งบนที่นอน
"เฮีย..."
เสียงใสเรียกอีกฝ่ายแผ่วเบาราวกับกลัวว่าคนในบ้านจะได้ยิน เฮียตี๋ผลักประตูปิดพร้อมกับกดเปิดสวิตซ์ไฟส่งผลให้ทั้งห้องสว่างจ้า หญิงสาวหรี่ตาลงก่อนจะปรับสายตาให้คุ้นชินกับแสง
"เฮียมีอะไรกับแป้งหรือเปล่าคะ"
เขาเข้ามาในห้องเธอดึกๆอย่างนี้ ถ้าหากคุณป้ารู้ต้องเป็นเรื่องอีกแน่ๆ ปาลิตาไม่อยากเห็นเฮียเขาโดนตำหนิเพราะตนเองอีกแล้ว
"ได้ยินมาว่าแป้งกินยายาก เลยแวะมาดู"
เขาพูดพลางเหลือบมองแก้วใสใบเล็กที่ภายในมียาบรรจุอยู่สองเม็ดตั้งแต่ตอนหัวค่ำและยังคงนอนนิ่งอยู่ในนั้นดังเดิมเหมือนเช่นตอนมา
"แป้งไม่ได้เป็นอะไรนี่คะ ไม่ต้องกินยาก็ได้ เอ่อ...ขอบคุณนะคะที่เฮียเป็นห่วงแป้ง"
คนตัวเล็กอ้อมแอ้มตอบไปไม่เต็มเสียง ใบหน้าคมคายส่ายช้าๆก่อนที่ร่างสูงจะก้าวตรงเข้ามาหาเธอแล้วหย่อนสะโพกนั่งลงริมเตียงปาลิตาเพิ่งสังเกตว่าในมือเขามีแก้วบรรจุยาเหมือนกับที่วางอยู่ในห้องเธอ
"กินยาก่อนแล้วค่อยนอน"
เสียงทุ้มเอ่ยแกมบังคับหน่อยๆ แต่ทว่าสายตาคมกริบนั้นมองมาคล้ายกำลังกดดันไปในตัว
เรื่องที่เกิดขึ้นตอนหัวค่ำคอยกวนใจเขาไม่เลิก ข่มตาเท่าไหร่ก็ไม่ยอมหลับยอมนอนสักทีครั้นจะออกไปท่องราตรีเหมือนที่เคยทำก็ไม่มีอารมณ์ เขาคิดว่ายายแป้งว่ายน้ำเป็นเสียอีก เห็นท่าทางก๋ากั่นไม่ค่อยกลัวใครคิดว่าจะเก่งกว่านี้
"แป้งไม่เป็นอะไรจริงๆค่ะ ไม่ต้องกินก็ได้"
ใบหน้าหวานส่ายรัวๆพร้อมกับฝ่ามือบางที่ผลักไสแก้วในมือของเฮียเขาออกห่างจากตัวอย่างสุภาพ
"อย่าดื้อสิแป้ง ไม่สบายขึ้นมาต้องหยุดเรียนจะแย่เอานะ ใกล้จะจบแล้วไม่ใช่เหรอ"
คราวนี้เสียงทุ้มเข้มขึ้นถึงขั้นติดดุ ทำเอาขนอ่อนบนหลังคอคนฟังลุกชัน สมองน้อยๆเริ่มคำนวณระหว่างคนตรงหน้ากับยาในแก้วหญิงสาวเกรงกลัวสิ่งไหนมากกว่ากัน
"จะกินดีๆหรือจะกินด้วยน้ำตาหืม...แป้ง"