“บุหรี่ไหม”
“อืม”
ทินกรเดินตามอเนกออกมาที่ด้านนอกอาคาร ซึ่งเป็นบริเวณสำหรับสูบบุหรี่ พวกเขานั่งกันอยู่เงียบๆ พักใหญ่ ก่อนที่ทินกรจะยื่นซองบุหรี่ให้เพื่อน และอีกฝ่ายก็หยิบไปหนึ่งมวน
พวกเขาจุดบุหรี่สูบไปสักพัก เหมือนอารมณ์ของทั้งสองคนคงที่มากขึ้นแล้วหลังจากที่ต่างฝ่ายต่างก็หงุดหงิดทั้งกับสถานการณ์และกับความคิดเห็นของคนอื่น และทินก็เป็นฝ่ายเริ่มพูด
“ปกติมาตรงนี้ก็จะเห็นไอ้รพ น้องชายฝาแฝดของไอ้กันต์”
“อือ” อเนกพยักหน้า เมื่อพ่นควันบุหรี่ออกจากปาก “ตอนนี้ท้องแล้ว ผัวมหาเศรษฐีของมันก็ต้องให้งดสูบเป็นธรรมดา” เขาพูดและอมยิ้มเมื่อนึกถึงรุ่นน้องคนสนิท ซึ่งมาดแมนเสียยิ่งกว่าใคร แต่กลับกลายเป็นภรรยาของชายอีกคนไปได้
“ท้องเร็วเนอะ” ทินกรชวนคุย “แต่งปุ๊บท้องปั๊บ ไม่รู้เอาเวลาไหนไปทำ เห็นคนอื่นบอกถ้าผู้ชายจะท้องได้ ต้องใช้เวลาทำกันเป็นปีสองปีเลย”
“อำนาจเงินทำได้ทุกอย่างแหละ … ทั้งสร้างสรรค์และทำลาย กูกับมึงรู้ดีไม่ใช่เหรอ” อเนกหันกลับมามองใบหน้าที่แสนคุ้นเคยของเพื่อนสนิท ทินกรพยักหน้า เหม่อมองออกไปนอกอาคาร
“มันน่ากลัวจริงๆ”
“ทิน …”
ทินกรหันไปมองหน้าอเนก เขารับรู้ได้ถึงความเป็นห่วง และไม่เห็นด้วยกับการตัดสินใจที่จะตามชนกันต์ไปยังรัฐอิสระพันวา แต่เขาก็รู้ดีพอๆ กับอเนกว่า ไม่มีใครห้ามการตัดสินใจของทินกรได้
โดยเฉพาะหากมันเป็นการตัดสินใจเรื่องชนกันต์
“อือ” ทินกรพยักหน้า เป็นเชิงอนุญาตให้เพื่อนพูด
“กูกับมึงต่างก็รู้ดี ไอ้กันต์มันมือหนึ่ง ทั้งความสามารถในการใช้อาวุธ การต่อสู้ด้วยมือเปล่า การแทรกซึม และไหวพริบ มันเป็นคนเก่งที่สามารถเอาตัวรอดได้ในหลายสถานการณ์ และกูก็ค่อนข้างมั่นใจว่ามันจะเอาตัวรอดได้เช่นกันในครั้งนี้ แม้ว่าบางทีกูก็คิดว่าเป็นไปได้ที่มันจะ …”
“มึงอยากพูดอะไรก็พูดมา” ทินกรหันมาสบตาเพื่อน
อเนกถอนหายใจ “กูอยากให้เรารอไอ้กันต์อีกหน่อย … รอก่อน ให้มันติดต่อกลับมา เพราะการไปรัฐพันวาตอนนี้มันค่อนข้างเสี่ยง ที่นั่นเกือบจะมีสงครามกลางเมืองกันทุกวัน
ทั้งฝั่งสนับสนุนราชินี และฝั่งเจ้าฟ้าชาย ที่เป็นรัชทายาทอันดับที่หนึ่ง ไหนจะยังแก๊งนั่นนี่ ตีกันมั่วไปหมด รัฐบาลไม่อนุมัติให้เดินทางอีก วุ่นวายแน่ถ้าเกิดซวยโดนจับได้ บางทีไอกันต์มันอาจจะไม่ได้เป็นอะไรเลย มันแค่รอเวลาที่จะทำอะไรบางอย่าง เพราะฉะนั้น รอก่อนได้ไหม”
“…”
“ถ้าเกิดว่าเราเสียไอ้กันต์ไปแล้ว เราก็ไม่สามารถเสี่ยงที่จะเสียมึงได้อีก”
“กูเองก็เสียไอ้กันต์ไม่ได้”
ทินกรมองสบตาอเนก พวกเขารู้จักกันมาเกือบทั้งชีวิต แทบเป็นไปได้ที่อเนกจะไม่สามารถอ่านสิ่งที่อยู่ในแววตาของทินกรได้ ทั้งความรู้สึกเจ็บปวด คิดถึง โหยหา และขอร้อง
“ให้กูไปเถอะ เอก”
“มึงหมายความว่ายังไง”
“กูกับไอกันต์ …” ทินกรพยักหน้าแทนประโยคต่อไป
“ไอ้หอกเอ๊ย”
อเนกทำหน้าไม่ถูก ไม่แน่ใจว่าอยากจะระเบิดหัวเราะออกมาดังๆ เพราะสิ่งที่เขาพร่ำบอกทุกคนมานานนับสิบปีว่าสองคนนี้เป็นผัวเมียกันนั้นได้เกิดขึ้นจริงแล้ว หรือจะร้องไห้สงสารเพื่อน ที่กังวลว่าชายคนรักอาจจะตายห่าไปแล้วในดินแดนต้องห้ามกลางสามเหลี่ยมทองคำ
“ไอ้หอกหัก” อเนกทำได้แค่นั้นจริงๆ
“…”
ทินกรเม้มปาก เขาหันสายตาไปยังความเวิ้งว้างเบื้องหน้า “กูอยู่โดยไม่มีมันไม่ได้ เพราะฉะนั้นให้กูไปเถอะ ถ้าเกิดปัญหาอะไรขึ้นมา กูสัญญาว่าจะรับผิดชอบเอง”
“…”
ไม่มีคำพูดออกมาจากปากของอเนก แต่เมื่อทินกรหันกลับไปมองหน้าเพื่อนสนิทอีกครั้งด้วยความหวาดหวั่นและกังวลใจ เขาก็ต้องแปลกใจเมื่อพบว่า อีกฝ่ายกำลังกลั้นขำอยู่
“เป็นหอกอะไรของมึง”
“ฮะ ฮะ ฮ่า!!” อเนกระเบิดหัวเราะออกมาจนได้
“ไอ้หอก!!”
ทินกรพยายามกลั้นรอยยิ้มแห่งความเขินอายเอาไว้ และชกมือไปที่ไหล่ของเพื่อนเต็มแรงจนอีกฝ่ายเซถลา แต่ก็ยังยกมือขึ้นมากุมท้องเอาไว้ เพราะยังคงหัวเราะไม่หยุด
“ไอ้เหี้ยเอ๊ย … กูว่าแล้วทำไมมันตามตูดมึงต้อยๆ สัดเอ๊ย … ทีตอนนั้นด่ากูว่าพูดอะไรไร้สาระ เสียหาย เป็นไงล่ะมึง กูอยากจะตะโกนบอกคนทั้งตึกให้มันรู้แล้วรู้รอด ไอ้หอกหัก ฮ่าฮ่าฮ่า!”
“มึงหุบปากไปเลย” ทินกรค้อนทั้งที่ใบหน้ายังคงแดงก่ำ
แล้วสายตาของอเนกก็หันไปเห็นรุ่นน้องคนสนิทอีกสองคน ที่เดินมาจากฝั่งของโรงอาหาร เขาโบกมือเรียกทั้งคู่อย่างร่าเริง พร้อมกับตะโกนว่า “เฮ้ๆ วัฒน์ พิม!! พวกมึงรู้เรื่องนี้ป่ะ!!”
“มีอะไรครับพี่!!”
“ว่าไงคะ พี่เอก!!”
ทั้งสองคนเดินกึ่งวิ่งเข้ามา แต่ทินกรก็เอาบุหรี่มาคาบไว้ที่ปาก และใช้มือทั้งสองข้างปิดปากเพื่อนสนิท ก่อนจะกึ่งลากกึ่งจูงเพื่อสนิทที่พยายามขัดขืนเข้าไปด้านในอาคารแทน
“มีอะไรทำก็ไปทำเลยพวกมึงน่ะ” ทินกรสั่งอู้อี้เพราะปากยังคาบบุหรี่
“พี่เขาเป็นอะไรกันวะ” วิวัฒน์มองตามและขมวดคิ้ว
“ตีกันอีกแล้วมั้ง พี่ทินกับพี่เอกก็แบบนี้แหละ” พิมมาดา นายตำรวจรุ่นน้องยักไหล่ ก่อนที่พวกเขาจะพยักหน้าให้กัน และเดินกลับไปยังหน่วยงานของตน ที่อยู่ถัดไปอีกฝั่งของอาคาร
กว่าทินกรจะปล่อยอเนกก็เป็นตอนที่พวกเขากลับเข้ามาในแผนกแล้ว
“พี่ทินครับ ข้างในห้ามสูบบุหรี่นะครับ” ภานุทักทันที ที่เห็นรุ่นพี่หน้าสวยคีบบุหรี่อยู่ในปาก
“รู้แล้วครับๆ” ทินกรพูดอย่างประชดประชันเมื่อจับบุหรี่ออกจากปาก และกดก้นบุหรี่ไปยังดินร่วนดำในกระถางต้นไม้ในห้อง ในขณะที่อเนกซึ่งเพิ่งจะเป็นอิสระนั้น ยังคงหัวเราะอยู่
“มีอะไรเหรอครับ?” ภานุมองรุ่นพี่ทั้งสองสลับไปมาด้วยความสงสัย
อเนกยังคงกลั้นขำ ตอนที่หันไปมองทินกร และอีกฝ่ายก็ยกมือขึ้นชี้หน้าเป็นเชิงเตือนว่าห้ามเขาบอกใครเด็ดขาด อเนกยกมือยอมแพ้ และนั่งลงข้างภานุ ในโต๊ะประชุม
ทินกรถอนหายใจ และนั่งลงตรงข้าม
“สรุปว่าท่านทินกรของเราจะแทรกแซงภารกิจของไอ้กันต์”
อเนกเป็นคนสรุปออกมาหน้าตาเฉย และนั่นก็สร้างความงุนงงให้กับภานุเป็นอย่างมาก เพราะอีกฝ่ายเพิ่งจะคัดค้านหัวชนฝาจนเดินงอนหนีออกไปข้างนอกเมื่อไม่กี่นาทีก่อนหน้านี้นี่เอง
ทินกรพยักหน้า และหันมาที่ภานุ “กูต้องการสรุปสถานการณ์ในรัฐอิสระพันวา และข้อมูลของแก๊งต่างๆ โดยเฉพาะแก๊งเบญจมาศ แก๊งบลีเวอร์ พรรคคอมมิวนิสต์ กลุ่มรอยัลลิสต์ แก๊งรอยัลฟลัช หรือหอกเหวอะไรทั้งหมดนั่น … ทุกอย่างเท่าที่มึงจะหาได้ เอาอัปเดตกว่าตอนที่ไอ้กันต์ไป”
“ได้ครับ” ภานุพยักหน้า ยังคงหันไปมองอเนกที่นั่งอมยิ้มกรุ้มกริ่มอยู่ด้วยความสงสัย และหันไปยังทินกร ผู้ซึ่งกระแอมไอ เพื่อไล่ความเขินอายออกไปจากใบหน้าและความรู้สึก
“แต่จะอธิบายได้ไหมครับว่า …” ภานุถามหวาดๆ เมื่อไม่มีชนกันต์อยู่ เขาก็เหมือนเป็นคนที่เด็กที่สุดในหน่วย และไม่มีสิทธิ์มีเสียงมากนัก เพราะรุ่นพี่ทั้งสองนั้น ทั้งน่ากลัวและเสียงดัง
อเนกกระแอมหนึ่งที และพูดอย่างเป็นทางการว่า “ไอ้กันต์ไม่ใช่คนที่จะแปรพักตร์”
“อันนั้นผมทราบครับ”
“เพราะฉะนั้น ถ้ามันยังไม่ติดต่อกลับมาภายในสัปดาห์นี้ มีความเป็นไปได้ว่ามันน่าจะอยู่ในสถานการณ์ที่ยากลำบาก อาจจะป่วย หรือถูกจับ ดังนั้น เราจะต้องไปช่วยมัน” อเนกสรุป “และไอ้ทินจะไป”
“ครับ” ภานุพยักหน้า ในใจของเขาก็ยังคงภาวนาให้เพื่อนรักยังมีชีวิตอยู่
“และเชื่อเถอะ” คำพูดของทินกรเรียกให้ทั้งอเนกและภานุหันไปมองสบตาเขา “กูไม่ได้เห็นไอ้กันต์สำคัญไปกว่าหน่วยหรือภารกิจ และถ้าเป็นพวกมึงหายไปแบบนี้ กูก็จะออกตามหาเหมือนกัน”
“ไม่มีทาง” อเนกส่ายหน้า เขายิ้มก่อนจะพูดว่า “เพราะกูไม่มีวันไป เสียใจด้วย ที่ของกูคือในตึกและส่งข้อมูลโว้ย … ให้กูออกไปข้างนอกนั่น ห้านาทีกูตายโหงแล้ว ไอ้หอกหัก”
แล้วทั้งห้องก็เต็มไปด้วยเสียงหัวเราะอีกครั้ง