บท 2 ไม่ชอบให้อดทน
อชิระกล่าวลาญาติแล้วประคองร่างบางเพื่อไปส่งยังห้องพัก จากโอบไหล่ต้องเปลี่ยนมาอยู่ที่เอวคอด ไม่อย่างนั้นร่างบางคงล้มลงไปกองกับพื้นเสียก่อน เพิ่งรู้ว่าขนาดเอวของเธอเล็กมาก และอีกหนึ่งสิ่งเวลาเธอยิ้มหรือหัวเราะดวงตายังหยีเป็นรูปสระอิอีก
“มิ้ม ถ้าเดินเองไม่ได้ ผมจะอุ้มคุณแล้วนะ”
ร่างบางแข็งทื่อสักพัก ก่อนก้าวขาท่าเดินแบบทหาร ทว่า…
“โอ้ย”
หน้าผากเจ้าหล่อนชนเข้ากับกระจกอย่างจัง อชิระไม่พูดอะไรเพียงเดินเข้าไปช้อนร่างบางมาไว้ในอ้อมแขน ชายหนุ่มก้าวขาเดินต่ออย่างสบายๆราวกับไม่ได้หนักอะไรมาก
“ขอโทษค่ะ มิ้มเดินเองได้ ไม่เป็น..”
“กอดคอผมไว้”
เสียงเข้มตัดบทคนเมา ถ้าปล่อยให้เธอเดินคงไม่ถึงห้องสักที
“คุณดื่มไปกี่แก้ว”
มนวดีส่ายหน้า
“จะปฏิเสธผมเหรอ”
“เปล่าค่ะ จำไม่ได้”
เธอตอบเสียงอ่อย พอเห็นเขาถอนหายใจ หญิงสาวจึงคิดว่าตัวเองได้ทำพฤติกรรมอันไม่เหมาะสมทั้งยังเป็นภาระของชายหนุ่มอีก อชิระคงไม่พอใจเธอมากๆ
ด้วยฤทธิ์น้ำเมาเพิ่มความกล้าให้หญิงสาว จึงเลือกที่จะพูดในสิ่งที่คิดว่าเขาน่าจะสบายใจออกไป
“แต่มิ้มก็ไม่เมานะคะ”
พร้อมกับตะเบ๊ะอย่างกับทหาร ยิ้มหวานจนตาหยี ให้เขาไปหนึ่งที
ชายหนุ่มไม่ได้ตอบแต่กระชับวงแขนแล้วก้าวเดินไปที่หน้าห้องหญิงสาว ก่อนถามหาคีย์การ์ดห้อง แต่คนที่สถาปนาตนว่าไม่ได้เมากลับจำไม่ได้ว่าเอาไปไว้ไหน ร่างสูงจึงเปลี่ยนทิศทางเดินไปที่ห้องตัวเอง
“หยิบกุญแจในเสื้อผมให้หน่อย ฝั่งซ้าย”
คนสีหน้าแดงระเรื่อ รีบล้วงเข้าไปตามเสื้อเชิ้ต ใบหน้าหวานเริ่มแดงขึ้นอีกเพราะหน้าอกของอชิระแน่นและแข็งกว่าที่คิด
ขนในกายพร้อมใจกันลุกชันยามที่มือนุ่มลูบไล้หน้าอกแกร่งเพื่อหาคีย์การ์ด ใบหน้าหล่อคมหลับตากัดฟันแน่น
“ไม่ใช่ตรงนั้น อยู่ในชุดสูท”
“อ่อ ค่ะ”
หลังจากเปิดประตูห้องเข้าไปได้ อชิระจึงพาร่างบางเข้าไปในห้องน้ำ หยิบยื่นอุปกรณ์อาบน้ำให้
“ห้ามล็อคประตูนะ”
“คะ?” หญิงสาวรีบยกมือปกป้องหน้าอกตัวเอง
“ล้มตายในห้องน้ำ ผมจะทำไงล่ะ”
หญิงสาวใช้มืออีกข้างจับศีรษะของตนเอง พร้อมนึกภาพตาม แล้วจึงพยักหน้าเข้าใจ ทว่าห้องน้ำในห้องพักของอชิระก็ช่างวาบหวิวเสียจริง มีเพียงกระจกขุ่นๆที่พอจะอำพรางเรือนรางบางส่วนต่อสายตาคนข้างนอก แต่ด้วยความเหนียวตัวจากลมทะเลหญิงเธอจึงตัดสินใจถอดเสื้อผ้า พาร่างเปลือยเปล่าไปยืนใต้ฝักบัวขนาดใหญ่
โดยไม่รู้ตัวเลยว่ามีสายตาหนึ่งคู่วูบไหว เพราะเห็นเรือนร่างอรชรโค้งเว้ากำลังเคลื่อนไหวอยู่ในห้องน้ำ แม้ภาพตรงหน้าจะไม่ชัดเท่าภาพสามดี ทว่าสิ่งที่เห็นชวนให้จินตนาการต่อจนปลุกสัญชาตญาณความเป็นชายให้ลุกซู่ซ่าและปลุกความคิดบางอย่าง...บางอย่างที่เขาอาจจะเคยคิดมาก่อนแล้ว
เสียงน้ำหยุดไหลเหมือนระฆังดึงสติร่างสูงให้รู้ตัวว่าตนเผลอคิดอกุศลไปไกลถึงขั้นไหน อชิระจึงรีบเดินออกไปจากห้องเพื่อให้ความเป็นส่วนตัวแก่หญิงสาว
ด้านคนในห้องน้ำที่มองหาชุดคลุมอาบน้ำไม่เจอ จึงเลือกที่จะโผล่แค่ศีรษะออกไปนอกประตูเพื่อถามเอาจากเจ้าของห้อง
“คุณอิฐคะ...คุณอิฐ”
เมื่อไม่เสียงตอบรับและตัวบุคคลนั้นไม่ได้อยู่ในสถานที่นี้ เธอจึงก้าวเท้าออกมาข้างนอก พอเห็นว่าชุดคลุมอาบน้ำอยู่บนเตียงจึงมองซ้ายมองขวาก่อนปลดปมผ้าขนหนู
“เรียกผมทำไม”
“ว้าย!”
มนวดีตกใจกะทันหัน เผลอปล่อยมือจนผ้าขนหนูที่ห่อหุ้มร่างกายให้ร่วงลงพื้น ด้วยความกลัวว่าชายหนุ่มจะเห็นเรือนร่างตัวเองจึงเลือกรีบหันหลังกลับไปกอดกายแกร่งไว้แน่น หากสติเต็มร้อยเธอคงไม่เลือกวิธีนี้แน่
“คุณทำอะไร”
อชิระเบิกตากว้าง รับรู้ถึงแรงปะทะแต่เขาไม่ได้กอดเธอกลับ
“อย่ามองนะคะ”
ไม่ทันแล้ว แม้ด้านหน้าจะไม่เห็นทว่ารับรู้เต็มๆทุกสัดส่วน ส่วนท่อนล่างต่อแผ่นหลังลงไปเขาก็เห็นเต็มสองตา
“แล้วผมควรทำอะไร”
“มองไปข้างหน้า อย่าก้มลงต่ำ”
โอเค เขาทำตาม แต่ข้างหน้าก็เป็นกระจกหน้าต่าง
“คะ...คุณเข้ามาตอนไหน”
มนวดีถามเสียงสั่นหน้าร้อนผ่าว หัวใจเต้นแรง เธอไม่ได้ยินฝีเท้าชายหนุ่มตอนเดินเข้ามาในห้อง เลยไม่ทันระวังตัว สะดุ้งอีกทีก็ตอนเสียงของเขาอยู่ใกล้ชิดแผ่นหลังเธอแล้ว
“ผมได้ยินคุณเรียก คิดว่าต้องการอะไร”
“มิ้มจะเปลี่ยนชุด ไม่คิดว่าคุณจะเข้ามา มิ้มไม่ได้ตั้งใจจะกอดคุณนะ”
แต่เอวสอบเขาก็ถูกรัดซะแน่น
“ได้ งั้นคุณก็ปล่อยผมสิ”
มนวดีส่ายหน้ากับแผงอก เธอน่าจะหยิบผ้าตั้งแต่แรก ไม่ใช่มากอดเขา
อชิระถอนหายใจ ไม่ใช่เพราะรำคาญแต่กลัวว่าถ้านานกว่านี้เป็นเขาเองที่จะทนไม่ไหว เพราะอุณหภูมิในกายเริ่มร้อนขึ้นมาทุกทียามนึกถึงบางจุดที่แนบชิดสนิทกัน มือหนาจับลงที่ไหล่บางทั้งสองข้างออกแรงผลักออกห่างจากตัวเองทว่าเธอต้าน
“มิ้ม คุณเชิญชวนผมอยู่หรือไง”
“เปล่านะคะ ไม่ใช่แบบนั้น คือว่าคุณช่วยหยิบเสื้อคลุมอาบน้ำให้มิ้มหน่อยได้ไหมคะ”
พูดจบประโยคอชิระก็ก้มตัวลงทันที ส่งผลให้คนตัวเล็กรับน้ำหนักไม่ไหวจึงพาทั้งร่างตนเองและเขาล้มลงไปบนเตียงนอน ชายหนุ่มใช้แขนยันตัวขึ้นมาเล็กน้อย
คนทั้งสองสบสายตากันโดยมิได้ตั้งใจ หนึ่งคนใต้ร่างหนาตาเบิกโพลงเธอไม่แม้แต่จะกล้าหายใจ สองมือพยายามปิดบังทรวงอกอิ่ม ร่างกายแข็งทื่อราวกับถูกมนต์สะกดจากสายตาเข้มลึกของอชิระ
เป็นครั้งแรกที่ชายหนุ่มได้มองคู่หมั้นสาวอย่างใกล้ชิด หัวใจเขาสั่นไหวขึ้นมาเมื่อเพิ่งค้นพบความจริงว่าใบหน้าอ่อนหวานนั้น น่ารักและมีแรงดึงดูดอยู่มิใช่น้อย
“มะ...มิ้ม หายใจไม่ออกค่ะ”
หลังจากกลั้นลมหายใจมานานจนไม่ไหว หญิงสาวจึงต้องใช้เสียงอันแผ่วเบาเรียกชายหนุ่ม
“งั้นเหรอ”
“หืม?”
ยังไม่ทันที่สมองจะได้ประมวลผลว่าอชิระพูดว่าอะไรชายหนุ่มก็ก้มใบหน้าลงมาประกบริมฝีปากเข้ากับกลีบปากบาง เขาจงใจบดเบียดจนเธอเผยริมฝีปากเพื่อให้ลิ้นหนาสอดแทรกเข้าไปเพื่อกวาดชิมข้างใน
มนวดียังอยู่ในสภาวะจิตหลุดออกจากร่าง ไม่ใช่ว่าเขาและเธอไม่เคยจูบกัน ทว่าที่ผ่านมาน้อยครั้งมากแทบนับได้ และเป็นเพียงการเอาริมฝีปากแตะกันเท่านั้น
อชิระเคยให้เหตุผลของการจูบว่า ‘เป็นสิ่งที่คนเป็นแฟนทำกัน ไม่ใช่เรื่องแปลก’
‘แล้วตอนนี้แปลกหรือเปล่า’ เพราะมันลึกซึ้งกว่าทุกครั้ง
ไม่รู้ว่าเวลาผ่านไปเนิ่นนานเเค่ไหน จนกระทั่งอชิระยอมถอยห่างออกมา ใกล้กันจนได้ยินเสียงหอบหายใจ ความรู้สึกและรสสัมผัสยังคงติดอยู่ที่ริมฝีปาก ไม่นานมันคงจางหาย ทว่าชายหนุ่มไม่ปล่อยให้เป็นเช่นนั้น เขาก้มลงประทับริมฝีปากลงอีกรอบ ลิ้นเล็กลองตอบสนองแบบเดียวกับที่เขาทำ ทว่านั่นเท่ากับเป็นการเติมเชื้อเพลิงเข้าไปอีก
ฝ่ามือคู่ใหญ่ให้สัมผัสที่หยาบกร้านลากไล้ไปตามสีข้าง ผิวของหญิงสาวทั้งเนียนและนุ่มจนเขาไม่อยากจะใช้เเค่มือสัมผัส
มนวดีครางออกมาแผ่วเบาอย่างลืมตัว ใบหน้าหวานซุกเขากับซอกคอชายหนุ่มอย่างอดกลั้น เมื่อมือคู่นั้นได้เปลี่ยนตำแหน่งขึ้นมาสัมผัสทรวงอกของเธออย่างนิ่มนวล นิ้วโป้งลากวนตรงจุดที่ไวต่อสัมผัสบางครั้งแผ่วเบาบางครั้งกดหนัก เหมือนกับว่ากำลังหยอกล้ออยู่
"อื้อ...คุณ.."
คู่หมั้นสาวได้เปิดประสบการณ์ใหม่ เพียงแค่อชิระสัมผัสร่างกาย จุดต่างๆตื่นตัวอย่างรวดเร็ว เป็นความรู้สึกแปลกใหม่ ไม่แน่ใจว่าเรียกว่าอะไร แต่ที่แน่ๆ เธอไม่ได้รังเกียจสัมผัสของเขา
"อ๊ะ..."
มือเล็กรีบยกขึ้นมาปิดปากตอนเธอส่งเสียงน่าอายออกมา เสียงนั้นดันหลุดออกมาตอนที่ใบหน้าหล่อเหลาใช้ปากและลิ้นครอบครองส่วนที่นูนเด่นบนเนินเนื้อที่เขาใช้มือประคองอยู่ ยามที่ลิ้นเปียกชื้นสัมผัสยอดสีน้ำตาลไปมา ภายในกึ่งกลางกายเธอกลับรู้สึกไปด้วย
"คุณอิฐ...มิ้ม"
หญิงสาวพยายามจะส่งเสียงห้าม แต่หนักแน่นไม่เพียงพอเลยกลายเป็นเสียงสั่นเครือ ไม่มีทางที่เขาจะได้ยิน เธอก้มมองลงก็เห็นเพียงแต่ศีรษะชายหนุ่มที่ปักหลักอยู่ตรงทรวงอกอิ่ม อีกข้างก็เป็นมือสากที่กำลังเคล้นคลึงสร้างความปั่นป่วนให้เธอจนเสียวไปทั้งร่างกาย
"มิ้ม...อื้ม.."
น่าอายจริงเธอเผลอส่งเสียงอีกแล้ว มนวดีหลับตาเเน่นใช้มือทั้งสองปิดปากตัวเองไว้ บอกกับตัวเองถ้าอชิระพอใจเมื่อไหร่เขาน่าจะหยุด
"..."
"อย่าทำแบบนั้น"
ชายหนุ่มหยุดกิจกรรมตรงกลางอกเธอทั้งหมด เขายืดตัวขึ้นมาดึงมือทั้งสองข้างที่ปิดปากออก ดวงตาสีเข้มที่แฝงไปด้วยความปรารถนาเต็มเปี่ยมจ้องลึกไปทั่วใบหน้าอ่อนหวานที่เเดงซ่าน
"ผมไม่ชอบให้คุณต้องอดทน"