พอส่งเนื้อนางเสร็จเธอก็หนีขึ้นมาบนห้องไม่รู้ว่าจะอยู่ข้างล่างต่อทำไมนี่ก็ดึกมากแล้วอาบน้ำเสร็จก็มานั่งจุมปุ๊กอยู่หน้ากระจกที่เธอยึดเป็นพื้นที่ของตัวเองเป็นเรียบร้อย เธอไม่ได้ยินเสียงด้านนอกแล้วก็คงจะเมากันหมดเพราะกินกันตั้งแต่เย็นนี่ก็คงเหลือแค่คนงานผู้ชายแล้วก็..............อีตาโจรป่านั่น
พอนึกถึงตานั่นขึ้นมาเรื่องบ้าๆ ก็เข้ามากวนใจเธออีกครั้งอยู่ๆ ก็รู้สึกวูบวาบไปทั้งตัวแล้วก็ต้องเม้มปากเข้าหากันแน่น ‘เถื่อน’ คำคำนี้เหมาะสมกับเขาที่สุดแล้วทำอะไรไว้ก็ไม่คิดจะสำนึกสักนิดยังลอยหน้าลอยตาได้ปกติ เธอก็แค่แอบฟังเท่านั้นเองทำไมถึงต้องขู่เธอแบบนั้นด้วยขู่แบบอื่นไม่ได้หรือไง
“หรือว่าทำแบบนี้กับผู้หญิงบ่อยกัน”
“บ่นอะไร”
คนนั่งพึมพำอยู่สะดุ้งตกใจหันขวับไปยังต้นเสียงจนคอแทบเคล็ด
“บ่นอะไรหรือว่าสวดมนต์อยู่” คนปากไม่ดียืนกอดอกว่าขึ้นขณะพิงอยู่กับโต๊ะเครื่องแป้งมองมาที่เธอด้วยใบหน้ายียวน เข้ามาตั้งแต่เมื่อไหร่กันทำตัวเหมือนผีขึ้นทุกวันแล้วใครจะบ้ามานั่งสวดมนต์หน้าโต๊ะเครื่องแป้งตาบ้า คนโดนยั่วโมโหเพียงแค่ค่อนขอดเขาในใจเท่านั้นไม่ได้คิดจะไปต่อความกับคนอย่างเขาเลยทำเป็นหูทวนลมสะบัดหน้ากลับมาทางเดิมทำท่าวุ่นวายกับครีมบำรุงในมือต่อไม่ได้ให้ความสนใจเขาอีกนิสัยก็ไม่ดีปากยังไม่ดีอีกต่างหากเชิญคุยคนเดียวไปเถอะหย่ะ
คนโดนเมินยกยิ้มมองยัยเด็กช่างท้าทายก่อนจะหรี่ตาลง
“โดนจูบไปทีเดียวถึงกับเป็นใบ้สงบเสงียบไปเลยหรือไง” พูดจบเขาก็เห็นว่าคนที่ทำเมินตวัดตามองเขาตาขวางใบหน้าแดงก่ำแต่ก็ยังปิดปากเงียบเหมือนเดิม
“ดีแฮะถ้ารู้ว่าโดนจูบแล้วจะไม่พูดมากแบบนี้...............” คนพูดขยับเข้าไปใกล้ขึ้นอีกจนริมฝีปากชิดกับใบหูเล็กยิ่งเห็นขนอ่อนที่ต้นคอสาวลุกชันมุมปากหยักก็ยกยิ้มขึ้น
“จับดูดปากเสียตั้งแต่วันแรกแล้วก็ดีจะได้ไม่หนวกหู” คนฟังหน้าร้อนวูบขึ้นด้วยความโกรธอยากจะกรี๊ดใส่หน้าเขานักคนอะไรพูดจาได้น่าเกลียดที่สุดผุดลุกขึ้นมองเขาอย่างเอาเรื่อง ผู้ชายปากเสีย
“ถ้าเมาก็ไปนอนค่ะมายืนบ่นอะไรฉันฟังไม่รู้เรื่อง” ร่างเล็กเดินหลบไปอีกทางคว้าหมอนกับผ้าห่มที่พับเก็บไว้เมื่อเช้ามากอด
“ไปนอนบนเตียงไป โซฟามันแคบกลิ้งตกลงมาเดี๋ยวจะแข้งขาหักเอา” นิรณาหันมองเขาอย่างไม่อยากจะเชื่อหู
“คุณจะให้ฉันนอนบนเตียงหรือคะ” ไม่อยากจะเชื่อว่าเขาจะสละเตียงให้เธอเป็นสุภาพบุรุษกับเขาด้วยหรือไงนะ
“อืม เดี๋ยวจะตกลงมาแข้งขาหักขี้เกียจพาส่งไปโรงบาล............มันไกล” พูดจบเขาก็หัวเราะขึ้นมาอีกครั้งอย่างพออกพอใจที่เห็นว่าเธอโมโหแทบจะเข้ามาข่วนหน้าของเขา
“เชอะ แต่ถึงยังไงก็ขอบคุณก็แล้วกันค่ะ” ยื่นปากใส่เขาไปทีก่อนจะเดินไปที่เตียงวางหมอนกับผ้าห่มลงจัดนั่นจัดนี่แล้วก็เห็นว่าเขาเดินเข้าห้องน้ำไปแล้วเธอเลยจัดการเดินไปปิดไฟก่อนจะเดินมาที่เตียงอีกครั้งแล้วกระโดดขึ้นเตียงอย่างเป็นเจ้าข้าวเจ้าของ
“สบายกว่าโซฟาตั้งเยอะ” เธอพึมพำพร้อมรอยยิ้มกางแขนกางขาจนเต็มเตียงอย่างสบายอารมณ์ก่อนจะปิดเปลือกตาลงอย่างสบายอกสบายใจ
ส่วนคนที่เพิ่งอาบน้ำเสร็จเปิดประตูออกมาแล้วก็แทบจะหัวทิ่มตายเพราะทั้งห้องมืดจนแทบจะมองไม่เห็นอะไร ยัยเด็กนั่นเล่นปิดไฟเสียหมดทุกดวงแล้วนอนสบายอารมณ์อยู่บนเตียง ชายหนุ่มส่ายหน้าไปมาก่อนจะเดินคลำทางไปเปิดตู้เสื้อผ้าแล้วคว้ากางเกงขายาวมาตัวนึงปกติเวลานอนเขามักจะไม่สวมอะไรนอนแต่เพราะว่าตอนนี้มีผู้ร่วมห้องอยู่ด้วยเขาเลยต้องเกรงใจสายตาแม่คนขี้โวยวายหน่อยไม่อยากจะมานั่งฟังสาวเจ้าร่ายยาวจนไม่ได้หลับไม่ได้นอน
ร่างหนาเดินไปล้มตัวลงนอนคว้าผ้าห่มที่เหลือขึ้นมาห่ม คนที่กำลังจะหลับรับรู้ถึงบางอย่างข้างๆ แล้วก็เตียงนอนที่ยวบลงไปจนต้องขยับหันไปมองก่อนจะยื่นมือไปเปิดไฟหัวเตียง
“นี่คุณขึ้นมาบนเตียงทำไม”
“ทำกับข้าวมั้ง ขึ้นมานอนสิถามแปลก”
“แต่คุณยกเตียงให้ฉันแล้วหนิ”
“ฉันพูดแบบนั้นหรอ” เขาขยับลุกขึ้นเลิกคิ้วให้เธอ
“ก็คุณบอกให้ฉันมานอนที่เตียง”
“ก็ใช่ ไม่ได้ความจำเสื่อม”
“ก็แล้วคุณขึ้นมาทำไมหล่ะไหนว่าไม่ได้ความจำเสื่อมไง”
“ฉันบอกให้เธอมานอนบนเตียงแต่ก็ไม่ได้บอกหนิว่าฉันจะไปนอนที่อื่น”
“คุณนี่มัน...........หึ้ยยนึกว่าจะเป็นคนดีส่ะอีกงั้นคุณก็นอนไปเถอะฉันจะกลับไปนอนโซฟาเหมือนเดิม” ไอ้เราก็หลงคิดว่าเขาจะเป็นสุภาพบุรุษเสียอีกความจริงเธอไม่น่าจะหวังความเป็นสุภาพบุรุษของเขาเลยจริงๆ
“นี่ ก็นอนด้วยกันมันจะเป็นอะไรไปนอนได้แล้วมันดึกแล้วฉันไม่พิศวาสเธอหรอก”
“ไม่ค่ะ ถึงคุณจะพิศวาสหรือว่าไม่พิศวาสฉันก็ไม่นอนใกล้คุณเด็ดขาด เกิดผีผลักขึ้นมาจะทำยังไง กันเอาไว้ดีกว่าอย่างน้อยนอนโซฟาก็รู้สึกปลอดภัยกว่า”
“นี่เเม่คุณผีที่ไหนจะมาผลักถ้าฉันคิดจะทำนะไม่ต้องพึ่งผีให้ผลักหรอกเเค่จับกดเเล้วไซร้เเค่นี่ก็จบเเล้ว บอกว่าให้นอนนี่ก็นอนเถอะหน่าอย่าเรื่องมากโซฟามันแคบเดี๋ยวตกลงมาขี้เกียจดูแลคนพิการ”
“ทุเรศ! ฉันไม่ใช่คนนอนดิ้นไม่ต้องกลัวหรอกค่ะว่าจะตกลงมาพิการจนคุณต้องดูแล” ว่าเสร็จก็คว้าหมอนกับผ้าห่มขึ้นมากอดเอาไว้
“เธอนี่มัน”
“ว๊าย!” คนที่สบถออกมาอย่างเหลืออดดึงร่างเล็กจนหงายลงกับเตียงก่อนจะจับเธอกดเอาไว้
“คุณ!” ส่วนคนที่โดนจับกดจนแทบจะจมไปกับเตียงร้องเรียกเขาดังลั่นกลัวจนคิดอะไรไม่ออก
“จะเสียงดังทำไมอยู่ใกล้กันแค่นี้”
“ก็.......ก็คุณมากระชากฉันทำไมหล่ะ ปล่อยเลยนะ” คนที่กลัวจนลมแทบจับยังคงทำใจกล้าต่อว่าเขาเสียงแข็ง
“นอนที่นี่แหละไม่ต้องคิดจะลุกไปไหน”
“แต่.......”
“ไม่มีแต่ฉันจะไปนอนโซฟาเองพอใจหรือยังห๊ะ วุ่นวายจริง” คนตัวโตบ่นเสียงดุก่อนจะคว้าหมอนกับผ้าห่มแล้วเดินไปกระแทกตัวลงที่โซฟามองเธอตาเขียวปั้ด ล้มตัวลงนอนหันหลังให้จนคนที่ร้องโวยวายถึงกับงง
“ตาบ้าตกใจหมด” พึมพำเบาๆกับตัวเองก่อนยู่หน้าใส่คนที่นอนหันหลังให้แล้วเอื้อมมือไปปิดไฟ ตานี่พูดดีๆ ไม่เป็นหรือไงทำคนอื่นตกอกตกใจไปหมด แต่ก็อดยิ้มออกมาไม่ได้ไม่รู้ว่าเขามีน้ำใจหรือว่ารำคาญกันแน่ถึงได้ยอมไปนอนโซฟาเล็กๆ แคบๆ เองแบบนั้นแต่น่าจะเป็นอย่างหลังส่ะมากกว่า...................