หลายวันผ่านไป…
เจ้าของร่างสูงสวมสูทสีเทาเข้มก้าวขาลงจากรถหรูที่เขาเพิ่งตัดสินใจซื้อเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา หลังจากรอลิฟต์ได้แค่ชั่วอึดใจ หนุ่มหล่อลูกเสี้ยวเมืองน้ำหอมก็พาตัวเองมาถึงชั้นยี่สิบเก้า อันเป็นที่ตั้งของที่ทำงานใหม่
ป้ายหน้าบริษัทถูกเปลี่ยนจากชื่อเดิมเป็น Journal D’Amour หลังจากบริษัทเข้าเทกโอเวอร์ได้ไม่นาน ทว่าพายุก็สั่งให้เปลี่ยนป้ายถึงสามครั้งกว่าจะถูกใจ ทั้ง ๆ ที่ดูภาพจากอีเมลแล้วมันก็ไม่ได้แย่อะไร แต่ว่าตอนนั้นอารมณ์ของเขายังไม่ค่อยปกติ เพราะถูกแม่ตัวดีเทมาหมาด ๆ
เกือบจะถึงเตียงอยู่แล้ว แต่ดันปล่อยให้หลุดมือ รู้ถึงไหนอายถึงนั่น…
พายุมั่นใจในตัวเองมาโดยตลอด เรื่องงานไม่เคยมีคำว่าพลาด เรื่องผู้หญิงยิ่งมั่นใจหนักตามสไตล์หนุ่มปารีเซียง แต่พอถูกปฏิเสธแค่ครั้งเดียว เขากลับเสียศูนย์ ระบายอารมณ์ลงไปในอีเมลหลายฉบับ โดยเฉพาะแผนกออกแบบเครื่องประดับที่ส่งงานมาทีไรก็ถูกตีกลับไปแทบจะทุกครั้ง พร้อมกับข้อความที่ทำให้คนอ่านต้องกังวลว่าจะตกงาน
เพราะน้องกอหญ้าคนเดียว
เขาอุตส่าห์ตื่นแต่เช้าเพื่อที่จะถามให้รู้เรื่องว่าเธอจะเอายังไงต่อกันแน่ ทั้ง ๆ ที่ปกติแล้วคงจะมูฟออน ไม่สนใจคนที่เทกันถึงสองครั้ง แต่สำหรับสาวน้อยวัยยี่สิบสี่ปี พายุยอมปล่อยให้หลุดมือไม่ได้จริง ๆ
นึกไม่ถึงว่าแม่ตัวดีจะเช็กเอาต์หนีไปตั้งแต่เมื่อคืนแล้ว
“สวัสดีค่ะบอส เชิญทางนี้เลยนะคะ” ทิพย์สุดา สาวใหญ่อายุสามสิบปลาย ๆ ผายมือเชิญเจ้านายคนใหม่ที่ถูกส่งตรงมาจากฝรั่งเศส แต่แอบแวะไปศึกษาดูงานที่ภูเก็ตก่อนจะเข้าออฟฟิศที่กรุงเทพฯ ให้เข้าไปในห้องประชุมที่มีพนักงานเกือบทั้งบริษัทรอต้อนรับอยู่แล้ว
เธอขยับแว่นนิดหน่อยเพื่อข่มความประหม่า ความหล่อเข้มของพายุมันทะลุแว่นตากันแดดสีชา ทำเอาหัวใจของสาว ๆ ในบริษัทเต้นรัว ขนาดทิพย์สุดามีสามีหล่อแซ่บยังอดชมในใจไม่ได้
“ทุกคนมาพร้อมแล้วนะครับ” เขากวาดตามองโดยรอบ ทั้งบริษัทมีแต่ผู้หญิงและชายไม่แท้อีกสองสามคน
“ขาดน้องกรดา แผนกออกแบบค่ะ” พายุพยักหน้ารับคำ เขากล่าวขอบคุณสำหรับการต้อนรับอันอบอุ่น พร้อมทั้งออกตัวว่าภาษาไทยไม่ค่อยแข็งแรง ก่อนจะเริ่มบรีฟสั้น ๆ ว่าให้ทุกคนทำงานเต็มความสามารถ เพราะบริษัทจำเป็นต้องลดค่าใช้จ่ายและอาจจะต้องมีการปรับลดจำนวนพนักงานในอนาคต
“สำหรับคนที่ยังไม่มา รบกวนไปพบผมหลังพักกลางวันด้วยนะครับ” พายุยิ้มกว้างให้กับสาว ๆ ที่ใจละลายเหมือนน้ำแข็งถูกโยนลงหม้อน้ำเดือด เขารู้ว่าตัวเองหล่อกระชากใจและไม่ได้ลังเลที่จะใช้มันให้เกิดประโยชน์ ทำให้พนักงานในบริษัทรักต้องดีกว่าเกลียดอยู่แล้ว แต่จะเปิดโอกาสให้จีบหรือสานสัมพันธ์นั้นคงเป็นไปไม่ได้เพราะเขาถือกฎไม่ยุ่งเกี่ยวกับสาว ๆ ในที่ทำงาน หรือที่ภาสกรเรียกว่าสมภารกินไก่วัดอะไรสักอย่าง
แต่กว่าพายุจะเข้าใจว่าอะไรคือสมภาร อะไรคือไก่วัด ภาสกรก็แทบจะเอาเท้าก่ายหน้าผากเลยทีเดียว
“คุณทิพย์ เดี๋ยวผมขอรายงานสรุปยอดขายสามเดือนย้อนหลังด้วยนะครับ” พายุกล่าวก่อนจะออกไปกินมื้อกลางวันข้างนอกออฟฟิศ พลางนึกถึงสาวสวยที่จ่ายค่าเครื่องดื่มให้เขาเมื่อคืนที่ผ่านมา หากวันนี้ไม่ต้องเข้าบริษัทตั้งแต่เช้า เขาก็คงจะจัดการสาวิตรีเรียบร้อยไปตั้งแต่เมื่อคืนที่ผ่านมาแล้ว
จริง ๆ แล้วก็ไม่ค่อยแน่ใจนักว่าจะจัดการได้ เพราะตั้งท่าว่าจะจูบใครทีไร เห็นแต่หน้าของน้องกอหญ้าลอยมาทุกที
“บอสคะ เอกสารอยู่บนโต๊ะเรียบร้อยแล้วนะคะ” ช่วงนี้ทิพย์สุดาต้องรับหน้าที่เลขานุการจำเป็นไปก่อน จนกว่าเจ้านายจะหาคนที่ถูกใจได้ และพอแผ่นหลังกว้างของบอสรูปหล่อลับสายตาไป เธอก็นึกขึ้นได้ว่าลืมแจ้งว่าพนักงานที่มาไม่ทันประชุมในช่วงเช้ารออยู่ในห้องแล้ว แต่ในเมื่อมันไม่ใช่เรื่องสำคัญอะไร ทิพย์สุดาจึงเลือกที่จะปล่อยเลยตามเลย ยังไงบอสก็ต้องเจอน้องน้อยของบริษัทอยู่แล้ว
มือใหญ่ผลักประตูห้องทำงานอย่างเอื่อย ๆ ทว่าก็กดหัวคิ้วแทบจะชนกัน เมื่อเห็นว่าใครคนหนึ่งกำลังวางเอกสารลงบนโต๊ะ พอเธอหันหน้ามาสบตา เขาก็รีบรั้งเจ้าของเอวคอดเข้ามาใกล้และบดจูบลงบนริมฝีปากให้สมกับความคิดถึงทันที
เธอใช้มือดันอกเขาออกเบา ๆ ก่อนจะเปลี่ยนเป็นโอบกอดลำคอ เบียดตัวเองให้แนบชิดยิ่งขึ้น เสียงครางหวานบอกว่าสาวน้อยในอ้อมกอดกำลังต้องการ แต่พายุยังไม่รู้ทางหนีทีไล่ของที่นี่ เขาจึงเลือกที่จะหยุดทำเรื่องเอาแต่ใจตัวเอง ปล่อยให้ริมฝีปากของเธอเป็นอิสระเสียก่อน
“ดีใจจังที่น้องกอหญ้ามาหาพี่ถึงที่ทำงาน ว่าแต่รู้ได้ยังไงครับว่าออฟฟิศของพี่อยู่ที่นี่” พายุยิ้มกรุ้มกริ่ม ก่อนจะฝังจมูกลงบนแก้มเนียนนุ่มอีกครั้ง หากแม่ตัวดีมาหากันถึงที่นี่ เหตุผลเดียวที่เขาคิดได้คือเธอต้องมีใจให้กันอย่างแน่นอน
“บอสคะ… กอหญ้าแค่มาพบตามคำสั่ง เพราะเมื่อเช้าไม่ได้เข้าร่วมประชุมค่ะ”
“น้องกอหญ้าเล่นตลกอะไรครับเนี่ย ไม่ได้ประชุมอะไรกัน” พายุเอียงคอถาม แต่ก็ตระหนักได้ในทันทีว่าคนตรงหน้าเข้าในห้องทำงานของเขาเพราะอะไร และมาในฐานะอะไรกันแน่
ฉิบหายแล้ว!
“เอกสารที่ฝากให้พี่ทิพย์หาอยู่บนโต๊ะแล้วนะคะ บอสมีเรื่องจะคุยกับกอหญ้าอีกไหมคะ” กอหญ้าถอยหลังไปหลายก้าว สายตายังคงประสานกัน เตรียมตัวตั้งท่าป้องกันไม่ให้ตัวเองถูกรุกหนักจนใจอ่อนแบบเมื่อครู่นี้อีก
อยากจะปฏิเสธ แต่หัวใจกับร่างกายมันไม่เชื่อฟัง…
“พอดีที่กอหญ้าไม่ได้เข้าบริษัทตอนเช้าเพราะออกไปพบกับลูกค้าค่ะ” กอหญ้ารีบแย้งขึ้นมาก่อนที่คนตรงหน้าจะถามอะไรได้ทัน
ไม่อยากเชื่อก็ต้องเชื่อแล้วว่าพี่พายุสุดหล่อ มือไว และแผนสูงของเธอคือเจ้านายที่ขยันส่งอีเมลมาติเตียนเรื่องงานอยู่ทุกวัน
p.chanwarasakul@JournalDamour….
คือไอ้พี่พายุที่จ้องจะกินตับกันตลอดสามคืนที่อยู่ภูเก็ต!
“กอหญ้า นี่เธออย่าบอกนะว่าเข้าหากันเพราะต้องการให้เรื่องงานมันง่ายขึ้น!” เรื่องจริงสินะที่เขาพูดว่าหล่อมากไปบางทีก็ไร้สมอง คิดได้ยังไงว่าคนอย่างกอหญ้าจะเอาตัวเข้าแลกเพื่อให้งานราบรื่น ไอ้ที่ยอมให้กอดจูบก็เพราะชอบต่างหาก แต่เธอไม่มีทางยอมรับมันอยู่แล้ว
“บอสช่วยทบทวนดูเหตุการณ์ด้วยนะคะ! ว่าใครรุกใครก่อน! ถ้ากอหญ้ารู้ว่าบอสคือคนที่ส่งอีเมลมาด่ากันทุกวัน อย่าหวังเลยว่ากอหญ้าจะยุ่งด้วย!” แต่ก็ยุ่งไปแล้ว เยอะด้วยอีกต่างหาก เรียกได้ว่าถึงเนื้อถึงตัวกันหนักเลยทีเดียว
“แต่ในอีเมลชื่อกอราด๊า ไม่ใช่กอหญ้า! เธออย่ามาหลอกฉันดีกว่า เธอคงตั้งใจยั่วฉัน! คิดว่าถ้าฉันนอนกับเธอแล้วงานจะผ่านง่าย ๆ สินะ! เตรียมตัวตกงานได้เลยกอหญ้า! ฉันจะขยี้เธอให้แหลก!”
กรดาคือชื่อจริงของกอหญ้า ซึ่งใช้ในอีเมลของบริษัท ส่วนไอ้พี่พายุก็ดันใช้นามสกุลตัวเอง ต่างฝ่ายจึงต่างไม่มีใครรู้ว่าเป็นเจ้านายและลูกน้องที่ส่งอีเมลโต้ตอบกันมาตลอดทั้งเดือน
“ชื่อจริงชื่อกรดาค่ะ! ไม่ใช่กอราด๊า แล้วกอหญ้าก็ไม่ได้ยั่วบอสด้วย! บอสเป็นคนชวนดื่ม! ชวนกินข้าว แล้วก็ชวนเข้าห้องอีกต่างหาก ไม่มีใครโง่อยากนอนกับเจ้านายนิสัยเสีย ชอบวิจารณ์งานคนอื่นว่าไม่มีเสน่ห์หรอกนะคะ!” กอหญ้าเสียงดังใส่ เธอไม่มีทางยอมถูกไล่ออกเพราะผู้ชายที่เพิ่งจะรู้ว่าเป็นเจ้านายของตัวเองแน่ ๆ
“เธอไม่รู้จริง ๆ งั้นเหรอว่าฉันเป็นบอสใหม่ของเธอ” เสียงของพายุอ่อนลงมาก หากคิดดูให้ดีก็เป็นเขานี่แหละที่ตามตื๊อ ส่วนเธอเองก็ไม่ได้ปิดบังความไม่สบายใจเรื่องที่เจ้านายไม่ชอบงาน
“ไม่รู้ค่ะ แล้วกอหญ้าก็จะไม่ยอมเสียงานเพราะเรื่องบังเอิญพวกนี้ด้วย ถ้างานกอหญ้าไม่ผ่านมาตรฐานของบอสจริง ๆ กอหญ้ายอมลาออกค่ะ แต่ถ้าจะให้ออกเพราะจูบกับเจ้านายตัวเองโดยที่ไม่รู้ว่าเป็นเจ้านาย กอหญ้าไม่ยอมจริง ๆ ด้วย กอหญ้าจะไปแจ้ง HR!”
“หยุดเสียงดังได้แล้วกอหญ้า!”
“ตัวเองนั่นแหละเสียงดัง มีอย่างที่ไหนหลอกคนอื่นว่าคีย์การ์ดหายทั้ง ๆ ที่ตัวเองเป็นคนขโมยไป เพื่อที่จะได้ฉวยโอกาสกับคนที่กำลังหนาวจนจะเป็นไข้ตาย แล้วก็ไม่ต้องเถียงด้วยนะคะ เพราะซองคีย์การ์ดที่บอสเอามาคืนมันมีลายมือของเพื่อนกอหญ้าอยู่บนนั้นด้วย!”
“ไม่ต้องตะโกนแล้ว! ดีนะที่ฉันยังไม่หลวมตัว เด็กอะไรดุชะมัด” พายุอายจนหน้าแดง เขาทำอะไรไม่รอบคอบเพราะอยากนอนกับเธออย่างที่ถูกกล่าวหาจริง ๆ แต่ตอนนั้นกอหญ้าก็ดูอยากได้เขาเหมือนกันนี่นา
“ดีใจเหมือนกันค่ะที่วิ่งหนีออกมาได้! แล้วบอสก็ไม่ต้องห่วงนะคะว่าเรื่องที่ภูเก็ตมันจะกระทบกับเรื่องงาน เพราะกอหญ้าแยกแยะได้ แล้วหลังจากนี้เราก็จะเป็นแค่เจ้านายกับลูกน้อง เว้นแต่ว่าบอสจะมืออาชีพไม่มากพอ…”
“เหลวไหล! เรื่องแค่นี้ฉันไม่จำเป็นต้องให้เด็กมาสอนหรอกนะ ยังไงเธอก็ไม่มีทางทำงานออกมาได้ดีอยู่แล้ว แล้วเรื่องงานไม่มีเสน่ห์นั่นฉันไม่ได้เป็นคนคอมเมนต์แค่คนเดียว ทีมที่ฝรั่งเศสเขาก็เห็นด้วยกับฉันว่างานของเธอมันเหมือนคนไม่เคยมีความรัก” พายุเดินอ้อมไปยังโต๊ะทำงาน ก่อนจะหย่อนตัวลงนั่งพลางหรี่ตามองสาวสวยตรงหน้าอย่างจับผิด
หรือว่ากอหญ้าจะไม่เคยมีความรัก… ไม่หรอก ปั่นหัวกันเก่งขนาดนั้น ต้องเคยมีแฟนอย่างต่ำห้าคนแน่ ๆ
“เรื่องนั้นมันยังมีเวลาให้พิสูจน์กันอีกตั้งเกือบสองเดือนกว่าจะออกคอลเล็กชันใหม่ ถ้าบอสไม่มีอะไรแล้ว กอหญ้าขอตัวนะคะ ต้องรีบไปทำงานค่ะ เดี๋ยวจะถูกไล่ออกทั้ง ๆ ที่ยังไม่ได้ทำอะไรผิดอีก” กอหญ้าเสมองไปทางอื่นเพราะน้ำตาใกล้จะร่วงเต็มทีแล้ว เธอไม่ได้เสียที่ใจถูกขู่ว่าจะไล่ออก แต่เป็นเรื่องที่ทางทีมบอกว่างานของเธอไม่มีเสน่ห์ เหมือนคนไม่เคยมีความรักต่างหาก
“กอหญ้า…” พายุเอ่ยเรียกเบา ๆ หากเธอไม่ได้เป็นอย่างเขากล่าวหา หลายประโยคที่พูดออกไปก่อนหน้าคงทำร้ายจิตใจกันน่าดู
“คะ บอส”
“ถ้าเธอไม่ได้ตั้งใจวางแผนทำความรู้จักกันจริง ๆ พี่… เอ่อ ฉันก็ขอโทษ ฉันสัญญาว่าหลังจากนี้จะไม่กวนเธออีก ระหว่างเรามีแค่เรื่องงานเท่านั้น แต่ถ้าเธอทำอะไรพลาดขึ้นมา เรื่องที่เราเคยจูบกันหรือเกือบจะนอนด้วยกันจะต้องไม่ถูกนำมาพูดถึง หรือใช้เป็นข้ออ้างไม่ให้ฉันปลดเธอออกจากการเป็นพนักงาน ถ้าเธอตกลงตามนี้ เราสองคนก็ร่วมงานกันได้”
“บอสบอกตัวเองเถอะค่ะ เพราะที่ผ่านมากอหญ้าไม่เคยเริ่มก่อนเลยสักครั้ง” กอหญ้ารีบขอตัวออกจากห้อง เพราะไม่อยากร้องไห้ต่อหน้าผู้ชายใจร้าย พายุกล่าวหาว่าเธอตั้งใจอ่อย ทั้ง ๆ ที่ตัวเองเป็นคนรุกหนักจนเธอเกือบจะใจอ่อน ยอมนอนกับเขาหลังรู้จักกันได้แค่ไม่กี่วัน แต่หลังจากนี้อย่าหวังเลยว่าคนอย่างกอหญ้าจะยอมเผลอตัวปล่อยใจอีก
ต่อให้ไอ้พี่พายุหรือบอสจะสูงเกินร้อยแปดสิบเซนติเมตร มีซิกซ์แพกและวีไลน์ หล่ออินเตอร์สไตล์ลูกเสี้ยว สุขุมนุ่มลึกแต่มีเสน่ห์เจ้าชู้นิด ๆ ตรงสเปกของกอหญ้าทุกอย่าง แต่เธอก็จะต้องใจแข็งและโฟกัสในเรื่องที่ต้องโฟกัสเท่านั้น
งานออกแบบเครื่องประดับที่ใช้ไข่มุกจะต้องออกมาดีที่สุด คนอย่างกอหญ้าจะต้องไม่ตกงานอย่างแน่นอน!
นิยายเรื่องทะเลอ้อนลมจะวางจำหน่ายในรูปแบบ EBOOK ใน MEB แล้วนะคะ
ขอบพระคุณทุกท่านมากค่า